เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 597 แม่ทูนหัวแสนหวาน ทั้งครอบครัวเก็บกวาดซาก

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 597 แม่ทูนหัวแสนหวาน ทั้งครอบครัวเก็บกวาดซาก

สามีตัวน้อยอันวิจิตรนั่นเข้าไปอยู่ในอนุสติของนางจริงๆ

นี่มัน…

เยี่ยนอวี๋ไล่ตามมันไปด้วยสัญชาติญาณ นางคิดจะจับเขา ทว่าต้าซือมิ่งบีบเอวของนางไว้แน่น ส่งคำพูดผ่านความคิดว่า “มีสมาธิหน่อย ข้าจะพาเจ้าไปสัมผัสถึงทุกอย่างที่ข้าสัมผัสได้”

“อืม” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ราวกับเด็กน้อยที่เห็นอาหาร ไม่ว่าพูดอะไรกับเขาเขาก็จะตอบแค่ ‘อืม’ หัวใจทั้งดวงจดจ่ออยู่กับอาหาร ไหนเลยจะสนใจอย่างอื่นอีกซึ่งก็ทำให้ต้าซือมิ่งทำอะไรไม่ได้แต่ก็รักนางที่เป็นแบบนี้มากจึงได้แต่ปล่อยตามใจนาง และฉายภาพเข้าไปในอนุสติของภรรยาทีละภาพอย่างชัดเจน จากนั้น…เยี่ยนอวี๋ที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็เห็นโลกที่เหมือนกับจุดดวงดาวมากมาย ผ่านไปครู่หนึ่ง นางที่ค่อยๆ เบี่ยงเบนความสนใจกลับมาก็พบว่า จุดแสงเหล่านี้ไม่ใช่เพียงจุดแสง แต่มันเหมือนกับว่าจะเป็นจุดหลอมผสานของกฎระเบียบแต่ละข้อ

ดังนั้นอันที่จริงนี่คือ…

“จุดหลอมผสานของสองจักรวาล หลังจากที่แอตแลนกัดกร่อนจักรวาลแห่งนั้นแล้ว” หรงอี้ค่อยๆ พูดขึ้น ในขณะเดียวกันก็จูบภรรยา ส่งความคิดต่อไปว่า “เจ้าสัมผัสจุดแสงเหล่านี้ดีๆ”

เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญต่อนางมาก จะทำให้นางรู้ว่าจะต้องผสานสองจักรวาลได้ดียิ่งกว่าเดิมอย่างไร ดังนั้นเขาต้องใช้วิธีสื่อสารผ่านการผสานจิตวิญญาณ เช่นนี้นางจึงจะรับรู้ได้ด้วยตนเอง

ทว่าก่อนหน้านี้ เขาไม่แน่ใจว่าการผสานจิตวิญญาณเช่นนี้จะสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นหรือไม่ แต่หลังจากที่ได้รู้ถึง ‘สาเหตุ’ ที่ทำให้เกิดดอกไม้บนหน้าผากของภรรยาดอกนี้ เขาก็รู้ว่าต้องไม่มีปัญหาแน่นอน

และในระหว่างนี้… เยี่ยนอวี๋ก็รับรู้ผ่านจุดแสงเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนว่าการผสานรวมสองจักรวาลจะส่งผลกระทบต่อกฎ กระทั่งจัดระเบียบใหม่อย่างไร

นางถึงกับพบว่า… แหล่งพลังแสงสว่างอันทรงพลังและสำคัญท่ามกลางจักรวาลแอตแลน หลังจากที่มันรุกรานเข้าไปในจักรวาลอื่นแล้ว มันยังพัฒนาและแตกออกกลายเป็นพลังงานที่ชั่วร้ายมาก เพราะว่ากฎที่เป็นตัวแทนของแหล่งแสงสว่าง เมื่อมันบุกรุกเข้าไปในจักรวาล ผสานรวมกับแหล่งพลังงานมืดของจักรวาลนั้นแล้ว แหล่งกำเนิดพลังงานอันชั่วร้ายแห่งใหม่ก็จะถือกำเนิดขึ้น

ต้นกำเนิดพลังงานอันชั่วร้ายประเภทนี้ มันยังเก่าแก่ ลึกลับและซับซ้อนมาก และยังมีศักยภาพที่สามารถกลืนกินกลับและทำลายแอตแลน

นี่มัน…

วิ้ง!

ตามฉากที่เปลี่ยนไป เยี่ยนอวี๋ ‘เห็น’ อีกว่า ต้นกำเนิดพลังอันชั่วร้ายเหล่านี้ถูกอักษรอันลี้ลับปิดผนึกไว้ อักษรเหล่านี้ก็คือภาพที่สามีของนางเพิ่งวาด พวกมันผนึกต้นกำเนิดแห่งความชั่วร้ายนี้ไว้อย่างเป็นระเบียบ ดังนั้นสามีของนางจึงพูดไว้ว่า นี่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเขา เพราะว่าเห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกค่อยๆ สร้างขึ้น ไม่ได้ปรากฎขึ้นพร้อมกัน นางรับรู้ได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเป็นไปได้ที่จะไม่เกี่ยวข้องจึงมีมากกว่า?

เยี่ยนอวี๋รู้สึกอยากจะรับรู้ให้ชัดเจนกว่าเดิม จากนั้น…

วิ้ง!

จิตสำนึกของเยี่ยนอวี๋ตรงไปยังทางเหนือของแอตแลน ซึ่งก็คือจักรวาลที่ถูกกัดกร่อนแห่งนั้น นอกจากนี้ นางยังพาต้าซือมิ่งมาด้วย

“สมแล้วที่เป็นราชินีแห่งหมู่ดาว” หรงอี้ที่ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย เขาแค่คิดไม่ถึงว่าภรรยาจะปรับตัวได้เร็วเช่นนี้ เวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา นางก็สามารถพาเขามาแล้ว

ทว่าหลังจากที่เขา ‘ประทับใจเพราะเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้น’ เขาก็พบว่าลวดลายอักษรเหล่านี้เกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา เขารับรู้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยแล้ว ซึ่งก็คือกลิ่นอายของตนเอง

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน เพียงแต่ว่าพวกเขาทั้งสองยังไม่ทันได้สัมผัสอย่างละเอียด แหล่งพลังที่มืดมนอย่างยิ่งก็กวาดมาทางพวกเขา ครานั้นเองพวกเขาก็ถูก ‘กวาดกลับ’ ไปยังจักรวาลดั้งเดิม

วิ้ง!

เยี่ยนอวี๋ที่ลืมตาในทันที นางก็มองชายตรงหน้านิ่งงัน ส่วนลึกของจิตวิญญาณยังคงรู้สึกมืดมน ราวกับพลังมืดมนนั้นตามนางมาจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว

ต้าซือมิ่งที่ลืมตาขึ้นพร้อมกัน เขาก็จูบหน้าผากของภรรยา มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของภรรยาไว้ “ตกใจหรือ”

เยี่ยนอวี๋กอดคอเรียวของสามีทันที แม้จะไม่ถึงกับตกใจ แต่กลับตะลึง เพราะว่าพลังมืดมนนั่นทำให้นางรู้สึกไม่ปลอดภัยด้วยสัญชาติญาณ

ทว่า… หลังจากที่เยี่ยนอวี๋มุดศีรษะเข้าไปในซอกคอของสามีนางคนนี้ก็ตอบว่า “เกี่ยวข้องกับเจ้าแน่นอน” ไม่ว่าจะเป็นอักษรเหล่านั้นหรือพลังงานนั่น รู้สึกว่าล้วนเกี่ยวข้อง

“คงเป็นเช่นนั้น” ต้าซือมิ่งเองก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น “มิน่าที่ที่มีปัญหาก่อนคือแดนมืด”

เยี่ยนอวี๋เริ่มนั่งไม่ติด อยากจะลงพื้น “เช่นนั้นเราไปกันตอนนี้เลย”

“ไม่รีบ” หรงอี้ที่ยังคงอุ้มภรรยาไว้ เขาจูบปลายจมูกของภรรยา ปลอบประโลมว่า “ปู่จิ่วไปสู้กับแนวหน้าก่อนแล้ว ข้าให้ซีหวังหมู่สำทับมันแล้ว เมื่อมีข่าวแล้วเราค่อยไป เจ้าพักอีกหน่อยนะ”

“ข้าสบายดี” เยี่ยนอวี๋พูด มือทั้งสองข้างค้ำไหล่ของสามีนางไว้ เอวก็ตั้งตรงทำท่าจะลงไปยืนบนพื้น แต่จะทำอย่างไรได้ขาทั้งคู่ถูกจับไว้ ทำให้นางลงไปยืนบนพื้นไม่ได้

เยี่ยนอวี๋ “…”

นางเพิ่งพบว่านางนั่งแยกขาอยู่บนหน้าตักของสามี ขาทั้งสองข้างยังรัดเอวของต้าซือมิ่ง ท่านั่งนี้… น่าอับอายจริงๆ

ที่สำคัญคือ… นางอยู่ในท่านี้นานแล้ว เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางไม่ได้คิดอะไรมากและไม่รู้ตัว ตอนนี้เมื่อดูๆ แล้ว เหมือนกับว่าจะติดแจเกินไปหน่อย ใบหูของนางแดงอีกครั้ง ทว่านางยังคงสงบ “สามี ปล่อยมือ”

“เจ้าเงยหน้าพูดกับข้าสิ” หรงต้าซือมิ่งที่พูดอมยิ้มเห็นได้ชัดว่าไม่อยากปล่อยปฐมราชินีที่เขินอายเช่นนี้ไปอย่างง่ายดาย

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางกลับว่องไวมาก นางเงยหน้ามองชายตรงหน้าทันที และก็เห็นดวงตาที่กำลังยิ้มเจืออารมณ์เย้าแหย่ของเขาตามคาด ยิ่งไปกว่านั้น… สายตาคู่นั้นยังเหมือนกับตะขอที่อ่อนโยนและอาลัยรัก ล่อลวงนางจนทำให้นางคิดถึงภาพน่าอายบางภาพ จากนั้น… นางก็อยากจะกระโดดหนีจริงๆ

ทว่าต้าซือมิ่งประชิดเข้าไปข้างหูของนาง “เขินอะไร ข้าไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย”

เยี่ยนอวี๋เบือนหน้าหนีเล็กน้อย แต่สามีจอมซนคนนี้กลับกัดหูของนาง นางสะดุ้งเล็กน้อย “ไม่เล่น เรา…” ยังมีเรื่องสำคัญต้องทำ

แต่จะทำอย่างไรได้ต้าซือมิ่งจูบปากของนางและกอดเอวของนางไว้แน่นแล้ว เพียงแต่ว่าน่าเสียดาย…

เตาะแตะๆ

เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆ นอกห้องของพวกเขา เยี่ยนอวี๋ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่มาคือเด็กน้อยของนาง

“พ่อ”

เด็กน้อยที่เคาะประตูเรียกพ่อก็เคาะประตูจนเปิดออกเอง จากนั้นก็ก้าวข้ามธรณีประตูมาพร้อมหิ้วแอนนาน้อย เดินเตาะแตะเข้ามา ทำให้เยี่ยนอวี๋รีบผลักต้าซือมิ่งที่ยังกอดรัดนางไว้ทันที

หรงอี้ที่ปวดศีรษะก็จำใจต้องถอนจูบแต่โดยดี แต่ยังคงไม่ได้ให้ภรรยาลงไปบนพื้น เพียงแค่เงยหน้ามองเด็กน้อยที่วิ่งเตาะแตะเข้ามา

เยี่ยนอวี๋ก็หันศีรษะไป จากนั้นนางก็พบว่าเด็กน้อยอ้วนขึ้นอีกแล้ว อ้วนกว่าเด็กน้อยที่นาง ‘เห็น’ เมื่อครั้นอยู่เหนือสองจักรวาล เด็กน้อยที่พบว่าท่านแม่ตื่นแล้ว สายตาก็เป็นประกาย “แม่”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่วิ่งไปถึงข้างหน้าโต๊ะก็บินขึ้นมาโถมเข้าใส่ท่านแม่ เขาทิ้งแอนนาน้อยไว้ข้างหนึ่งแล้ว และกำลังพูดกับท่านแม่ว่า “แม่ ตื่นแล้ว… ดูเร็ว ดูผมเป่า เร็ว…”

เยี่ยนอวี๋ที่รับเด็กน้อยอวบอ้วนไว้ นางก็ยิ้ม “เห็นแล้ว แม่เห็นแล้วล่ะ ขอแม่ดูดีๆ อีกทีซิ”

“ดู” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอวดศีรษะให้ท่านแม่เขาดู “มีผม เยอะๆ ดำๆ ดูดี งาม เป่างาม”

เยี่ยนอวี๋หัวเราะทันที นางจูบศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ “ใช่ เสี่ยวเป่ามีผมเยอะแยะเลย ทั้งสวยทั้งน่ารัก ดูดีมากเลย…”

“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มจนตาหาย ยังหยิบหวีงามวิจิตรอันหนนึ่งออกมาพูดว่า “แม่ช่วยเป่า หวีผม”

เยี่ยนอวี๋แทบจะละลายไปกับความน่ารักของเด็กน้อยแล้ว หรงอี้ลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง “มีความสุขเสียจน…”

“ไม่เข้าใจ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่สนใจพ่อของเขา “พ่อไม่เข้าใจ”

หารู้ไม่ว่าท่านพ่อของเขารู้จักเขาดีที่สุด

ขณะที่เยี่ยนอวี๋หวีผมให้เด็กน้อยเบาๆ ก็จูบแก้มของเด็กน้อย พูดว่า “ท่านพ่อเจ้าจะไม่เข้าใจได้อย่างไร เขาเข้าใจเจ้าที่สุด ตอนเด็กเขาก็เป็นเช่นนี้”

หรงต้าซือมิ่งที่รัดภรรยาไว้แน่นในทันทีพลางกัดติ่งหูของภรรยา พูดด้วยความหึงหวงว่า “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าจะชอบพอสามีสีทองเป็นพิเศษนะ?”

“โห?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพิงท่านพ่อของเขา จากนั้นก็มองใบหูที่แดงก่ำของท่านแม่ เขาโมโหมาก “พ่อไม่ดี กัดแม่ เป่าตี”

ขณะที่พูด เจ้าตัวน้อยก็ต่อยแผ่นอกของท่านพ่อทีหนึ่ง ทว่าต้าซือมิ่งจับกำปั้นของเด็กน้อยไว้ได้ “พ่อจูบท่านแม่เจ้าต่างหาก เจ้าไม่เข้าใจ”

“เข้าใจ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคัดค้าน “ไม่ได้จูบ กัด แดงแล้ว”

“นั่นเพราะว่าท่านแม่เจ้าเขิน” ต้าซือมิ่งที่รวบตัวเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมอกพูดว่า “แล้วก็ต่อไปรบกวนท่านแม่และพ่อให้น้อยๆ หน่อย จะได้มี…ให้เจ้า”

เยี่ยนอวี๋ที่อุดปากของต้าซือมิ่งไว้ในทันที นางรู้สึก…

“ห้ามพูด” เยี่ยนอวี๋ยอมแล้วจริงๆ “เจ้าสอนเสี่ยวเป่าอย่างไรกัน”

แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าสงสัย “จะได้ มี อะไรขอรับ ไข่? น้องไก่หรือ หรือว่า แอนนา น้อย?”

หรงอี้ “…”

เยี่ยนอวี๋ “…”

ทว่าเมื่อพูดถึงแอนนาน้อย เด็กน้อยก็บินออกไปและจับแอนนาขึ้นมาพูดว่า “แอนนา น้อย ยังไม่หาย?”

“ไม่เร็วเช่นนั้น” หรงอี้ที่รับกรงมา เขากำลังจะตรวจดูอาการของแอนนาน้อยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทว่าคิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งรับกรงใบน้อยนั่นมา แอนนาน้อยก็สะดุ้งโหยง อีกทั้งยังเริ่มสลาย แม้จะไม่ได้เร็วเหมือนตอนแรกแต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ร้อนรน “ไม่ดี ไม่ดีอีกแล้ว”

ในขณะเดียวกัน…

เสียงของหยวนสื่อเทียนจุนก็ดังขึ้นจากข้างนอก “จวินโฮ่ว ลูกน้องท่านมาแล้ว”

“เข้ามา” หรงอี้ตอบเสร็จ เยี่ยนอวี๋ก็พยายามแกะมือเขาออกอีกครั้ง “ปล่อยมือเร็วเข้า”

หรงอี้หรี่ตามองและยอมให้นางเปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งข้างกายตนแทน ส่วนเด็กน้อยก็ถูกเขาอุ้มอยู่ในอ้อมอก

พิกซีและหยวนสื่อเทียนจุนเข้ามา เพิ่งพบว่าเยี่ยนอวี๋ตื่นแล้วจึงคารวะทันที

จากนั้นพิกซีก็รีบรายงานว่า “ฝ่าบาท แดนมืดเริ่มทลายแล้ว แต่พลังอสูรโดยรวมของแดนมืดยังไม่สลาย เหมือนกับว่ายังคงรวบรวมมายังวังจักรพรรดิ”

“ได้” หรงอี้ที่เคาะกรงใบน้อยเบาๆ จัดแจงว่า “พวกเจ้าอพยพออกจากแดนมืดก่อน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าสร้างพื้นที่หนึ่งให้คนของเผ่ามารย้ายไปชั่วคราวก่อน”

“แดนมืดจะพังทลายจริงๆ หรือ” เสียงของเยี่ยนอวี๋เคร่งเครียด “เช่นนั้นเกรงว่าต่อไปเผ่ามารจะอยู่ยากแล้ว”

“เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกัน” หรงอี้พูดพลางเสนอว่า “ตอนนี้พื้นที่บริเวณทะเลสาบสือซ่าไฮ่น่าใจเหมาะสมกับเผ่ามารที่สุด หรือว่าให้พวกเขาไปที่นั่นก่อนดี”

“ก็ดี” เยี่ยนอวี๋ฝากให้หยวนสื่อเทียนจุนจัดการ “หยวนสื่อ เรื่องนี้ขอฝากให้เจ้ารับผิดชอบ ต้องช่วยเผ่ามารอพยพเข้าไปในทะเลสาบสือซ่าไฮ่ทั้งหมดอย่างปลอดภัย”

“ปฐมราชินีวางใจ” หยวนสื่อเทียนจุนพยักหน้าก่อนจะถามว่า “ปฐมราชินีจะไปอีกแล้วหรือ”

เยี่ยนอวี๋พยักหน้า “ใช่แล้ว ต้องไปแอตแลน ส่วนทางสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เจ้าและเทียนตี้เฝ้าให้ดี”

“ได้” หยวนสื่อเทียนจุนย่อมไม่มีความเห็น ทว่า… เขาจำเป็นต้องพูดว่า “ข้าลองนับนิ้วทำนายแล้ว ลางร้ายในแอตแลน ท่านและจวิ้นโฮ่วไปครานี้ต้องระวังอย่างยิ่ง เกรงว่าครานี้จะอันตรายยิ่งกว่าครั้งที่แล้ว”

“ได้ ข้าจะจำไว้” เยี่ยนอวี๋ตอบก่อนจะมองไปที่เด็กน้อย “เสี่ยวเป่า…”

“ไม่ฟัง” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดท่านพ่อเขาไว้แน่นทันที “เป่าตามไปด้วย”

เยี่ยนอวี๋พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้ารู้ว่าแม่จะพูดอะไรหรือ”

“╭(╯^╰)╮” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เชิดหน้าอวบอ้วนขึ้น อย่างไรก็ต้องกอดท่านพ่อของเขาไว้แน่น แสดงท่าทางไม่มีอะไรต้องคุย

เยี่ยนอวี๋ทำได้เพียงจิ้มใบหน้าของเด็กน้อยเบาๆ พร้อมกับบอกว่า “เช่นนั้นเจ้าไปโน้มน้าวท่านตาเจ้าเอง”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าชะงักไปครู่หนึ่ง…

เยี่ยนอวี๋จิ้มแก้มเด็กน้อยอีกครั้งก่อนจะลุกไปกล่าวลาท่านพ่อของนาง

เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองไปที่ท่านพ่อของเขา “พ่อซ่อนเป่าไว้ พาเป่าไป…”

“เช่นนั้นต่อไปเวลาที่พ่อและแม่เจ้าอยู่ด้วยกันสองคน เจ้าก็อย่ามารบกวนบ่อย” หรงอี้ที่ฉวยโอกาสยื่นข้อเสนอ

เยี่ยนเสี่ยวเป่ารู้สึกว่าท่านพ่อเขากำลังฉวยโอกาส แต่ว่า… เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กลัวจะถูกทิ้งไว้ ได้แต่ตกลงในเงื่อนไขที่ไม่ยุติธรรมนี้ “ก็ล่าย…”

ครานี้เอง ณ ปราสาทสูงคล้ายงาช้างแห่งหนึ่งในทางทิศเหนือของแอตแลน

องค์ชายบัลเดอร์ที่เพิ่งตื่นมีสีหน้าซีดเผือด “ท่านพ่อ”

เขาที่มีจิตสัมผัสไม่ธรรมดามั่นใจว่าท่านพ่อของเขาร่วงหล่นไปแล้ว เขาสูญสิ้นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ฝ่าบาท” เฟรด ชุนเถียนและกู้จื่อเฟิงคุกเข่าลงพร้อมกัน “ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง”

บัลเดอร์เงยหน้ามองกู้จื่อเฟิงทันที

จู่ๆ กู้จื่อเฟิงก็รู้สึกหายใจไม่ออก เขารู้ว่าเป็นเพราะว่าจักรพรรดิหนุ่มบัลเดอร์เกิดความอาฆาตต่อเขา แต่เขาเองก็ไม่ได้ต่อต้าน

ความอาฆาตของบัลเดอร์กลับยังไม่สลายไป ในทางกลับกันยิ่งรุนแรงขึ้น

“ฝ่าบาท…” กู้จื่อเฟิงที่ยังคงไม่ต่อต้าน เขาส่งเสียงเรียกอย่างยากลำบาก

และแทบจะในเวลาเดียวกัน…

“รายงาน ฝ่าพระบาท เทพีมิคาเอลมาแล้ว”

เสียงรายงานนี้ยังไม่ทันพูดจบด้วยซ้ำ…

ตูม

มิคาเอลที่เปล่งแสงทั่วร่าง นางบุกเข้ามาแล้ว

“บัลเดอร์ ร่วมมือกันเถอะ” มิคาเอลที่พูดด้วยเสียงที่เจือความร้ายกาจ ดวงตานางมีแสงสีเลือดเปล่งประกาย ท่ามกลางแสงรอบกายเจือแสงสีเลือดมืดหม่นเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่ามิคาเอลเช่นนี้คือ…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท