เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 628 ปลาเปรี้ยวหวานหวานจังเลย ออกจากเจดีย์บุกยมโลก

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 628 ปลาเปรี้ยวหวานหวานจังเลย ออกจากเจดีย์บุกยมโลก

แม้แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าเอง เมื่อเขาเห็นตัวอักษรสามตัวนั้นก็จับใบหน้าน้อยๆ ของตนเองอย่างรู้สึกสงสัย “เนะ?”

แม้จะยังไม่รู้จักตัวหนังสือ แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่ามีความสามารถในการจดจำกลิ่นอายได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกได้ว่าตัวอักษรสามตัวนี้มีกลิ่นอายในจวน เพราะว่าตัวอักษรสามตัวนี้คือ… ตำหนักไท่ชาง

เยี่ยนอวี๋โพล่งถามออกไปทันทีว่า “ตัวอักษรสามตัวที่หายไปจากที่สถิตของข้าถูกเจ้าขุดไปหรือ?”

“อืม” ต้าซือมิ่งตอบเสียงสูง สีหน้าจริงจัง สง่ามาดมั่น ไร้ซึ่งความอับอายหลังถูกจับได้ว่าตนเป็นผู้ขโมยป้ายชื่อหน้าจวนไป

เยี่ยนอวี๋ “…”

ชั่วขณะที่นางอ้ำอึ้งก็เหลือบมองต้าซือมิ่ง “ตั้งแต่เมื่อใด”

“หลังจากที่เจ้าร่วงหล่นไปไม่นาน ข้าขุดกลับมาเพราะความโมโห แต่ผู้ที่ขโมยกลับมาคือข้าในร่างสีฟ้า” ขณะที่พูด เขาก็จูงภรรยาเดินมาข้างหน้าป้ายอักษรตำหนักไท่ชาง เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อยราวกับได้ใจ

เยี่ยนอวี๋เห็นดังนี้ก็หันมาจูบริมฝีปากของเขาเบาๆ “เจ้าดูได้ใจนะ?” นี่มันแตกต่างจากขุดหลุมฝังศพของนางอย่างไร เยี่ยนอวี๋คิดว่าหากมีหลุมศพของนางจริงๆ เจ้าหมอนี่คงขุดไปด้วยแล้ว ช่างน่า…

หรงอี้ที่ประคองท้ายทอยของภรรยาไว้และประกบริมฝีปากลงไป เขาก็รู้สึกได้ใจจริงๆ “หากไม่ใช่เช่นนี้ แล้วข้าจะกลับชาติมาเกิดเป็นต้าซือมิ่งแห่งต้าซย่าครั้นเจ้าเกิดใหม่ในราชวงศ์ต้าซย่าได้ราวกับบุพเพสันนิวาสเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า”

เยี่ยนอวี๋ประคองใบหน้างดงามนั่นไว้ก่อนจะเขย่งเท้าจูบไล่จากหน้าผาก ดวงตา จมูกที่สูงโด่ง และลงมาที่ริมฝีปากที่เย็น กระชากหัวใจและทำให้หัวใจนางกระชุ่มกระชวยนั้น

หรงต้าซือมิ่งที่รวบตัวเด็กน้อยไว้ดีกว่าเดิม เขาก็รัดปลาน้อยตัวนี้ไว้แน่นกว่าเดิม ไม่ให้นางหนีไปไหนอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจากความจำที่เขาได้คืนในยามนี้ ในอดีตของพวกเขายังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการ ‘เห็น’ นาง และขโมยของของนางก็ตาม

ทว่าขณะที่จำเรื่องเหล่านี้ได้… หรงอี้ยังคงรู้สึกถึงการได้สิ่งที่เป็นของตนเองแต่แรกกลับคืนมาอีกครั้ง นี่คือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของเขา เตร็ดเตร่ไปมา สุดท้ายก็ยังกลับมาหาเขาอยู่ดี

ความรู้สึกเช่นนี้… หรงอี้ชอบยิ่งนักก็เหมือนกับความรู้สึกประหลาดปนดีใจและมีความสุขในยามที่ของรักของหวงที่คิดถึงมานานถูกส่งกลับมา

หรงอี้จำความรู้สึกเมื่อครั้น ‘เขา’ ขุดป้ายนี้มาได้เป็นอย่างดี มันเป็นความรู้สึกอึดอัดจากการต้องพลัดพราก

ทว่า… ไม่ใช่การพลัดพราก แต่มันคือโชคชะตา คือสายใยของสามีภรรยาแล้วจะให้ไม่ดีใจได้อย่างไร

เยี่ยนอวี๋ที่รับรู้สึกความสุขเช่นนี้ของเขา อันที่จริงนางเองก็มีความสุขมาก

แท้ที่จริงแล้ว สามีของนางพยายามมานานแล้ว

แท้ที่จริงแล้ว พรหมลิขิตของพวกเขาเกิดขึ้นตั้งแต่แรก

แท้ที่จริงแล้ว เอเลน่าและมิคาเอลก็ไม่ได้รู้จักเขาก่อนนางนี่

เยี่ยนอวี๋ที่คิดเช่นนี้ เมื่อนางถอนจูบก็เผลอพูดออกมา…

หรงอี้ที่ได้ยิน เขาก็จูบเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่อิงคอและไหล่ของเขา กึ่งยิ้มกึ่งแซวว่า “แน่นอน คนแรกสุดคือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คนที่ข้าชอบที่สุดก็คือเยวอวี๋เอ๋อร์ ภรรยาของข้าก็คือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าปลาน้อยเปรี้ยวหวาน ทั้งหวานทั้งเปรี้ยว”

เยี่ยนอวี๋กัดชายคนนี้ทันที จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขากำลังบอกว่านางหึง นั่นก็เป็นเพราะว่าเขายั่วยวนผีเสื้อตัวน้อยเก่งเกินไป ดูผีเสื้อราตรีพวกนี้สิ ไม่รู้ว่าคิดแผลงๆ มาเท่าไรแล้ว

“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยากจะพูดอะไร เขาก็ขยับตัวเล็กน้อย บอกว่าเป่ากำลังจะพูดแล้วนะ พ่อและแม่เสร็จหรือยัง เสี่ยวเป่าจะดูแล้วนะ

เยี่ยนอวี๋ยื่นมือไปลูบเด็กน้อยและรวบตัวเด็กน้อยเข้ามาให้อ้อมอกของนางก่อนจะจูบอีกสองสามที “จะว่าไปแล้ว หากไม่มีเสี่ยวเป่า เจ้าคงต้องรอต่อไป อาจจะยังไม่สำเร็จ เรื่องบัดซบพวกนั้นที่เจ้าก่อ ข้าคงต้องต่อสู้กับเจ้า”

หรงอี้ที่หลุดหัวเราะออกมา เขาก็ลูบเสี่ยวเป่า “นั่นสินะ โชคดีที่มีเสี่ยวเป่า”

“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดวงตาเป็นประกาย แม้เขายังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับเขาในการเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ แสดงสีหน้าดีอกดีใจ

“ไปกันเถอะ” ต้าซือมิ่งที่จูงภรรยา เขาก็พาสองแม่ลูกเดินไปเปิดประตูตำหนักออก และเดินไปตามความรู้สึก ทำให้พวกเขาได้เจอต้าซือมิ่งผมสีเขียวที่นอนอยู่ในตำหนักตามคาด

“อ้ะเนะ อ้ะเนะๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองท่านพ่อสีเขียวที่นอนอยู่บนเตียง จากนั้นก็มองท่านพ่อสีดำข้างกาย อดร้อง ‘ว้าว’ ออกมาไม่ได้

เยี่ยนอวี๋พูดขึ้นว่า “ไปเถอะ ข้าจะพิทักษ์ให้เจ้าเอง”

“เนะๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็โบกมือน้อยๆ อยากเห็นท่านพ่อสองคนของเขากลายเป็นคนเดียว

หรงอี้ก็ไม่ชักช้า เขาผสานกับตนเองร่างสีเขียวทันที

กระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็ว กล่าวคือเดินไปผสานรวมเป็นหนึ่งเพียงเท่านี้ ทำเอาเยี่ยนอวี๋ตะลึงงัน “เสร็จแล้วหรือ”

“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าปรบมือ รู้สึกท่านพ่อเก่งมากๆ

หรงอี้ที่เดินกลับมาหาสองแม่ลูก เขาก็จูบดอกไม้บนหน้าผากภรรยา ถามด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่าต้องสู้กันสักยกหรือ”

เยี่ยนอวี๋พยักหน้าด้วยสัญชาติญาณ สามีนางจูบนางอย่างแรงทีหนึ่ง “เจ้าโง่”

เยี่ยนอวี๋ผู้ที่ไม่เคยถูกด่าว่าโง่ เขาก็กัดปากของต้าซือมิ่ง “เพราะร่างพลังของเจ้าแปลกประหลาดไปหมด เช่นนั้นตอนนี้คือเสร็จแล้วหรือ หลังจากเราออกไปแล้ว เจ้าจะ…”

เยี่ยนอวี๋ที่ไม่เป็นห่วงเรื่องอื่นใด นางกังวลแค่เรื่องเดียว หลังจากออกไปแล้ว เลือดจะไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดอีกครั้ง ร่างกายจะอ่อนแอและสลายอีกหรือไม่

“ต้องไปยมโลกก่อน ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่ามีคนขโมยพลังสองส่วนของข้าไปผ่านพลังวิเศษ คนๆ นี้… น่าจะอยู่ยมโลก เมื่อได้พลังสองส่วนนี้คืนมาแล้ว ผลกระทบจากการผสานสามจักรวาล ไม่ว่าอย่างไรก็จะทำอะไรข้าไม่ได้” หรงอี้อธิบาย

เยี่ยนอวี๋เม้มปาก รู้ว่ามีความหมายโดยนัยคือ ก่อนที่จะหาพลังที่ถูกขโมยไปเจอ สามีของนางยังคงมีอันตราย นอกเสียจากว่า…

“หากข้าสามารถหยุดสภาวะของสามจักรวาลชั่วคราว อันตรายของเจ้าก็จะหยุดด้วยใช่หรือไม่” เยี่ยนอวี๋ถาม

ต้าซือมิ่งอยากจะพูดว่า เรายังมีเวลาเพียงพอ

แต่เยี่ยนอวี๋มองไปที่เขา มองดวงตาล้ำลึกไร้ที่สิ้นสุดคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความถือมั่น ทำให้หรงอี้รู้ว่า ภรรยาต้องการฟังความจริง

เขาจึงพยักหน้า “อืม”

เยี่ยนอวี๋แตะหน้าผากของเขาด้วยหน้าผากของนาง “เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะได้ฝึกมือด้วย”

หรงอี้ยิ้ม มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเนียนนุ่มของภรรยาไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อืม ไม่กังวล ภรรยาต้องปกป้องข้าให้ดี”

“เช่นนั้นออกไปกันก่อนเถอะ” เยี่ยนอวี๋พูดพลางเก็บตัวอักษร ‘ตำหนักไท่ชาง’ สามตัวใส่ถุงวิเศษแล้ว

เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีอกดีใจ “อ้ะเนะๆ เนะๆ…” ออกไปเป่าก็จะโตแล้ว พูดได้แล้ว ดีใจจัง… รีบไปเถอะ~

เยี่ยนอวี๋อุ้มเด็กน้อยที่ดีใจกระดี๊กระด๊าไว้และโอบเอวบางของสามีนางไว้แน่น รู้สึกอิ่มเอมมาก

เมื่อก่อนนางไม่เคยคิดว่าในวันหนึ่งนางจะมีลูกและสามีของตนเอง และยังเป็นสามีที่นางรู้สึกชอบจากใจมากเช่นนี้

แค่… แค่รู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวมาก

และความลงตัวนี้ ในเมื่อนางได้มาแล้วก็ย่อมไม่ปล่อยให้ต้องสูญเสียไป

สวรรค์เก้าชั้นฟ้า แอตแลน จักรวาลรกร้างสามมหาจักรวาลนี้ นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกมันมีปัญหา

นาง ปฐมราชินีหยวนชูแห่งตำหนักไท่ชาง เยี่ยนอวี๋ที่กำเนิดในยุคไท่อี้ เกิดปัญญาในยุคไท่ชู ท้ายที่สุดจะต้องคลี่คลายปัญหาทุกอย่างได้

ในขณะเดียวกัน อินหลิวเฟิงก็พูดคุยกับตระกูลทั้งสิบในเจดีย์เสร็จแล้ว เมื่อเยี่ยนอวี๋พวกเขาออกมา เหล่าผู้แข็งแกร่งพากันหมอบกราบ “ขอบพระทัยปฐมราชินี ขอบพระทัยองค์จักรพรรดิ ขอบพระทัยนายน้อย”

อินหลิวเฟิงรีบขึ้นหน้าพูดว่า “กูไหน่ไน ต้าซือมิ่ง ข้าบอกพวกเขาแล้วว่าเมื่อครู่นี้ท่านเสี่ยวเป่าช่วยเหล่าทารกน้อยไว้ ข้ายังบอกอีกว่าท่านทั้งสามเป็นเทพสวรรค์ที่สถิตลงมาช่วยคลายทุกข์ให้พวกเขา”

นี่ถือว่าเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ช่วยลดปัญหาไปได้มากมาย

เยี่ยนอวี๋จึงมองไปที่เด็กน้อย “เสี่ยวเป่า ปล่อยทารกเหล่านั้นออกมาเถอะ”

“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหยิบถุงของเขาออกมา เริ่มหยิบทารกน้อยทีละคนออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังมีท่าทีอาลัยอาวรณ์ด้วย “อ้ะเนะๆ?” เป่าอยากเก็บคนหนึ่งไว้เล่นเป็นเพื่อน ได้หรือไม่ขอรับ

เยี่ยนอวี๋ที่ฟัง ‘เข้าใจ’ แล้ว นางย่อมไม่อนุญาต “ไม่ได้หรอกจ๊ะ พ่อแม่ของพวกเขาก็เหมือนกับท่านพ่อและท่านแม่ของลูก ไม่อยากแยกกับลูกของตนเอง”

“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงหยิบทารกน้อยคนสุดท้ายออกมา

บิดาของทารก บุรุษสูงเจ็ดฉื่อปล่อยโฮออกมาทันที “รุ่ยเอ๋อร์ เทียนซินเจ้าเห็นหรือยัง รุ่ยเอ๋อร์ของเรากลับมาแล้ว เทียนซิน…”

เทียนซิน คงเป็นสตรีที่ก่อนหน้านี้พยายามจะช่วยลูกของตนเอง เสี่ยงชีวิตตนเองบุกเข้าไปในตำหนัก แต่กลับกระเด็นออกมาและตายคาที่คนนั้น

เยี่ยนอวี๋จึงพูดขึ้นว่า “พาภรรยาเจ้ามา”

“ปฐมราชินี…” ชายหนุ่มวัยกลางคนคนนั้นชะงักเล็กน้อย จนเมื่อคนในตระกูลของเขาเร่งเร้า เขาจึงรีบอุ้มศพภรรยามา

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางได้ชุบชีวิตสตรีนางนั้นโดยอาศัยพลังการเวียนว่ายตายเกิดของที่นี่

พลังเหนือธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทำเอาเหล่าผู้แข็งแกร่งประจำตระกูลทั้งสิบตะลึงงัน

ครานี้เอง ทุกคนล้วนเชื่อในสิ่งที่อินหลิวเฟิงพูดก่อนหน้านี้

“เทพสวรรค์”

“เทพสวรรค์จริงๆ ด้วย”

“ขอบพระทัยปฐมราชินีที่เมตตา…”

เยี่ยนอวี๋มองพลเมืองเหล่านี้ไม่ได้พูดอะไร อินหลิวเฟิงก็ปล่อยให้พวกเขาฝึกฌานอย่างสบายใจ

จากนั้น พวกเขาทั้งกลุ่มก็หายไปต่อหน้าเหล่าผู้แข็งแกร่ง

สตรีที่ได้รับการช่วยเหลือและสามีของนางกำลังงงงัน เพราะว่าพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าการฟื้นคืนชีพลักษณะนี้จะเกิดขึ้น และยังเกิดขึ้นกับพวกเขาเอง พวกเขาจึงพลาดโอกาสขอบคุณเยี่ยนอวี๋ เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ต้องการการขอบคุณ สำหรับนางในยามนี้แล้ว นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ทว่า…

“หากข้าทำให้ท่านแม่ข้าฟื้นคืนชีพได้ ท่านพ่อต้องดีใจมากแน่ๆ” เยี่ยนอวี๋อดพึมพำเบาๆ ข้างหูต้าซือมิ่งไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้จี้โดนจุดอ่อนในใจของนาง

ท่านแม่ที่ให้กำเนิดนางในฐานะมนุษย์…

ท่านแม่ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจและพรสวรรค์เพื่อนางและท่านพี่ของนาง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท