ตอนที่ 559 จับเป่า? รับประทานอุจจาระเถอะ!
มิคาเอลรู้สึกบางอย่างผิดปกติ อย่างเช่นว่าทำไมเด็กคนนี้จึงมีขนปุกปุยนะ
นี่มัน…
มิคาเอลที่มีลางสังหรณ์ไม่ดีก็พบในทันทีว่าสิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของนางไม่ใช่ทารกน้อยที่งดงามดั่งภาพวาดคนนั้น แต่คือ… หมาป่าน้อยตัวหนึ่ง? ทั้งยังเป็นหมาป่าน้อยที่ดูคุ้นตามาก
นี่มัน…
มิคาเอลไม่ทันตั้งสติได้
โฮก!
เฟนเลย์อ้าปากคำรามทำท่าจะเขมือบมิคาเอลอย่างรวดเร็ว แม้มิคาเอลจะมีไหวพริบดี นางพลันหายตัวกลายเป็นลำแสงไปแล้ว แต่ทว่า…
ชู่!
เพียงคำเดียวของเฟนเลย์ยังคงกัดหูข้างหนึ่งของนางขาด มิคาเอลเจ็บจนกรีดร้องอย่างทรมาน เลือดที่สะท้อนแสงเล็กน้อยไหลจากข้างใบหูลงมาที่คอของนาง
ในขณะเดียวกัน หมาป่าเฟนเลย์ก็กลายร่างกลับไปแล้ว
มิคาเอลเพิ่งจะรู้ว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกว่า ‘หมาป่าน้อย’ นั้นคุ้นตามาก “เฟนเลย์!”
“ข้าเอง” หมาป่ายักษ์เฟนเลย์กลืนใบหูของมิคาเอลลงไป เผยดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่ง
แสงที่อยู่รอบกายมิคาเอลมืดหม่นลงเล็กน้อย “สุนัขรับใช้ราชวงศ์เช่นเจ้าเข้ามาแหล่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร! ไม่สิ เรื่องนี้ไม่สำคัญ ไม่สำคัญ…”
มิคาเอลที่ร่างเลือนราง นางยังคงต้องการขวางเด็กน้อยไว้ อีกทั้งนางรู้ดีว่ามีค่ายกลที่มีอักษรโบราณกั้นไว้ เด็กน้อยคนนั้นเข้าใกล้หรงไม่ได้แน่นอน
น่าเสียดาย… มิคาเอลเพิ่งหันไปมองเด็กน้อยก็พบว่าเด็กน้อยก้าวเท้าผ่านเข้าไปในค่ายกลอักษรและกระโจนหาท่านพ่อของเขาแล้ว หักหน้านางซึ่งๆ หน้าเช่นนี้
“พ่อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดีอกดีใจในครานี้ยังไม่รู้สึกตัวว่าแม่ของนาง ‘หายไปแล้ว’ และไม่ได้ตามเขามา ช่างเป็นเด็กที่ได้พ่อแล้วลืมแม่จริงๆ
ทว่ามิคาเอลในบัดนี้ก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “อย่าแตะต้องเขา! เจ้าจะทำให้เขาตาย!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตกใจจนสะดุดล้มบนพื้นข้างขาของท่านพ่อ ไม่ขยับแม้แต่น้อย ใบหน้าสีชมพูน้อยๆ ซีดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าตกใจกับเสียงกรีดร้องกะทันหันของมิคาเอล
ถึงอย่างไรสิ่งที่มิคาเอลพูดก็คือ ‘จะทำให้ท่านพ่อเขาตาย’ …
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่รู้ เขาจึงตกใจ
ส่วนมิคาเอล เมื่อนางเห็นว่าเด็กน้อยฟังคำพูดของนางก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่าใช่หรือไม่ ท่านพ่อเจ้ากำลังฝึกฌาน เจ้ามาอยู่กับพี่ที่นี่ อย่ารบกวนเขา ดีหรือไม่ เมื่อครู่ที่ข้าขวางเจ้าไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เจ้าพบท่านพ่อเจ้า แค่กลัวว่าเจ้าจะรบกวนท่านพ่อ ซึ่งจะทำให้เขาบาดเจ็บจนไม่อาจรักษาได้ จะทำให้เขาตายได้ เข้าใจหรือไม่”
เฟนเลย์ได้ยินดังนั้นก็กำลังจะบอกนายน้อยของมันว่าอย่าหลงเชื่อ แต่แล้ว…
“หลอกเป่า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองออกทันที “เจ้า จะจับเป่า ชั่ว! จะทำให้เป่าเผ็ด อย่า คิดว่าเป่า ไม่รู้! เป่า ฉลาด!”
เฟนเลย์ฉีกยิ้มทันที “นายน้อยฉลาดจริงๆ นางกำลังหลอกลวงท่านอยู่จริงๆ”
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตบหน้าอกเบาๆ พลางนั่งลงข้างกายท่านพ่อเขา ไม่ได้เข้าไปแตะต้อง เห็นได้ว่ายังคงเชื่อฟังสิ่งที่มิคาเอลพูด ถึงอย่างไรเด็กน้อยก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้ท่านพ่อของเขากำลังฝึกฌานอยู่จริงๆ เป็นการฝึกฌานแบบที่ท่านแม่เขาเคยพูดว่าห้ามรบกวน เขาจึงนั่งรอนิ่งๆ…
แต่ว่า… เด็กน้อยที่ในที่สุดก็พบว่าท่านแม่หายไปพลันร้อนรนขึ้นมา “ท่านแม่ข้าล่ะ”
“เมื่อครู่นี้มิติบิดเบือน อาจจะพลัดหลงกันแล้ว” เฟนเลย์รายงานสิ่งที่ตนสัมผัสได้
เยี่ยนเสี่ยวเป่าอยากจะคลานออกไปทันที “หา! หาแม่”
“นายน้อยอย่าเพิ่งร้อนใจ ตอนนี้เกรงว่าเราจะออกไปไม่ได้ ท่านอยู่ข้างกายท่านพ่อดีกว่า ข้าขอคุยกับเทพีแสงสว่างท่านนี้ บางทีอาจจะหาทางออกไปได้” เฟนเลย์เสนอ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าครุ่นคิดครู่หนึ่งและยังมองท่านพ่อของเขาก่อนจะหันไปมองมิคาเอล จากนั้นก็มองกลับมาที่เฟนเลย์ สุดท้ายก็กลับไปนั่งลงข้างกายท่านพ่อ “ได้! ต้อง เร็ว แม่ เป็นห่วง!”
“นายน้อยวางใจ” เฟนเลย์ตอบเสร็จ ดวงตาหมาป่าเฉียบแหลมคู่หนึ่งก็มองไปที่มิคาเอล
สีหน้ามิคาเอลขาวซีดอย่างผิดปกติ “เจ้าคิดจะทำอะไร” นางรู้จักความสามารถของเฟนเลย์ดี แต่นางไม่แน่ใจ เฟนเลย์เป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนักมิใช่หรือ เหตุใดจึงกลายเป็นคนรับใช้ของเด็กน้อยคนนี้ได้
เฟนเลย์ไม่ได้คิดจะฆ่ามิคาเอล มันแค่ต้องการทางออก เพราะว่ามันรู้ว่า แม่ของนายน้อยอาจจะตกอยู่ในอันตราย หูจวิ้นต้องการตัวนาง อีกทั้ง… โลกีเจ้าคนเจ้าเล่ห์นั่นก็มีเจตนาร้ายเช่นกัน
และในความเป็นจริง… เฟนเลย์คาดเดาได้ถูกต้อง เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ถูกหูจวิ้นและโลกีร่วมมือกันพามาอยู่บนแท่นบูชาแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้… โลกีที่ขึ้นมายังพูดกับหูจวิ้นว่า “คนที่เจ้าต้องการ ข้าพามาแล้ว ทำตามคำสัญญาของเจ้าด้วย”
“เด็กล่ะ” หูจวิ้นขมวดคิ้วถาม
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนอวี๋จะไม่เข้าใจอะไรอีก แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าโลกีจะกล้าร่วมมือกับหูจวิ้น ขณะที่หัวใจโลหิตของโลกียังอยู่ที่นาง เขาคงมั่นใจว่านางไม่มีโอกาสจัดการเขาแล้วหรือ
“ปฐมราชินีเยี่ยน อย่ามองข้าเช่นนี้ ข้ายังรู้จักกลัว แต่ข้าต้องการอิสระคืนอย่างสมบูรณ์ก็ต้องแลกด้วยบางอย่าง” โลกีพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ตั้งแต่ที่ทำลายตราผนึกราชาของหมาป่ายักษ์ เจ้าก็ถือโอกาสทำสัญญาไปด้วย” เยี่ยนอวี๋ทาย มีเพียงโอกาสนั้นเท่านั้น
“ฉลาด ข้าชอบร่วมมือกับคนฉลาด แต่พวกเราคงต้องแยกย้ายกันเพียงเท่านี้แล้ว หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่ บางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันในภายภาคหน้า” โลกีพูดเสร็จก็มีปีกปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาสลายกลายเป็นขนนกสีดำก่อนจะหายไป
“ฝ่าบาท?” อันที่จริงผู้อาวุโสฟันทองริกเกิร์ตไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยโลกีไป
แต่หูจวิ้นเหมือนกับจะไม่สนใจ “ให้เขาไป อย่าให้เสียงาน”
“พ่ะย่ะค่ะ” ริกเกิร์ตไม่พูดอะไรอีก
หูจวิ้นหันไปเชื้อเชิญเยี่ยนอวี๋ “ปฐมราชินีเยี่ยน เชิญ”
หากเป็นก่อนหน้านี้ เยี่ยนอวี๋ย่อมไม่กลับไป แต่ตอนนี้นางชักจะอยากเห็นว่าเหล่าเทพแอตแลนจะเล่นลูกไม้อะไร ถึงอย่างไรเด็กน้อยก็ไปอยู่กับท่านพ่อแล้ว แม้เยี่ยนอวี๋จะปวดศีรษะกับพฤติกรรมของเด็กน้อยที่จู่ๆ หายตัวไปเช่นนี้ แต่เยี่ยนอวี๋ต้องยอมรับว่าครั้งนี้เด็กน้อยหายตัวไปได้ดีมาก มีเด็กน้อยและเฟนเลย์ไปเฝ้าพ่อเด็ก นางจึงรู้สึกสบายใจ มิหนำซ้ำเด็กน้อยไม่อยู่ข้างกาย นางกลับไม่ต้องกลัวถ้ำเสือหรือสถานที่อันตรายแล้ว ฮึ
เพียงแต่ว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋ถูกพาไปที่วิหารแห่งหนึ่ง กู้จื่อเฟิงที่รอมานานแล้วก็เดินขึ้นมาคารวะ “ปฐมราชินี เราเจอกันอีกแล้ว”
เยี่ยนอวี๋นัยน์ตาเคร่งขรึม…
“ท่านคงอยากจะรู้ว่าท่านและเยี่ยนจื่ออวี๋มีความสัมพันธ์กันอย่างไร”