เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 610 ไขปริศนาการเกิดใหม่ของต้าซือมิ่ง!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 610 ไขปริศนาการเกิดใหม่ของต้าซือมิ่ง!

“สามี…” น้ำตาของเยี่ยนอวี๋ก็ไหลลงมาแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เทียนตี้สัมผัสถึง นางเองก็สัมผัสได้เช่นกัน แต่นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะกลืนพลังชั่วร้ายเหล่านั้นหรือ หรือว่าเป็นเพราะจักรวาลทางเหนือแตก ไม่สิ เยี่ยนอวี๋คิดว่าล้วนไม่ใช่ มันไม่ถูกต้อง

ทว่า… เยี่ยนอวี๋ยังคงมองไปที่เด็กน้อยอย่างต้องการคำยืนยัน “เสี่ยวเป่า นำแอนนาออกมาให้ท่านแม่ดูหน่อย”

“อื้ม” เยี่ยนเสี่ยวเป่าควักแอนนาน้อออกมาอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนอวี๋พบว่าแอนนาน้อยก็ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นกัน ลมหายใจของมันรวยริน

น้ำตาทะลักออกมามากขึ้นกว่าเดิมในดวงตาของเยี่ยนเสี่ยวเป่า “เป็นอะไรกันไปหมด”

“นายท่าน ข้าจะไปแดนมืดเอง” หยวนสื่อเทียนจุนที่เพิ่งมาถึงก็เห็นฉากนี้ เมื่อเขาพูดจบก็หายตัวไปยังแดนมืดวิญญาณอสูรทันที

เยี่ยนชิงในครานี้เขาไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขากำลังปลอบบุตรสาวอันเป็นที่รักของตน “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ นะ! ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”

“พ่อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดท่านพ่อเขาไว้และมุดศีรษะเข้าไปในซอกคอของท่านพ่อ น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด รู้สึกเศร้ามากทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เจ้าตัวน้อยก็ไม่ได้ทับโดนท่านพ่อของเขา เขาลอยตลอดเวลา! ดูเหมือนอยู่ในอ้อมอกของท่านพ่อเขา อันที่จริงเขาลอยอยู่

ต้าซือมิ่งในบัดนี้ราวกับว่าเขาจะสลบไปอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถตอบสนองใดๆ ได้ ทว่าเลือดหยุดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดของเขาแล้ว

แต่ว่าเยี่ยนอวี๋รับรู้ได้ว่าพลังชีวิตของเขายังคงถดถอยลงไม่หยุด

แม้เขาที่มีตบะถึงระดับนี้จะได้เพลิดเพลินกับการมีชีวิตที่ยืนยาวพอแล้ว แต่การสูญเสียพลังชีวิตอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จะทำให้พลังชีวิตทั้งหมดของเขาหมดไปในที่สุด

แน่นอนว่าสำหรับเยี่ยนอวี๋แล้ว เรื่องเหล่านี้ล้วนไม่ใช่ปัญหา ปัญหาทุกอย่างในตอนนี้คือ นางไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นนางไม่รู้เลยว่าต้องช่วยเขาอย่างไร

ไม่สิ ก็ไม่ใช่ เยี่ยนอวี๋มองไปที่แอนนาน้อยอีกครั้ง…

ในขณะเดียวกัน หยวนสื่อเทียนจุนที่ทำงานอย่างว่องไวก็กลับมาแล้วและพาพิกซีน้อยมาด้วย เมื่อฝ่ายหลังเห็นสภาพของต้าซือมิ่งก็ตกตะลึง “ฝ่าบาท!?”

“เจ้ารายงานสถานการณ์ในแดนมืดมาก่อน” หยวนสื่อเทียนจุนพูด เขารู้ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบว่าสภาพของจวินโฮ่วเกี่ยวข้องกับแดนมืดหรือไม่ ถึงแม้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนหน้านี้เหมือนกับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เหมือนกับว่าจะเกี่ยวข้องกันมาก

พิกซีน้อยเองก็ตั้งสติได้รวดเร็ว แม้มันจะตกใจมาก แต่ก็ตอบอย่างมีระเบียบวินัยว่า “แดนมืดหดเล็กลงมากจนเหลือแค่เมืองจักรพรรดิอสูร แต่พลังของแดนมืดไม่ได้หายไปด้วย มันยังคงควบแน่นอย่างรวดเร็ว หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าน้อยคาดว่าเมืองจักรพรรดิอสูรอาจจะระเบิด!”

ระเบิด!

จู่ๆ เยี่ยนอวี๋ก็เงยหน้าขึ้น “เจ้าคิดว่าอีกนานแค่ไหนจะระเบิด”

“หนึ่งชั่วยามเป็นอย่างมาก ครึ่งชั่วยามเป็นอย่างน้อย” พิกซีน้อยตอบ

เยี่ยนอวี๋กอดชายในอ้อมอกไว้แน่น นางมีลางสังหรณ์ว่าชะตาชีวิตของเขาอาจจะเหมือนกับแดนมืดวิญญาณอสูร

ทว่าหยวนสื่อเทียนจุนที่เดาสิ่งที่นางคิดได้ก็พูดขึ้นว่า “ไม่หรอก ตอนที่แดนมืดเกิดปัญหาในอดีต จวินโฮ่วก็ไม่ได้เป็นอะไร นายท่านช่วยเล่าเรื่องที่พวกท่านพบเจอสั้นๆ ให้ข้าฟังได้หรือไม่ ข้าจะลองทำนายดูว่าปัญหาเกิดจากตรงไหน”

“ข้าเล่าเอง!” จิ่วอิงที่เร่งเดินทางมาถึง มันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้อย่างละเอียดให้หยวนสื่อเทียนจุนฟัง ฝ่ายหลังเริ่มนับนิ้วทำนาย ทว่า… หยวนสื่อเทียนจุนยังทำนายไม่เสร็จ กู้จื่อเฟิงที่ถูกมัดไว้ที่หางของจิ่วอิงจู่ๆ ก็พูดขึ้น “อันที่จริงตัวเขาเองรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่พูด เพราะเขามั่นใจว่าจะไม่เป็นอะไรร้ายแรง”

“เชลยศึกเช่นเจ้า อย่ามาพล่ามนักเลย! เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดที่นี่” จิ่วอิงสะบัดหางทีหนึ่ง ทำเอาฝ่ายหลังกระดูกร้าวและกระอักเลือดออกมา

ซีหวังหมู่เห็นด้วยอย่างยิ่ง “ใช่แล้ว! หากไม่ใช่พวกเจ้า! จวินโฮ่วของเราจะเป็นเช่นนี้หรือ”

“ให้เขาพูด” เยี่ยนอวี๋กลับพูด

“แค่ก…” กู้จื่อเฟิงที่ไอกระแอมเบาๆ สองสามที เขาก็มองไปที่เยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งที่นางกอดไว้แน่นในอ้อมอก ครั้นกำลังจะปริปาก… หยวนสื่อเทียนจุนกลับกระอักเลือดออกมา! เขาอาเจียนเลือดคำใหญ่ออกมา ทำเอาเยี่ยนชิงตกใจ “เทียนจุน เจ้าเป็นอะไรอีกแล้ว”

“เขาทำนายอายุขัยของต้าซือมิ่งไม่ได้ แต่ยังฝืนทำนายย่อมถูกโจมตีกลับ” กู้จื่อเฟิงรู้ดีว่าเหตุใดหยวนสื่อเทียนจุนจึงอาเจียนเป็นเลือด ก่อนหน้านี้เขาอาเจียนเป็นเลือดหลายครั้งก็เพราะทำนายต้าซือมิ่งท่านนี้ แต่เขาก็ยังจะทำนาย ดังนั้นกู้จื่อเฟิงจึงให้ข้อสรุปอย่างหนึ่งแก่เยี่ยนอวี๋ได้อย่างแจ่มแจ้งว่า “ปฐมราชินีเยี่ยน หากท่านเป็นห่วงความเป็นความตายของเขา ข้าบอกท่านได้เพียงว่า เขาจะไม่ตาย เขามีชะตาชีวิตที่แม้แต่ท่านก็มิอาจจินตนาการถึงได้”

คำพูดนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋หรี่ตาลงครู่หนึ่ง ครั้นจะถามในรายละเอียด ทว่า… ต้าซือมิ่งลืมตาขึ้นแล้วและยังจับมือของภรรยาที่ยังคงจับข้อมือของเขาไว้ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”

เยี่ยนอวี๋จึงหันกลับมามองต้าซือมิ่ง “ข้าอยู่นี่”

“พ่อ?” เด็กน้อยก็รีบเงยหน้ามองท่านพ่อของเขา “หาย?”

ต้าซือมิ่งค่อยๆ ออกแรงกอดเด็กน้อยที่ระมัดระวังเข้ามาในอ้อมกอด ในขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งก็โอบเอวของภรรยาไว้ มองไปที่กู้จื่อเฟิง… และคนอื่นๆ

จากนั้นเยี่ยนอวี๋ก็เข้าใจเขาแล้ว “พวกเจ้าออกไปก่อน”

“นี่…” เดิมทีเยี่ยนชิงวางใจไม่ลง แต่เยี่ยนหงชวนลากเขาไปด้วยแล้ว

ส่วนคนที่เหลือย่อมถูกจิ่วอิงไล่ออกไป และตัวมันเองก็ออกไปแล้ว

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เยี่ยนอวี๋ก็ถามขึ้นว่า “ไปหมดแล้ว บอกข้าได้หรือยังว่าเจ้าเป็นอะไร”

“ใช่! เป็น อะไย” เยี่ยนเสี่ยวเป่าถามด้วยเสียงสะอึกสะอื้น

ต้าซือมิ่งหยิกแก้มของเด็กน้อยเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “ร้องไห้แบบนี้ยังจะฝากให้เจ้าช่วยได้รึ”

“เชอะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเช็ดน้ำตาของตนจนแห้งทันที เขาทำหน้ามุ่ย “พ่อ ไม่ได้เรื่องเอง! ยังโทษเป่า!”

เยี่ยนอวี๋ที่อันที่จริงเศร้ามากเม้มปากอยากจะหัวเราะ แต่ในดวงตากลับมีคราบน้ำตา

หรงอี้ที่กอดนางจึงจูบดวงตางามวิจิตรคู่นั้นของนาง “ไม่ร้องแล้ว อันที่จริงมีคำหนึ่งเขาพูดถูกนะ ข้าไม่ตายหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง”

“แล้วตอนนี้มันเรื่องอะไรกัน” เยี่ยนอวี๋ต้องการเพียงเรื่องนี้ “เจ้าอย่าเลี่ยงคำถาม”

“น่าจะเป็นเพราะ จะไปเกิดใหม่แล้ว” หรงอี้ตอบ

เยี่ยนอวี๋ชะงัก “หมายความว่าอย่างไร”

“ถือว่าเป็นวิธีการฝึกตบะวิธีหนึ่งของข้า ทุกครั้งที่พลังที่ข้ากลืนกลับมา เมื่อข้าไม่สามารถย่อยเองได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเวียนว่ายตายเกิดใหม่ครั้งถัดไปด้วยตัวมันเอง” หรงอี้ที่คิดถึงหลายๆ เรื่อง เขาพอจะรู้ว่าเหตุใดเขาจึงมีร่างพลังมากมายเช่นนี้แล้ว

อันที่จริงร่างพลังเหล่านี้ล้วนเป็นพลังที่มีมาพร้อมกับเขาแต่กำเนิด การฝึกตบะของเขาก็คือการผสานร่างพลังเหล่านี้กลับสู่ร่างกายและย่อยสลายพวกเขาในที่สุด

หากไม่สำเร็จในชาตินี้ก็ทำต่อไปในชาติหน้า ครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ จนถึงตอนนี้… เขาคาดเดาจากความทรงจำของเขาได้ว่า “นี่คือชาติที่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า ข้าเดาว่าหลังจากครั้งนี้ก็น่าจะสามารถผสานพลังทุกอย่างกลับคืนได้”

“เป่า ไม่เข้าใจ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าไม่เข้าใจ เรื่องนี้เกินกว่าที่เด็กตัวน้อยเช่นเขาจะเข้าใจได้ ถึงอย่างไรมันก็ซับซ้อนเกินไป

แต่ว่าเยี่ยนอวี๋กลับพูดอย่างมั่นใจมาก “เจ้าโกหก!”

“แค่ก” หรงต้าซือมิ่งที่ถูกเปิดโปงไออย่างอ่อนแอ

เยี่ยนอวี๋เม้มปาก มองชายในอ้อมอกด้วยตาเป็นประกายเล็กน้อย นางรู้ว่าเขากำลังโกหก! ประโยคหน้าคือเรื่องจริง ประโยคหลังครึ่งจริงครึ่งเท็จ! เขาหลอกนาง!

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” ต้าซือมิ่งที่ออดอ้อนอยู่ในซอกคอภรรยา มือของเขาประคองท้ายทอยของภรรยาไว้ อยากจะคุยกับนางดีๆ แต่ว่าเยี่ยนอวี๋ผละเขาออกและให้เขาพิงต้นอู๋ถงแทนแล้ว

หรงอี้ที่ถูกผลักออกชะงักไปครู่หนึ่ง “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เจ้า…”

น่าเสียดายเยี่ยนอวี๋ไม่รอให้เขาพูดจบก็หายตัวไปแล้ว

เยี่ยนเสี่ยวเป่างงงัน “แม่? โกรธ จนหนี?”

หรงอี้ “…” เหมือนจะเป็นเช่นนั้น

แต่ว่า… ก็ไม่น่าจะใช่นะ

เขาที่งงงันเช่นกันก็รวมกลุ่มกับลูกกลายเป็นคู่หูงงงัน

เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ นางจากไปจริงๆ และยังไปยังแอตแลนเพื่อหาอินหลิวเฟิงด้วย “ภายในครึ่งชั่วยาม มีคนต้องการอพยพออกจากแอตแลนมากแค่ไหน เจ้าก็พากลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามากแค่นั้น ห้ามล่าช้าแม้แต่น้อย”

“…ได้!” อินหลิวเฟิงที่ไม่ได้ถามให้มากความรู้ได้จากสีหน้าของเยี่ยนอวี๋ว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! เขาต้องแข่งกับเวลา

เยี่ยนอวี๋เองก็ไม่ได้อธิบาย นางไปหาเซ่าเฮ่าและเรียกเขากลับมา ให้เขาช่วยอินหลิวเฟิงอพยพ เซ่าเฮ่าที่เดาบางอย่างได้ก็ถามด้วยสัญชาติญาณว่า “ท่านคิดจะหยุดการกลืนกินแอตแลนหรือ”

“ยังต้องซ่อมแซมมันด้วย” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างสงบ นางพอจะเดาได้ว่า สถานการณ์ของสามีนางเกี่ยวข้องกับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่กลืนกินแอตแลนโดยตรง

ไม่สิ นี่ไม่เท่าไร ที่สำคัญคือนี่คือชาติสุดท้ายของเขา เขาต้องกลืนพลังทั้งหมดของเขากลับไปในชาตินี้ มิเช่นนั้นเขาอาจจะไม่มีชาติต่อไปแล้ว บางทีเขาอาจจะไม่ตาย แต่เขาจะสูญเสียร่างพลังทุกร่างไป

เรื่องเหล่านี้ แม้ต้าซือมิ่งไม่ได้พูด แต่เยี่ยนอวี๋ก็เดาได้แล้ว

ดังนั้น… นอกจากนางจะหยุดการกลืนกินแอตแลนแล้ว นางจะซ่อมแซมมันด้วย แม้ในระหว่างนี้อาจจะทำให้สิ่งมีชีวิตแอตแลนที่ไร้เดียงสาต้องตาย กระทั่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ตาม

แต่ว่า… นางตัดสินใจแล้ว

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท