ตอนที่ 581 การล่าชั้นยอด
หายไปแล้ว…
“นายท่าน!”
อิงหลงโถมใส่ลูกแก้วที่กลืนกินเยี่ยนอวี๋ไปลูกนั้น
“วอนตาย!”
ดาบเล่มใหญ่ของเม่ยเอ๋อร์ขยายใหญ่สุดก่อนจะผ่าลงไปที่หูจวิ้น แต่แล้ว… หูจวิ้นที่เห็นได้ชัดว่าคิดไว้แต่แรกแล้ว ก่อนที่การจู่โจมของอิงหลงและเม่ยเอ๋อร์จะถึงตัวก็หายตัวไปพร้อมลูกแก้ว
ไม่เพียงเท่านี้…
เฟรย์ที่ก่อนหน้านี้ถูกหูจวิ้นซัดกลับไปที่ห้องลับ นางยังจู่โจมในครานี้ นางเปิดใช้งานกลไกที่อยู่ข้างห้องลับ “ไปตายซะเถอะ!”
ในเมื่อที่นี่มีห้องลับก็ย่อมมีกลไกป้องกันข้าศึกไล่ตาม ดังนั้นเมื่อเฟรย์กดลงไป ทั้งห้องลับก็ระเบิดทันที
ตูม!
พลังทำลายล้างระดับเทพอันน่าสะพรึงทำให้วิหารหลักของกรมความมืดระเบิดทันที ประหนึ่งภูเขาไฟระเบิดอย่างกะทันหันและเหมือนกับดาวเคราะห์น้อยใหญ่ถล่มลงมา ทำให้พวกอินหลิวเฟิงที่ได้ยินเสียงลอยกระเด็นออกไป
วี้ด!
ซีหวังหมู่ผู้เหี้ยมเกรียมคำรามเสียงเขย่าขวัญไปยังศูนย์กลางที่ระเบิด บดขยี้พลังทำลายล้างที่ปะทุออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความรุนแรง
แต่ทั่วทั้งกรมความมืดกำลังพังทลาย พลังทำลายล้างไม่รู้ที่สิ้นสุดกำลังทะลักออกมาไม่หยุด ราวกับประตูนรกถูกเปิดออก ราวกับว่าอสูรทั่วทั้งนรกจะออกมากลืนกินสรรพชีวิตในโลกมนุษย์แล้ว
เรื่องนี้ทำให้อินหลิวเฟิงที่ถูกเทพอัสนีปกป้องไว้ทันทีมีใบหน้าขาวซีดและย่ำแย่มาก “ถอย! ถอยเร็วเข้า!”
เอ้อร์เหมาที่ถูกเทพอัสนีพัดม้วนไปด้วยพูดไม่ออก… ปากของนายน้อยเราทำไมจึงศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้นะ
เอ้อร์เหมาไม่เข้าใจ…ซีหวังหมู่ไม่ฟังแม้แต่น้อย มันพุ่งทะยานไปที่วิหารหลักแล้ว “นายท่าน!”
น่าเสียดาย…ซีหวังหมู่ถูกกำหนดไว้แล้วว่ามันไม่สามารถหานายท่านที่มันให้ความสำคัญมากที่สุดเจอแล้ว ทว่าอิงหลงและเม่ยเอ๋อร์ที่ถูกซัดกระเด็นออกมากลับถูกมันรับไว้และถามว่า “นายท่านล่ะ”
อิงหลงที่ขวางซีหวังหมู่ไว้ก็ตอบว่า “ถูกนำตัวไปแล้ว เซ่าเฮ่าไล่ตามไปแล้ว พวกเรารีบถอยไปช่วยเซ่าเฮ่า!”
“ได้เลย!” ซีหวังหมู่ที่เชื่อฟังในครานี้ มันม้วนตัวอิงหลงและเม่ยเอ๋อร์กำลังจะจากไป ทว่า…
ตูม!
กรมความมืดที่ระเบิดเละเทะได้เปิดประตูนรกออกจริงๆ ปีศาจหน้าตาขยะแขยงราวกับคางคกขนาดยักษ์นับไม่ถ้วนแย่งกันกระโดดออกมา ยังร้อง อ๊บ พร้อมพ่นพิษนับไม่ถ้วนออกมา
“น้ำบริสุทธิ์!”
อิงหลงพ่นไอน้ำบริสุทธิ์ออกมาเพื่อสกัดกั้นพิษเหล่านั้น แต่รอบกายพวกเขาปรากฏปีศาจคางคกยักษ์มากมาย แม้แต่อากาศก็ถูกหมอกพิษของปีศาจคางคกกัดกร่อนจนเป็นตุ่มหนองหนืด
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนี้เกิดขึ้นภายในพริบตา เทพอัสนีที่อยู่อีกฝั่งเพิ่งจะพาพวกอินหลิวเฟิงเหินออกไป กรมความมืดทั้งกรมก็กลายเป็น ‘นรก’ ไปแล้ว
ที่น่ากลัวคือ… นรกแห่งนี้ยังกำลังจมลงไป เพราะว่านี่ก็คือ…
“ประตูแห่งนรก!”
“บัดซบ!”
“มีประตูนรกในกรมความมืดหรือนี่”
เหล่าทวยเทพแอตแลนที่ดูจนถึงตอนนี้ล้วนตกตะลึง ในฐานะที่เป็นประชาชนแอตแลน พวกเขาล้วนรู้ดีว่าประตูนรกเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับประหารเทพที่กระทำผิดสถานหนักมาโดยตลอด เมื่อประตูนรกเปิดออก… ไม่ว่าจะเป็นเทพระดับใดล้วนต้องกลายเป็นอาหารว่างของเหล่าปีศาจในนรก ดังนั้น…
“ฮึ!”
เฟรย์ที่ถอนตัวออกมา นางกำลังยิ้มหยันมองกรมความมืด “ก่อนหน้านี้เก่งนักไม่ใช่หรือ อัศวินมังกรก็ปราบพวกเจ้าไม่ได้ ตอนนี้ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้ายังจะหนีออกมาได้หรือไม่”
“นายน้อย ดูนั่น หญิงเสียสตินั่น” เอ้อร์เหมาที่มีสายตาแหลมคมก็เห็นเฟรย์ที่ตกอยู่ในสภาพทุลักทุเล สมแล้วที่มีตาเหยี่ยวขนาดใหญ่
“จับนางไว้” อินหลิวเฟิงรีบพูดกับเทพอัสนี ทว่า…
วิ้ง วิ้ง…
โซลดาเคราแดง เทพแห่งพลังที่สถิตลงมาจากฟากฟ้าและโฮดาเทพแห่งความมืด พร้อมทั้งเทพคนคู่ พวกเขาล้อมเทพอัสนีรวมถึงพวกอินหลิวเฟิงที่อยู่บนหลังของเทพอัสนีเอาไว้แล้ว
ฉากเช่นนี้… ทำให้เฟรย์หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ จับข้ารึ พวกเจ้ามีปัญญาหรือไร”
“ถูกล้อมแล้ว” เอ้อร์เหมามองไปรอบตัวด้วยสีหน้าย่ำแย่ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะรับมือเมื่ออยู่ต่างแดน “นายน้อย ทำอย่างไรดีขอรับ”
“จัดสิ ยังจะทำอะไรได้อีก” อินหลิวเฟิงที่ยืนขึ้นมา เขารู้ดีว่าเทพเหล่านี้ไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดแน่ พวกเขาจะต้องถูกต้อนไปในประตูนรกบ้าบอนั่นแน่นอน
ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น ถึงอย่างไรโซลดาก็เหวี่ยงขวานออกไปทางศีรษะของเทพอัสนีอย่างไม่รีรอแล้ว
กรร!
เทพอัสนีคำรามอย่างโกรธกริ้ว เขาบนศีรษะพุ่งใส่ขวานยักษ์ของโซลดาอย่างรุนแรง ทำให้การปะทะกับโซลดาผู้เป็นเทพพิทักษ์แห่งพลังของแอตแลนเกิดสายฟ้าฟาดไปทั่วท้องฟ้า เมฆฝนก่อตัวฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
เทพอัสนีโมโห
พรวด
โซลดาที่เดิมทีบาดแผลยังไม่หายก็ถูกการปะทะของเทพอัสนีครั้งนี้ปะทะจนกระอักเลือด แต่แล้ว…
“ดาวคนคู่!”
“เอาชีวิตเจ้า!”
เทพคนคู่พูดขึ้นพร้อมกัน พวกเขาตวัดดาบไปที่คอของเทพอัสนีจากทางซ้ายและขวาอย่างพร้อมเพรียงและรุนแรง ทำให้เกล็ดมังกรบนคอของเทพอัสนีแตกละเอียด จุดประสงค์ของพวกเขาคือตัดศีรษะของเทพอัสนี แต่เทพอัสนีผู้แข็งแรงที่ไหนจะกลัวปะทะกับโซลดา มันยังคงฉีกทึ้งไปที่เทพคนคู่อย่างมีกำลังเหลือเฟือ แขนมังกรที่อวบอ้วนและแข็งแรงคู่นั้นของมันตะปบไปทางศีรษะของเทพคนคู่ทันที “ตายซะ!”
น่าเสียดาย…
ซู่
เทพคนคู่ที่มีไหวพริบดีกลายเป็นลำแสงหลบหลีกการโจมตีอันรุนแรงของเทพอัสนีไปได้
เดิมทีเทพสององค์นี้ก็ไม่ได้คิดจะปะทะกับเทพอัสนีอยู่แล้ว แผนการต่อสู้ของพวกเขาคือให้โซลดาจัดการเทพอัสนี ส่วนพวกเขาใช้วิธีหลอกล่อเพื่อหันเหความสนใจของเทพอัสนี
ส่วนการสังหารนั้น…ย่อมอยู่ที่เทพความมืด
เทพความมืดเองก็สมแล้วที่เป็นเทพแห่งความมืด จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวบนหลังของเทพอัสนี ในขณะที่เทพคนคู่ถอยออกไป และเผยดาบสั้นที่แผ่ซ่านกลิ่นอายมืดมนแน่นหนาออกมาก่อนจะแทงลงไปที่สันหลังของเทพอัสนีหมายจะตัดเส้นเอ็นให้ขาด ทว่า…
อินหลิวเฟิงที่ทำนายได้แต่แรกแล้ว ขณะที่เทพแห่งความมืดสถิตลงมา เขาก็ขว้างตะปูหนึ่งกำมือใส่เขา “หมุดตรึงมาร ไป!”
เคร้ง
หมุดตรึงมารที่พุ่งออกไปพร้อมไฟวิหคทมิฬแผดเผาซัดใส่เทพแห่งความมืดอย่างรวดเร็ว ทำให้ดาบสั้นของเขายังไม่ทันแทงลงไปก็ระเบิดกลิ่นอายมืดมิดไร้ที่สิ้นสุดออกมาต่อต้านการโจมตีของหมุดตรึงมารอย่างรวดเร็ว
ทว่า…
“ตายซะ!”
เฟรย์ที่ปักธนูศักดิ์สิทธิ์ไร้หัวลงไปที่ท้ายทอยของเทพอัสนีอย่างรุนแรง อีกเพียงพริบตาก็จะทะลุศีรษะของมันแล้ว
“เหล่าเหลย!”
อินหลิวเฟิงสีหน้าเปลี่ยน คิดไม่ถึงว่าเฟรย์จะมีอาวุธเช่นนี้ในมือ ซ้ำร้าย…
“ไปตายซะเถอะ!”
ขวานยักษ์ของโซลดาโจมตีใส่เทพอัสนีอีกครา
ไม่เพียงเท่านี้…
“ตายซะ!”
เทพแห่งความมืดโฮดาก็ลงมืออีกครั้งเช่นกัน
เทพพิทักษ์ทั้งห้าแห่งแอตแลนร่วมกันลงมือพร้อมกัน แม้เทพอัสนีจะมีสามเศียรหกกรก็ไม่สามารถต้านทานได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมันในครานี้ที่ไม่มีที่ว่ามาเลย