ตอนที่ 632 ต้าซือมิ่งผู้คลั่งเมีย รักสามีแทงใจเทียนตี้
ในจักรวาลดั้งเดิม
“ว้าว…”
เสียงอุทานหน่อมแน้มและดังก้องของเจ้าตัวน้อยเป็นเสียงแรกที่เหล่าทวยเทพได้ยิน ทำให้พวกเขาเผลอยิ้มออกมา ในหัวก็ปรากฏภาพเจ้าตัวน้อยจิ้มลิ้ม
ต้าซือมิ่งที่ถูกเด็กน้อยปีนขึ้นบนบ่าอีกครั้ง เขาก็สัมผัสได้อย่างแจ่มชัดถึงน้ำหนักที่ ‘เพิ่มขึ้น’ อย่างต่อเนื่องขณะที่เด็กน้อยอุทาน ‘ว้าว’ ไม่หยุด
เมื่อเหล่าทวยเทพมาถึง เด็กน้อยก็ ‘อ้วน’ กลับไปเหมือนเดิมอย่างไม่รู้ตัวแล้ว แต่เขายังไม่รู้ตัว ยังคงปรบมือและเงยหน้ามองท่านแม่ของเขาอย่างดีอกดีใจ “ว้าววว”
ปรากฏการณ์รอบกายเยี่ยนอวี๋ยังไม่คลาย นางเองก็กำลังปลดปล่อยพลังและความงดงามที่น่าตะลึงและน่าทึ่ง ทำให้สายตาทุกคู่หยุดอยู่ที่นางอย่างไม่สามารถละได้
หรงอี้เองก็เช่นกัน เขาเหมือนกับเด็กน้อยกำลังมองภรรยาของตนที่เปล่งแสงประกายจรัส รู้สึกว่าภรรยาเช่นนี้ดูอย่างไรก็ดูไม่พอ โดยเฉพาะเมื่อปรากฏการณ์รอบกายภรรยาหายเข้าไปในร่างกายของนาง ความสง่างามที่พวยพุ่งออกมาในชั่วพริบตายิ่งทำให้ต้าซือมิ่งหลงใหล ริมฝีปากบางอันเย้ายวนแทบจะฉีกไปถึงใบหูอย่างไม่รู้ตัวแล้ว
แปะ
เด็กน้อยที่เหม่อมอง น้ำลายก็หยดลงมาทันที หยดลงใส่แขนของเขาเอง
ไม่เพียงเท่านี้…
“โหหห…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อุทานครั้งสุดท้ายออกมา หลังจากเขากระทืบเท้าแล้วก็กอดศีรษะของท่านพ่อเขาไว้อย่างตื่นเต้น “อ้ะเนะ แม่ สวย จังเลย”
หรงอี้ที่ถูกเด็กน้อย ‘ดึงผม’ ตั้งสติได้ เขาก็รวบตัวเด็กน้อยเข้ามาและหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือให้เด็กน้อย
แม้เขาจะไม่ทันเห็นว่าเด็กน้อยน้ำลายไหล แต่เขาก็ได้กลิ่นน้ำลาย ‘สกปรก’ ของเด็กน้อย และจับมือที่เกือบจะถูเสื้อผ้าของเขาไว้ได้ทันควันและเช็ดให้ทันที
“อ้ะ อ้ะๆๆๆๆ…” เด็กน้อยร้องเป็นหนูภูเขาทำเอาท่านพ่อของเขาขมวดคิ้ว ท่านตาและท่านลุงทั้งสองคนของเขาก็มองมาที่เขา จากนั้นสามพ่อลูกก็มองผ้าเช็ดหน้าของต้าซือมิ่งและเปลี่ยนมามองผิวหนังที่ถูกเช็ดจนแดงของเด็กน้อย ในเวลานั้นเหมือนกับถูกพวกเขาจับได้ว่าต้าซือมิ่งทำร้ายเด็กน้อย แสดงสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกทันที
มีเพียงต้าซือมิ่งที่ทนไหว เขายังคงเช็ดมือให้เด็กน้อยต่อไป ในขณะเดียวกันก็หยิกแก้มตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อย “ตื่นเต้นอะไรกัน ก็แค่พูดได้แล้วมิใช่หรือ”
“อ้ะ อ้ะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตื่นเต้นดีใจจนพูดไม่ได้อีกครา เขาก็กลิ้งไปมาในอ้อมอกของท่านพ่อเขา “อ้ะเนะๆ เนะๆ…” เป่าพูดได้แล้ว ดีใจจังเลย…
พรวด กู้จื่อเฟิงอดหัวเราะไม่ได้
อินหลิวเฟิงกระโดดเข้ามาจิ้มเจ้าตัวน้อย “ท่านเสี่ยวเป่า ยินดีด้วย ในที่สุดท่านก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มร่าเหมือบกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
ต้าซือมิ่งถึงกับต้องปลดปล่อยพลังออกมาจึงจะอุ้มเด็กน้อยที่กระโดดโลดเต้นไว้ได้ ทว่าเจ้าตัวน้อยกลับยังชอบมุดไปมาบนร่างกายของเขา มุดไปมาหลายรอบจนเสื้อผ้าของเขายับไปหมด
เมื่อเยี่ยนอวี๋ลืมตาขึ้น สิ่งที่นางเห็นอย่างแรกคือเด็กน้อยที่ร่าเริง นางอดเม้มปากยิ้มไม่ได้ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเป่าดีใจขนาดนี้เลยหรือ”
“อ้ะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโถมตัวไปตาม ‘เสียง’ ของท่านแม่อย่างตื่นเต้นดีใจ
เยี่ยนอวี๋รับไว้ทันที เด็กน้อยที่ตื่นเต้นดีใจกอดท่านแม่ของเขาไว้แน่น “อ้ะเนะ อ้ะเนะๆ…”
เยี่ยนอวี๋ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเด็กน้อยจะพูดอะไร นางก็จูบมือเด็กน้อยที่กลับมามีเนื้อมีหนัง ตอบด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “แม่ได้ยินเสี่ยวเป่าเรียกแม่ ยังชมว่าแม่สวยด้วย”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดีใจจนแก้มถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพู เขาก็กอดท่านแม่ของเขาอย่างมีความสุข หัวเราะไม่หยุด
เยี่ยนอวี๋กอดเด็กน้อยที่มีความสุขจนจะระเบิดและลงมาอยู่ข้างหน้าต้าซือมิ่ง “สามี”
หรงอี้ที่โอบภรรยาและลูกเข้ามาในอ้อมแขน เขาก็ประชิดตัวเข้าไปจูบดอกไม้บนหน้าผากของภรรยา “ภรรยา…”
“แหมๆ…” อินหลิวเฟิงส่งเสียงขึ้น “นี่ยังต้องกินเลี้ยงครอบครัวอีกหรือ ข้ารู้สึกหวานจนอิ่มแล้ว เอิ๊กกก”
จิ่วอิงยิ้มจนดวงตาทั้งสิบแปดดวงกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว นานๆ ทีจะปรากฏความเมตตาที่ดูแปลกประหลาดออกมาซึ่งขัดกับสภาพดุร้ายอำมหิตนั่น ทำเอาซีหวังหมู่เห็นแล้วรู้สึกสยอง “ปู่จิ่วตื่นก่อน เจ้าอย่ายิ้มเช่นนี้อีกเลย นายน้อยจะตกใจเอา”
“ทำไม ข้าจะยิ้มอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” จิ่วอิงโต้กลับอย่างไม่พอใจ
“น่าเกลียดจะตาย” ซีหวังหมู่ตอกกลับทันที
จิ่วอิง “…”
ใครกันแน่ที่น่าเกลียด นังมารร้ายคนนี้ไม่รู้ตัวเลยรึไง
“ยินดีกับนายท่านและจวินโฮ่ว” เทพอัสนีเข้ามาแสดงความยินดี “หายดีเสียที”
ซีหวังหมู่ตอบแทนว่า “ยังไม่หรอก เพียงแค่ไม่เป็นอันตรายแล้ว”
“อาจารย์ ยินดีด้วยที่ท่านเลื่อนขั้นขึ้นอีกระดับหนึ่ง” เทียนตี้ก็ขึ้นมาแสดงความยินดีกับเยี่ยนอวี๋จากใจจริง ยังมองไปที่ต้าซือมิ่งและพูดอย่างเคอะเขินว่า “ยินดีกับอาจารย์พ่อที่ปลอดภัย”
“เด็กดี” หรงอี้ที่ได้โอกาสยังเอาเปรียบต่อไป
เทียนตี้ “…”
เจ้าดอกบัวดำคนนี้น่าโมโหจริงๆ
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับพูดขึ้นว่า “เป็นเด็กดีขึ้นไม่น้อยจริงๆ”
“ฮี่” เทียนตี้เปลี่ยนสีหน้าทันที ท่าทางนอบน้อมเชื่อฟัง “อาจารย์ชมเกินไปแล้ว”
สองมาตรฐานเช่นนี้… หยวนสื่อเทียนจุนเห็นเช่นนี้แล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้ว่านี่จึงจะเป็นเทียนตี้ที่แท้จริง และบ่งบอกได้ว่าเทียนตี้เปิดใจรับจวินโฮ่วได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในขณะเดียวกันก็เห็นตนเองอยู่ในฐานะลูกศิษย์ของปฐมราชินีคนหนึ่งแล้ว
ดีแล้วล่ะ
หยวนสื่อเทียนจุนและเซ่าเฮ่าเป็นคนมีเหตุผล เมื่อก่อนเขาค่อนข้างเป็นห่วงว่ามีวันหนึ่งความรู้สึกของเทียนตี้จะทำให้เขาก่อเรื่องวุ่นวาย
บัดนี้เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว เพียงแต่ว่าหยวนสื่อเทียนจุนเพิ่งจะคิดเช่นนี้ จู่ๆ เทียนตี้ก็มองไปที่ต้าซือมิ่งด้วยสีหน้าจริงจัง “อาจารย์พ่อ ข้ามีข้อสงสัยต้องการขอคำชี้แนะจากท่าน”
เยี่ยนอวี๋อยากจะตอบ… แต่ต้าซือมิ่งกลับตอบเองว่า “ย่อมได้”
“ขอคุยเพียงลำพังได้หรือไม่” เทียนตี้ถาม
“ได้” หรงอี้พยักหน้า
เทียนตี้เลิกคิ้วเล็กน้อย “ดี เชิญอาจารย์พ่อ”
“เชิญ” ขณะที่พูด หรงต้าซือมิ่งก็เดินนำไปก่อนแล้ว ไม่ได้ยอมเทียนตี้เลย มาดเหมือนอาจารย์พ่อยิ่งนัก
เทียนตี้หนังตากระตุก เจ้าหมอนี่…
เทียนตี้ไม่ทันประชดประชันเสร็จ เยี่ยนอวี๋ก็เดินไปข้างเขาพูดขึ้นว่า “เสี่ยวจวิ้นจวิ้น เจ้าอายุไม่น้อยแล้ว อย่ารังแกรุ่นน้องล่ะ”
ในใจเทียนตี้เต็มไปด้วยคำถาม “…รุ่นน้อง???”