ตอนที่ 588 ตาต่อตาฟันต่อฟัน! กัดกลืนจักรพรรดิหู!
“เป็นไปได้อย่างไร” ไทร์โต้ตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะคิด เพราะว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ “ริกเกิร์ต เจ้าอย่าระแวงไปเอง”
ริกเกิร์ตกลับยังคงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าลองสัมผัสสิ! ตั้งจิตสัมผัสดีๆ!”
ไทร์ขมวดคิ้วปล่อยจิตสัมผัส จากนั้นเขาก็พบว่ามีกลิ่นอายของนางจริงๆ แต่ว่า…
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร” ไทร์ไม่เข้าใจจริงๆ! ถึงอย่างไรวงแหวนป้องกันที่ที่พวกเขาอยู่คือพื้นที่กลืนกินที่ถูกหูจวิ้นควบคุม ตามหลักแล้ว เว้นแต่การกลืนกินจะหยุดลง มิเช่นนั้นพลังใดๆ ล้วนไม่สามารถรุกล้ำเข้ามาได้
แต่กลิ่นอายของปฐมราชินีเยี่ยนรุกล้ำเข้ามาแล้วจริงๆ อีกทั้งยังติดอยู่กับวงแหวนพลังที่จักรพรรดิปล่อยออกมา กลายเป็นชั้นแสงสีม่วงจางๆ
นี่มัน… ไทร์รีบถามว่า “ทำอย่างไรดี”
ริกเกิร์ตไม่สามารถตอบได้ เพราะว่าเขาก็ไม่รู้เช่นกัน
แต่แล้ว…
“ฮึ”
หูจวิ้นที่จู่ๆ ยิ้มหยันขึ้นมาก็ลืมตาขึ้น “มาได้ดี! กลัวว่าเจ้าจะไม่มา”
“ฝ่าบาท!?” ไทร์ยังคงไม่เข้าใจ
ริกเกิร์ตคิดได้ทันที แต่เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่มองหูจวิ้นด้วยหัวใจที่สั่นนะรัว เขาเดาว่าที่ฝ่าบาทท่านนี้ของพวกเขาจะกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นเป็นเรื่องเท็จ หลอกล่อปฐมราชินีถึงจะเป็นเรื่องจริง
ส่วนหูจวิ้น เขาก็วางแผนไว้เช่นนี้จริงๆ เขารู้ดีว่า เมื่อเขาเริ่มกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างไร้เหตุผล เยี่ยนอวี๋จะต้องหาวิธีหยุดยั้งเขา แต่เดิมทีเขายังไม่มั่นใจว่าเยี่ยนอวี๋จะใช้วิธีอะไรหยุดยั้งเขา จนถึงบัดนี้…
“ฮ่าๆๆ!” หูจวิ้นที่หัวเราะเสียงดังลั่นทุบลูกแก้วแตกทันที
จากนั้น…
ซีหวังหมู่และพรรคพวกที่เร่งเดินทางมาถึงยังไม่ทันถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็เห็นเยี่ยนอวี๋ถูกรวมเข้าไปในวงแหวนเปล่งแสงที่พวกหูจวิ้นทั้งสามอยู่
“แย่แล้ว!” เซ่าเฮ่าพุ่งออกไปด้วยสัญชาติญาณ คิดจะช่วยเยี่ยนอวี๋ไม่ให้เข้าไปในนั้น แต่เซ่าเฮ่าเพิ่งพุ่งตัวออกไป เขาก็ถูกวงแหวนระเบิดใส่เสียงดัง ปัง ราวกับดอกไม้ไฟระเบิด กระแทกเขาออกไปทันที ทำเอาเขาเกือบจะกระเด็นออกจากเส้นขอบฟ้า
โชคดีที่ซีหวังหมู่เร็วพอ นางจับเข้าไว้ทันพอดีและยังช่วยลดแรงกระแทกไม่น้อยให้เขา มิเช่นนั้นนอกจากเขาจะกระเด็นลอยไปไกลแล้ว เขาคงบาดเจ็บสาหัสด้วยแน่นอน
“อย่าบุ่มบ่าม!” อินหลิวเฟิงเอ่ยขึ้นทันที บอกให้ทุกคนอย่าบุ่มบ่ามเหมือนเซ่าเฮ่า
“แค่กๆ…” เซ่าเฮ่าสำลักอยู่นานกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้ “ต้องช่วยใต้เท้าออกมา ปล่อยให้นางถูกวงแหวนนั้นปกคลุมไม่ได้ พวกเขาจะกลืนกินนาง!”
“อะไรนะ” ซีหวังหมู่ได้ยินดังนั้นก็มิอาจสงบอารมณ์ได้แล้ว มันกำลังจะพุ่งออกไป
อินหลิวเฟิงรีบจับมือที่เต็มไปด้วยขนของมันไว้ “ช้าก่อน! วางแผนก่อน! ได้หรือไม่”
“ต้องทำเช่นไร!” ซีหวังหมู่ข่มอารมณ์ถาม
เม่ยเอ๋อร์ก็ถามว่า “ใช่! เร็วเข้า! ข้าเห็นจักรพรรดินั่นหัวเราะชั่วร้ายมาก! น่าบัดซบ!”
“ใช่แล้ว!” อิงหลงจ้องหูจวิ้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้ายเขม็ง รู้สึกคันกรงเล็บมาก
ที่สำคัญคือ เมื่อหูจวิ้นเห็นพฤติกรรมของเซ่าเฮ่า และการจ้องมองของกลุ่มคนอินหลิวเฟิงแล้ว เขาก็ปิดการสกัดกั้นเสียง หัวเราะอย่างได้ใจให้พวกเซ่าเฮ่าได้ยินพลางพูดว่า
“พวกเจ้าน่ะหรือ คิดจะช่วยปฐมราชินีของพวกเจ้ารึ ฝันไปเถอะ พวกเจ้าคอยดูดีๆ ว่าข้าจะกลืนกินพลังของนางอย่างไรและจะพิชิตนางอย่างไร! เตรียมพร้อมจำนนต่อข้าเสียเถอะ”
“ฝันไปเถอะ!”
“เพ้อเจ้อ!”
“แม้แต่คางคกยังไม่บังอาจคิดเช่นนี้!”
เซ่าเฮ่า อิงหลงและซีหวังหมู่แทบจะตอกกลับพร้อมกัน
ทว่าหูจวิ้นกลับหัวเราะอย่างกำเริบเสิบสาน “ฮ่าๆๆ! พวกเจ้านี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ รอก่อนเถอะ! รอดูเถอะ! ข้าจะทำให้พวกเจ้ารู้จักคำว่าหมดหนทางเอง!”
“ถุย!” ซีหวังหมู่พุ่งออกไปฉีกทึ้งวงแหวนนั่นทันที
ปัง!
วงแหวนที่ระเบิดจนเกิดแรงสะเทือนน่าสะพรึงทำให้ซีหวังหมู่ตัวลอยกระเด็นทันที!
ซู่!
อิงหลงเป็นคนที่บินมารับมันไว้ทันเช่นเคย มิเช่นนั้นสภาพของมันคงจะดีกว่าเซ่าเฮ่าเพียงเล็กน้อย
ซีหวังหมู่เดือดดาล “ให้ตายเถอะ! วิหคทมิฬ! เจ้ารีบว่ามา! ตอนนี้ต้องทำอย่างไร!”
อินหลิวเฟิงกลับถามว่า “พวกเจ้าเห็นหรือไม่ว่าวงแหวนนี้นอกจากจะตอบโต้การจู่โจมของพวกเจ้า มันยังตอบโต้กลับด้วยความแรงเท่าตัว”
“เจ้ามีวิธีหรือไม่” เซ่าเฮ่าประสบด้วยตนเองและเห็นสภาพของซีหวังหมู่จึงมั่นใจว่าสิ่งที่อินหลิวเฟิงพูดนั้นถูกต้อง
แต่อินหลิวเฟิงจำเป็นต้องกล่าวว่า “ไม่มี ข้าไม่สามารถแก้ได้ เกรงว่าพวกเราก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะว่าหากข้าเดาไม่ผิด วงแหวนนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและกฎของแอตแลน ไม่ว่าเทพใดๆ จากทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้”
คำพูดนี้ทำให้หูจวิ้นเหลือบมอง “ใช่แล้ว! เจ้าสายตาแหลมคมนัก เช่นนั้นก็คอยดูดีๆ คนฉลาดจะรู้ในเร็วๆ นี้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร พวกเจ้าวางใจ ข้าปฏิบัติต่อศัตรูที่ยอมจำนนอย่างเมตตา ตราบใดที่พวกเจ้ายอมจำนนอย่างจริงใจ ข้าจะจัดหาตำแหน่งดีๆ ให้ ดูกู้จื่อเฟิงสิ เขาก็เป็นเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของพวกเจ้า ข้าปฏิบัติต่อเขาไม่ดีหรือ”
“ถุย! เจ้าอย่ามาพูดถึงคนรักเก่าของนายน้อยเราหน่อยเลย แทงใจ!” เอ้อร์เหมาโต้กลับทันที
อินหลิวเฟิง “…” ลูกน้องคนนี้ของเขาเป็นอะไรมากหรือไร
“ฮ่าๆๆ!” หูจวิ้นกลับหัวเราะ “ที่แท้กู้จื่อเฟิงชอบแนวนี้หรือ ข้าส่งสาวงามไปผิดที่แล้วสินะ มิน่าเขาจึงปฏิเสธทุกครั้ง”
อินหลิวเฟิง “…” ไม่ต้องอธิบายแล้วใช่หรือไม่
ก็ได้! เขาไม่อธิบายแล้วก็ได้ เขาเริ่มสังเกตและกลืนกินแสงสีม่วงที่ปฐมราชินีเยี่ยนแผ่ซ่านออกมา และในระหว่างนี้เอง…
“เหตุใดกูไหน่ไนจึงไม่ตอบสนองเลยนะ” อินหลิวเฟิงสังเกต พบว่าเยี่ยนอวี๋ไม่ตอบสนองใดๆ เลยจริงๆ นางดูเหมือนกับว่าวิญญาณแยกออกจากที่นี่แล้ว
“นี่มัน…” อินหลิวเฟิงครุ่นคิด เยี่ยนกูไหน่ไนคงไม่ได้นำวิญญาณไว้ที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้า ที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นเพียงกายหยาบหรอกนะ?! หากเป็นเช่นนี้จริงๆ… อันตรายแน่ๆ
อินหลิวเฟิงสีหน้าเคร่งขรึม เขาเริ่มทำนาย ขณะเดียวกันก็ถามเซ่าเฮ่าสองสามคำถาม
เซ่าเฮ่าย่อมตอบได้ทุกเรื่อง ซีหวังหมู่และเม่ยเอ๋อร์ฟังอยู่ข้างๆ ยิ่งฟังยิ่งร้อนรน
ที่สำคัญคือ เอ้อร์เหมาพบว่า “ดูนั่นสิ! คุณหนู… ปฐมราชินีเยี่ยนถูกแสงของหูจวิ้นปกคลุมไว้แล้ว แสงของหูจวิ้นเหมือนกับว่าจะแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของกูไหน่ไน?!”
“จริงด้วย!” เทพอัสนีที่ยังไม่ฟื้นตัวดีก็เห็นแล้วเช่นกัน “อยู่เฉยไม่ได้แล้ว”
อินหลิวเฟิงพยักหน้าทันที “ไม่ได้แล้วจริงๆ พวกเจ้ายืนเรียงหน้ากระดานข้างหลังกูไหน่ไน! ใช้สัญชาติญาณเหล่าขุนเขาและท้องทะเลของพวกเจ้าปลุกกูไหน่ไน เม่ยเอ๋อร์เจ้าก็ด้วย”
“ได้!” เม่ยเอ๋อร์รีบหายตัวไปที่ข้างหลังไม่ไกลจากเยี่ยนอวี๋นัก
ซีหวังหมู่พาอินหลิวเฟิงไปด้วย “เจ้าอย่าพูดถึงแต่พวกข้า เจ้าก็เช่นกัน! เจ้าเป็นถึงวิหคทมิฬกลับชาติมาเกิด เหตุใดเจ้ายังจำไม่ได้จนถึงตอนนี้นะ ครานี้จะได้คิดดูให้ดีๆ”
“ข้าไม่เข้าใจว่าวิหคทมิฬกลับชาติมาเกิดคืออะไร” อินหลิวเฟิงหมดคำจะพูด “แม้ข้าจะเป็นทายาทวิหคทมิฬ แต่ก็ไม่ใช่วิหคทมิฬแห่งขุนเขาและท้องทะเลที่กลับชาติมาเกิด”
“ไม่เหมือนกันรึ” ซีหวังหมู่ถามกลับ
อินหลิวเฟิง “…” ก็ได้ เหมือนกันก็ได้ ลองดูก็ได้
ส่วนเอ้อร์เหมาและเทพไร้ประโยชน์รวมถึงลูกไก่สีเหลือง อินหลิวเฟิงได้แต่บอกให้พวกเขาพึ่งบุญกุศลของตนเอง
“ข้ารู้สึกกลัว เราถอยไปไกลหน่อยดีหรือไม่” ลูกไก่สีเหลืองเสนอ
“ดี” เอ้อร์เหมาให้ลูกไก่สีเหลืองพาพวกเขาถอยไปไกล ที่ที่ยังพอมองเห็นเหตุการณ์ทางนี้ก็พอ
ครานี้เอง… หูจวิ้นที่สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกติของลูกน้องเหล่านี้ของเยี่ยนอวี๋ เขาก็หัวเราะเย้ยหยัน “ไร้ประโยชน์”
นอกจากนี้ การเยาะเย้ยของหูจวิ้นไม่ใช่เพียงแค่การเยาะเย้ยเท่านั้น ยังตอบพวกเขาโดยการกระทำจริงๆ เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเยี่ยนอวี๋แล้ว
“นายท่าน!” เซ่าเฮ่าร้องเรียก
ริกเกิร์ตและไทร์ประหม่า “ฝ่าบาท!”
วิ้ง! วิ้ง!
หูจวิ้นที่ใช้มือทั้งสองข้างวาดรูปลายเส้นลึกลับออกมา เขาก็เริ่มร่ายคาถาใส่เยี่ยนอวี๋ภายใต้ความคาดหมายของริกเกิร์ตและไทร์ “อะบราคาดาบรา…”
หูจวิ้นร่ายคาถาใส่เยี่ยนอวี๋ด้วยเสียงอันศักดิ์สิทธิ์และการบูชาอันเก่าแก่ พลังกลืนกินทั้งหมดที่เขาแผ่ซ่านเข้าไปในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ถูกเก็บกลับเข้าไปในตัวเขาทั้งหมดในครานี้ก่อนจะเข้าหาเยี่ยนอวี๋
และนี่… เป็นสิ่งที่เยี่ยนอวี๋ต้องการและเป็นสิ่งที่นางรอคอย
ดังนั้น… แทบจะในขณะเดียวกันกับที่คาถาศักดิ์สิทธิ์ของหูจวิ้นรวมตัวไปที่นาง
“สวรรค์เก้าชั้นฟ้า!”
“กลืนกิน!”
แหล่งกำเนิดกัดกร่อนอันเป็นเอกลักษณ์ของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่มีกฎล่อลวงสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นตัวชี้นำที่สะสมอยู่ในร่างกายนาง ซึ่งเยี่ยนอวี๋เป็นผู้ประกอบขึ้นเองกลืนกินหูจวิ้นกลับในครานี้ทันที
แอตแลนใช้กฎของแอตแลนเพื่อล่อลวงพลังดั้งเดิมของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าให้ผสานรวมกับมันกลายเป็นแหล่งกำเนิดกัดกร่อนแอตแลนมิใช่หรือ
ได้!
เยี่ยนอวี๋ใช้กฎล่อลวงอันเป็นเอกลักษณ์ของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าล่อลวงและหลอมผสานแหล่งกำเนิดหมู่ดาวกลายเป็นแหล่งกำเนิดกัดกร่อนสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลืนกินหูจวิ้นกลับ! ดังนั้น…
วิ้ง!
เมื่อพลังกลืนกินของหูจวิ้นไหลเข้าไปในร่างของเยี่ยนอวี๋…
การต่อสู้ระหว่างการกลืนกินและการกลืนกินเริ่มขึ้นแล้ว
ตูม!