ตอนที่ 621 เด็กอัจฉริยะที่อยู่ในกำมือระเบิด
จากนั้น… หรงอี้เรียก “ลูก”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเงยหน้ามองท่านพ่อของเขาทันที
เมื่อเยี่ยนอวี๋ได้ยินสามีสั่งลูก หนังตานางก็กระตุก “ประเดี๋ยวพ่อจะส่งเจ้าเข้าไป เจ้าต้องใส่เด็กพวกนั้นเข้าไปในถุงของเจ้า จากนั้นนำไข่มุกเม็ดหนึ่งที่อยู่ในนั้นออกมาให้พ่อด้วย”
“อ้ะเนะๆ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าสงสัย เพราะว่าถุงของเขามีไว้ใส่ข้าวเท่านั้นนี่นา
ต้าซือมิ่งพูดขึ้นว่า “แอนนาน้อยก็ใส่เข้าไปแล้วมิใช่หรือ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าชะงักก่อนจะพยักหน้าบอกว่าเข้าใจแล้ว
หรงอี้จึงปล่อยเด็กน้อยลงมา
เยี่ยนอวี๋รับเด็กน้อยไว้ทันทีและเริ่มแสดงความเป็นห่วงแบบมารดาทั่วไป “เจ้าจะปล่อยให้เสี่ยวเป่าเข้าไปคนเดียวหรือ”
“อ้ะเนะๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่า เป่าทำได้
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่วางใจอยู่ดี ทว่าต้าซือมิ่งพูดขึ้นว่า “ถือโอกาสตอนที่มังกรตัวนั้นยังอาละวาดอยู่ข้างนอก เสี่ยวเป่าเข้าไปตอนนี้ปลอดภัยที่สุด”
“ก็ถูกนะ” อินหลิวเฟิงเห็นด้วยทันที “กูไหน่ไน รีบลงมือให้ไว ข้าเชื่อในความปราดเปรียวของท่านเสี่ยวเป่า”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากระทืบเท้าเบาๆ อย่างครื้นเครง เพื่อบอกให้ท่านแม่เขาปล่อยมือ
เดิมทีเยี่ยนอวี๋ยังคงไม่วางใจ แต่เมื่อนางคิดได้ว่าอย่างมากนางก็แค่ทำลายที่นี่ทิ้งเสีย นางจึงยอมปล่อยมือแต่โดยดี
เด็กน้อยบินเข้าไปในตำหนักผ่านหน้าต่างบานหนึ่งอย่างดีอกดีใจ
จิตสัมผัสของเยี่ยนอวี๋ตามเด็กน้อยไปทันที…
“เนะ” เด็กน้อยที่เข้าไปข้างในแล้วก็พบว่าที่นี่มีทารกน้อยที่เหมือนกับเขามากมาย และยังมีทารกที่โตเท่าเขาก่อนหน้านี้บางส่วน บางคนกำลังร้องไห้ บางคนกำลังนอน เยอะแยะไปหมด
“อ้ะเนะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ประหลาดใจก็บินขึ้นมาวนดูรอบหนึ่ง
เยี่ยนอวี๋ “…” เจ้าเด็กคนนี้…
อินหลิวเฟิงจึงเอามือป้องปากเรียกเสี่ยวเป่าเบาๆ ว่า “ท่านเสี่ยวเป่า รีบจับเด็กๆ ได้แล้วแล้วก็รีบออกมา อย่ามัวแต่เล่นในนั้น ที่นั่นไม่ปลอดภัย!”
“เจ้าตะโกนแบบนี้ เขาไม่ได้ยินหรอก” กู้จื่อเฟิงหมดคำจะพูด จนถึงบัดนี้เขายังคงไม่รู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร ไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เลย หรือว่ามาเพื่อรับใช้คุณชายน้อยท่านนี้จริงๆ นะ?
ทว่าเขาเพิ่งพูดจบ ใบหูของเสี่ยวเป่าก็ตั้งขึ้นเหลือบมองเขาทีหนึ่ง
ได้ ได้ยินเสียอย่างนั้น
“ดูสิ ดูสิ” อินหลิวเฟิงได้ใจทันที “ค่ายกลสกัดกั้นเหล่านี้ทำอะไรกับเสี่ยวเป่าไม่ได้หรอก ไม่เช่นนั้นต้าซือมิ่งก็คงไม่ปล่อยให้เสี่ยวเป่าเข้าไป”
“…ก็ได้ ข้าไม่รู้เรื่องเอง” กู้จื่อเฟิงได้แต่พูดเช่นนี้
ส่วนเด็กน้อย เขาก็กำลังจับเหล่าทารกน้อยใส่ถุงแล้ว
เขาที่นำถุงออกมาและใส่ลงไปทีละคน เมื่อจริงจังขึ้นมาแล้วก็ทำอย่างมีระเบียบแบบแผน ทำเอาอินหลิวเฟิงร้อนรนไม่ไหว “ท่านเสี่ยวเป่า เร่งมือหน่อย มังกรยักษ์จะกลับมาแล้ว”
หากเอ้อร์เหมาอยู่ที่นี่ เขาต้องไม่ปล่อยให้อินหลิวเฟิงพูดประโยคหลังออกมาแน่ เพราะว่าเอ้อร์เหมารู้จักปากอีกาของนายท่านของเขาดีว่าศักดิ์สิทธิ์เพียงใด
ดังนั้น อินหลิวเฟิงเพิ่งพูดจบ
กรร…
มังกรยักษ์สีเขียวเข้มก็เลื้อยมาทางนี้จริงๆ แล้ว
กู้จื่อเฟิง “…”
ปากเสียจริงๆ
เยี่ยนอวี๋ถึงกับกลอกตาใส่เขา ในขณะเดียวกันก็ส่งกระแสจิตเร่งเร้าเด็กน้อย “เสี่ยวเป่าออกมาเร็วเข้า ไม่ต้องจับแล้ว” เด็กคนอื่นย่อมไม่สำคัญเท่าเด็กของตนเอง หากจะช่วยก็ต้องมั่นใจว่าลูกของตนไม่เป็นอะไร
“รอหน่อย…” เด็กน้อยจู่ๆ ก็ส่งกระแสจิตได้อีกครั้ง เขาตอบท่านแม่ของเขาด้วยเสียงหน่อมแน้ม ในขณะเดียวกันก็จับทารกทีละคนสองคนใส่เข้าไปในถุงของเขา
อีกไม่นานมังกรยักษ์ก็จะกลับมาถึงแล้ว
เยี่ยนอวี๋เตรียมลงมือ
ต้าซือมิ่งกลับกอดนางเข้ามาในอ้อมอก พูดปลอบข้างหูนางว่า “อย่าได้วิตก”
“องค์เทพมังกร”
“ถวายบังคมองค์เทพมังกร…”
เสียงหมอบกราบดังขึ้นจากบริเวณใกล้ๆ
สายตาของมังกรยักษ์สีเขียวเข้มที่อยู่บนท้องฟ้ามองไปยังห้องโถงด้านข้างที่เยี่ยนอวี๋พวกเขาอยู่ ซึ่งเป็นตำหนักหลักในพระราชวัง
การมาของพวกเยี่ยนอวี๋ในวันนี้ช่าง ‘ประจวบเหมาะ’ บังเอิญตรงกับวันที่เหล่าตระกูลน้อยใหญ่ในมหาทวีปเทียนอวี่เลือกเด็กอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของวงศ์ตระกูลมาบูชาให้องค์เทพมังกร
ทั้งหมดเป็นเพียงเพราะ ‘การอาละวาด’ ก่อนหน้านี้เพียงครั้งเดียวของเยี่ยนอวี๋ ทำให้เจดีย์น้อยสีขาวเกือบจะแตกสลาย พลังงานจิตวิญญาณของของมหาทวีปเทียนอวี่รั่วไหลขั้นรุนแรง ตบะของเหล่าผู้แข็งแกร่งถดถอยอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนหวาดวิตก
เหล่าตระกูลใหญ่อยู่ในความตระหนก ได้แต่มาขอคำชี้แนะจากองค์เทพมังกร และมอบเครื่องบูชาให้ ดังนั้นถึงแม้จะรู้ว่ามังกรยักษ์กำลังโกรธกริ้ว หัวหน้าผู้อาวุโสคนหนึ่งยังคงขอคำชี้แนะแทนทุกคนว่า “องค์เทพมังกร ไม่ทราบว่าตบะที่ถดถอยในยามนี้สามารถฟื้นฟูได้หรือไม่ และจะฟื้นฟูได้เมื่อใด”
โชคดีที่มังกรยักษ์ให้คำตอบว่า “เมื่อข้าได้รับการสังเวยแล้วจะทำนายและส่งบุตรมังกรไปรายงานทันที แต่บัดนี้หมู่บ้านตระกูลเจี่ยงปรากฏผู้สังหารมังกร พวกเจ้าต้องหาตัวจอมโจรนั่นให้เจอและส่งมาที่วังมังกร ข้าจึงจะให้บุตรมังกรส่งสารต่อไปได้”
เมื่อสิ้นเสียง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอื้ออึง
“ผู้สังหารมังกร? ใครกันบังอาจเช่นนี้”
“บาปกรรมจริงๆ”
“องค์เทพมังกรโปรดวางใจ เราต้องจับจอมโจรนั่นให้ได้ในเร็ววันและส่งให้ท่านลงโทษ” เหล่าตระกูลน้อยใหญ่คุกเข่าให้สัญญา ล้วนรู้สึกว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว มีผู้สังหารมังกรปรากฏขึ้นได้อย่างไร
เมื่อก่อนมีนักรบมังกรคนหนึ่งออกอาละวาดมหาทวีปเทียนอวี่จนเละเทะ ตอนนี้ยังมีผู้สังหารบุตรมังกรโผล่มาอีก โชคดีที่บุตรมังกรที่ถูกสังหารเป็นเพียงบุตรมังกรตัวน้อย ไม่ใช่องค์เทพมังกร มิเช่นนั้น…
ทุกคนไม่กล้าคิด
ทว่ามังกรยักษ์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เนื่องจากบุตรมังกรถูกฆ่า สร้างความเสียหายต่อข้าเป็นอย่างมาก พวกเจ้าต้องสังเวยอีกหนึ่งร้อยแปดชีวิต ข้าจึงจะช่วยทำนายโชคชะตาให้พวกเจ้าได้”
“…”
ทุกคนเงียบงันทันที
ถึงอย่างไรเด็กอัจฉริยะที่ว่าก็หายาก จะเป็นเด็กไร้ประโยชน์ที่ไม่มีพรสวรรค์หรือพลังวิเศษไม่ได้ ต้องเป็นเด็กอัจฉริยะที่เกิดมาพร้อมกับปราณเทพ พลังเหนือธรรมชาติเช่นนี้ หากเติบโตได้สำเร็จก็จะกลายเป็นวีรบุรุษ น่าเสียดายที่องค์เทพมังกรกำหนดว่าต้องสังเวยเด็กอัจฉริยะเหล่านี้
ดังนั้นผู้แข็งแกร่งของมหาทวีปเทียนอวี่จึงไม่ได้มีมากมายมาตั้งแต่ในอดีต บัดนี้องค์เทพมังกรยังต้องการเด็กอัจฉริยะอีกร้อยคน ทำให้ทุกคนไปไม่ถูกจริงๆ ทว่าองค์เทพมังกรก็พูดขึ้นว่า “ทำไมรึ ไม่เต็มใจหรือ เช่นนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป สิบตระกูลใหญ่พวกเจ้าก็ออกจากเกาะมังกรไปเสีย ย่อมมีตระกูลอื่นที่เต็มใจเข้ามาในเกาะมังกร”
“องค์เทพมังกรเข้าใจผิดแล้ว พวกข้าเต็มใจ”
“ใช่แล้ว พวกข้าเต็มใจแน่นอน”
“ไม่ ตระกูลของข้าไม่… อุ๊บ” ผู้แข็งแกร่งตระกูลหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าจะพูดว่าไม่เต็มใจถูกคนในตระกูลปิดปากไว้ ซึ่งผู้แข็งแกร่งคนนี้ก็คือคนที่รับสตรีวัยกลางคนที่ตัวลอยกระเด็นคนนั้นไว้ เพราะว่าสตรีคนนี้ก็คือภรรยาของเขา และลูกชายคนเล็กของเขาเป็นหนึ่งในเด็กอัจฉริยะหนึ่งร้อยแปดคนที่ถูกเลือก ตอนนี้ถูกเด็กน้อยจับใส่ในถุงแล้ว
“เต็มใจก็ดี ข้าต้องเห็นเด็กอัจฉริยะภายในสามวัน” เมื่อพูดจบ องค์เทพมังกรก็เลื้อยไปทางตำหนักที่พวกเยี่ยนอวี๋อยู่
เจ้าตัวน้อยในครานี้ เขาเพิ่งจะเก็บทารกน้อยคนสุดท้ายลงไปในถุงของเขา ยังไม่ทันกลับไปยังอ้อมอกของท่านพ่อ องค์เทพมังกรก็เปิดหลังคาตำหนักออก
“!”
อินหลิวเฟิงเบิกตาโพลง
เยี่ยนอวี๋ตึงเครียดสุดขีด
ต้าซือมิ่งกลับยังคงทำตัวสบายๆ
ส่วนเจ้าตัวน้อย เขาเงยหน้ามองมังกรยักษ์ที่เปิด ‘ฝา’ ตัวนั้น และยิ้มให้มัน “อ้ะเนะ…”
องค์เทพมังกรที่แต่เดิมต้องโมโหเพราะเห็นเด็กอัจฉริยะเพียงคนเดียวก็เบิกตากว้าง สำรวจเจ้าตัวน้อยอย่างละเอียด
เด็กน้อยสบตามันครู่หนึ่ง เขากระดกก้นขึ้นอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย ทำท่าจะคลานไปหาท่านพ่อแล้ว
“ฮ่าๆๆ” จู่ๆ มังกรยักษ์ก็หัวเราะเสียงดังกึกก้อง ทำเอาเหล่าผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อยู่ในตำหนักข้างๆ ตกใจ “เกิดอะไรขึ้น”
“ดีมาก” เห็นได้ชัดว่ามังกรยักษ์พึงพอใจอย่างมาก มันหันไปมองตระกูลใหญ่ทั้งสิบตระกูล “แม้ครานี้พวกเจ้าจะสังเวยเด็กอัจฉริยะเพียงคนเดียว แต่กลับเป็นเด็กอัจฉริยะหนึ่งในหมื่นที่หาได้ยาก ครานี้ข้าขอทำข้อยกเว้น หลังจากเสพเขาแล้ว ข้าจะทำนายโชคชะตาให้พวกเจ้า”
ตระกูลใหญ่ทั้งสิบ “?”
แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่เหมือนกับว่าจะเป็นเรื่องดี?
และความเป็นจริงคือ…
“มา”
เมื่อกรงเล็บขององค์เทพมังกรกวักเรียกนำตัวเด็กน้อยไว้ในอุ้งมือ
กระบี่ไท่ชางในร่างกายของเยี่ยนอวี๋ก็ร้อง ‘วิ้ง’
แต่ต้าซือมิ่งไม่ได้ปล่อยให้นางใช้พลังส่วนนี้ นางเองก็ยังยับยั้งไว้ เพราะว่านางรู้ว่าตอนนี้พวกเขาต้องหาต้าซือมิ่งสีเขียวคนนั้นในเจอในโลกเจดีย์แห่งนี้
ทว่า…
“ไม่ต้องเป็นห่วง มีข้าอยู่” หรงต้าซือมิ่งที่ลูบหลังของภรรยาเบาๆ อันที่จริงเขาสื่อสารกับเด็กน้อยผ่านทางกระแสจิตตลอดเวลา ดังนั้นเจ้าตัวน้อยที่เดิมทีไม่หวาดกลัวอยู่แล้วก็ยิ่งไม่รู้สึกกลัว
ครานี้เองเขากำลังมององค์เทพมังกรอย่างไร้เดียงสา “เนะ?”
“ฮ่าๆๆ” องค์เทพมังกรมองเด็กน้อยอย่างโปรดปราน น้ำลายจะไหลลงมาอยู่แล้ว นี่คือเด็กอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่มันเคยเจอมา ปราณเทพอันศักดิ์สิทธิ์ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
น่าเสียดาย…
องค์เทพมังกรเพิ่งจะชื่นชมเด็กอัจฉริยะตัวน้อยชั้นดีเช่นนี้เสร็จ
ตูม
เด็กอัจฉริยะตัวน้อยก็ระเบิดในอุ้งมือของมัน
จากนั้น… ก็หายไปแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้