ตอนที่ 579 ปฐมราชินีออกจากการจำศีล เอาชนะขั้นสุดท้าย
ที่ที่เยี่ยนอวี๋อยู่คือวิหารหลักของกรมความมืด ทางหนีลับของกรมแสงสว่างย่อมถูกสร้างไว้ที่นี่
เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ นางกำลังถูกแสงดาวแน่นหนาปกคลุม อีกทั้งบนศีรษะของนางยังปรากฏมงกุฎแห่งหมู่ดาวอันเจิดจรัส ดังนั้นเมื่อเฟรย์เปิดประตูด้วยโลหิตของตนเองตามที่จำได้ สิ่งที่เห็นก็คือเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ นางอิจฉาจนตาแดง ทั้งปวดใจและรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว
ครานี้เอง…
“หมู่ดาวสวมมงกุฎ!”
เฟรย์แทบจะกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา
ในฐานะที่เป็นเทพระดับเทพผู้พิทักษ์ เฟรย์ย่อมรู้ดีว่าหมู่ดาวสวมมงกุฎหมายความถึงอะไร
ก่อนหน้านี้นางไม่ได้คิดถึงสิ่งนี้ และก็ไม่ได้ขึ้นไปสังเกตจากข้างบนจึงดูไม่ออก
ทว่าบัดนี้… ด้วยรูปลักษณ์ของเยี่ยนอวี๋และปรากฎการณ์ด้านนอก หากเฟรย์จำไม่ได้ เช่นนั้นนางก็ไม่คู่ควรเป็นจักรพรรดินีแล้ว
“จักรพรรดินี ทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ” อัศวินเรก้าและคนอื่นๆ ที่ตามมา พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีแล้ว
ถึงอย่างไรเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้แม้จะยังอยู่ในสถานะที่กำลังเลื่อนขั้น นางยังไม่ตื่น แต่กลับทำให้พวกเขารู้สึกมิอาจคาดเดาได้ และทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวด้วยสัญชาติญาณ
“ถอยไป รอ” เฟรย์กลับไม่ได้ถูกความริษยาบังตา “นางในบัดนี้กำลังถูกหมู่ดาวให้พรและสวมมุงกุฎ เราไม่สามารถเข้าใกล้ได้ มีเพียงรอให้หมู่ดาวสลายไป เมื่อนางเริ่มย่อยพลัง พวกเราจึงจะทำร้ายนางได้ ถึงครานั้น…”
“ทำให้ตายในคราเดียว” เรก้าจัดแจงอัศวินอื่นเรียบร้อย พวกเขาล้อมเยี่ยนอวี๋ไว้แล้ว
เฟรย์เดินไปข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ มือของนางยังปรากฏลูกศรสีทองสว่างไสว หัวลูกศรยังเปล่งแสงลึกลับและโบราณออกมา
และนี่…อันที่จริงเคยเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของลัทธิแสงสว่างหรือก็คือศรแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์
เฟรย์ในอดีตเคยใช้มันจบชีวิตของอาดัม ช่วยจักรพรรดิผู้ก่อตั้งแอตแลนทำลายสำนักศักดิ์สิทธิ์ ก่อตั้งระบอบการปกครองโดยราชวงศ์แอตแลน ดังนั้นอันที่จริงเฟรย์คือขุนนางผู้มีคุณูปการต่อการก่อตั้งแอตแลน เก่าแก่และยิ่งใหญ่เหมือนกับเทพพิทักษ์ทั้งแปด สำหรับสาเหตุที่นางแต่งงานกับหูจวิ้นที่ ‘อายุยังน้อย’ นั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดและก็เป็นเพราะประสบการณ์ของตนเองเช่นนี้ สายตาที่เฟรย์มองเยี่ยนอวี๋นอกจากจะเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาแล้ว ยังมีความหวาดกลัว “นังคนเลว เจ้าอย่าหาว่าข้าใจร้าย ข้าไม่ปล่อยให้เจ้ามีโอกาสคุกคามตำแหน่งข้าหรอก”
อันที่จริงเฟรย์รู้จักหูจวิ้นดี นางรู้ว่าหูจวิ้นอยากจะพิชิตปฐมราชินีเยี่ยนคนนี้ เพราะว่า… สตรีประเภทนี้คือสตรีที่เขาชอบที่สุด
เขาชอบสตรีที่แข็งแกร่งและยากจะพิชิตที่สุด ดังเช่นนาง ดังเช่นสการ์เลตต์ ส่วนสตรีอื่น เขาก็แค่เล่นด้วยเท่านั้น แต่ว่า… เยี่ยนอวี๋ไม่เหมือนกัน เฟรย์รู้ดี “เจ้าทำให้เขาหวั่นไหว ข้าก็ต้องฆ่าเจ้าให้ตาย”
เฟรย์ที่พึมพำคนเดียวยิ่งมองเยี่ยนอวี๋ก็ยิ่งมั่นใจว่าหูจวิ้นจะต้องชอบสตรีนางนี้แน่นอน เพราะว่าสตรีนางนี้นอกจากจะสวยแล้ว ยังฉลาดและยิ่งใหญ่มากด้วย
เฟรย์กำศรศักดิ์สิทธิ์ในมือไว้แน่น รอโอกาสเงียบๆ และยังคอยส่งพลังเข้าไปยังศรศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง นางรู้ว่าโอกาสใกล้มาถึงแล้ว
…
ในขณะเดียวกัน อินหลิวเฟิงที่คอยสังเกตการณ์ข้างนอก เขาก็รู้สึกประหลาดใจ “เหตุใดหญิงเสียสตินั่นไปแล้วล่ะ”
“สู้ไม่ไหวน่ะสิ” ซีหวังหมู่ไม่ได้คิดมาก
“สตรีเช่นนี้ข้าพบมามากนัก ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่บรรลุเป้าหมายไม่ยอมแพ้ เว้นแต่นางจะตาย” อินหลิวเฟิงเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง และคอยเฝ้าสังเกตต่อไป
เซ่าเฮ่าขมวดคิ้ว “ข้าออกไปดูเอง”
“อย่า!” อินหลิวเฟิงรีบห้าม “ตอนนี้เราห้ามออกไป พวกเขากำลังรอให้เราแยกกัน เราจะต้องเกาะกลุ่มกันไว้ อย่าให้โอกาสพวกเขา ในขณะเดียวกันก็ปกปักษ์กูไหน่ไนให้ดี ไม่ใช่สิ…”
อินหลิวเฟิงที่ตากระตุกอดถามไม่ได้ว่า “หญิงเสียสติคนนั้นคงไม่ใช่ว่าหาวิธีสกปรกอื่นๆ มาจัดการกับกูไหน่ไนได้แล้วหรอกนะ!”
“นายน้อย…” เอ้อร์เหมาถอนหายใจ “ปากของท่าน”
อินหลิวเฟิงรีบตบปากตนเองทันที “ถุยๆๆ! คำพูดเด็กอย่าถือสา แต่ว่า… ข้ายังคงเป็นห่วง พวกเจ้าคิดว่านางจะรู้ทางลับอะไรที่เข้ามาข้างในได้หรือไม่ เอลล่าไม่รู้จักกรมความมืดนัก เรายิ่งไม่รู้จัก…”
“ข้าจะไปช่วยเม่ยเอ่อร์และอิงหลงเฝ้าเอง” เซ่าเฮ่ารีบไปยังวิหารหลักทันที ระหว่างทางก็คอยสัมผัสรอบทิศอย่างระมัดระวัง แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฟรย์ในบัดนี้ยืนอยู่ข้างหน้าเยี่ยนอวี๋แล้ว เขาย่อมไม่รู้เช่นกันว่าหูจวิ้นที่อยู่ในปราสาทแอตแลนก็ได้รับ ‘สารลับ’ เช่นกัน
หูจวิ้นในบัดนี้… เดิมทีเขาคิดจะเปิดใช้งานพลังขั้นสูงสุดของแอตแลนเพื่อกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าขั้นสุดท้าย ดังนั้นเทพสงครามไทร์เกลี้ยกล่อมตลอดเวลาว่า “ฝ่าบาท หากจะฝืนกลืนกินในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าทลาย เช่นนั้นเราก็จะไม่ได้สิ่งใดเลย แม้แต่จักรวาลแอตแลนของเราก็อาจจะได้รับผลกระทบ”
“ข้ารู้” หูจวิ้นย่อมไม่อยากทำเช่นนี้ อีกทั้ง… หูจวิ้นที่ส่งสารลับที่โซลดาส่งมาให้ไทร์ดู เขาก็ถามว่า “เจ้ามีความเห็นอย่างไร”
“เฟรย์หาทางลับได้ และยังอยู่ข้างหน้าปฐมราชินีเยี่ยนแล้ว” ไทร์คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเฟรย์จะพึ่งพาได้ในเวลาที่สำคัญเช่นนี้ นางถึงกับไปอยู่ข้างหน้าปฐมราชินีเยี่ยนแล้ว โอกาสดีเช่นนี้ย่อมพลาดไม่ได้
ไทร์จึงตอบว่า “ฝ่าบาท เราไปกันเถิด ตราบใดที่สามารถควบคุมเยี่ยนอวี๋ไว้ได้ในเวลาที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างย่อมสามารถดำเนินการตามแผนได้”
“เกรงว่านางจะไม่ได้ถูกควบคุมง่ายดายเช่นนั้น” หูจวิ้นพูดพลางมองลูกแก้วลึกลับลูกหนึ่งข้างหน้าเขา
และลูกแก้วลูกนี้อันที่จริงก็คือหัวใจแห่งจักรวาลหรือพลังขั้นสูงสุดของแอตแลน
ไทร์มองไปตามสายตาของหูจวิ้น เข้าใจว่า “เช่นนั้นท่านต้องการใช้หัวใจจักรวาลกลืนกินนางหรือ”
“ใช่แล้ว” หูจวิ้นตัดสินใจ “เช่นนี้ ข้าก็จะเป็นจักรพรรดิที่ถูกหมู่ดาวสวมมงกุฎ และคือผู้สร้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลาย”
ไทร์ได้ยินดังนั้นก็คุกเข่าข้างหนึ่งลง “ฝ่าบาทจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปตลอดกาล ปกครองแอตแลนตราบนานเท่านาน!”
หูจวิ้นยิ้มเล็กน้อย เขายื่นมือไปนำหัวใจแห่งจักรวาลลงมา และแทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง… แสงดาวรอบกายเยี่ยนอวี๋ก็ค่อยๆ สลายไป เฟรย์รีบจับศรไว้แน่น เตรียมยิงหมายเอาชีวิต
ศรแสงสว่างเต็มไปด้วยพลังการสังหารเทพผู้สร้าง ถึงอย่างไรอาดัมในครานั้นก็อยู่ในระดับนี้
บัดนี้…
วิ้ง
แสงดาวรอบกายเยี่ยนอวี๋ค่อยๆ สลายไป กลิ่นอายของนางก็ลึกลับและคาดเดายากขึ้นกว่าเดิม และยิ่งทำให้เฟรย์อิจฉาและหวาดกลัว
ผ่านไปครู่หนึ่ง
“…”
เมื่อแสงดาวดวงสุดท้ายที่อยู่รอบกายเยี่ยนอวี๋ค่อยๆ มลายหายไป
ฟิ้ว
เฟรย์ลงมือทันที
ศรศักดิ์สิทธิ์พุ่งผ่านอากาศเกิดเสียงเสียดสีและแสงลึกลับ มันพุ่งตรงไปยังหัวใจของเยี่ยนอวี๋
พรึ่บ
เรก้าและอัศวินอื่นๆ พากันชูดาบขึ้นฟันลงไปที่เยี่ยนอวี๋
เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้… นางยังไม่ลืมตา การโจมตีหมู่ก็เกิดขึ้นแล้ว
“ตายซะเถอะ!”
เสียงร้องแหลมของเฟรย์ดังขึ้นพร้อมศรศักดิ์สิทธิ์ที่จมเข้าไปในหัวใจของเยี่ยนอวี๋
ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น…จนทำให้เฟรย์อยากจะหัวเราะออกมา
ทว่า… นางจับสังเกตได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะว่ามือของเยี่ยนอวี๋ไม่รู้ว่าปรากฏขึ้นบริเวณหน้าอกของนางตั้งแต่เมื่อใด ราวกับคว้าศรศักดิ์สิทธิ์ไว้
ขณะที่เฟรย์ตื่นตกใจ นางก็แทงศรศักดิ์สิทธิ์เข้าไปลึกกว่าเดิม “ตายซะเถอะ อย่าดิ้นรนเลย เจ้าหนีไม่พ้นหรอก ขนาดอาดัมยังหนีไม่พ้นเลย”
“ตายซะ!” ดาบยาวของเรก้าและอัศวินอื่นๆ ก็ฟาดใส่หลังและกะโหลกของเยี่ยนอวี๋พร้อมกันในครานี้ แม้พวกเขาจะช้ากว่าเฟรย์ไปก้าวหนึ่ง แต่ก็ชนะที่มีจำนวนคนมากกว่า อีกเพียงพริบตาก็จะแทงเยี่ยนอวี๋พรุนจนเป็นรังผึ้งแล้ว
น่าเสียดาย…
วิ้ง
แสงดาวที่หลั่งไหลออกมาจากรอบกายเยี่ยนอวี๋ นอกจากจะขวางดาบที่จู่โจมทั้งหมดไว้ได้ มันยังทำให้ดาบทั้งหมดแตกสลายเป็นละออง
นี่มัน…
“เป็นไปได้อย่างไร”
เฟรย์หน้าเปลี่ยนสี นางมองไปที่หัวใจของเยี่ยนอวี๋ทันที จากนั้นนางก็พบว่า สตรีคนนี้ไม่มีเลือดไหลออกมา ทั้งๆ ที่นางแทงศรเข้าไปในหัวใจของสตรีคนนี้แล้ว? สตรีคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย?
ไม่… ไม่ถูก ไม่ใช่แน่ๆ
เหมือนกับว่านางยังไม่ได้แทงศรศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในหัวใจของสตรีคนนี้?
เฟรย์ที่จนถึงบัดนี้เพิ่งจะพบว่ามีแสงดาวค่อยๆ ไหลออกมาจากฝ่ามือของเยี่ยนอวี๋ นางเบิกตาโต ดึงศรศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา และนางก็เห็นว่า…
หัวลูกศรศักดิ์สิทธิ์หายไปแล้ว …ถูกขยี้จนแตกละเอียดไปแล้ว
หรือพูดได้ว่า เฟรย์แทงไม่สำเร็จ แต่สตรีคนนี้บดขยี้ลูกศรของนางเงียบๆ ไปแล้ว
นี่มัน…
เฟรย์ไม่ทันคิดเสร็จ แสงดาวที่หลั่งไหลออกมาจากรอบกายเยี่ยนอวี๋พลันซัดโถมออกมาอย่างแน่นหนา
ตูม!
ผู้โจมตีทั้งหมดรวมถึงเฟรย์ล้วนถูกแสงดาวที่เยี่ยนอวี๋ระเบิดออกมาซัดกระเด็นกระแทกกำแพงในห้องลับอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกัน…
เซ่าเฮ่าได้ยินเสียง “นายท่าน?”
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หูจวิ้นก็มาถึงห้องลับแล้ว
หูจวิ้น เขามาแล้ว ทว่า…
วิ้ง
เยี่ยนอวี๋ลืมตาขึ้นแล้ว