ตอนที่ 603 ต้าซือมิ่งเขาคือราชาแห่งการครอบงำ!
วิ้ง!
ข้างหลังพวกเยี่ยนอวี๋ปรากฏอักษรลึกลับอีกวงหนึ่ง มันค่อยๆ สว่างวาบขึ้น
“…”
แสงลึกลับที่แต่เดิมขวางอยู่ข้างหน้าพวกเยี่ยนอวี๋ถอยไปข้างหลังพวกเขาอย่างไร้สุ้มเสียงและห่อหุ้มพวกเขาเข้าไปด้านใน
สภาพเช่นนี้ทำให้จิ่วอิงอดพูดไม่ได้ว่า “เราถูกห่อเป็นเกี๊ยวหรือ”
“ก็เห็นอยู่ทนโท่!” ซีหวังหมู่เข้าใจเรื่องที่เห็นได้อย่างชัดเจน “ใต้เท้า เหมือนกับว่าพวกเขาจะมั่นใจว่ากำจัดท่านและจวินโฮ่วได้”
เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ตอบ เจ้าตัวน้อยก็พูดเสียงเล็กเสียงน้อยขึ้นมาว่า “ฝัน ไปเถอะ!”
ซีหวังหมู่หัวเราะ “นายน้อยพูดถูก นายน้อยฉลาดจังเลย ซีซีชอบนายน้อยจังเลย นายน้อยให้ซีซีอุ้มหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ”
“รักษาตัวก่อนเถอะเจ้าน่ะ” จิ่วอิงตัดบทแย่งพูดว่า “เสี่ยวเป่า มาเล่นกับปู่จิ่วเจ้าที่นี่สิ”
แต่จะทำอย่างไรได้ เยี่ยนเสี่ยวเป่าเชิดใบหน้าน้อยๆ ขึ้น ทำทีบอกว่า ‘ข้าไม่สนใจเจ้าอีกแล้ว’ เห็นได้ชัดว่ายังจำเรื่องที่จิ่วอิงเยาะเย้ยเขาเมื่อครู่นี้ได้
จิ่วอิงรีบขึ้นไปเย้าแหย่เขา “จุ๊ๆ! ขี้น้อยใจจังเลย ยิ้มให้ปู่จิ่วหน่อยไม่ได้หรือ”
“╭(╯^╰)╮” เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำเสียงเชอะ พิงอกของท่านพ่อเขาต่อไป ยังคงไม่ยอมสนใจจิ่วอิง
ภาพเช่นนี้… ทำเอากู้จื่อเฟิงรู้สึกพูดไม่ออก แต่เขาจำต้องพูดว่า “ทุกท่านยังดูสบายๆ ดูท่าจะมั่นใจในตัวเองมาก”
“ผิด!” ซีหวังหมู่ตอบทันที “มั่นใจในตัวนายน้อยมากกว่า”
กู้จื่อเฟิง “…” เขาหมดคำจะพูดแล้วจริงๆ
บัลเดอร์ที่มองเยี่ยนอวี๋มาตลอดตั้งแต่ปรากฏตัว เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าเองหรือที่ฆ่าบิดาของข้า”
“ข้าเอง” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า นางเองก็มองบุคคลที่ว่ากันว่าเป็นบุตรคนเล็กของหูจวิ้นที่มีอายุน้อยที่สุดท่านนี้
ก่อนที่จะมาถึงจักรวาลทางเหนือ เซ่าเฮ่าและอินหลิวเฟิงก็รายงานเรื่องบุคคลคนนี้และความสามารถของเขาแล้ว นางรู้ตั้งแต่แรกว่าองค์ชายน้อยแอตแลนอายน้อยคนนี้มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา
จิ่วอิงพูดขึ้นจากด้านข้างว่า “ระวังตัวด้วย องค์ชายคนนี้มีความสามารถไม่เบา เขาสามารถสื่อสารกับพลังทุกประเภทได้ แม้ดูจากภายนอกแล้วจะมีตบะไม่สูงมากนัก แต่กลับสามารถโยกย้ายพลังภายนอกทุกอย่างได้ มิเช่นนั้นเขาก็คงไม่สามารถปกครองจักรวาลทางเหนือที่ปั่นป่วนและสั่นคลอนให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ ทำให้จักรวาลแห่งนี้ค่อยๆ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อแอตแลน แทนที่จะทำลายมันอย่างเดียว”
คำพูดเหล่านี้… เพียงพอที่จะทำให้รูม่านตาของกู้จื่อเฟิงหดเล็กลง “ดูท่าปู่จิ่วจะติดตามเรามาตลอดทาง มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้ยังตระเวนดูจักรวาลทางเหนือแล้วจึงรู้ดีเช่นนี้”
“ที่ไหนกัน” จิ่วอิงไม่มองกู้จื่อเฟิงด้วยซ้ำ ศีรษะข้างหนึ่งยังกำลังหยอกเย้าเยี่ยนเสี่ยวเป่า
ส่วนเจ้าตัวน้อย ขณะที่จิ่วอิงยื่นศีรษะไปเล่นกับเขา เขาก็จับศีรษะของมันไว้และอ้าปากกัดมัน
“โอ๊ย!” จิ่วอิงที่รู้สึกเจ็บรีบร้องออกมา “ใจเย็นๆ สิ ปู่จิ่วเจ้าอายุปูนนี้แล้วทนถูกกัดไม่ไหวหรอก จะว่าไปแล้ว… ทำไมรู้สึกว่าฟันของเจ้าแข็งขึ้นเยอะเลยนะ”
“ฟันงอก” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอวดฟันน้อยๆ สีขาวสิบซี่ของตนเองอย่างดีใจ เทียบกับตอนกัดต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว มีมากขึ้นถึงหกซี่
จิ่วอิงลูบศีรษะตนเอง “มิน่าเล่า เก่งขนาดนี้”
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกชมเสร็จจนลืมว่าตนเองกำลังโกรธก็หัวเราะ
จิ่วอิงพูดอย่างพิลึกว่า “ว้าว เสี่ยวเป่าของเรามีผมงอกแล้ว”
“ฮ่าๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มตาหยี มีความสุขและพึงพอใจมาก
แต่ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง! วิ้ง!…
อักษรรูนลึกลับได้ปรากฏขึ้นข้างใต้เท้าพวกเยี่ยนอวี๋
ตูม!
แม้แต่เหนือศีรษะของพวกเขาก็ปรากฏอักษรรูนมากมาย
เพียงแค่พริบตาเดียว ตำแหน่งที่เยี่ยนอวี๋พวกเขาอยู่ก็ถูกอักษรรูนลึกลับเหล่านี้ปิดกั้นเป็นกรง
เยี่ยนอวี๋รับรู้ได้ว่าอักษรรูนเหล่านี้ไม่เหมือนกับอักษรรูนที่มีคุณสมบัติการปิดผนึก พวกมันมีกลิ่นอายทำลายล้างรุนแรงเป็นพิเศษ เหมือนกับว่าจะหลอมผสานกับพลังที่ชั่วร้ายเหล่านั้นแล้ว
หรือไม่ก็อักษรรูนเหล่านี้คืออักษรรูนแบบใหม่ เป็นผลจาการผสานรวมอักษรรูนอันลึกลับของเทพบัลเดอร์และพลังที่ชั่วร้ายและเก่าแก่เหล่านั้น
แต่ว่าต้าซือมิ่งกลับมีความคิดที่ต่างไปมาก เขากำลังพูดกับเด็กน้อยว่า “เสี่ยวเป่า เอาแอนนาน้อยออกมาดูหน่อย”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่านำแอนนาน้อยออกมาทันที
เห็นได้ชัดว่าแอนนาน้อยที่ถูกขังอยู่ในกรงสลายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
นี่มัน…
“พ่อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับท่านพ่อของเขาไว้แน่น “จะพังแล้ว”
นัยน์ตาเยี่ยนอวี๋มีแสงวาบผ่าน นางรู้ในทันทีว่า “อักษรรูนเหล่านี้เมื่อผสานกับพลังชั่วร้ายจะส่งผลกระทบต่อการทำลายล้างของแดนมืด?”
“ดูท่าจะเป็นเช่นนั้น” หรงอี้ที่สัมผัสพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปของบริเวณโดยรอบตลอดเวลา เขาก็สรุปได้ว่า “หลังจากที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลืนกินแอตกลนกลับ เนื่องจากจักรวาลแห่งนี้ถูกแอตแลนกลืนกินแล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่นี่ก็จะกระทบต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเช่นกัน ตามการวิเคราะห์ของข้า ก่อนที่มันจะถูกแอตแลนกลืนกิน ที่นี่น่าจะเป็นโลกวิญญาณอสูรคล้ายกับแดนมืด ดังนั้นหลังจากที่พลังหลงเหลือของแอนนาถูกหูจวิ้นใช้ไปก็เชื่อมโยงกับจักรวาลแห่งนี้โดยธรรมชาติ ซึ่งจะสร้างผลกระทบมากกว่าเดิม”
“ดังนั้นหากต้องการแก้ไขปัญหาของแดนมืดจะต้องแก้ไขที่รากของปัญหา จะต้องห้ามให้บัลเดอร์ผสานอักษรรูนลึกลับเหล่านี้กับพลังชั่วร้าย” เยี่ยนอวี๋สรุปได้ดังนี้
“อืม” ขณะที่หรงอี้ตอบ รอบกายของเขาก็มีแสงสีม่วงอร่ามไหลออกมา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตาโตและกอดท่านพ่อของเขาด้วยสัญชาติญาณ ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่แต่เดิมอยากจะอุ้มเขาไปไม่สามารถดึงเขาออกมาจากตัวของท่านพ่อเขาได้
“เสี่ยวเป่า…” เยี่ยนอวี๋กำลังจะคุยกับเด็กน้อย
ต้าซือมิ่งกลับหลับตาลงและยังสอนลูกว่า “ตามกลิ่นอายของพ่อมา”
“ขอรับ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบหลับตาเข้านอนทันที
เยี่ยนอวี๋ “…” ???
นางตะลึงงัน นางรับรู้ว่าอนุสติของสามีนางแผ่ซ่านเข้าไปในอักษรรูนรอบๆ แล้ว
ไม่เพียงเท่านี้…
อนุสติของ… ลูกของนางก็ตามไปด้วย
“โห” จิ่วอิงอุทาน เพราะว่ามันก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน
กู้จื่อเฟิงหน้าเคร่งขรึม “จักรพรรดิบัลเดอร์ เขา…”
“ไม่รีบ” เสียงของบัลเดอร์อ่อนโยนอย่างที่เป็นเสมอมา แต่เขายื่นมือทั้งคู่ไปข้างหน้าแล้ว จากนั้น…
ซู่!
อักษรรูนนับไม่ถ้วนสั่นไหวราวกับพยายามหนีให้พ้นจากการรุกรานของอนุสติของต้าซือมิ่ง ทว่า…
“หมื่นอักษร หวนคืน”