ตอนที่ 625 สามี เจ้าชอบข้ามากี่ภพชาติแล้วนะ?
นางรับรู้ได้อย่างคลุมเครือ เหมือนกับว่ามีเสียงคำรามโหยหวนของอสูรดังกึกก้องในโลกใบน้อยภายในเจดีย์ นางอดขมวดคิ้วไม่ได้
ในขณะเดียวกันก็มีแสงสีเขียวมากมายไหลออกมาจากหน้าผากของต้าซือมิ่งและผสานเข้าไปในดอกไม้บนหน้าผากเยี่ยนอวี๋ ทันใดนั้นเอง นางเห็นโลกอันเก่าแก่ใบหนึ่งราวกับมี ‘แสงวาบผ่าน’ …ทรายสีเหลือง พระอาทิตย์มืดมน
พายุที่ปกคลุมไปทั่วพัดพาดวงอาทิตย์ที่ควรจะร้อนแรงเจิดจ้ากลายเป็นพระจันทร์สีแดง
โลกทั้งใบไร้ซึ่งไอชีวิตบริสุทธิ์ มีเพียงพลังอสูรที่คลุ้มคลั่งราวกับพายุหมุน ซึ่งไม่เสถียรเป็นอย่างมาก โลกใบนี้จึงไม่เหมาะกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อ่อนแอ มันกำเนิดอสูรและมารตัวใหญ่มากมาย พวกมันล้วนมีรูปร่างสูงใหญ่ ทั้งกระดูก อวัยวะภายในและเส้นลมปราณของพวกมันแข็งแกร่งมาก
เยี่ยนอวี๋ ‘มองไปสุดสายตา’ นางมองเห็น… ในโลกอันกว้างใหญ่ของจักรวาลแห่งนี้ ดวงดาราและผืนพิภพล้วนไม่ต่างจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในสมัยโบราณ สิ่งที่ต่างกันคือสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในสมัยซ่างกู่ เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้บุกเบิกพื้นที่ที่ค่อนข้างสุขสบายในดินแดนรกร้าง และได้รับการปกป้องจากนักฝึกฌานส่วนหนึ่งที่มีความตระหนักรู้ไม่ธรรมดา สุดท้ายกลายเป็นวงศ์ตระกูลที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม
แต่ที่นี่… เยี่ยนอวี๋ใช้เวลาดู ‘นานมาก’ นางพบว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ของที่นี่ สิ่งมีชีวิตที่ชนะด้วยการตระหนักรู้ สุดท้ายล้วนถูกเหล่าอสูรทำลายก่อนที่พวกเขาจะเติบใหญ่ เพราะว่าพลังอสูรในโลกใบนี้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเช่นเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างมาก
“นี่คงเป็นจักรวาลทางเหนือในอดีตสินะ” เยี่ยนอวี๋เดาได้ว่าสิ่งที่นางเห็นตอนนี้คืออดีตของโลกในเจดีย์ และคือสภาพในอดีตของจักรวาลทางเหนือเช่นกัน
สามีของนางกำลังแบ่งปันความทรงจำที่เขาได้มาจากมังกรยักษ์ตัวนั้นกับนาง
ความรู้สึกเช่นนี้มหัศจรรย์มาก เหมือนกับว่านางกลายเป็นเขา ผสานกับเขาแล้ว
และภายใต้สภาวะเช่นนี้ นอกจากนางจะเห็นอดีตของจักรวาลทางเหนือแล้ว นางยังได้เห็นว่าในที่สุดจักรวาลแห่งนี้ล่มสลายอย่างไร
“หากไม่มีการเพิ่มขึ้นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จักรวาลแห่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะไม่สามารถพัฒนาในระยะยาวได้ อสูรและมารล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักมองการณ์ไกล มีความสุขกับชั่วขณะ” เยี่ยนอวี๋รู้แก่ใจดี ดังนั้นครานั้นที่นางขัดขวางการขยายตัวของแดนมืด สวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็มีสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลายประเภทอาศัย เพราะว่านางรู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายและโหดเหี้ยมขนาดใหญ่เช่นปีศาจหรืออสูรแข็งแกร่งมีแต่จะทำให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าดูมีพลังแข็งแกร่ง แต่หากต้องการความมั่นคงและความเจริญ ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสูงมาวางแผนและกำหนดกฎระเบียบ ดังนั้น… สุดท้ายแล้วจักรวาลทางเหนือกลายเป็นจักรวาลที่มีพลังทรงอานุภาพ แต่กลับไร้ซึ้งกฎระเบียบ และยังเป็นพื้นที่ที่ขาดความเสถียรอย่างยิ่ง
สุดท้ายแล้ว มันก็ถูกแอตแลน ‘จับ’ และกลืนกิน อสูรทั้งหมดหายสาบสูญภายในระยะเวลาไม่กี่ปี โลกของพวกมันล่มสลาย
ก่อนที่จักรวาลจะพังทลาย มีเพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์ส่วนน้อย พวกเขาเข้าไปในเจดีย์ที่บรรพบุรุษเผ่ามนุษย์ท่านหนึ่งสร้างไว้และเจดีย์หลังนี้ก็คือเจดีย์สีขาวในตอนนี้
จากนั้น แม้เจดีย์สีขาวจะถูกยึดครองโดยจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจในแอตแลน แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์เหล่านี้ยังคงถูกรักษาชีวิตไว้ เพราะว่าจักรพรรดิแอตแลนคิดว่าการเลี้ยงคนกลุ่มนี้ไว้ในเจดีย์น้อยน่าสนุกดีเหมือนกัน
“เฮ้อ…”
เยี่ยนอวี๋ถอนหายใจ ถอนหายใจให้กับการพังทลายของจักรวาลแห่งนี้ และถอนหายใจให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของจักรวาลทางเหนือแห่งนั้น
“ซางจวินหรือ”
เยี่ยนอวี๋พึมพำเบาๆ ถึงบรรพบุรุษผู้บุกเบิกเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ทิ้งคบเพลิงไว้ให้จักรวาลทางเหนือ นางรู้สึกสะเทือนใจกับเขาที่สุดท้ายยอมเสียสละชีวิตตัวเองให้เจดีย์สีขาวเพื่อทำให้เจดีย์เกิดสติปัญญาได้สำเร็จ
และเป็นเพราะเช่นนี้ จิตเหนือสำนึกที่นางแผ่ซ่านออกมากำลังอธิษฐานให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของจักรวาลทางเหนือ “ไปเถอะ สุดท้ายแล้วเจดีย์แห่งนี้จะถูกรักษาไว้อย่างปลอดภัย ผู้คนของเจ้าก็จะส่งต่อมันไปตราบนานเท่านาน”
เมื่อความคิดเช่นนี้บังเกิดขึ้น…
วิ้ง!
โลกในเจดีย์เกิดเสียงก้องกังวาน ทำให้ผู้แข็งแกร่งประจำตระกูลต่างๆ และสิ่งมีชีวิตในเจดีย์ตื่นตระหนกทันที!
เยี่ยนอวี๋ไม่คิดเลยว่าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนี้ยังมีจิตสำนึกหลงเหลืออยู่ ถึงอย่างไรสติปัญญาของเจดีย์สีขาวก็ไม่สามารถเทียบเท่ากับผู้ทรงพลังคนนี้ แม้สติปัญญาของเจดีย์จะมาจากการสังเวยของผู้ทรงพลัง แต่มันก็ไม่ใช่การกลับชาติมาเกิดของเขา เขาเพียงแค่ใช้ชีวิตของเขาทำให้เจดีย์สีขาวมีจิตวิญญาณที่สามารถพัฒนาตนเองได้
ในขณะเดียวกัน ในอนุสติของเยี่ยนอวี๋ก็มีเสียงค่อยๆ ดังขึ้นอย่างเชื่องช้าราวกับเพิ่งตื่น “หลายปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้เจอท่าน”
“ข้า?” เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ
“ใช่แล้ว ผู้สร้างสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปฐมราชินีหยวนชูแห่งตำหนักไท่ชาง เยี่ยนอวี๋”
“เจ้ารู้จักข้า?” คิ้วอันวิจิตรของเยี่ยนอวี๋ขมวด เพราะว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ นางไม่เคยรู้มาก่อนว่านอกเหนือจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้วยังมีโลกแอตแลนและโลกแห่งนี้
“ใช่” ซางจวินผู้ทรงพลังในโลกภายในเจดีย์เขากลับตอบอย่างมั่นใจว่า “เพราะว่าข้าเคยพยายามติดต่อท่าน อยากขอให้ท่านช่วยเหลือจักรวาลรกร้างของข้า น่าเสียดายที่ข้าล้มเหลว ระดับตบะของข้าทำให้ข้าไม่สามารถออกจากจักรวาลรกร้างเพื่อสื่อสารกับท่านได้”
“แต่เจ้ารู้ว่ามีการดำรงอยู่ของข้า” นี่คือสิ่งที่เยี่ยนอวี๋คิดไม่ถึง
“มันคือความรู้แจ้งที่ท่านหรงมอบให้ข้า ทำให้ข้ารู้ถึงการมีอยู่ของท่าน” ซางจวินเปิดเผยความจริงทันที “ไม่คิดเลยว่าท่านหรงและท่านได้สมรสกันแล้ว”
เยี่ยนอวี๋ “???”
นางรู้สึกว่าตนเองมีคำถามมากมาย สามีคนนี้ของตนเหมือนกับว่าจะมีเรื่องที่นางไม่รู้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย มิหนำซ้ำเหมือนกับว่าเขาจะรู้จักนางและจำนางได้เมื่อนานมาแล้ว แต่นางยังไม่ทันได้ถามอะไร ซางจวินก็พูดขึ้นว่า “บัดนี้ข้าจะถ่ายทอดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจักรวาลรกร้างที่ข้ารู้ตลอดชีวิตของข้าให้แก่ท่าน เพื่อตอบแทนความเมตตาของท่านที่มีต่อคนที่นี่”
เมื่อพูดจบ ไม่ทันรอเยี่ยนอวี๋ตอบ แสงศักดิ์สิทธิ์จางๆ แผ่ซ่านออกมาจากโลกในเจดีย์และผสานเข้าไปในแสงดาวของเยี่ยนอวี๋
เพียงชั่วพริบตา… เยี่ยนอวี๋ผู้ซึ่งมีความสามารถในการตระหนักรู้ที่แข็งแกร่งและมีความรู้เรื่องรากฐานการสร้างโลก นางก็สามารถเข้าใจได้ว่าจักรวาลทางเหนือแห่งนี้กำเนิดขึ้นจากธาตุดินโบราณ ซึ่งก่อให้เกิดสรรพชีวิต
ดูจากเรื่องนี้แล้ว จักรวาลรกร้างก็เหมือนกับจักรวาลแอตแลน จักรวาลรกร้างตั้งอยู่ได้ด้วยดิน อีกจักรวาลตั้งได้ด้วยแสง
เพียงแต่ว่าธาตุดินของจักรวาลรกร้างรุนแรงเกินไปจนทำให้จุดเริ่มต้นของทั้งเอกภพไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งหลังจากนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามารักษาเสถียรภาพและปรับปรุงกฎเหล่านี้ ผลลัพธ์จึงปรากฏชัดในตัวมันเอง
“ดินหรือ” เยี่ยนอวี๋ที่พึมพำเบาๆ ชั่วขณะที่นางลืมตาขึ้น ดอกไม้บนหน้าผากก็จำลองแสงสีเหลืองอ่อนจางๆ ออกมา ซึ่งเป็นผลจาการที่นางตระหนักรู้ถึงปรมัตถ์แห่งจักรวาลดั้งเดิมทางเหนือ เหมือนกับที่ถูกหมู่ดาวสวมมงกุฎหลังจากนางตระหนักรู้ถึงกฎดั้งเดิมของจักรวาลแอตแลน บัดนี้นางกลายเป็นผู้รู้จักกฎดั้งเดิมจักรวาลทางเหนือดีที่สุด!
เพียงแต่ว่า… ในขณะที่เยี่ยนอวี๋ครุ่นคิด มังกรยักษ์ที่ถูกมัดไว้ตนนั้นกลับลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน! มันเป็นดวงตาสีเขียวขนาดใหญ่คู่หนึ่ง!