เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 546 มีพิษจริงๆ ต้าซือมิ่งจอมกะล่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 546 มีพิษจริงๆ ต้าซือมิ่งจอมกะล่อน

มิคาเอลพูดจบก็เลือนหายไปโดยไม่รอผู้ใดขานตอบทันที เยี่ยนอวี๋มองไปที่ต้าซือมิ่ง ฝ่ายหลังหรี่ตาลงเล็กน้อย ทั้งสองส่งสัญญาณให้ทางสายตา เยี่ยนอวี๋ลุกขึ้นกล่าวอำลา “ในเมื่อเช่นนี้ ข้าก็คงต้องไปก่อนแล้ว”

“เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้เล่า เป็นเพราะมิคาเอลหรือ” หูจวิ้นพูดอย่างตรงไปตรงมา

อินหลิวเฟิงยิ้ม “ฝ่าบาทไม่เห็นหรือว่านายน้อยของเราหลับแล้ว”

หูจวิ้น “…”

เขาที่อ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก็ยิ้มให้ “เจ้าไม่พูด ข้าคงไม่เห็นจริงๆ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจัดเตรียมห้องรับรองไว้ให้พวกท่าน ท่านทั้งหลายพักในปราสาทแอตแลนของข้าได้”

“มิต้อง พวกเราจะกลับกรมความมืด” ต้าซือมิ่งปฏิเสธ

“ก็ได้” หูจวิ้นไม่ได้ฝืนใจ “เช่นนั้นก็ลากันตรงนี้ ประเดี๋ยวจื่อเฟิงจะส่งพวกเจ้ากลับไปแทนข้าพร้อมคำมั่นสัญญาของข้า”

เยี่ยนอวี๋ม่านตาหดลงเล็กน้อย อินหลิวเฟิงกล่าวว่า “เช่นนั้นรบกวนท่านกู้แล้ว”

“เป็นเกียรติยิ่งนัก” กู้จื่อเฟิงลุกขึ้นเอ่ยลาจักรพรรดิหูจวิ้นและส่งเยี่ยนอวี๋พวกเขาออกไป

เมื่อกลุ่มของเยี่ยนอวี๋จากไปไกลแล้ว องค์ชายหูเฮ่อก็อดพูดไม่ได้ว่า “ท่านพ่อ ท่านปล่อยให้พวกเขาจากไปเช่นนี้หรือ” แต่เดิมเขาคิดว่าจะเกิดเรื่องในงานจัดเลี้ยง อย่างน้อยจอมโจรเหล่านั้นก็ไม่ควรจากไปครบสามสิบสองประการเช่นนี้ แต่สุดท้าย…

“ใช่แล้ว” จักรพรรดิหูจวิ้นกลับตอบยืนยันโอรสคนโต “นอกจากข้าจะปล่อยพวกเขาแล้ว ยังเปิดเผยข้อมูลที่พวกเขาอยากรู้ให้ด้วย”

“เช่นนี้ กรมความมืดและกรมแสงสว่างจึงจะเข่นฆ่ากันเองได้ ราชสำนักก็จะได้ฉกฉวยโอกาสเหมือนสำนวนที่ว่านกปากส้อมกับหอยต่อสู้กัน ชาวประมงได้รับผลประโยชน์” ริกเกิร์ตผู้เฒ่าที่มีฟันทองเต็มปากทำให้องค์ชายหูเฮ่อกระจ่างในทันใด

หูเฮ่อเพิ่งจะเข้าใจจุดประสงค์ในครานี้ “เช่นนี้แล้วเป็นฝีมือของกรมแสงสว่างที่สังหารเอเลน่าและเคธี่ และยังโยนความผิดให้ราชสำนักของเรา?”

“ถือว่ายังไม่โง่งม” จักรพรรดิหูจวิ้นวางถ้วยชาลง นัยน์ตาเคร่งขรึม “น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ดื่มไวน์”

“น่าเสียดายจริงๆ” เฟรดผู้ถือดาบรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง

เทพพิทักษ์ที่เหลือกลับงุนงง “หรือว่าวางยาในสุราจริงๆ?” พวกเขาดื่มกันหมดแล้วนี่ ไม่รู้สึกว่ามีพิษเลย

“ย่อมไม่มี” เฟรดส่ายศีรษะ “แต่สุรานี้บ่มมาจากผลแห่งบาปของอดัมและเอวา ซึ่งประกอบไปด้วยกฎแห่งการล่อลวงที่บริสุทธิ์ที่สุดของแอตแลน พวกเราดื่มแล้วไม่เป็นอะไร แต่พวกเขาน่ะ…”

“ดื่มแล้วจะค่อยๆ ถูกกฎล่อลวงของแอตแลนหลอมผสาน กลายเป็นคนของแอตแลนอย่างไม่รู้ตัว เพียงแค่สิบวัน พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้อีก จะต้องกลายเป็นข้าราชบริพารแอตแลนของเรา” ริกเกิร์ตผู้เฒ่าฟันทองเต็มปากพูดจบก็รู้สึกเสียใจ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

“ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่รู้ตัว แต่เด็กคนนั้น…” เมื่อริกเกิร์ตคิดถึงเด็กน้อย เขาก็ขมวดคิ้ว “เขาคือเด็กน่าอัศจรรย์คนหนึ่ง”

“ประกอบจากกฎแห่งสองจักรวาลย่อมอัศจรรย์เป็นธรรมดา” หูจวิ้นไม่แปลกใจแม้แต่น้อย “ทว่าจะเก่งกาจเพียงใดก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ขอแค่กำจัดปฐมราชินีเยี่ยนไปได้ย่อมไม่ใช่ปัญหา”

“ฝ่าบาทปรีชา” ริกเกิร์ตฟันทองเต็มปากเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจุดอ่อนของนางคือหรง ตัวตนของหรงอีกคนหนึ่งคงจะอยู่ในมือของมิคาเอล พวกเรารอชมละครและรับผลประโยชน์ก็พอ”

“ใช่แล้ว” หูเฮ่อดื่มชาหมด “ไม่ว่านางจะหลบซ่อนอย่างไรก็หนีไม่พ้น” จะต้องตกอยู่ในกำมือของเขาเหมือนกับชาจอกนี้และถูกเขาดื่มลงไปในไม่ช้าก็เร็ว

ในขณะเดียวกัน กู้จื่อเฟิงที่เล่าความจริงที่ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ตัวตนต้าซือมิ่งผมสีทองจะถูกมิคาเอลลักพาตัวไปออกมาหมดก็สรุปในครานี้ว่า “เนื่องจากมิคาเอลคือเทพีแห่งแสงสว่าง ราชสำนักก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ดังนั้น…”

กู้จื่อเฟิงไม่ได้พูดต่อเพียงแค่แสดงสีหน้า ‘พวกเจ้ารู้ดี’ ให้เยี่ยนอวี๋พวกเขา ทว่าอินหลิวเฟิงมีอะไรจะพูด “ดังนั้นอะไร หรือว่าราชสำนักของพวกเจ้าเอาไม่อยู่แม้แต่กรมกรมหนึ่ง คงไม่ใช่หรอกนะ ข้าได้ยินมาว่า ราชวงศ์มีอำนาจปกครองเหนือแอตแลนโดยสมบูรณ์ รวมถึงกรมทั้งสองด้วย มิเช่นนั้นจะจัดงานหมั้นให้ต้าซือมิ่งของเราก่อนหน้านี้ได้อย่างไร ไม่ถามเจ้าตัวสักคำด้วยซ้ำ”

“ฮึ” กู้จื่อเฟิงฝืนยิ้ม “ย่อมเป็นเพราะว่าเทพีแห่งแสงสว่างครอบครองพลังที่ทำให้ราชสำนักเกรงกลัว จึงมิอาจบีบคั้นจนเกินไปได้”

“นั่นคือพลังอะไรหรือ” อินหลิวเฟิงถาม

กู้จื่อเฟิงฝืนยิ้มต่อไป “ไม่สะดวกที่จะเปิดเผย”

“พี่กู้ ท่านไม่จริงใจเลย ท่านบอกพวกเราว่าศัตรูคือมิคาเอลและยังบอกข้าว่านางมีวิชาลับ ข้าก็ต้องอดสงสัยไม่ได้ ท่านต้องการให้พวกข้าเป็นนกปากส้อมกับหอยต่อสู้กัน พวกท่านจะได้เป็นชาวประมงรอรับผลประโยชน์รึ” อินหลิวเฟิงไม่พอใจยิ่งนัก

กู้จื่อเฟิง “…” นี่มันเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นอยู่ทนโท่ สองจักรวาลมีความสัมพันธ์เช่นไร เจ้าไม่รู้เลยหรือ พวกเจ้าอุกอาจมาถิ่นแอตแลน ยังคิดจะให้เราตามใจ?

“พี่กู้ ท่านใบ้หน่อยเถอะนะ วิชาลับอะไรหรือ” อินหลิวเฟิงรบเร้าไม่เลิก

กู้จื่อเฟิงเกือบจะฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหว “ขออภัย ข้าไร้ความสามารถ ลาก่อน”

“นี่ อย่าเพิ่งไปสิ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แค่คุยกันเฉยๆ ก็ได้”

“ลาก่อน” กู้จื่อเฟิงที่เดินจากไปอย่างเด็ดขาดไม่อยากสนทนากับอินหลิวเฟิงที่ไร้ยางอายอีกต่อไป

เยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ ในครานี้ก็ถูกส่งออกจากปราสาทแอตแลนแล้ว และยังถูกเทพแอตแลนกลุ่มหนึ่งมองไม่เลิก ถึงอย่างไรพวกเขาก็สวมชุดแปลกประหลาด อีกอย่างเรื่องในปราสาทแอตแลน ราชสำนักประกาศออกไปข้างนอกแล้ว ดังนั้นเหล่าทวยเทพในเมืองแอตแลนล้วนรู้ว่ามีเทพจากจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลุ่มหนึ่งทำลายปราสาทแอตแลนและเมืองแห่งนภาอย่างเหิมเกริม น่าบัดซบมาก

ทว่าเยี่ยนอวี๋พวกเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย พวกเขาที่หายตัวไปอย่างรวดเร็วปรากฏข้างหน้ากรมความมืดอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นกรมที่… อืม ปราสาทที่ซ่อมซ่อยิ่งนัก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับปราสาทอื่นแล้ว ที่นี่ก็ทรุดโทรมและรกร้างมากจริงๆ

“ต้าซือมิ่ง ท่านไม่ได้กลับมากี่ปีแล้ว” อินหลิวเฟิงถามด้วยความสงสัย และยังคิดในใจว่าอย่างน้อยต้องมีหลายหมื่นปี

ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น…

“สามหมื่นปี”

เยี่ยนอวี๋ชะงักครู่หนึ่ง “สามหมื่นปี?” สามหมื่นปีอีกแล้ว

“อืม” ต้าซือมิ่งสีทองที่อุ้มเด็กน้อยเดินเข้าไปในกรมความมืด เขาเสกวิชาปัดฝุ่นโดยการสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง จากนั้นก็ใช้วิชาฟื้นฟูโดยการสะบัดแขนเสื้ออีกทีหนึ่ง ทำให้ปราสาททรุดโทรมกลายเป็นปราสาทใหม่เอี่ยม ‘ระยิบระยับ’ ทันที

อินหลิวเฟิงยกนิ้วโป้งให้ จากนั้นก็พาเอ้อร์เหมาไปหาที่พักผ่อน ถึงอย่างไรเขาจะหวังพึ่งต้าซือมิ่งที่เพิ่งกลับมาให้จัดเตรียมห้องสำหรับพักผ่อนไม่ได้ ต้องพึ่งตนเอง

“นายท่านมีคำสั่งอะไรหรือไม่” เซ่าเฮ่าถาม เขาคิดว่าควรจะมีอะไรให้ทำถึงจะถูกต้อง

เยี่ยนอวี๋กลับพูดว่า “ไปพักผ่อนก่อนเถอะ หากมีอะไรข้าจะเรียกเอง”

“ขอรับ” เซ่าเฮ่าและคนอื่นๆ จึงออกไป

จิ่วอิงเดินไปกับพวกเยี่ยนอวี๋และคิดว่าสองสามีภรรยานี้ต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอน แต่แล้ว… สองสามีภรรยาก็หาเรือนพักผ่อนห้องหนึ่ง ราวกับจะเข้าไปนอนจริงๆ ครานี้ทุกอย่างก็เงียบสงบลง

จิ่วอิง “???”

หรือว่าสัญชาติญาณของมันผิดพลาดไปนะ? ไม่รู้ล่ะ มันจะนั่งรอหน้าประตูนี่แหละ

ในขณะเดียวกัน… อันที่จริงต้าซือมิ่งสีทองไม่ได้อยู่เฉย เขากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนตั่งราวกับกำลังทำสมาธิ ตกอยู่ในความเงียบสงบ

เยี่ยนอวี๋กล่อมเด็กในอ้อมอกเพื่อให้เขาหลับลึกกว่านี้ ส่วนตนเองก็หลับตาลงอย่างง่วงนอน

หลังจากหนึ่งเค่อ ต้าซือมิ่งสีทองก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาปรากฏแสงสีฟ้าวาบผ่าน ขณะเดียวกันก็มองไปที่สองแม่ลูกที่หลับไปแล้ว แววตาอ่อนโยนลง

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาค่อยๆ ลุกขึ้น รอบกายค่อยๆ เลือนราง ดูเหมือนกำลังจะออกปฏิบัติการเพียงคนเดียว ไม่อยากรบกวนสองแม่ลูกที่เป็นแก้วตาดวงใจ แต่แล้ว… เขายังไม่ทันหายไปอย่างสมบูรณ์ เยี่ยนอวี๋ก็ยื่นขาไปเกี่ยวต้าซือมิ่งไว้อย่างแม่นยำ พูดว่า “เจ้าจะทำอะไร” คิดจะไม่พา…

ความคิดที่เหลือเยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันคิดจบ

ตุ้บ

ต้าซือมิ่งสีทองที่ถูกดักด้วยขาอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเกี่ยวล้มลงไปบนตัวของภรรยา มือข้างหนึ่งก็ยันไว้บนหน้าอกของนางด้วยสัญชาติญาณ

ความอ่อนนุ่มนั่นทำให้เขาหลุดพูดออกมาว่า “เจ้า”

เจ้า? เจ้า เจ้า

เพียงคำเดียวเท่านั้น ทำให้บรรยากาศแต่เดิมที่จริงจังของสองสามีภรรยาผิดเพี้ยนไปหมด

เยี่ยนอวี๋ “…” นางสงสัยจริงๆ ว่าสามีสีทองของนางหลอมผสานกับสามีจอมกะล่อนคนเดิมแล้ว ไม่เช่นนั้นสามีสีทองใสซื่อคนนี้จะพูดคำนี้ได้อย่างไร

ทว่านางเพิ่งคิดเช่นนี้… ใบหน้าสง่างามของ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองก็ถูกย้อมไปด้วยสีชมพูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ริมฝีปากอันเย้ายวนก็เม้มแน่นเพราะความตื่นเต้นและเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

แต่ว่า… เขายังไม่ยกมือออก

แต่ว่า…

“เนะ”

เด็กน้อยที่นอนอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋จู่ๆ ก็ลุกนั่งขึ้นมาและยังเบิกตาโพลงมองท่านพ่อและท่านแม่ของเขาราวกับอยู่ใน ‘ฉากจับเมียน้อย’

ครานี้เอง… เยี่ยนอวี๋หูแดงทันที ทว่ารอบกายของเด็กน้อยกลับแผ่ซ่านแสงอันคลุมเครือออกมาอีกครั้ง จากนั้น…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท