ตอนที่ 590 เจ้าชายน้อยแห่งแสงสว่างสุดแกร่ง!
เยี่ยนอวี๋บอกเล่าความจริงอย่างสงบนิ่ง ความจริงที่หูจวิ้นมิอาจรับได้ “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! กฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอ่อนแอกว่ากฎแอตแลนของข้า จะกัดกร่อนแอตแลนของข้าได้อย่างไร”
ตูม!
สิ่งที่ตอบสนองหูจวิ้นไม่ใช่คำตอบของเยี่ยนอวี๋อีกต่อไป แต่คือเสียงความเคลื่อนไหวที่ระเบิดสะเทือนออกมาจากทั่วทุกแห่งหนของแอตแลนและลำแสงหลากสีที่แผ่ซ่านมายังข้างหน้าหูจวิ้น ไม่ว่าหูจวิ้นไม่อยากจะเชื่ออย่างไร แต่นี่ก็คือความจริง
เยี่ยนอวี๋ นางสามารถทำให้กฎของสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลืนกินแอตแลนกลับได้ เพราะว่า…
“เจ้าหลอกใช้ข้า!” จู่ๆ หูจวิ้นคิดบางอย่างขึ้นได้ เขาตะโกนออกมาโดยไม่สนใจร่างกายที่แตกสลาย “เจ้าหลอกใช้ข้าในฐานะที่เป็นเจ้าแห่งแอตแลน โดยการใช้แหล่งกัดกร่อนสวรรค์ชั้นเก้าของเจ้าแผ่ซ่านไปทั่วทั้งแอตแลนผ่านข้า! ไม่นะ ไม่ๆ…”
หูจวิ้นที่พูดจบแล้วก็ปฏิเสธตนเองไม่หยุด เขายังคงไม่เข้าใจเรื่องหนึ่ง “ข้าสามารถกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าผ่านการกัดกร่อนเจ้าได้ นั่นเป็นเพราะเจ้าคือผู้สร้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้า กฎของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไม่เสถียรเท่าแอตแลนของข้า! แต่เจ้า…” หูจวิ้นที่พึมพำกับตนเองแล้วหยุดชะงัก จู่ๆ เขาก็คิดเรื่องหนึ่งได้ “หมู่ดาวสวมมงกุฎ!” ใช่แล้ว ปฐมราชินีเยี่ยนในบัดนี้ นอกจากนางจะเป็นปฐมราชินีแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า นางยังเป็นจักรพรรดินีแห่งแอตแลนด้วย
นอกจากนางจะรู้จักกฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง นางยังรู้จักกฎของแอตแลนเป็นอย่างดี ดังนั้นแหล่งกำเนิดกัดกร่อนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่นางผสานออกมาย่อมสามารถกลืนกินแอตแลนกลับได้ มิหนำซ้ำ… เขาเป็นคนที่ทำให้นางสามารถเข้าถึงได้
ต้องรู้ว่าการที่แอตแลนกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะสำเร็จไม่ได้ผ่านเพียงขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งหรือคนบางคนเท่านั้น การต่อสู้ครั้งนี้ เขาวางแผนมาสามหมื่นปี บัดนี้เยี่ยนอวี๋ ‘ควบคุม’ ร่างกายของเขาไว้ อันที่จริงก็เหมือนกับควบคุม ‘กุญแจ’ ของแอตแลนที่กัดกร่อนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไว้ ถึงอย่างไร การกัดกร่อนทั้งหมดล้วนสำเร็จได้ผ่านเขา หูจวิ้น
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋กลืนกินเขา นางก็กำลังกลืนกินจุดกัดกร่อนของแอตแลนที่ ‘อาศัย’ อยู่ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า พลังของนางผสานเข้าไปในจุดกัดกร่อนเหล่านี้ กฎสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจึงสามารถกลืนกินย้อนกลับโดยผ่านจุดเหล่านี้โดยธรรมชาติ…
หรือหมายความว่า… หูจวิ้น เขาคือสะพาน เป็นสะพานที่ ‘ส่ง’ กฎและระเบียบสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามายังแอตแลน ดังนั้นเขาจะยังไม่ตาย เขาจะต้องมองดูสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากัดกร่อนแอตแลนจนเสร็จสิ้นกับตาตนเองจากนั้นเขาจึงจะเสร็จสิ้น ‘ภารกิจสะพานเชื่อม’ ก่อนจะสิ้นใจ
นี่คือภารกิจของเขา… หลังจากที่หูจวิ้นรู้เรื่องนี้แล้วก็อดตะโกนไม่ได้ว่า “เจ้ามันร้ายกาจจริงๆ!”
“มิอาจสู้เจ้าได้” เยี่ยนอวี๋ตอบกลับอย่างถ่อมตัว
หูจวิ้นอยากจะกระอักเลือด
ก็ใช่ อันที่จริงเขาก็มีความคิดเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเยี่ยนอวี๋กำลังเอาคืนด้วยวิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน ให้เขารับผลกรรมที่ตนเองก่อขึ้น แต่ว่าหูจวิ้นยังมีอะไรจะพูด “เยี่ยนอวี๋! เจ้าฟังเข้านะ ไม่ว่าอย่างไร! ข้าก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้า ข้าแค่ต้องการกลืนกินสวรรค์เก้าชั้นฟ้า! อย่างมากสุด… อย่างมากก็แค่ต้องการพลังส่วนหนึ่งของเจ้า ข้าไม่เคยคิดจะเอาชีวิตเจ้า! ดังนั้นแม้จะเอาคืน เจ้าก็ควรไว้ชีวิตข้า!”
“ฮึ” เยี่ยนอวี๋หัวเราะ พลังกัดกร่อนที่ไหลเข้าไปในร่างกายของหูจวิ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “เจ้าเป็นคนเปิดฉาก ข้าจะเป็นคนปิดฉากเอง”
เมื่อพูดจบ เยี่ยนอวี๋ก็ปิดปากหูจวิ้นทันที นางไม่อยากฟังเขาพล่ามอีก ดังนั้นแม้หูจวิ้นจะมีความรู้สึกที่เต็มไปด้วย ‘ความรัก’ เขาก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถทำให้หูของปฐมราชินีเยี่ยนแปดเปื้อน
ปฐมราชินีเยี่ยน… หูจวิ้นพยายามสื่อสารผ่านความคิด แต่เขาก็พบในทันทีว่า ความคิดของเขาถูกปิดกั้นไว้ในหัวของเขาแล้ว ความคิดใดๆ ก็ไม่สามารถส่งออกไปได้
ให้ตายเถอะ!
หูจวิ้นแค้นเคือง
หูจวิ้นมีคำพูดอยู่เต็มอก เขาอยากจะพูด เขาไม่เคยคิดจะเอาชีวิตปฐมราชินีเยี่ยนเลยจริงๆ เขากลับรู้สึกชื่นชมนางด้วยซ้ำและชอบนางด้วย อยากจะเป็นสามีภรรยากับนาง
น่าเสียดาย… คำพูดน่าขยะแขยงเหล่านี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าห้ามพูดออกมา คำพูดเหล่านี้ก็เหมือนกับพลังของเขา ถูกแยก กัดกร่อน และสลายไปทีละน้อย
ไม่! ไม่!…
หูจวิ้นอยากจะร้องตะโกน เขาไม่อยากตายไปเช่นนี้
น่าเสียดายที่เขาถูกกำหนดให้อยู่ในความสิ้นหวังคอยสัมผัสว่าตนเองค่อยๆ แตกสลายและถูกสังเคราะห์กลายเป็นแอตแลน ไม่สิ! ถูกสังเคราะห์เป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างไร
ในระหว่างนี้
ตูม!
เมืองแห่งท้องนภา ตัวแทนของแอตแลนระเบิดดังสนั่นจากข้างใน
ความเคลื่อนไหวนี้… เพียงพอที่จะทำให้เหล่าทวยเทพในปราสาทแอตแลนตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น” โซลดาเป็นคนแรกที่อดถามขึ้นไม่ได้
โฮดา เทพแห่งความมืดที่มืดมน เขาไม่พูดอะไร เอาแต่มององค์ชายบัลเดอร์เงียบๆ
เทพคนคู่ ชุนเถียน และเฟรด พวกเขาก็เงียบ
อันที่จริง ก่อนที่เยี่ยนอวี๋จะลงมือ หูจวิ้นได้ถ่ายทอดคำสั่งแต่งตั้งครั้งสุดท้ายให้เหล่าทวยเทพ หากเขาไม่สามารถปราบปฐมราชินีเยี่ยนได้ และตายในการต่อสู้ครั้งนี้ เช่นนั้น… บัลเดอร์จะเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปของแอตแลน
พูดได้ว่าหูจวิ้นวางแผนไว้อย่างรอบด้าน ดังนั้นสีหน้าของโซลดาจึงเปลี่ยนไป “สายตาพวกเจ้า หรือว่าจักรพรรดิท่าน…”
“ข้ารับรู้ได้ว่าจักรวาลแอตแลนกำลังถูกพลังที่ไม่รู้จักบุกรุก” โฮดากล่าว
บัลเดอร์สีหน้าเปลี่ยน “หมายความว่าอย่างไร”
“ฝ่าพระบาท ท่านรู้จักแอตแลนดีกว่าพวกเรา ท่านรู้ดีว่านั่นหมายถึงจักรพรรดิท่าน…”
“หุบปาก!” นานๆ ทีจะเห็นบัลเดอร์พูดจารุนแรง “หุบปาก! ในเมื่อรู้ว่าท่านพ่อตกอยู่ในอันตราย พวกเจ้าก็ควรไปช่วยเหลือเขา! ไม่ใช่มัวแต่มองข้าอยู่ที่นี่! ข้าไม่ต้องการพวกเจ้า!”
“แต่จักรพรรดิเราบัญชาให้คอยสนับสนุนท่านเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป” ชุนเถียนกล่าว
“เป็นไปไม่ได้!” บัลเดอร์ยืนขึ้น “ท่านพ่อของข้ายังอยู่ เขาไม่ถ่ายทอดคำสั่งแต่งตั้งเช่นนี้แน่นอน ข้าก็จะไม่รับไว้! พวกเจ้าไม่ไป ข้าไปเอง!”
ตุบ! เทพพิทักษ์แอตแลนทั้งหกคุกเข่าลงข้างหน้าบัลเดอร์ทันที “ฝ่าพระบาท อันที่จริงท่านรู้ดี มาถึงจุดนี้แล้ว การแต่งตั้งของจักรพรรดินั้นถูกต้องที่สุด เราไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไปแล้ว หากจะไปก็เหมือนไปตาย บัดนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของเราก็คือไปทางเหนือ พวกข้ารักษาตัวก่อน ท่านรีบไปรับมรดกของราชวงศ์แอตแลนเพื่อรอโจมตีกลับ”
บัลเดอร์หน้าเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เต็มใจที่จะรับการแต่งตั้งเช่นนี้ อีกทั้งเขายังรู้สึกได้ว่าท่านพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ เขายิ่งไม่สามารถยอมรับราชโองการเช่นนี้ได้ เขาจึงปฏิเสธ “ข้าไม่ปล่อยให้พวกเจ้าจัดการตามใจหรอก ข้าจะไปรอยแตกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า!”
“หากฝ่าพระบาทดึงดันเช่นนี้ พวกเราก็คงต้อง…”
“ต้องทำอะไร” บัลเดอร์ขัดจังหวะโซลดา เผยสีหน้ามุ่งมั่น “หรือว่าพวกเจ้าคิดว่า พวกเจ้าจะขัดขวางข้าได้!”
เมื่อพูดจบ บัลเดอร์ก็กำลังจะเดินออกไป
โฮดารีบลุกขึ้นขวางเขาไว้ “ฝ่าพระบาท ท่าน…”
“ออกไป!” แสงรอบตัวบัลเดอร์สว่างจ้า นั่นคือพลังวิเศษที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนมาก แต่เมื่อเขาระเบิดพลังเช่นนี้ออกมา โฮดาก็ถอยกลับไปด้วยสัญชาติญาณ
ถึงแม้พลังการต่อสู้ของบัลเดอร์จะด้อยกว่าโฮดามาก พลังสูงสุดของเขาก็อยู่เพียงแค่ระดับผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าศักดินา ซึ่งเท่ากับระดับเทียนอ๋องของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ด้อยกว่าเทพพิทักษ์ที่เก่าแก่เช่นโฮดาเหล่านี้มากนัก
แต่ว่า… เขามีความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนผู้ใดในแอตแลนตั้งแต่อดีตกาล สิ่งนี้กำหนดไว้แล้วว่าเขามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจลงมือกับอีกฝ่ายได้ โดยเฉพาะเมื่อเขาตั้งใจที่จะทำเช่นนี้ ยิ่งไม่ผู้ใดสามารถขัดขวางเขาไว้ได้
ดังนั้น… ชุนเถียนร้อนรน “องค์ชาย! ท่านจะไปเช่นนี้ไม่ได้! มีแต่จะทำให้จักรพรรดิผิดหวังในตัวท่าน! ที่เขาส่งท่านไปอยู่ทางเหนือก็เพราะต้องการบ่มเพาะท่านเป็นเจ้าแห่งแอตแลนองค์ต่อไปนะเพคะ!”
“ไม่ใช่หรอก!” บัลเดอร์ปฏิเสธ “ทายาทคือพี่ชายข้า!”
“ฝ่าพระบาท อันที่จริงท่านก็ได้รับสารที่จักรพรรดิถ่ายทอดมาแล้ว พวกเราไม่สมควรทำตามประสงค์ของจักรพรรดิหรอกหรือ!” เฟรดถามเขากลับอย่างหมดหนทาง เขาเชื่อว่าจักรพรรดิย่อมติดต่อองค์ชายบัลเดอร์แล้ว
ทว่านี่กลับยิ่งแทงใจบัลเดอร์ เขาเดินออกจากวิหารทันที “ข้าไม่ฟังเขา! ข้าไม่ฟังเขาหรอก!” ก็เพราะรู้ว่า… ท่านพ่อรักเขามากที่สุด เก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้เขา แม้ตกอยู่ในอันตรายก็ให้เทพพิทักษ์ทั้งหกอยู่กับเขา เขาจึงยิ่งไม่สามารถจากไปเช่นนี้ได้ จะทำเช่นนี้ได้อย่างไร นั่นคือท่านพ่อของเขา ท่านพ่อที่ดีต่อเขาเสมอมา
บัลเดอร์ไม่เคยลืมสมัยที่เขายังเป็นเด็ก ยังอยู่ในปราสาทแอตแลน ท่านพ่อที่พาเขาไปด้วยทุกที่เพราะเป็นห่วงว่าเฟรย์จะปฏิบัติไม่ดีต่อเขา อันที่จริงท่านพ่อรู้ดีว่าด้วยความสามารถของเขา แม้เฟรย์จะโกรธแค้นมารดาของเขาก็ไม่สามารถลงมือกับเขาได้ แต่ท่านพ่อยังคงไม่วางใจ
ดังนั้น บัลเดอร์ที่สลัดเทพพิทักษ์ทั้งหกทิ้ง เขาหวังเพียงว่าจะยังทันกาล “ท่านพ่อ ท่านรอข้าก่อน!”
ทว่าบัลเดอร์ที่พึมพำสาวเท้าออกจากวิหารไม่รู้ตัวว่ากู้จื่อเฟิงอยู่ข้างกายเขาแล้ว