ตอนที่ 576 การตบหน้าอย่างบ้าคลั่งเริ่มขึ้นแล้ว
แต่เหล่าเทพเมืองแอตแลนและหูจวิ้นที่อยู่ในปราสาทแอตแลนไม่รู้ว่าที่หมู่ดาวสั่นไหวเป็นเพราะเยี่ยนอวี๋กำลังเลื่อนขั้น พวกเขาคิดว่า…
“อัศวินมังกรในเมืองเลื่อนขั้นหรือ”
“อัศวินมังกรล้อมโจมตีกรมความมืด ข้าไม่เห็นว่ามีผู้ใดเลื่อนขั้น”
“แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน”
…
นอกจากเหล่าเทพที่มุงดูไม่เข้าใจ เทพผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ดที่อยู่ข้างกายหูจวิ้นก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“แปลกจริงๆ” ไทร์รู้สึกสงสัยมาก “กลิ่นอายของฝ่ายตรงข้ามคาดเดาได้ยากนัก ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้เลย ใครกำลังเลื่อนขั้นกันแน่”
“หรือว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งของกรมแสงสว่าง” โซลดาเคราแดงที่ไม่มีความคิดเห็นใดๆ รู้สึกว่ามีเพียงเทพทางฝั่งกรมแสงสว่างเลื่อนขั้นที่ทำให้พวกเขามิอาจสัมผัสถึงได้
แต่แล้ว… เทพแห่งสงครามไทร์ส่ายศีรษะ “ไม่เหมือน”
“หรือจะเป็นโลกี” โฮดา เทพแห่งความมืดของแอตแลนผู้เงียบขรึม นานๆ ทีจะพูดก็เอ่ยขึ้น
เหล่าเทพพิทักษ์เงียบงัน เห็นได้ชัดว่าล้วนเห็นด้วยกับความคิดของโฮดา แม้แต่หูจวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสี “ต้องเป็นเขาแน่ๆ ตัวซวยจริงๆ”
“ท่านพ่อ รักษาจิตใจให้สงบ อย่าโมโห” องค์ชายบัลเดอร์ที่คอยดูแลหูจวิ้นตลอดเวลารีบเตือน ไม่อยากเห็นหูจวิ้นโมโหอีก
เมื่อหูจวิ้นเห็นสายตาเป็นห่วงของลูกรักย่อมหายโกรธในทันใด เดิมทีเขาก็ไม่ได้โมโหมากนัก ถึงอย่างไรก็คาดเดาเรื่องของโลกีได้ตั้งแต่แรก เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขาเลือกปฐมราชินีเยี่ยนจึงจำเป็นต้องปล่อยโลกีไป ไว้จัดการภายหลัง
เมื่อคิดถึงปฐมราชินีเยี่ยน… หูจวิ้นยังคงวางใจไม่ลง “จื่อเฟิงยังไม่ออกมาหรือ”
“น่าจะยังพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นเขาคงมาเข้าเฝ้าท่านแล้ว” เฟรดตอบเสร็จก็นำยาน้ำที่ตนปรุงเสร็จยื่นให้หูจวิ้นดื่ม
หูจวิ้นดื่มพลางถามว่า “ฝั่งเฟรย์เป็นอย่างไรบ้าง”
“ลูกน้องของปฐมราชินีเยี่ยนแข็งแกร่งมาก ยังไม่สามารถตีเข้าไปได้” ไทร์ในฐานะที่เป็นเทพแห่งสงครามรับรู้ถึงสถานการณ์ทางฝั่งกรมความมืดได้ตลอดเวลา บางครั้งยังส่งพลังสงครามบางส่วนไปให้อัศวินมังกรที่ขอกำลังจากเขา แต่มีซีหวังหมู่และเทพองค์อื่นๆ ที่เฝ้ากรมความมืดก็เหมือนกับกำแพงเหล็กแน่นหนา การโจมตีรอบด้านของอัศวินมังกร ไม่สามารถพิชิตพวกเขาได้เลย
“แม้จะรู้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังคงรู้สึกผิดหวัง” หูจวิ้นถอนหายใจ “เทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเหล่านี้สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้มากสุดเพียงแปดส่วนในแอตแลนแห่งนี้ อัศวินมังกรกลับยังคงไม่สามารถเอาชนะได้ ต้องรู้สึกขอบคุณที่เราได้อาวุธวิเศษในการกัดกร่อนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า และเสร็จสิ้นการพังทลายแนวหน้า ตอนนี้แค่รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้น มิเช่นนั้น… ไม่รู้ว่าใครจะกัดกร่อนใครก่อน”
“พูดได้เพียงว่าปฐมราชินีท่านนี้คือตัวแปรของทุกสิ่ง” เฟรดเองก็ทอดถอนใจ “นางแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ลูกน้องของนางก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน หากนางไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ หรือเกิดใหม่ช้าไปหลายสิบปี ลูกน้องของนางก็คงต้องตายกันหมดอย่างไม่ต้องสงสัย”
คำพูดนี้…ทำให้ชุนเถียนเทพแห่งชีวิตรีบเอ่ยขึ้นว่า “แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวล สุราที่บ่มมาจากผลแห่งชีวิต เทพใดๆ ก็ไม่สามารถต่อต้านได้ จะต้องถูกล่อลวงให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแอตแลน ปฐมราชินีเยี่ยนก็ไม่ยกเว้น”
ชุนเถียน เทพแห่งชีวิตที่ไม่ค่อยมีตัวตนเสมอมา อันที่จริงนางก็พูดน้อยเหมือนกับโฮดาเทพแห่งความมืด เพราะว่านางถือกำเนิดขึ้นจากต้นไม้แห่งชีวิต โดยทั่วไปแล้วมนุษย์ต้นไม้มักพูดน้อย
อันที่จริงนางเป็นผู้ฟูมฟักดูแลผลไม้แห่งชีวิตที่ราชสำนักต้องการนำมาบ่มเป็นสุรา เพียงแต่ว่า… ชุนเถียนที่รู้สึกปวดศีรษะตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางไม่ได้เป็นห่วงปฐมราชินีเยี่ยน นางเป็นห่วงสวนเอเดนมากกว่า ดังนั้นหลังจากที่นางพูดเสร็จก็พูดขึ้นต่อว่า “แต่สวนเอเดนนี่สิ อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลง”
“เจ้าสัมผัสถึงอะไรหรือ” หูจวิ้นรีบถามทันที อันที่จริงเขาเองก็เป็นห่วงสวนเอเดนมาก แต่เขาหมดหนทางแล้ว
ชุนเถียนส่ายศีรษะพูดว่า “หม่อมฉันไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้ หม่อมฉันรู้เพียงว่าตนเองอ่อนแอลงจึงสรุปได้จากเหตุการณ์นี้ว่าสถานการณ์ของต้นไม้แห่งชีวิตไม่สู้ดีนัก”
“เขาเล่นงานต้นไม้แห่งชีวิตหรือ” หูจวิ้นชะงัก แต่จู่ๆ ก็หัวเราะเสียงดัง “หากเป็นเช่นนี้ บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายก็ได้ สำหรับสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลา หากกินผลไม้แห่งชีวิตในสวนเอเดนลงไปจะช่วยให้ฉลาด แต่สำหรับผู้มีปัญญา…”
“คือยาพิษที่ทำให้เสียสติ” เฟรดพูดต่อและก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป
แต่แล้วชุนเถียนจำเป็นต้องทำลายความฝันของพวกเขา “หรง ต้าซือมิ่งแห่งความมืดย่อมรู้เรื่องนี้”
“แต่ถึงแม้จะรู้ เกรงว่าก็ไม่สามารถต่อต้านการล่อลวงของผลไม้แห่งชีวิตได้” เฟรดยืนยัน “อาดัม ผู้นำลัทธิแสงสว่างในครานั้นและเอวาภรรยาของเขาก็เสียสติเพราะกินผลไม้แห่งชีวิตลงไป เพราะต่อต้านการล่อลวงไม่ได้มิใช่หรือ ลัทธิแสงสว่างจึงล่มสลายนับตั้งแต่นั้นมา”
“หวังเป็นเช่นนั้น” ชุนเถียนยังคงไม่รู้ไม่ดีนัก
ในครานี้เอง… ต้นไม้แห่งชีวิตต้นน้อยก็ตกอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนักจริงๆ เฟนเลย์ส่งมันเข้าไปในอ้อมอกของเด็กน้อยแล้ว เพราะว่าเฟนเลย์รู้สึกว่ามันจะหนีหลายครา
ก็ได้ อยากหนีไม่ใช่หรือ เฟนเลย์จึงให้นายน้อยกอดไว้อย่างร้ายกาจ จากนั้น…
หงับ…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เดินเตาะแตะไปทั่ว ยังกัดต้นไม้แห่งชีวิตต้นน้อยทำเอาต้นไม้แห่งชีวิตตกใจร้องไห้อีกครั้ง
ทว่า…
ในขณะที่ชุนเถียนกังวลใจ ผู้เฒ่าริกเกิร์ตฟันทองก็ส่งข่าวร้ายกลับมา “ฝ่าบาท”
ภาพใบหน้าริกเกิร์ตที่ปรากฏขึ้นซีดเผือด เพราะว่าวิชาเคลื่อนย้ายที่เหมือนกับตัวจริงกลับมาข้างหน้าหูจวิ้น สำหรับริกเกิร์ตที่ยังไม่ฟื้นตัวนั้นต้องสูญเสียพลังเป็นอย่างมาก แต่เขาจำเป็นต้องใช้วิชานี้เพื่อบอกข่าวจึงจะวางใจได้
“ฝ่าบาท สถานการณ์เลวร้ายยิ่งนัก” ริกเกิร์ตที่พูดกระชับได้ใจความก็พูดตรงๆ ว่า “สวรรค์เก้าชั้นฟ้ากำลังฟื้นตัว พลังกัดกร่อนของพวกเรากำลังถูกยับยั้ง เกรงว่าปฐมราชินีเยี่ยนจะหยั่งรู้บางอย่างจากสุราของพวกเรา รีบขัดขวางนาง เช่นนั้นอาจจะไม่ทันกาล”
เมื่อสิ้นเสียง… ทั่วทั้งวิหารเงียบงัน
ริกเกิร์ตสูญเสียพลังจนหมดสิ้น ร่างของเขาหายไปทันที
แต่ข่าวที่เขาส่งมาให้เพียงพอที่จะทำลายความสงบของทุกคนในวิหาร และเพียงพอที่จะทำให้หูจวิ้นที่ไม่สามารถรักษาตัวได้อย่างสงบลงจากเตียง ทว่า… เขายังไม่ทันหายตัวไปยังกรมความมืด เหนือปราสาทแอตแลนก็เกิดความเคลื่อนไหว