ตอนที่ 572 อยู่เฉยๆ ก็เอาชนะจักรพรรดิหู!
อินหลิวเฟิงเห็นกองทัพอัศวินแอตแลนที่แต่เดิมอยู่รอบนอกบัดนี้ล้อมเข้ามาใกล้แล้ว ไม่เพียงเท่านี้… จักรพรรดินีเฟรย์แห่งแอตแลนที่สวมชุดเกราะสีทองอร่าม นางขี่มังกรยักษ์นำทัพอยู่ข้างหน้าปรากฏเหนือกรมความมืด “เยี่ยนอวี๋! นังคนเลว ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
ความหยิ่งผยองเช่นนี้ ซีหวังหมู่ไม่ปล่อยนางไว้แน่!
วี้ด!
ซีหวังหมู่ที่หวีดร้องขึ้นบนฟ้าทำให้เฟรย์และมังกรยักษ์ที่นางขี่แสบแก้วหู มังกรยักษ์ยังรู้สึกหวาดผวาอย่างรุนแรง มันบินหนีไปทันที
ภาพเช่นนี้… ทำให้ประชาชนแอตแลนที่เห็นพูดไม่ออกและยังรู้สึกอับอายจนใบหน้าร้อนผ่าว
ถึงอย่างไรเทพส่วนใหญ่ในเมืองแอตแลนล้วนรู้ว่าผู้ที่อยู่ในกรมความมืดในตอนนี้คือเทพจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทว่าจักรพรรดินีที่ถือว่าเป็นตัวแทนของพวกเขาถูกฝ่ายตรงข้ามคำรามใส่ก็ตกใจหนีทันที จะให้พวกเขาไม่รู้สึกอับอายได้อย่างไร
ทว่า… แม้ซีหวังหมู่จะ ‘ชนะขาดลอย’ ขับไล่เฟรย์ออกไปได้ แต่อินหลิวเฟิงกลับรับรู้ได้ในทันทีว่า “ระวังตัวด้วย ฝ่ายแอตแลนคงรู้ตัวแล้ว คงไม่ให้พวกเรายื้อเวลาต่อไปอีก”
“มีโอกาสสูง แต่ว่าเหตุใดผู้ที่มาจึงไม่ใช่หูจวิ้น” เซ่าเฮ่าสงสัย
อินหลิวเฟิงคิดว่า “ย่อมเป็นเพราะหูจวิ้นพวกเขาถูกต้าซือมิ่งจัดการแล้ว ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ต้องมาจากต้าซือมิ่งแน่ๆ”
“เดี๋ยวสิ จวินโฮ่วและนายน้อยถูกจับเป็นตัวประกันไม่ใช่หรือ” ซีหวังหมู่ไม่เข้าใจ
“นั่นน่ะสิ!” เทพอัสนีก็ไม่เข้าใจ
อินหลิวเฟิงกลอกตา “ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ พวกเจ้าไม่เชื่อเลยหรือไง ดูท่าพวกเจ้ายังไม่รู้จักต้าซือมิ่งดีพอ”
เซ่าเฮ่ากลับถามอย่างรอบคอบว่า “แล้วเจ้าคิดว่าตอนนี้ต้องทำอย่างไร”
“ยื้อเวลาเท่าที่ทำได้ พวกเขารีบ แต่พวกเราไม่รีบนี่” อินหลิวเฟิงกางพัดออกพลางโบกพัดตนเองพูดว่า “เราทำเหมือนซีซีกันเถอะ ไม่ต้องทุบตีจนคนตาย ใครมาคนนั้นร่วงก็พอ”
“เอ่อ…” ซีหวังหมู่มีอะไรจะพูด “ข้าคิดว่ามังกรตัวนั้นอาจจะไม่รอดแล้ว”
ในความเป็นจริงมันก็ไม่รอดจริงๆ มังกรยักษ์ที่บรรทุกเฟรย์บินหนีไป บัดนี้มันร่วงลงที่ใดที่หนึ่งในเมืองแอตแลนจนเกิดเสียงดังสนั่น ไม่มีเหตุผลอื่นใด เพียงแค่เสียงคำรามทำให้อวัยวะภายในแตกออกเป็นเสี่ยงๆเท่านั้น แต่มังกรยักษ์หวาดกลัวเกินเหตุ ไม่รู้ว่าเสียงคำรามทำให้อวัยวะของตนแตกละเอียด เอาแต่หนี ดังนั้น… เฟรย์ที่ไม่ทันตั้งตัวจึงตกลงบนพื้นด้วยสภาพทุลักทุเลทันที
“จักรพรรดินี!” อัศวินมังกรคนหนึ่งรีบเข้ามาหา
เฟรย์ก่นด่าเสียงดัง “ให้ตายเถอะ! บัดซบ! ข้าจะฆ่าพวกมัน! ไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว!”
“จักรพรรดินี พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป” หัวหน้าอัศวินมังกรเป็นชายหนุ่มผมสีทอง “จักรพรรดินี หากต้องการโจมตีจริงๆ จะบุ่มบ่ามเข้าไปไม่ได้ มีเพียงการโจมตีด้วยอัศวินมังกรจำนวนมากเท่านั้นจึงจะมีโอกาสชนะได้”
“เหตุใดเจ้าไม่รีบพูด!” เฟรย์ตำหนิอย่างหงุดหงิด รู้สึกเสียหน้ามาก แต่นางก็ไม่รั้งรอ นางพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ! กลับไปให้กองทัพอัศวินมังกรบดขยี้พวกเขาให้ตาย!”
“พ่ะย่ะค่ะ จักรพรรดินี” หนุ่มอัศวินมังกรรับเฟรย์ขึ้นมาแล้วก็กลับไปกรมความมืดทันที
ทว่า…
“บัดซบ!”
หูจวิ้นที่ฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาได้ยินว่าเฟรย์นำตราประทับจักรพรรดิของเขาไปเคลื่อนย้ายพลอัศวินมังกรจู่โจมกรมความมืด เขาก็โกรธกริ้ว “พวกเจ้าไม่ขวางไว้เลยรึ”
“ฝ่าบาท จะขัดขวางไว้ได้อย่างไร” เทพสงครามไทร์ปวดศีรษะ “บัดนี้จักรพรรดินีอิจฉาริษยาสตรีที่มีหน้าตางดงาม! เมื่อท่านล้มลง ไม่มีผู้ใดเอาอยู่…”
หูจวิ้นเดือดจนเส้นเลือดปูด “จื่อเฟิงล่ะ เหตุใดเขาไม่หาวิธี!”
“กู้จื่อเฟิงกำลังทำนาย ไม่เหมาะที่จะรบกวน” ไทร์กล่าว
หูจวิ้นปวดศีรษะกว่าเดิม ทว่า…
ผู้เฒ่าริกเกิร์ตฟันทองกลับพูดขึ้นว่า “นี่ก็ใช่ว่าจะไม่ใช่เรื่องดี”
“อย่างไรหรือ” หูจวิ้นยังคงรู้สึกวิงเวียน ไม่มีจิตใจคิดมาก
ริกเกิร์ตอธิบายทันทีว่า “บัดนี้เราไม่รู้และไม่สามารถทำอะไรกับสวนเอเดนได้เลย คงต้องลงมือจากทางฝั่งปฐมราชินีเยี่ยน ก่อนหน้านี้ท่านสงสัยตลอดมิใช่หรือว่าปฐมราชินีรู้บางอย่างเข้า ความเคลื่อนไหวที่กรมความมืดก็ไม่น่าวางใจจริงๆ จักรพรรดินีไปก่อกวนก็ดีเหมือนกัน หากปฐมราชินีทนไม่ไหวจนออกมาได้ ท่านก็ไม่ต้องเสียเวลาไปอีกครั้ง หากไม่สามารถทำได้ หลังจากท่านและข้าน้อยฟื้นตัวแล้ว เราก็มีเหตุผลไปหาปฐมราชินีเยี่ยนเพื่อทวงหนี้”
“ก็ถูก” หูจวิ้นถูกเกลี้ยกล่อมจนสงบอารมณ์ลงได้ แต่ยังคงรู้สึกเจ็บหัวใจมาก เพราะสูญเสียหัวใจโลหิตมากเกินไป พลังการฟื้นฟูของเขาก็ไม่เพียงพอ เพียงแต่ว่า… เขาเพิ่งจะสงบอารมณ์ลง กำลังจะทานยา
“รายงานพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท! มีสารด่วนจากรอยแตกร้าวสวรรค์เก้าชั้นฟ้า”
“เข้ามา”
ขณะที่หูจวิ้นดื่มยาลงไปก็เรียกเข้ามาอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก
ทว่า… ผู้ที่มารายงานกลับทูลว่า “ฝ่าบาท กองทหารรักษาการณ์บริเวณรอยแตกร้าวสวรรค์เก้าชั้นฟ้าพบว่าโลกีหนีจากที่นี่ไปยังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว”
หูจวิ้น “…”
ไฟลุกโชนในใจเขาทันที
เขาโพล่งด่าออกไปทันทีว่า “พวกไร้ประโยชน์! ครั้งที่แล้วปล่อยให้ปฐมราชินีและพรรคพวกบุกรุกเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง ไร้ซึ่งการป้องกัน! ตอนนี้ยังไปล่อยให้โลกีหนีไป! พวกเขามีไว้ทำอะไรกันแน่!”
“ฝ่าบาท อย่าทรงพิโรธ ตอนนี้ทรงต้องพักฟื้นร่างกาย” เฟรดพูดพลางยื่นยาเม็ดหนึ่งให้หูจวิ้น
แต่ว่า… ผู้ที่มารายงานนั้นไร้สมอง เขาไม่รอให้หูจวิ้นทานยาเสร็จ ยังดึงดันรายงานต่อไปว่า “ฝ่าบาท ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ทางนั้นรายงานมาว่ารอยแตกร้าวสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเหมือนกับว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัว”
หูจวิ้นที่กำลังจะทานยาก็ทานไม่ลง “หมายความว่าอย่างไร!”
เฟรดอยากจะให้เขาทานยาก่อน แต่ว่า… ผู้ที่มารายงานรายงานอย่างชัดเจนและรวดเร็วว่า “การกัดกร่อนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของแอตแลนเหมือนกับว่าจะถูกพลังบางอย่างขัดขวางไว้ กองทหารรักษาการณ์รอยแตกร้าวสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเองก็ไม่ทราบรายละเอียด ขอให้ฝ่าบาทตัดสินพระทัย”
“ตัดสินใจหาพระแสงน่ะสิ!” หูจวิ้นตบเตียงลุกขึ้น “พวกไร้ประโยชน์! ไม่รู้อะไรเลย! เฝ้าก็เฝ้าไม่เป็น! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! ช่าง…”
เอื้อก!
หูจวิ้นที่เดือดดาลอาเจียนเป็นเลือดอีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านี้…
“!”
ลมหายใจของหูจวิ้นพลันอ่อนแรงลง
ครานี้เอง…
“ฝ่าบาท!”