ตอนที่ 594 ดอกไม้แห่งความรัก! คลอดคนที่สองเถอะ!
เยี่ยนอวี๋ที่หลับใหลจู่ๆ ก็มีแสงดาวจางๆ ไหลออกมาจากบริเวณระหว่างคิ้ว ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าตะลึง “อ้ะ! แม่ ดาวดาว!”
“นายท่าน นี่คือ…” เซ่าเฮ่าและคนอื่นๆ ร้อนรน “คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ”
เอ้อร์เหมาที่เพิ่งเร่งมาถึงได้ยินคำนี้ เขาก็อดพูดไม่ได้ว่า “โชคดีที่นายน้อยของเราไม่ได้พูด ไม่เช่นนี้ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ”
อินหลิวเฟิง “…” เขารู้สึกว่าชื่อเสียงเรื่องปากพาซวยของเขาเป็นเพราะลูกน้องคนนี้สร้างขึ้นทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นที่น่าเชื่อถืออีกด้วย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้อนรน เขาก็จับท่านพ่อเขาไว้ “พ่อ! ดู! แม่ เป็นอะไร”
หรงอี้ที่รับรู้สภาวะของภรรยาแล้ว เขาสัมผัสได้ว่าภรรยายังอยู่ในสภาพดี เพียงแค่อ่อนล้าไปเล็กน้อย ส่วนการเปลี่ยนแปลงบริเวณระหว่างคิ้วของนางนี้…
หรงอี้ไม่ทันครุ่นคิด เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็อุทาน “ดอกไม้!”
แสงดาวที่ไหลออกมาจากบริเวณระหว่างคิ้วของเยี่ยนอวี๋รวมตัวกันเป็นดอกไม้สีม่วงคล้ายมงกุฎบนหน้าผาก
“พ่อ!?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับใบหน้าอวบอ้วนของตน บอกว่าตนไม่เข้าใจ
ต้าซือมิ่งกะพริบตาสองสามที ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าดอกไม้ดอกนี้เกี่ยวข้องกับเขา โดยเฉพาะสีของมัน “พวกเจ้ารู้สึกหรือไม่ว่านี่คือพลังของข้า”
ขณะที่พูดต้าซือมิ่งยังใช้นิ้วรวบรวมแสงสีม่วงอร่าม เป็นสีเดียวกับดอกไม้บนหน้าผากของเยี่ยนอวี๋จริงๆด้วย
“สรุปว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ” ซีหวังหมู่อยากรู้
อินหลิวเฟิงพูดขึ้นว่า “คงจะหมายความว่ากูไหน่ไนกลายเป็นสตรีของต้าซือมิ่งแล้ว”
ต้าซือมิ่งได้ยินแล้วรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง เขาพยักหน้าตาม
ทว่าเอ้อร์เหมาไม่ยอม “แบบนี้ก็ไม่ถูก! เหตุใดเมื่อก่อนไม่มี ตอนนี้เพิ่งมีเล่า”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร” อินหลิวเฟิงโยนภาระ “เรื่องนี้ต้องถามต้าซือมิ่ง”
หรงต้าซือมิ่งที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเองก็กำลังคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่เขาก็คิดไม่ออก ถึงอย่างไรช่วงนี้เขาก็ไม่ได้ทำสิ่งใดให้ภรรยาเป็นพิเศษ
“เช่นนั้นนายท่านเป็นอะไรหรือไม่” ซีหวังหมู่อยากจะรู้คำตอบ
คำถามข้อนี้ ต้าซือมิ่งตอบอย่างมั่นใจมากว่า “ไม่เป็นอะไร”
“เช่นนั้นก็พอแล้ว เรื่องที่เหลือรอนายท่านตื่นก็รู้เอง วิหคทมิฬ รีบไปกันเถอะ ทำอะไรอยู่ ไม่ต้องทำงานหรือไร”
ซีหวังหมู่พาอินหลิวเฟิงไปเก็บกวาดแอตแลนแล้ว
ส่วนเม่ยเอ๋อร์ เทพอัสนีและอิงหลงก็ไปช่วยด้วย เอ้อร์เหมาเดิมทีไม่อยากไป แต่อินหลิวเฟิงจับเขาไปด้วย แม้แต่ลูกไก่สีเหลืองและเทพไร้ประโยชน์สององค์ก็ไม่รอด
เวลาแบบนี้ต้องการแรงงานเป็นที่สุด หากไม่ใช่เพราะเซ่าเฮ่าบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้นตัว อินหลิวเฟิงคงไม่ให้เขากลับไป ต้องจับเข้าไปด้วยแน่นอน
ส่วนเยี่ยนเสี่ยวเป่า เขาก็บินไปให้เซ่าเฮ่าอุ้มแล้ว ทำเอาเซ่าเฮ่ายินดีปรีดา “นายน้อยไม่ให้จวินโฮ่วแบกแล้วหรือ”
“เป่า ง่วง” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตา เขาบอกว่าเขาอยากจะนอนแล้ว ท่านพ่อเขาอุ้มท่านแม่ไว้ เขานอนไม่ได้ จึงต้องมาหาเซ่าเฮ่า ทว่า…
“เมื่อครู่นี้ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าจะมีหมาป่ายักษ์อยู่ข้างหลังนายน้อย” เซ่าเฮ่าคิดว่าเขาคงไม่ได้ตาฝาดไป
เยี่ยนเสี่ยวเป่าลูบตราหมาป่าบนหลังมือสองสามที หมาป่าเฟนเลย์ปรากฏกายขึ้นทันที “นายน้อย”
เซ่าเฮ่า “…” เขาไม่ได้ตาฝาดจริงๆ
“ก็ เลเล่เอง” เยี่ยนเสี่ยวเป่าชี้เฟนเลย์ให้เซ่าเฮ่าดู
เฟนเลย์เองก็เอ่ยทักทายเซ่าเฮ่า “สวัสดี”
“ดี ดีเหมือนกัน” เซ่าเฮ่ารับรู้ได้ว่า ระดับของหมาป่าเฟนเลย์ไม่ต่ำต้อย พลังการต่อสู้ก็ไม่ด้อยไปกว่าเขา อาจจะแกร่งกว่าซีซีด้วย ไม่รู้ว่านายน้อยไปลงนามสัญญากับเจ้าหมอนี่จากที่ไหน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ขยี้ตาไม่หยุดก็อ้าปากหาวหวอด “นั่งเลเล่ กลับ”
เดิมทีเซ่าเฮ่าอยาจะบอกว่าน่าจะไม่ค่อยดีนัก แต่ต้าซือมิ่งขึ้นไปนั่งก่อนแล้ว เขาจึงต้องตามไป
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ บริเวณระหว่างคิ้วของนางยังคงมีแสงจางๆ เปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อกลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ลำแสงนี้จึงสลายไป
หรงอี้จึงฝากเซ่าเฮ่าไว้กับเทพขุนเขาทั้งสิบสององค์และเทียนตี้เพื่อให้เขาเล่าสิ่งที่แอตแลนเผชิญ ส่วนเขาก็พาภรรยาและลูกกลับจักรวาลดั้งเดิม
…
ในจักรวาลดั้งเดิมที่ซึ่งชีวิตได้รับการฟื้นฟู หยวนสื่อเทียนจุนกำลังเดินหมากกับเยี่ยนชิง แต่พูดตามจริงแล้ว เยี่ยนชิงไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นด้วยเลย “ท่านคิดว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะกลับมาเมื่อใด ช่วงนี้หนังตาข้ากระตุกบ่อยมาก เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่หรือไม่”
“ตามหลักแล้ว…” หยวนสื่อเทียนจุนที่เพิ่งเอ่ยปาก จู่ๆ เขาก็วางหมากลง หัวเราะและพูดขึ้นว่า “แทนที่จะถามข้า มิสู้ท่านลุงเยี่ยนถามปฐมราชินีด้วยตนเองดีกว่า”
“ถามปฐมราชินีเยี่ยนอะไร ข้า…” เยี่ยนชิงที่แต่เดิมยังไม่รู้ตัว ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งตื่นไม่นาน ยังคงรู้สึกไม่ค่อยชินกับความจริงที่ว่าบุตรสาวกลายเป็นปฐมราชินีผู้สร้างในตำนานไปแล้ว
ทว่าพวกต้าซือมิ่งก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เยี่ยนชิงจึงเห็นครอบครัวของบุตรสาวลงมาจากหลังของหมาป่ายักษ์ เขาคิดว่าตนเองกำลังฝันไป เอาแต่เหม่อมองอยู่เช่นนั้น
“จวินโฮ่ว” หยวนสื่อเทียนจุนลุกขึ้นคารวะต้าซือมิ่ง ซีหวังหมู่พาเสียหมด ทำให้ทุกคนเรียกต้าซือมิ่งว่า ‘จวินโฮ่ว’
ทว่าต้าซือมิ่งก็ไม่สนใจแล้ว เขาพยักหน้าพร้อมกับทักทาย “ท่านพ่อตา”
“ลูกเขย?” เยี่ยนชิงสับสนเล็กน้อย
“ลูกเอง เรากลับมาแล้ว” ขณะที่พูด ต้าซือมิ่งยัง ‘ส่ง’ เด็กน้อยที่อยู่บนไหล่ให้พ่อตาที่ยังคงเหม่ออยู่
เยี่ยนชิงถูกก้อนกลมๆ สีชมพูยัดใส่จนเขาต้องรับไว้ด้วยสัญชาติญาณ จากนั้นเขาก็ยิ้ม “เจ้าหมอนี่! นี่เสี่ยวเป่าหรือ หนักขึ้นเยอะเลย!”
เมื่อเยี่ยนชิงมีหลานน้อยอยู่ในอ้อมอกก็รู้สึกว่าอยู่ในความเป็นจริงมากขึ้น แต่เมื่อเขาชั่งน้ำหนักเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกเสร็จแล้วมองเด็กน้อยคนนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงอีกครั้ง “โตแล้ว ไม่เพียงตัวกลับไปเท่าเดิม ยังสูงและอ้วนขึ้นด้วย มีผมแล้วด้วย”
แค่มองเจ้าตัวน้อยคนนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยนชิงเชื่อว่าช่วงนี้บุตรสาวและลูกเขยคงไม่ลำบาก ไม่เช่นนั้นจะเลี้ยงบุตรได้ดีเช่นนี้ได้อย่างไร
เจ้าตัวน้อยที่ถูกท่านตาชั่งน้ำหนักเสร็จ เขาก็บุ้ยปาก “อุม…”
ท่าทางน่ารักน่าชังทำเอาเยี่ยนชิงใจละลายและอุ้มเขาอย่างระมัดระวัง “นอนเถอะๆ ลูกหมูน้อย”
เยี่ยนชิงตกอยู่ในห้วงภวังค์ชั่วขณะ เขาคิดถึงสมัยเป็นหนุ่ม ภาพที่เขาอุ้มเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ตัวน้อย ดวงตาอดแดงขึ้นมาไม่ได้ “ดี ดี…”
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เอ๋ย
เยี่ยนชิงมองไปที่บุตรสาวอันเป็นที่รักในอ้อมกอดของลูกเขย จากนั้นก็มองกลับมาที่เด็กน้อยตัวอวบอ้วน ความรู้สึกนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ “โตแล้ว”
นอกจากจะโตแล้ว ยังเป็นปฐมราชินีแล้ว ปฐมราชินีผู้สร้างในตำนานท่านนั้น… เยี่ยนชิงไม่กล้าคิดเลยจริงๆ ว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่ตนเองเลี้ยงจนโตจะกลายเป็นปฐมราชินีหยวนชูตำหนักไท่ชางที่มีชื่อเสียงตั้งแต่โบราณ แต่ทั้งหมดนี้ไม่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญคือนี่คือหลานชาย บุตรสาวและบุตรเขยอันเป็นที่รักของเขาจริงๆ
ดีแล้วล่ะ
ในที่สุดเยี่ยนชิงก็กลับมาสู่ความเป็นจริงและถามว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์หลับเพราะเหนื่อยหรือ”
“ขอรับ ข้าพาเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กลับไปพักก่อน ฝากท่านพ่อตาดูแลเสี่ยวเป่าด้วยขอรับ” หรงอี้ตอบ
เยี่ยนชิงมองบุตรสาวอันเป็นที่รักครู่หนึ่งจึงพยักหน้า
ต้าซือมิ่งแอบสลัดเด็กน้อยทิ้งอย่างรวดเร็วและพาภรรยาไปนอนเพียงลำพัง
เยี่ยนชิงมองลูกเขยที่จากไปไกลก็รู้สึกพอใจมาก “ตอนแรกข้าไม่ค่อยชอบลูกเขยคนนี้เท่าไรนัก รู้สึกว่าเขาเป็นพ่อพวงมาลัยที่อาศัยหน้าตามาหลอกลวงแม่นางน้อย ตอนนี้ดูๆ ไปแล้วไม่เลวเลย”
“จวินโฮ่วใช้ได้จริงๆ” หยวนสื่อเทียนจุนกล่าวอย่างจริงใจ เขาสัมผัสได้ว่าความสามารถของจวินโฮ่วนั้นอันที่จริงไม่ด้อยไปกว่าปฐมราชินีเลย
แต่จวินโฮ่วท่านนี้ไม่มี ‘ความเย่อหยิ่งของบุรุษ’ ที่ว่าเลย ไม่ว่าผู้อื่นจะมองเขาอย่างไร เขาก็ไม่สนใจ สนใจเพียงปฐมราชินีและนายน้อยเท่านั้น
จะบอกว่าเขามีแค่เปลือกนอกก็ดี
จะบอกว่าเขาเกาะผู้หญิงกินก็ช่าง
จะบอกว่าเขาแผนสูงก็ได้
ไม่ว่าจะมองเขาเป็นคนเช่นไร เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย!
ในสายตาและในใจของเขา มีเพียงปฐมราชินีและนายน้อย รวมถึงคนและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปฐมราชินี
หยวนสื่อเทียนจุนถึงกับรู้สึกว่า อันที่จริงเขาไม่ใช่จักรพรรดิเผ่ามาร แต่ว่าไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เขาก็มักจะดีต่อปฐมราชินีเสมอ
เรื่องนี้ทำให้หยวนสื่อเทียนจุนรู้สึกปลื้มใจ “ดีมากจริงๆ” และเหมาะสมกับปฐมราชินีมากด้วย ใต้หล้านี้คงไม่มีบุรุษคนที่สองคนใดจะเหมาะสมกับปฐมราชินีเท่าจวินโฮ่วแล้ว ไม่ว่าจะในด้านความสามารถหรือนิสัยล้วนเหมาะสมมาก
“ใช้ได้จริงๆ ข้าเองก็กำลังรอให้สองคนนี้คลอดหลานสาวให้ข้าสักคน ข้าก็พอใจแล้ว” เยี่ยนชิงกล่าวอย่างมีความสุข ตอนนี้เขาขาดเพียงหลานสาวคนหนึ่ง
หยวนสื่อเทียนจุนยิ้มไม่พูดอะไร…
ต้าซือมิ่งที่ถูกท่านพ่อตาฝากความหวังไว้ ตอนนี้เขากลับทำได้เพียงอุ้มภรรยานอน ถึงอย่างไรภรรยาของตนก็เหนื่อยจนกลายเป็นเช่นนี้จึงไม่ใช่เวลาทำอะไร
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ ใน ‘ความฝัน’ ของเยี่ยนอวี๋ นางฝันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว ตั้งแต่ที่ดอกไม้ปรากฏบนหน้าผาก นางก็ ‘ฝันเห็น’ แล้ว
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ เป็นสีแดงที่มีเสน่ห์เย้ายวน ดึงดูดต้าซือมิ่ง…
“พ่อ!”
หรงอี้ที่ไม่ทันทำอะไร เขาก็ปวดศีรษะกับเสียงเรียก ‘พ่อ’ หน่อมแน้ม! เจ้าเด็กคนนี้…
พ่อตาที่ไม่รอให้หรงอี้ประชดประชันเด็กน้อย เขาก็เรียก “ลูกเขย! เจ้าออกมาหน่อย”
ฟังจากเสียงดูเป็นเรื่องจริงจัง ทำให้หรงอี้จำเป็นต้องวางภรรยาลง เตรียมตัวจะออกมา แต่แล้วปฐมราชินีกลับไม่ยอมปล่อยมือ ยังโอบรัดเอวของเขาด้วยขาเรียวยาวในขณะที่รับรู้ว่าเขาจะจากไป ทำให้เขาปลีกตัวไปไม่ได้เลย
ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรน เขาผลักประตู่วิ่งเข้ามาแล้ว “พ่อ! แอนนา น้อย! ไม่ดี!”
จากนั้น… ต้าซือมิ่งที่ยังอุ้มภรรยาก็เห็นแอนนาน้อยที่ถูกขังอยู่ในกรงลวดสีทองตัวหนึ่งถูกหิ้วเข้ามาโดยเด็กน้อยที่ยังงัวเงีย แอนนาน้อยกำลังสลาย
ในขณะเดียวกัน… หยวนสื่อเทียนจุนก็ทำนายได้ว่า!