ตอนที่ 622 ต้าซือมิ่งทั้งสามผสานตัว เสี่ยวเป่าปลุกพลังวิเศษ
“เนะ”
เจ้าตัวน้อยที่หายวับ เขาก็ปรากฏตัวในอ้อมอกของท่านพ่อเขาอย่างแม่นยำในครานี้ ทำเอาเยี่ยนอวี๋ตะลึงงัน
องค์เทพมังกรตะลึงยิ่งกว่า เพราะมันไม่สามารถรู้สึกได้เลยว่าเด็กอัจฉริยะตัวน้อยหายไปอย่างไร และหายไปที่ไหนแล้ว
ที่น่ากลัวคือต้าซือมิ่งปรากฏตัวบนศีรษะขององค์เทพมังกรราวกับวิญญาณแล้ว
“นั่นมัน…”
ผู้แข็งแกร่งประจำตระกูลต่างๆ ล้วนคิดว่าตนเองตาฝาด คิดว่าคนที่ตนเองเห็นไม่ใช่มนุษย์จริงๆ อาจจะเป็นภาพลวงตา พวกเขาพากันขยี้ตา
เพียงแต่ว่า ก่อนที่พวกขาจะขยี้ตาและก่อนที่องค์เทพมังกรจะหายงงงวย จิตเหนือสำนึกของต้าซือมิ่งก็พุ่งเข้าไปในอนุสติขององค์เทพมังกรอย่างเผด็จการแล้ว
กรร
องค์เทพมังกรคำรามเสียงน่าสะพรึง พร้อมกับหมุนศีรษะไปรอบหนึ่ง
น่าเสียดาย…
“ฮ่า…”
สิ่งที่ได้มามีเพียงเสียงหัวเราะสนุกสนานของเจ้าตัวน้อย เพราะเจ้าตัวน้อยในตอนนี้กำลังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในอ้อมอกของท่านพ่อ สนุกจังเลย
เหล่าผู้แข็งแกร่งประจำตระกูลต่างๆ ของมหาทวีปเทียนอวี่เพิ่งเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้เห็นภาพลวงตา แต่นั่นเป็นคนจริงๆ เขายืนอยู่บนศีรษะขององค์เทพมังกร มิหนำซ้ำ…
“นักรบมังกรคนนั้นอีกแล้ว”
“บัดซบ เขามาอีกแล้ว สีผมยังเปลี่ยนไปด้วย”
“ไม่นะ เขายังอุ้มลูกด้วย บ้าเอ๊ย แม้แต่ลูกก็มีแล้ว ปัญหาคือใครคือภรรยาของเขา…” เสียงวิพากวิจารณ์ดังเซ็งแซ่ มีทั้งน้ำเสียงตกตะลึง หวาดกลัวและประหลาดใจ
องค์เทพมังกรในครานี้ มันจะร้องไห้อยู่แล้ว เพราะว่าต้าซือมิ่งกำลังค้นหาวิญญาณของมันอย่างเผด็จการ
ต้าซือมิ่งเช่นนี้ ทำให้อินหลิวเฟิงยอมแพ้จนอยากจะก้มกราบบูชา “เจ้าเล่ห์จริงๆ ถือโอกาสตอนที่ท่านเสี่ยวเป่าทำให้ฝ่ายตรงข้ามงงงัน ต้าซือมิ่งก็ลงมือสืบค้นวิญญาณทันที องค์เทพมังกรไม่ทันตั้งตัว ความลับทั้งหลายคงถูกต้าซือมิ่งค้นเจอหมดแล้ว”
“ใช่แล้ว” กู้จื่อเฟิงเองก็คิดไม่ถึงว่าต้าซือมิ่งที่ดูสง่าผ่าเผยราวกับเทพ อันที่จริงจิตใจอำมหิตเช่นนี้ ดูองค์เทพมังกรสิ ถูกรังแกจนกลายเป็นเช่นใดแล้ว
อ๊ากกก…กรร…
องค์เทพมังกรที่คร่ำครวญพยายามดิ้นรนไม่หยุด มันพยายามสกัดกั้นการสืบค้นวิญญาณของต้าซือมิ่ง น่าเสียดายที่ทันทีที่ต้าซือมิ่งลงมือ มันก็เหมือนกับปลิงขนาดใหญ่ที่แข็งแรงแทรกซึมเข้าไปทั่วทุกมุมของวิญญาณของมัน จนมันไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้
ทว่าองค์เทพมังกรเองก็แข็งแรง ขณะที่มันถูกสืบค้นวิญญาณอย่างเจ็บปวด มันก็ยังสามารถใช้กรงเล็บมังกรของมันดึงทึ้งศีรษะของตนเอง เหมือนกับว่าแม้ศีรษะของตนจะเป็นแผลเหวอะหวะก็ไม่ยอมให้จอมโจรได้สิ่งที่ต้องการ
น่าเสียดาย…
“อ้ะเนะ อ้ะเนะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มือซ้ายขว้างหินฝนหมึกออกไปและมือขวาขว้างเจดีย์องค์หนึ่งออกไปปัดกรงเล็บทั้งสองข้างขององค์เทพมังกรออกทันที เจ็บจนมันร้องไม่หยุด
“ฮ่า…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดว่ากำลังสนุกสนานมาก
อินหลิวเฟิงเห็นดังนั้นก็อ้ำอึ้ง “ในที่สุดก็รู้ว่าเหตุใดท่านเสี่ยวเป่าจึงแข็งแกร่งขึ้นทุกวันแล้ว ต้าซือมิ่งสอนได้ดีจริงๆ… ต่อสู้อย่างกับเล่น นี่ยังไม่ครบขวบเลยนะ”
ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง
แสงหมอกสีม่วงเจิดจรัสแผ่ซ่านออกมา เห็นได้ชัดว่าต้าซือมิ่งสืบค้นวิญญาณสำเร็จแล้ว
ตูม
ครืน…
องค์เทพมังกรร่วงลงไปในตำหนักทันที หมู่พระตำหนักพังพินาศและทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งลมหายใจเท่านั้น
เหล่าผู้แข็งแกร่งประจำตระกูลทั้งหมดก็เห็นทวยเทพของพวกเขาร่วงตกลงมาจากอากาศต่อหน้าต่อตา
“นี่มัน…”
คนจำนวนมากชะงักงันไปหมด แม้พวกเขาจะรู้จักตำนานนักรบมังกร แต่สุดท้ายนักรบมังกรในตำนานก็หายไปแล้วนี่ ถูกองค์เทพมังกรของพวกเขาเอาชนะไปแล้วไม่ใช่หรือ
เดิมทีพวกเขาจึงคิดว่า องค์เทพมังกรจะจัดการนักรบมังกรที่ปรากฏตัวอีกคราได้ ทว่ามันกลับพ่ายแพ้ให้อีกฝ่ายเสียก่อน
“นี่มัน…”
เหล่าผู้แข็งแกร่งมากมายที่คิดไม่ถึงว่าต้องเข้าไปช่วย พวกเขารู้ด้วยสัญชาติญาณว่าเทพเซียนที่สามารถเอาชนะองค์เทพมังกรได้ ย่อมไม่ใช่ศัตรูที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ พวกเขาจึงได้แต่ยืนเหวออยู่ที่เดิม
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางปรากฏตัวขึ้นข้างกายต้าซือมิ่งแล้ว “เป็นอย่างไรบ้าง”
“มีเพียง ‘ข้า’ สีเขียวที่เคยเจอมัน อักษรศักดิ์สิทธิ์ในวังมังกรเหล่านี้ไม่ใช่มันเป็นคนเขียน และในความทรงจำของมันก็ไม่มีบุคคลชื่อนี้อยู่ ตอนที่มันปรากฏตัว อักษรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็มีอยู่แล้ว” หรงอี้ตอบ
เยี่ยนอวี๋ถามต่อว่า “อักษรศักดิ์สิทธิ์ของบุตรมังกรเป็นกรรมพันธุ์หรือ”
“อืม” หรงอี้พูดพลางขมวดคิ้ว “ในร่างกายของมันมีพลังส่วนหนึ่งของข้า”
“มันจึงมีสีเขียวหรือ” เยี่ยนอวี๋ถาม
หรงอี้ “…”
เขาที่เม้มปากเล็กน้อยใช้มือแตะศีรษะขององค์เทพมังกรที่ตายไปแล้วและดูดพลังที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของมัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของเขากลับไปอย่างรวดเร็วก่อนที่อักษรศักดิ์สิทธิ์จะสั่นไหว
จากนั้น…
องค์เทพมังกรก็เปลี่ยนสีกลายเป็นมังกรสีดำ
เยี่ยนอวี๋เข้าใจในทันที
“ว้าว”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็กระจ่างทันที
หรงอี้หยิกเด็กน้อยและภรรยาของเขาเบาๆ “ช่วยคุ้มกันข้าที”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบทันทีว่าไม่มีปัญหา
เดิมทีเยี่ยนอวี๋อยากจะถามว่าจะทำอะไร แต่ต้าซือมิ่งนั่งขัดสมาธิลงแล้ว และใช้นิ้วสองนิ้วแตะที่หน้าผาก
ท่าทางนั่นเพียงพอที่จะทำให้สองแม่ลูกเยี่ยนอวี๋ตาเป็นประกาย จากนั้น…
วิ้ง
ต้าซือมิ่งตัวน้อยนั่นปรากฏตัวตามคาด
“อ้ะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจมาก
เพียงแต่ว่าครั้นต้าซือมิ่งตัวน้อยกำลังเดินไปโขกศีรษะให้ต้าซือมิ่งด้วยร่างที่สั่นระริก ฝ่ายหลังกลับเลือดไหลจากทวารทั้งเจ็ดอีกครั้ง ทำเอาสองแม่ลูกเยี่ยนอวี๋ตกใจ
แต่ครานี้ภาพที่หรงอี้อยากจะรู้มาตลอดก็ปรากฏขึ้นในอนุสติของเขา ทำให้นอกจากเขาจะเห็นตนเองผมสีเขียวและสีฟ้าแล้ว ยังเห็นเงาร่างของคนๆ หนึ่งทำลายโลงศพที่ผนึกเขาสองคนนี้ไว้
เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดต้าซือมิ่งผมสีฟ้าและผมสีเขียวจึงไม่มีโลงศพ
ที่สำคัญคือคนๆ นี้ นางใช้อักษรศักดิ์สิทธิ์ที่แปลกประหลาดนั้นรวบรวมพลังทั้งสอง ส่วนหนึ่งมาจากเขาผมสีเขียว อีกส่วนมาจากเขาในร่างผมสีฟ้า และคนๆ นี้… ดูจากรูปร่างแล้วเป็นผู้หญิง
นี่ทำให้หรงอี้อยากจะเห็นนางชัดๆ เขาใช้นิ้วมือแตะหน้าผากอีกครั้ง
น่าเสียดายที่เขาเพิ่งขยับ…
พรวด
เขากระอักเลือดอึกใหญ่ออกมา พ่นเศษชิ้นส่วนที่ติดคราบเลือดออกมาด้วยและเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าคืออวัยวะภายในของเขา
นี่มัน…
“สามี!”
เยี่ยนอวี๋หน้าเปลี่ยนสี
“เนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดศีรษะของท่านพ่อเขาไว้ ร่างกายน้อยๆ ของเขาแผ่ซ่านรัศมีสีขาวเหมือนกับหมอกออกมา
จากนั้น…