เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 577 มิอาจต้านทานปฐมราชินี

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 577 มิอาจต้านทานปฐมราชินี

นอกจากหมู่ดาวกำลังสั่นไหว พวกมันยังส่องแสงแห่งดวงดาวที่เก่าแก่ที่สุดลงมายังกรมความมืด เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในกรมความมืด ไม่ใช่เพียงการเลื่อนขั้นของอัศวินมังกรธรรมดาเท่านั้น การเลื่อนขั้นของนางคือการเลื่อนขั้นของระดับผู้สร้างแอตแลน ซึ่งจะต้องอยู่ในระดับขั้นจักรพรรดิแอตแลน ระดับขั้นที่เหนือกว่าเทพพิทักษ์ทั้งแปด

การเลื่อนขั้นเช่นนี้… เพียงพอที่จะทำให้หมู่ดาวแอตแลนเกิดการตอบสนองร่วม เพียงพอที่จะทำให้จักรวาลแอตแลนสั่นไหว แน่นอนว่านี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าเทพแอตแลนรวมถึงหูจวิ้นหน้าเปลี่ยนสี

ในขณะเดียวกัน… กู้จื่อเฟิงที่ในที่สุดก็ปรากฏตัว ใบหน้าของเขาซีดเผือด ดูเหนื่อยล้า “ฝ่าบาท ไม่ทันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

แม้จะไม่ได้ยินคำพูดของริกเกิร์ต แต่กู้จื่อเฟิงพอจะรู้ว่าหูจวิ้นและเทพพิทักษ์องค์อื่นๆ คงจะรู้ว่าเยี่ยนอวี๋กำลังเลื่อนขั้น อีกทั้งยังคิดจะไปขัดขวาง

ทว่า… กู้จื่อเฟิงจำเป็นต้องพูดว่า “ไม่ทันแล้ว”

“ข้าไม่เชื่อ” หูจวิ้นตอบเสียงขรึม สั่งทันทีว่า “ชุนเถียน เจ้าไปเปิดแนวป้องกันขั้นสูงสุดของแอตแลน ควบคุมพลังดวงดาวไว้ข้างนอกแนวป้องกัน ข้าจะรอดูว่านางยังจะเลื่อนขั้นอย่างไร”

“เพคะ” เทพแห่งชีวิตชุนเถียนจากไปหลังจากได้รับบัญชา

หูจวิ้นยังกล่าวว่า “เฟรด เจ้าไปช่วยเหลือ”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” เฟรดรีบตามชุนเถียนไปทันที

โดยปกติแล้ว ชุนเถียนสามารถเปิดแนวป้องกันขั้นสูงสุดได้เพียงลำพัง แต่เทพแห่งชีวิตในบัดนี้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เห็นได้ว่าบาดแผลที่ต้าซือมิ่งทำกับเหล่าทวยเทพก่อนหน้านี้ แม้จะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยยื้อเวลาให้ภรรยาได้ไม่น้อย ทำให้หูจวิ้นในบัดนี้ไม่ได้ตัดสินใจเปิดศึกทันทีอย่างง่ายดาย

หูจวิ้นกำลังรอ เขารู้ดีว่าหากตอนนี้บุ่มบ่ามเข้าไปในกรมความมืดก็ไม่สามารถขัดขวางเยี่ยนอวี๋ได้ เพราะว่าพลังการก้าวข้ามขีดจำกัดของเยี่ยนอวี๋ไม่น้อยจริงๆ หากเข้าไปเวลานี้…

เว้นแต่จะใช้พลังขั้นสูงสุดของแอตแลน มิเช่นนั้นไม่สามารถขัดขวางนางได้แน่นอน

“ให้ตายเถอะ”

หูจวิ้นที่คิดถึงตรงนี้ก็หงุดหงิด เขาต้องสงบอารมณ์โดยอาศัยการสูดหายใจเข้าลึก

สีหน้าของเทพพิทักษ์ที่เหลือทั้งแปดก็ย่ำแย่มาก โซลดาเคราแดงในฐานะที่เป็นเทพแห่งพลังยิ่งไม่เข้าใจว่า “เร็วเช่นนี้ได้อย่างไร นี่แค่กี่วันเอง?”

เทพสงครามไทร์ตอบอย่างเคร่งเครียดว่า “สามวัน”

“สติปัญญาน่าสะพรึงยิ่งนัก” โฮดา เทพแห่งความมืดมองไปที่บริเวณที่กรมความมืดตั้งอยู่ด้วยสายตาเคร่งขรึม เขาสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของที่นั่นแข็งแกร่งและน่าสะพรึงมากขึ้นเรื่อยๆ

“…”

เหล่าเทพเงียบงัน แม้แต่เทพคนคู่ เทพแฝดคู่หนึ่งที่ไม่เคยทุกข์หรือสุข ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ พวกเขาก็เผยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะว่าพวกเขาสัมผัสได้ว่าการเลื่อนขั้นของเยี่ยนอวี๋ไม่ธรรมดา บางที… ปฐมราชินีเยี่ยนคนนี้อาจจะ ‘แทนที่’ ฝ่าบาทของพวกเขาได้

“บัดนี้ได้แต่หวังว่าค่ายกลป้องกันสูงสุดใช้ได้ผล” กู้จื่อเฟิงได้แต่พูดเช่นนี้ และไม่ได้บอกผลการทำนายของตนเองออกมา

ทว่าหูจวิ้นกลับถามเขาว่า “ผลทำนายของเจ้าเป็นอย่างไร”

“…อัตราการชนะของปฐมราชินีจากศูนย์กลายเป็นห้า อัตราการชนะของท่านอยู่ระหว่างห้าและห้า” กู้จื่อเฟิงที่อ่อนล้าจำเป็นต้องบอกผลการทำนาย

“เป็นไปไม่ได้” เหล่าเทพคัดค้านอย่างพร้อมเพรียง

โซลดาพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “กู้จื่อเฟิง เจ้าเสียใจแล้วสินะ คิดจะทรยศสินะ ก็เลย…”

“หุบปาก!” หูจวิ้นตะคอกทันที “ขอโทษเดี๋ยวนี้! โซลดา ขอโทษจื่อเฟิงเสีย”

“ขอโทษ” โซลดาเองก็รู้ว่าตนเองพูดเกินไปจึงกล่าวขอโทษทันที “ข้าร้อนรนไปหน่อย กู้จื่อเฟิงเจ้าอย่าถือสาข้าเลย”

กู้จื่อเฟิงโบกมือไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนว่าจะอ่อนล้าจนไม่มีเรี่ยวแรงจะพูด แต่มีเพียงเขาที่รู้แก่ใจดีว่า ไม่ใช่เช่นนั้น เขารู้สึกแอตแลนน่าจะไม่รอดแล้ว เพราะว่า… เยี่ยนอวี๋ นางทำให้เขาประหลาดใจมาก ความฉลาดของนางอยู่เหนือที่เขาคาดคิดไว้มาก แม้ในบัดนี้ โอกาสการชนะของทั้งสองฝ่ายจะอยู่ระหว่างห้าและห้า แต่โอกาสการชนะของนางอยู่ที่ศูนย์ในตอนแรกเริ่ม ศูนย์นะ เพียงแค่สามวัน นางก็ไล่ตามมาถึงตรงนี้ กู้จื่อเฟิงเชื่อว่า หากการตัดสินใจครั้งถัดไปของหูจวิ้นผิดพลาดเพียงเล็กน้อย เยี่ยนอวี๋ต้องแซงเขาได้แน่นอน

ทว่า… หูจวิ้นสงบนิ่งมาก หลังจากที่เขาฟังผลการทำนายของกู้จื่อเฟิงแล้ว เขากลับสงบลงอย่างเห็นได้ชัด

กู้จื่อเฟิงจึงรู้ว่า จักรพรรดิแอตแลนท่านนี้มีแผนการในใจแล้ว

หูจวิ้นมีแผนการแล้วจริงๆ “เมื่อชุนเถียนเปิดค่ายกลแล้ว การตอบสนองร่วมของหมู่ดาวสลายไป ไทร์ เจ้านำไปก่อน เทพคนคู่ เจ้าทั้งสองคอยช่วยเหลือ โซลดา เจ้าคอยหนุนหลัง เทพที่เหลือบุกเข้าไปพร้อมข้า เราต้องจับปฐมราชินีเยี่ยนคนนั้นออกมา สังหารนางเสีย!”

“พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท” เหล่าเทพขานตอบ

กู้จื่อเฟิงรู้ว่าหูจวิ้นได้ละทิ้งทางลัดในการกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ไม่คิดจะเก็บเยี่ยนอวี๋ผู้ที่กลายเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดคนนี้ไว้แล้ว

หักคือหัก นี่ก็คือหูจวิ้น

แม้การกลืนกินต่อจากนี้อาจใช้เวลามาก แต่ก็ไม่เร็วเท่ากับการโจมตีเยี่ยนอวี๋โดยตรง แต่ว่า… ตัวแปรนี้ใหญ่เกินไป หูจวิ้นตัดสินใจกำจัดตัวแปรออกและเริ่มแผนการใหม่

ทว่า… ไทร์ที่มีไหวพริบก็ถามขึ้นว่า “เหตุใดชุนเถียนและเฟรดจึงช้าเช่นนี้ ยังไม่เสร็จหรือ”

หูจวิ้นรู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที จากนั้น… ชุนเถียนที่สถิตกลับมาอย่างรวดเร็วก็นำข่าวร้ายมาด้วยตามคาด “ฝ่าบาท ไม่สามารถเปิดแนวป้องกันขั้นสูงสุดได้เพคะ”

“นั่นไม่ใช่ค่ายกลที่เจ้าเป็นผู้ออกแบบหรือ เหตุใดจึงเปิดไม่ได้” โซลดาร้อนรนขึ้นมาทันที

แต่ว่า…

“หมู่ดาวไม่ตอบสนอง” ชุนเถียนเองก็ไม่คิดว่าจะเจอปัญหาเช่นนี้ “พื้นฐานของค่ายกลนี้คือการระดมพลังแห่งดวงดาวเพื่อปิดล้อมเมืองแห่งท้องนภา ตามหลักแล้วหมู่ดาวจะตอบสนองการเรียกของหม่อมฉันทุกเมื่อ เพราะว่าหม่อมฉันคือเทพแห่งชีวิต มีชีวิตร่วมกับแอตแลน แต่ว่า… ครั้งนี้พวกมันไม่ได้ตอบสนองหม่อมฉันเพคะ”

ชุนเถียนที่ยิ่งพูดสีหน้ายิ่งซีด นางอดคิดถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของเฟรดไม่ได้ หรือว่า เพราะว่าการเกิดใหม่ของปฐมราชินีเยี่ยน ทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไป

ครานี้เอง… สีหน้าของเหล่าเทพซีดเล็กน้อย

จู่ๆ หูจวิ้นก็มองไปที่โอรสของตนเอง “บัลเดอร์ เจ้าลองดู”

“นั่นสิ องค์ชายบัลเดอร์สามารถสื่อสารกับสรรพชีวิตของแอตแลนได้แต่กำเนิด และสามารถทำให้พวกมันเปลี่ยนแปลงไปตามเจตจำนงและอารมณ์ของเขาได้” เหล่าทวยเทพเหมือนกับว่าจะเห็นความหวัง

ทว่า…

วิ้ง

หมู่ดาวที่ล้อมรอบแอตแลนจัดเรียงใหม่ด้วยตนเองในครานี้

หูจวิ้นรีบกระโดดขึ้นไปบนจุดสูงสุดของปราสามแอตแลน เหล่าทวยเทพรีบตามออกไปทันที

จากนั้น…พวกเขาก็เห็นว่า หมู่ดาวรวมตัวเป็นรูปมงกุฎเหนือเมืองแอตแลน

นั่นคือ…

“หมู่ดาวสวมมงกุฎ”

เหล่าทวยเทพแสดงสีหน้าหวาดกลัว เพราะว่าพวกเขารู้ว่า ตั้งแต่โบราณจนถึงบัดนี้ มีสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลแอตแลนที่เคยได้รับเกียรติเช่นนี้ นั่นก็คือจักรพรรดิผู้ก่อตั้งแอตแลน มีเพียงเขา ในอดีตไม่เคยมีปรากฏมาก่อน หลังจากนั้นก็ควรจะไม่มีใครมาทดแทนได้

ทว่า… วันนี้ในยามนี้เปลี่ยนไปแล้ว หมู่ดาวกำลังจะสวมมงกุฎให้เยี่ยนอวี๋ ผู้ที่รู้จักแอตแลนดีที่สุดอีกครั้ง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท