เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 569 ต้าซือมิ่งเรียกเจ้าลงมา! จงคุกเข่า!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 569 ต้าซือมิ่งเรียกเจ้าลงมา! จงคุกเข่า!

หมาป่ายักษ์เฟนเลย์พบว่าสวนเอเดนร้าวแล้ว

“บัดซบ!”

เฟนเลย์ที่ร้องอุทานทันทีตะลึงงัน หมาป่ายักษ์เฟนเลย์โบราณรู้ดีว่าสวนเอเดนคือแผ่นดินที่เก่าแก่ที่สุดของแอตแลน และถือเป็นแก่นของแอตแลนเช่นกัน แต่ตอนนี้… แก่นของแอตแลนกำลังร้าว เฟนเลย์จึงตกใจมาก

สิ่งที่น่ากลัวคือ เฟนเลย์รู้สึกว่าที่เอเดนแตกร้าวเกี่ยวข้องกับท่านพ่อนายน้อยของมัน แต่มันไม่รู้เลยว่าเกี่ยวข้องอย่างไร

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เฟนเลย์วิตก รู้สึกว่าต้าซือมิ่งแห่งกรมความมืดท่านนี้กำลังจะทำการใหญ่บางอย่างและเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของมันด้วย

เฟนเลย์ที่เคยผ่านอะไรมามากมายได้เห็นความรุ่งเรืองและล่มสลายนับครั้งไม่ถ้วน มันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามีเรื่องใดที่มันไม่เคยเจอ

ที่สำคัญคือ… ต้าซือมิ่งในบัดนี้ ในอ้อมอกของเขายังมีเจ้าตัวน้อยคนหนึ่ง ทำให้เขาดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่กลับทำให้เฟนเลย์รู้สึกคาดเดาไม่ได้

ในขณะที่เฟนเลย์ตกตะลึง สถานการณ์ของหูจวิ้นก็ไม่สู้ดีนัก เขาพูดพร้อมแสดงสีหน้าอาฆาต “ไม่ได้ ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสวนเอเดน”

“แต่ว่า…” ผู้เฒ่าริกเกิร์ตยังคงอยากจะลงไปดูเอง

แต่หูจวิ้นขัดขึ้นก่อนพูดว่า “ข้าจะใช้วิชาโลหิตฟื้นฟูซาตานตอนนี้ เจ้าช่วยคุ้มกันข้าที”

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ เสี่ยงเกินไป” ริกเกิร์ตไม่เห็นด้วย “สู้ให้กระหม่อมลงไปสวนเอเดนดีกว่า”

“เจ้าลงไปแล้วจะไม่มีโอกาสขึ้นมาได้อีก ข้าใช้วิชาโลหิตแม้จะมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกสวนเอเดนกลืนกิน แต่ก็น้อยมาก” หูจวิ้นวิเคราะห์ก่อนจะนั่งขัดสมาธิลง

ริกเกิร์ตยังไม่เลิกเกลี้ยกล่อม “ฝ่าบาท นอกจากแอตแลนแล้วท่านสำคัญกว่ากระหม่อมริกเกิร์ตนัก!”

“คุ้มกัน” หูจวิ้นรู้แก่ใจว่ากองทัพที่ปฐมราชินีเยี่ยนพามาทำให้ทางฝั่งเขามีอุปสรรคมากมาย ดังนั้นเทพพิทักษ์เหล่านี้ห้ามเสียไปแม้แต่คนเดียว

เมื่อริกเกิร์ตเห็นว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมหูจวิ้นได้ ก็ได้แต่ขอร้องว่า “เช่นนี้ให้ไทร์พวกเขามาคุ้มกันด้วย เรื่องอื่นๆ รอก่อนได้ ความปลอดภัยของท่านสำคัญที่สุด”

“ได้” หูจวิ้นเองก็รักชีวิต เพียงแต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เขาไม่สามารถเมินเฉยต่อสถานการณ์ในสวนเอเดนได้ แม้แต่กู้จื่อเฟิง หลังจากที่เขาทราบข่าวก็ไม่ได้ปล่อยให้หูจวิ้นไปกรมความมืดก่อน เพราะว่าเขาเองก็คิดว่าสถานการณ์ในสวนเอเดนสำคัญมาก

ส่วนทางฝั่งเยี่ยนอวี๋…

“ความเคลื่อนไหวไม่รุนแรงนัก แม้จะรับรู้ได้ แต่ก็ไม่ถือว่าเร่งด่วนนัก” กู้จื่อเฟิงคิดเช่นนี้และเขาก็มาถึงกรมแสงสว่างแล้วเช่นกัน

ส่วนเหล่าผู้แข็งแกร่งของกรมแสงสว่าง พวกเขาล้อมบริเวณแท่นบูชาไว้นานแล้ว และสวดมนต์แห่งแสงสว่างโบราณอย่างต่อเนื่องไปยังแท่นบูชาที่ทลายเป็นช่องโหว่ลึกมองไม่เห็นบึ้ง

พวกเขากำลังสวดอ้อนวอน อธิษฐานต่อเทพซือมิ่งสวรรค์ของพวกเขา เทพีแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาและทูตแห่งแสงสว่าง เพราะพวกเขารับรู้ได้ว่าลมหายใจของนางรวยรินมาก

ตั้งแต่ที่แท่นบูชาเริ่มพังทลาย พวกเขาก็รับรู้ถึงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้จากไปไหน และไม่ได้สนใจหูจวิ้นหรือกองกำลังราชสำนัก ทว่า… เมื่อหูจวิ้นกำลังเตรียมพร้อม ผู้แข็งแกร่งกรมแสงสว่างท่านหนึ่งกลับเข้ามาขอความช่วยเหลือว่า “ฝ่าบาท หากท่านมองเห็นสวนเอเดน ช่วยพวกเราดูได้หรือไม่ว่าเทพีมิคาเอลเป็นอย่างไรแล้ว”

“ได้” หูจวิ้นตอบในทันที

“ขอบพระทัย” เหล่าผู้แข็งแกร่งกรมแสงสว่างขอบคุณจากใจจริง “กรมแสงสว่างของเราติดบุญคุณราชสำนัก”

หูจวิ้นไม่ได้พูดอะไร แต่ริกเกิร์ตตอบแทนฝ่าบาทว่า “จำคำพูดพวกเจ้าไว้”

“สาบานต่อแสงศักดิ์สิทธิ์”

“สาบานต่อแสงศักดิ์สิทธิ์!…”

เหล่าผู้แข็งแกร่งกรมแสงสว่างล้วนสาบานต่อแสงศักดิ์สิทธิ์ เห็นได้ชัดว่าสำหรับพวกเขาแล้ว มิคาเอลสำคัญมาก

หูจวิ้นเองก็ไม่ได้ชักช้า เขากรีดปลายนิ้วของตนหยดหัวใจโลหิตลงไปในสวนเอเดน เพื่อฟื้นฟูงูพิษซาตาน

เทพพิทักษ์ทั้งแปดสีหน้าเคร่งเครียด พวกเขาจับตาดูหลุมบนแท่นบูชาตลอดเวลา กลัวว่าหากไม่ระวัง ฝ่าบาทของพวกเขาจะถูกกลืนกินเข้าไป

ในขณะเดียวกัน…

“หืม?” เฟนเลย์ที่อ่อนไหวต่อกลิ่นคาวเลือด มันได้กลิ่นเลือดของหูจวิ้นทันที ทำให้มันไล่ตามกลิ่นไป มันรู้ดีว่าหูจวิ้นต้องการช่วยซาตาน

“ที่ต้องการช่วยซาตานในยามนี้ต้องเป็นเพราะว่าต้องการใช้ดวงตาของซาตานดูว่าเกิดอะไรขึ้นในสวนเอเดน” เฟนเลย์ครุ่นคิด นอกจากนี้แม้ไม่รู้ว่าท่านพ่อของนายน้องต้องการอะไร แต่เฟนเลย์ตัดสินใจแล้วว่าต้องขัดขวางหูจวิ้นไว้ ถึงอย่างไรตอนนี้มันก็เป็นหมาป่าของนายน้อยแล้วย่อมต้องคิดแทนนายน้อยเป็นธรรมดา ดังนั้น… หูจวิ้นที่ไม่รู้ว่าเฟนเลย์ยอมจำนนไปแล้ว เขาย่อมไม่รู้ว่าเฟนเลย์หางูพิษซาตานเจอตามกลิ่นของเลือดเขา

“ฮึ” เฟนเลย์ที่ยิ้มหยันในใจ มันก็หมอบตัวใกล้ซาตาน รอจังหวะจู่โจม

ซานตานในบัดนี้ มันถูกแสงแห่งวิชาโลหิตปกคลุม ไม่สามารถจู่โจมได้ทันที วิชาโลหิตแห่งแอตแลนที่ได้รับพลังเสริมจากพลังงานดั้งเดิมของจักรวาล แม้มันจะถูกเผาทำลายได้ แต่จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น งูจะหนีไปเสียก่อน

ดังนั้น… ขณะที่หูจวิ้นหยดหัวใจโลหิตกว่าครึ่งของตนลงไป เหงื่อไหลท่วมและสีหน้าซีดเผือด เขาก็เริ่มหยุดส่งหัวใจโลหิต

“ฝ่าบาท!” เฟรดที่กำลังจะป้อนยาบำรุงเม็ดใหญ่ให้หูจวิ้น เขายังไม่ทันป้อนเสร็จ เฟนเลย์ก็เริ่มโจมตีแล้ว

จากนั้น… ซาตานที่กำลังจะฟื้นตัวและไร้ซึ่งการป้องกันก็ถูกหมาป่าเฟนเลย์ฉีกออกเป็นสองท่อนอย่างรุนแรง ทำให้หูจวิ้นที่อยู่ข้างบนอาเจียนเป็นเลือด

“ฝ่าบาท!” เฟรดตะลึงงันเพราะยาบำรุงจ่ออยู่ข้างหน้าปากของหูจวิ้นถูกกลืนหายไปในเลือดของหูจวิ้นอย่างเสียเปล่า

ไม่เพียงเท่านี้… สิ่งที่น่าสะเทือนใจที่สุดสำหรับเหล่าเทพพิทักษ์คือฉากที่พวกเขากังวลมากที่สุดปรากฏขึ้นแล้ว

วิ้ง!

ครานี้เอง พลังกลืนกินอันน่าสะพรึงจากสวนเอเดนกำลังจะกลืนกินหูจวิ้นแล้ว

“เร็วเข้า!”

ริกเกิร์ตฟันทองรีบตะโกน และจังหวะก่อนจะตะโกนนั้น เขาก็สร้างม่านป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการกลืนกินของสวนเอเดน

น่าเสียดาย…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท