ตอนที่ 575 ครอบครัวลุกโชน สุดยอดผู้นำพร้อมหน้า
มีเพียงเฟนเลย์ที่สังเกตเห็นเจ้าตัวน้อยอ้วนขึ้น หากเป็นเยี่ยนอวี๋หรือเจ้าตัวน้อยส่องกระจกเอง พวกเขาสองแม่ลูกคงต้องตกใจอุทานออกมาว่า ‘ผมงอกแล้ว‘
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มีผมงอกขึ้นมากมายอย่างเห็นได้ชัดหลุดพ้นจากสภาพที่ศีรษะมีเพียงขนอ่อน เขากลายเป็นเจ้าตัวน้อยหล่อเหลาผมดกดำ ทว่าช่วงเวลาดีๆ มักอยู่ไม่นาน…
เอิ๊กกก…
เจ้าตัวน้อยที่เรอเพราะความอิ่ม เขาพลันซูบลง แต่ตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขา ‘ย่อย’ ไปแล้ว
แต่การย่อยนี้ก็ทำให้ผมสั้นที่แต่เดิมไม่ ‘สมบูรณ์’ มากนักถูกย่อยกลับไปเหลือเพียงผมที่มีขนาดยาวหนึ่งนิ้ว
เฟนเลย์ “…”
นี่มันทารกวิเศษอะไรกัน
เอิ๊กกก…
เด็กน้อยที่เรออีกครั้ง เขาก็ผอมลงไปอีก รอบกายแผ่ซ่านแสงหมอกอันคลุมเครือ ร่างของเขาลอยขึ้นแล้ว
“ฮี่…” เด็กน้อยรู้สึกอบอุ่นสบายตัวมากจึงหัวเราะออกมา กลายเป็นภาพอารมณ์สุดขั้วสองฝั่งเมื่อเทียบกับต้นไม้แห่งชีวิตที่ยังคงหลั่งน้ำตา
เฟนเลย์เห็นเช่นนี้ก็รู้ว่า ของเหลวที่นายน้อยท่านนี้ของมันดูดอย่างสุดชีวิตไม่ได้ถูกย่อยไปในทันที เขาสะสมสารอาหารไว้ในรูปของไขมันก่อนแล้วจึงค่อยๆ ย่อยมันในตอนนี้
ความสามารถเช่นนี้… ไร้เทียมทานจริงๆ
โฮ…
ต้นไม้แห่งชีวิต ‘มอง’ เด็กน้อยย่อยสารอาหารของมันกับตาตนเอง ในที่สุดก็อดร้องไห้ฟูมฟายออกมาไม่ได้ ทำเอาผู้ที่ได้ยินรู้สึกโศกเศร้า ผู้ที่เห็นหลั่งน้ำตา
เฟนเลย์ได้แต่ปลอบประโลมว่า “อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ถูกกินจนหมด จงพอใจเสียเถอะ”
โฮ…
ต้นไม้แห่งชีวิตเสียใจจนน้ำตาไหลเป็นแม่น้ำแล้ว
เอ๋
เฟนเลย์พบว่า น้ำตาที่ไหลออกมาของต้นไม้แห่งชีวิตมีพลังชีวิตที่ไม่เลว มันจึงดูดด้วย
“…”
ต้นไม้แห่งชีวิตต้นน้อยหยุดร้องทันที เพราะว่าน้ำตาที่เสียไปล้วนเป็นส่วนที่บริสุทธิ์เช่นกัน…
“ทำไมไม่ร้องแล้วล่ะ” เฟนเลย์รู้สึกเสียดาย
ต้นไม้แห่งชีวิตต้นน้อยถูกบังคับให้พูด “เจ้ามันตีชิงตามไฟ”
“แหม สมแล้วที่เป็นต้นไม้ปัญญา เจ้าพูดเป็นหรือนี่ เหตุใดแต่ก่อนจึงไม่เคยเห็นเจ้าปริปากเลย” เฟนเลย์ตื่นเต้นและเย้าแหย่ต้นไม้แห่งชีวิต แต่ต้นไม้แห่งชีวิตรวบกิ่งก้านสาขาของตนไว้นิ่งแล้ว
ส่วนเจ้าตัวน้อย เขาก็หลับไปในกลุ่มแสงอย่างมีความสุข
ในขณะเดียวกัน…
“ไม่มีการตอบสนอง?”
เยี่ยนอวี๋ที่รอมานานพบว่ากฎการล่อลวงของแอตแลนนอกจากจะยังคงสลายไป แต่กลับไม่ได้ทำให้ร่างกายร่างนี้ของตนเกิดการตอบสนองใดๆ
“หรือว่ากู้จื่อเฟิงเดาผิด หรือไม่ก็ร่างกายร่างนี้เคยถูกข้าขัดเกลา ไม่เหลงเหลือ ‘ร่องรอย’ ใดๆ ของแม่นางน้อยเยี่ยนจื่ออวี๋จึงไม่สามารถตรวจสอบได้?” เยี่ยนอวี๋ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด
ทว่า… ขณะที่นางคิดไม่ออกนั่นเอง ราวกับว่ามีการชี้นำบางอย่างในความมืด ทำให้นางมองเข้าไปในหัวใจของนางด้วยสัญชาติญาณ ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ ทว่าการมองเข้าไปเช่นนี้ทำให้นางพบว่าหัวใจของนางแดงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย?
เยี่ยนอวี๋ชะงัก เพราะว่าหัวใจของนางไร้ซึ่งความรู้สึกผิดปกติใดๆ หากไม่ใช่เพราะบังเอิญมองเข้าไปในหัวใจของตนเอง นางก็คงไม่พบความเปลี่ยนแปลงอันเล็กน้อยนี้
“เป็นไปได้อย่างไร” ในขณะที่เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ นางยังคาดเดาไว้อีกแบบหนึ่ง นางใช้พลังไท่ชูผนึกหัวใจของตนเองไว้ และเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ
ผ่านไปนาน…นางพบว่ากฎการล่อลวงของแอตแลนไม่ได้สลายไป มันรวมตัวเข้าไปในหัวใจของตนเอง ไร้รูป ไร้เสียงและไร้ร่องรอย ราวกับสลายไปอย่างเป็นธรรมชาติ ทว่าอันที่จริงเข้าไปอยู่ในหัวใจนางเอง
เพราะเหตุใดกัน?
เพราะว่า… เยี่ยนอวี๋รู้ว่านางสามารถยืนยันได้ว่าแม่นางน้อยเยี่ยนจื่ออวี๋คนนี้คือความเป็นมนุษย์ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็เป็นกฎการล่อลวงของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ถ้าหาก… นางเดาไม่ผิด นางในครานั้นคงรับรู้ถึงความไม่แน่นอนของการดำรงอยู่ของพลังกฎเกณฑ์นี้ ดังนั้นเมื่อนาง ‘เติบโตและเปลี่ยนร่าง’ กลายเป็นปฐมราชินีเยี่ยน นางก็กำจัดมันทิ้งอย่างไม่รู้ตัว
นางเป็นทั้งเทพผู้สร้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้า และเป็นต้นกำเนิดของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า นางลบล้างพลังประเภทนี้ออกไปก็เท่ากับการกำจัดพลังประเภทนี้ออกจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
บัดนี้… นางผสานกลับไปยังความเป็นมนุษย์ของตนเอง แก่นแท้ของนางก็หลอมรวมกฎการล่อลวงนี้กลับมาด้วย
“เช่นนี้นี่เอง” เยี่ยนอวี๋เข้าใจแล้วและนางก็รู้สึกขอบคุณสัญชาติญาณในครานั้นของตนเอง มิเช่นนั้นในมหาสงครามเทพและมาร แอนนาอาจจะหยั่งรู้กฎประเภทนี้ได้ ซึ่งจะทำให้เผ่ามารได้ปกครองสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ผลที่ตามมามิอาจคาดคิดได้
ส่วนตอนนี้… เยี่ยนอวี๋วางใจแล้ว แม้กฎประเภทนี้จะกลับสู่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพราะการกลับมาเกิดใหม่ของนาง แต่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าในปัจจุบันเสถียรกว่ากฎระเบียบในอดีต แม้จะมีสิ่งมีชีวิตใช้พลังนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าไม่มีแอนนาตัวที่สองเหมือนกับที่ไม่มีปฐมราชินีคนที่สอง
นอกจากนี้ ตอนนี้เยี่ยนอวี๋ยังมั่นใจได้ว่า แอนนาไม่สามารถเกิดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะว่าพลังของแอนนาถูกชำแหละแล้ว ส่วนหนึ่งถูกนางกำจัดสิ้นสลาย ส่วนหนึ่งถูกแอตแลนใช้ อีกส่วนหนึ่งถูกลูกของนาง ‘จับไว้’
ส่วนนางเยี่ยนอวี๋ ตอนนี้นอกจากจิตวิญญาณจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว นางยัง ‘หา’ ความเป็นมนุษย์ของตนเองกลับคืนมาได้ และยังตระหนักรู้ถึงกฎระเบียบการกำเนิดของอีกหนึ่งจักรวาล ดังนั้น… เมื่อเยี่ยนอวี๋นำพลังกลับคืนสู่ร่างกาย และค่อยๆ กระจายการตระหนักรู้ของตนเองออกไป นางก็พบว่านางหลุดออกจากสามภพอีกครั้ง
ไม่สิ… ไม่ใช่แค่สามภพ แต่อยู่เหนือมหาจักรวาลทั้งสอง
นางยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งความว่างเปล่า ดวงตาข้างซ้ายของนางมองเห็นสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ดวงตาข้างขวามองเห็นแอตแลน
นางอยู่บนจุดสูงสุดแห่งความมืด มีความรู้สึกว่าตนเองสามารถบดขยี้จักรวาลใดจักรวาลหนึ่งได้เพียงแค่ยกมือขึ้น มันละเอียดอ่อน ทรงพลังและสูงส่งมาก
แต่ว่า… นี่คือความจริง นางสามารถทำได้ หากนางอยากจะขยี้แอตแลนให้แหลก แผ่นดินทั้งแอตแลนจะสลายสิ้น รวมถึงสรรพชีวิตในจักรวาลแอตแลนด้วย
ชั่วจังหวะหนึ่ง นางคิดอยากจะทำเช่นนี้
ส่วนลูกและสามี รวมถึงลูกน้องของนาง นางคิดว่านางปกป้องไว้ได้ แต่อารมณ์ชั่ววูบนี้เกิดขึ้นพียงครู่หนึ่งก็ถูกนางข่มลงไปแล้ว เพราะว่าแอตแลนและสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในครานี้ไม่ใช่สองจักรวาลที่แยกออกจากกันอย่างอิสระ
การที่นางทำลายจักรวาลหนึ่งทิ้งย่อมส่งผลกระทบต่ออีกจักรวาลหนึ่ง กระทั่งทั้งสองจักรวาลจะแตกละเอียด ดังนั้นนางจึงไม่ได้ทำเช่นนี้ นอกจากนี้… นางก็จะไม่ทำเช่นนี้แล้ว มันน่าเศร้าสลดเกินไป
เทพแอตแลนสมควรตาย พวกเขาบุกรุกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แต่ประชาชนแอตแลนเล่า มิหนำซ้ำ… อันที่จริงนางมั่นใจมากว่านางสามารถปกป้องเหล่าขุนเขาและท้องทะเลและลูกของนางได้ แต่เอ้อร์เหมาพวกเขารวมถึงสามีของนาง นางไม่มั่นใจนัก เพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางโดยตรง ดังนั้น… เยี่ยนอวี๋ที่หลุดออกจากสองจักรวาล นางก็ค่อยๆ หลับตาลง เตรียมจะกลับไปแล้ว
ทว่า…
“แม่”
เสียงของเจ้าตัวน้อยกลับดังก้องในหูของเยี่ยนอวี๋ในครานี้ ทำเอาเยี่ยนอวี๋ชะงักงันและมองไปตามเสียง จากนั้น…
“แม่”
เจ้าตัวน้อยที่ลำตัวเปล่งแสง เขาก็อยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋จริงๆ และยังโถมใส่นางอย่างดีอกดีใจ
เยี่ยนอวี๋กอดเด็กน้อยไว้ด้วยสัญชาติญาณ รู้สึกได้ว่าเด็กน้อยคนนี้มีตัวตนอยู่จริง นี่มัน…
“เสี่ยวเป่า?” เยี่ยนอวี๋รู้สึกงงงัน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจ “แม่…”
เยี่ยนอวี๋รีบสัมผัสตัวเด็กน้อยทันทีจึงมั่นใจว่าอนุสติของเด็กน้อยคงจะ ‘หลุดออกจากมหาจักรวาลทั้งสอง’ ด้วยเช่นกัน เพราะว่าอันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของเขา
“ฮี่” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองไม่รู้ตัว อันที่จริงร่างจริงของเขากำลังนอนหลับ แต่นี่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกอดท่านแม่ของเขาใน ‘ความฝัน’ นี่
เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยทีหนึ่ง “เสี่ยวเป่าเก่งที่สุดเลย” เด็กขนาดนี้ก็หลุดออกมามหาจักรวาลทั้งสองตามนางมาอยู่จุดสูงสุดของจักรวาลนี้ได้ ทำให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวของนางหายไปทันที
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกชมดีใจมาก ยังพูดกับท่านแม่ของเขาว่า “พ่อ ให้เป่ากัด ต้นไม้ ดื่มนม อร่อย เป่ามีความสุข”
“มิน่าเสี่ยวเป่าของเราโตขึ้น” เดิมทีเยี่ยนอวี๋คิดว่าที่เด็กน้อยตัวใหญ่ตัวโตขึ้นเป็นเพราะร่างวิญญาณและร่างจริงมีความต่างกัน ไม่คิดว่า…
เดี๋ยวนะ
“เสี่ยวเป่า ผมเจ้างอกแล้ว” เยี่ยนอวี๋ลูบผมยาวหนึ่งนิ้วของเด็กน้อย รู้สึกตกใจมาก “ดกดำดีด้วย”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็ตกใจ เมื่อเขาจับศีรษะของตนเอง เขาก็ยิ้มร่าจนตื่นขึ้นมา
จากนั้น… ‘เด็กน้อย’ ในอ้อมอกของเยี่ยนอวี๋ก็หายไป
ทว่าในขณะเดียวกัน เสียงสง่าดุจพิณที่นางคุ้นเคยดีก็ดังขึ้นในใจนาง ‘ภรรยาไม่ต้องเป็นห่วง เสี่ยวเป่ากลับมาอยู่กับข้าแล้ว’
เยี่ยนอวี๋ยิ้มเล็กน้อย “เจ้าค่ะ”
เมื่อตอบเสร็จ เยี่ยนอวี๋ก็กลับเข้าไปในร่างของตนเอง ถึงอย่างไรการหลุดออกจากสองมหาจักรวาลเช่นนี้ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้นานนัก ทว่าการหลุดออกไปครั้งนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ได้รับประโยชน์มากมาย
วิ้ง
ดวงดาวบนท้องของของแอตแลนสั่นไหวเพราะการ ‘กลับมา’ ของนาง เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้กำลังเลื่อนขั้นอย่างสมบูรณ์ เป็นการเลื่อนขั้นทั้งในระดับวิญญาณและร่างกาย ไม่ใช่เพียงการฟื้นตัวกลับคืนสู่จุดสูงสุดเท่านั้น