ตอนที่ 598 นั่งรอเทพีพร้อมอัดนาง
เทพีแห่งความมืด ที่ผสานรวมกับต้นกำเนิดอสูรแห่งความมืดของจักรวาลทิศเหนือ ทำให้ตนเองกลายเป็นเทพีแห่งความมืดโดยสมบูรณ์
นี่มัน…
เรื่องนี้ทำให้ชุนเถียนประหลาดใจ “มิคาเอลเจ้าไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือ”
ในฐานะที่เป็นเทพแห่งชีวิต ชุนเถียนรู้สึกได้ว่ามิคาเอลที่เปลี่ยนไป แม้จะแข็งแกร่งมาก แต่สิ่งที่แลกมาคือพลังชีวิตที่ถดถอยลงอย่างรุนแรง มิคาเอลคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
“หากข้ามีชีวิตอยู่ ข้ายอมตายดีกว่า” มิคาเอลตอบเสียงขรึม ในขณะเดียวกันก็มองไปที่บัลเดอร์ “หรงทรยศต่อแอตแลนทั้งกายและใจแล้ว เขาต้องบุกมาสังหารพร้อมสตรีนางนั้นแน่ เจ้าต้องการฝังท่านพ่อเจ้าหรือต้องการแก้แค้นให้ท่านพ่อเจ้าเล่า”
บัลเดอร์ยังไม่ตอบ กู้จื่อเฟิงก็ตอบว่า “จักรพรรดิของเรายังมีทางเลือกอื่น เขาคือราชาทางเหนือ แม้ปฐมราชินีเยี่ยนจะไม่ปล่อยเขาไป แต่ใช่ว่านางจะเข้ามาได้”
“ใช่แล้ว” เฟรดสำทับ “มิคาเอล จักรพรรดิบัลเดอร์ของเราไม่ได้มีทางเดินเพียงสองทาง อีกทั้งใช่ว่าพวกเขาจะมีเวลาว่างมาที่นี่ การกลืนกินแอตแลนไม่ใช่เรื่องที่สำเร็จได้โดยง่าย”
“บัลเดอร์ ข้าถามเจ้า” มิคาเอลจ้องบัลเดอร์ที่สีหน้าขาวโพลนถาม นางรู้จักพลังของบัลเดอร์ที่อยู่ทางเหนือดี ดังนั้นนางจึงต้องการความช่วยเหลือของเขา
ทว่ากู้จื่อเฟิงไม่เห็นด้วย เดิมทีเขาอยากจะพูดบางอย่าง
“ได้” บัลเดอร์กลับตอบตกลง
มิคาเอลยกมุมปาก เสียงเคร่งขรึมน้อยลงแล้ว “เช่นนั้น ข้าจะไปแอตแลนตอนนี้ ฉวยโอกาสจับเชลยมา เจ้าวางกับดักไว้ เรารอชายหญิงสุนัขนั่นมา”
“ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” บัลเดอร์พูดขึ้น
มิคาเอลขมวดคิ้ว “เงื่อนไขอะไร เราร่วมมือกัน แต่ว่า…”
“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าเพียงแค่ต้องการคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของกรมแสงสว่างของเจ้า” บัลเดอร์พูดขึ้นทีละคำ
มิคาเอลไม่เข้าใจ “ตอนนี้แอตแลนถูกกัดกร่อนแล้ว ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ อาจไม่มีประโยชน์มากนัก”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ ส่งมาให้ข้าก็พอ” บัลเดอร์กล่าว
แม้มิคาเอลยังคงไม่เข้าใจ แต่นางก็หยิบ ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ของกรมแสงสว่างออกมาจากวิญญาณของนางอย่างตรงไปตรงมาและส่งไปข้างหน้าบัลเดอร์ คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่ต่างจากคัมภีร์อื่น คัมภีร์ของกรมแสงสว่างมีลักษณะเป็นกลุ่มแสงเช่นกัน มิหนำซ้ำ…
“ตั้งแต่อดีต ’คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ของกรมแสงสว่างของข้ามีเพียงเทพีแห่งแสงสว่างเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ แม้ข้าจะให้เจ้าไป เกรงว่าเจ้าก็ไม่สามารถอ่านมันได้” มิคาเอลจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนก่อน แต่นางก็พบในทันทีว่า บัลเดอร์เป็นข้อยกเว้น เพราะหลังจากที่เขารับ ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ของนางมาก็สามารถเปิดอ่านในได้ทันที
“นี่มัน…” มิคาเอลที่ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตาลง “ดูท่าข้าจะกังวลเกินเหตุ เช่นนั้นข้าจะไปแอตแลนเดี๋ยวนี้ เจ้าก็รีบจัดการเข้าล่ะ”
“เจ้าวางใจเถอะ ตราบใดที่เจ้าทำให้สองสามีภรรยานั่นมาที่นี่ได้ ข้าจะทำให้พวกเขาไม่ได้กลับไปอีก” บัลเดอร์พูดอย่างสงบราวกับอ่อนโยนมาก
แต่ภายใต้ความอ่อนโยนนี้มีความเกลียดชังที่ทำให้กู้จื่อเฟิงหวาดกลัว ไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาปฐมราชินีเยี่ยนจะจัดการกับปัญหาที่หนักหนานี้ได้หรือไม่
มิคาเอลที่ได้รับคำตอบที่ต้องการพลันยิ้ม “เจ้ามีความมุ่งมั่นเช่นนี้ ข้าย่อมไม่พลาด แล้วเจอกัน”
“ในเมื่อเทพีมีความั่นใจเช่นนี้ เช่นนั้นข้ากู้จื่อเฟิงขอเตือนท่านด้วยความหวังดี ตอนที่พวกเรากลับทางเหนือ เหมือนกับว่าจะมีกลิ่นอายดุร้ายตามพวกเรามาตลอดทาง จนเมื่อเราเข้ามาในเจดีย์สีขาวจึงหายไป ดังนั้นท่านอาจจะไม่ต้องไปไกลนัก หากข้าน้อยเดาไม่ผิด กลิ่นอายนี้น่าจะมาจากจิ่วอิง อสูรร้ายลูกสมุนของต้าซือมิ่ง ด้วยฐานะและอิทธิพลของมันมีค่ามากกว่าคนหรืออสูรอื่น” กู้จื่อเฟิงแจ้งข่าวนี้แก่นาง
ทว่าเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ออกมา สีหน้าของเฟรดและชุนเถียนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ครานี้พวกเขาไม่ได้พูดอะไร จนเมื่อมิคาเอลจากไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม พวกเขาจึงถามกู้จื่อเฟิง “มันตามพวกเรามาตลอดทางจริงๆ หรือ”
“ไม่แน่ใจ” กู้จื่อเฟิงตอบ
“เช่นนั้นเจ้า…” ชุนเถียนประหลาดใจ “หลอกเทพีมิคาเอลหรือ”
“ก็ไม่ใช่ แต่ตั้งแต่ที่ครอบครัวนั้นเข้าไปกรมแสงสว่าง ข้าก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของจำนวนสมาชิก พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าจิ่วอิงตัวนี้ไม่ได้ปรากฏตัวเลย” กู้จื่อเฟิงถาม
ชุนเถียนและเฟรดเงียบ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเลยจริงๆ
ส่วนบัลเดอร์ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจิ่วอิงคือใคร แต่เขารู้ได้จากปฏิกิริยาของเฟรดและชุนเถียน การวิเคราะห์ของกู้จื่อเฟิงเกรงว่าจะไม่ผิดพลาด พวกเขาถูกตามแล้ว
บัลเดอร์จึงถามขึ้นว่า “เจ้าต้องการให้มิคาเอลถอนตะปูที่ซุ่มอยู่ในทางเหนือหรือ”
“หากมิคาเอลมีความสามารถเช่นนี้จริงๆ บางทีท่านอาจจะลองพิจารณาร่วมมือกับนางให้ดียิ่งกว่าเดิม” กู้จื่อเฟิงตอบ
บัลเดอร์ไม่ได้พูดอะไร เขามองกู้จื่อเฟิง “เจ้าเคยโกหกข้าครั้งหนึ่ง”
“ไม่ ฝ่าบาท จื่อเฟิงไม่ได้โกหกท่าน ตราบใดที่ ‘คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์’ ทั้งเจ็ดเล่มกลับคืน ท่านก็สามารถทำให้จักรพรรดิหูจวิ้นฟื้นคืนชีพได้ มิใช่หรือ จื่อเฟิงพาท่านมาทางเหนือเป็นการช่วยเหลือจักรพรรดิหูจวิ้นที่แท้จริงต่างหาก” กู้จื่อเฟิงอธิบาย
ดวงตาสีมรกตของบัลเดอร์ขรึมลง “เจ้าฉลาดมาก หากเจ้าอยู่ฝ่ายปฐมราชินีเยี่ยน นางย่อมมอบหมายหน้าที่สำคัญให้เจ้า เหตุใดจึงต้องมาทางเหนือกับข้า”
“ยังคงยืนยันคำเดิม จื่อเฟิงรู้สำนึกในบุญคุณของจักรพรรดิหูจวิ้นที่ชื่นชมและใช้กระหม่อมอย่างดี” กู้จื่อเฟิงโค้งคำนับ
บัลเดอร์สูดหายใจเข้าเบาๆ เขาไม่จำเป็นต้องให้กู้จื่อเฟิงเงยหน้ามองเขาก็รู้สึกได้ว่า บุคคลที่มาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ถูกท่านพ่อของเขาแต่งตั้งเป็นอำมาตย์ไม่ได้โกหกจริงๆ อย่างน้อยก็ไม่ได้โกหกในยามนี้ เช่นนั้นแล้ว… บัลเดอร์ละสายตาจากกู้จื่อเฟิง “พวกเจ้าออกไป จื่อเฟิงอยู่ก่อน”
“…พ่ะย่ะค่ะ” แม้เฟรดและชุนเถียนจะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ออกไป
…
ในขณะเดียวกัน มิคาเอลก็ปล่อยจิตสำนึกออกไปสำรวจหากลิ่นอายโหดเหี้ยมที่กู้จื่อเฟิงกล่าวถึง
หารู้ไม่ว่า อันที่จริงปู่จิ่วเกาะอยู่ข้างหลังของกู้จื่อเฟิง ดังนั้นมิคาเอลจึงไม่มีทางเจอจิ่วอิงได้
มิคาเอลที่คอยสัมผัสอยู่พักใหญ่ นางก็ขมวดคิ้วก่อนจะลืมตาขึ้น “สิ่งที่กู้จื่อเฟิงนั่นพูดอาจจะไม่ใช่ความจริง นอกจากนี้หากมีโจรย่องตามมา บัลเดอร์เองก็สามารถจัดการได้ เหตุใดข้าต้องมาสำรวจแทนพวกเขาที่นี่ด้วย”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ มิคาเอลก็ไม่ได้อยู่ทางเหนือต่อไป นางหายตัวไปยังแอตแลนแล้ว แม้อันที่จริงสัญชาติญาณของนางบอกว่าการกลับแอตแลนในยามนี้จะไม่ปลอดภัยก็ตาม แต่นางตามหากลิ่นอายของจิ่วอิงไม่เจอจริงๆ นอกจากนี้นางยังรู้ดีว่า หากไม่รีบทำตามแผนที่วางไว้ให้เสร็จโดยไว เมื่อแอตแลนสงบลง นางก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
นี่คือสิ่งที่มิคาเอลไม่ยอมให้เกิดขึ้น “หรง เจ้าทรยศต่อแสงสว่าง ข้าต้องลงโทษเจ้าในนามของสำนัก ข้าต้องให้เจ้าตายในมือข้า มิเช่นนั้นข้าคงตายตาไม่หลับ”
เมื่อคิดถึงตนเองที่ถึงแม้จะพลีกายให้ ต้าซือมิ่งก็ปฏิเสธ เส้นเลือดฝอยในดวงตาของมิคาเอลก็ชัดเจนขึ้น “ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจในสิ่งที่เจ้าตัดสินใจ แต่ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าได้แก้ตัว”
มิคาเอลที่วาดฝันไว้อย่างสวยงาม นางเหินไปทางแอตแลนอย่างรวดเร็วและในขณะที่มิคาเอลออกจากเจดีย์สีขาวทางเหนือไปยังแอตแลนนั่นเอง
ต้าซือมิ่งทั้งครอบครัวก็มาถึงแอตแลนแล้ว
“เนะ”
เด็กน้อยที่มุดออกมาจากแขนเสื้อของท่านพ่อ เขาก็ดีใจมาก เขาปีนขึ้นไปบนบ่าของท่านพ่อ ยิ้มราวกับพระศรีอริยเมตไตรยองค์น้อย
หากเขายังหัวโล้นอีก นั่นก็ใช่เลย
ท่าทางมีความสุขของเขาทำให้เยี่ยนอวี๋อดหยิกแก้มตุ้ยนุ้ยของเขาไม่ได้ “ไม่ออกมากล่าวลาท่านตาเจ้าหน่อยเลย กลับไปดูซิว่าเจ้าจะง้อท่านตาอย่างไร”
“ค่อย คิด วิธี” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังคงยิ้ม ยังคงคิดว่าตนเองฉลาดมาก “ซ่อนไว้ เป่าเก่ง…”
เยี่ยนอวี๋จิ้มหน้าอกของต้าซือมิ่งที่ตามใจเด็กน้อย “เจ้าก็เหมือนกัน ยังช่วยซ่อนกลิ่นอายของเสี่ยวเป่าด้วย ตอนนี้ท่านพ่อแค่ยังนึกไม่ถึง นึกขึ้นได้เมื่อไร เรากลับไป เขาต้องร้องไห้แน่ๆ”
“ท่านพ่อตาย่อมรู้แก่ใจ” หรงต้าซือมิ่งที่จับมืออ่อนนุ่มของภรรยาไว้ ในขณะที่เขาจูบมือของภรรยาก็คอยสัมผัสความเคลื่อนไหวทางเหนือด้วย
ในขณะเดียวกัน… มิคาเอลเพิ่งหายตัวออกมาจากทางเหนือ ทว่าขณะที่นางหายตัวออกมานั้นเอง นางก็เปลี่ยนกลิ่นอายของตนเอง กำลังคิดจะอำพรางตัวเป็นต้นกำเนิดแสงสว่างของแอตแลน หากนางทำสำเร็จก็จะหาตัวนางได้ยาก
ทว่า มิคาเอลยังไม่ทันซ่อนตัวสำเร็จ
ชู่
กรงเล็บอันโหดเหี้ยมฉีกลงมาที่ศีรษะและใบหน้าของนางทันที
ซีหวังหมู่ที่เฝ้ารออยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก มันสัมผัสถึงมิคาเอลได้ตั้งแต่ตอนที่นางปรากฎตัว มันจึงจู่โจมใส่อย่างไม่ลังเล