ตอนที่ 635 นักแสดงเป่ากำเนิด ชำระล้างบัญชี
เมื่อเทพรับใช้อธิบายเสร็จ สีหน้าของเหยาจีก็ซีดยิ่งกว่าเดิม และยังขวางหน้าต้าซือมิ่งไว้จริงๆ “เช่นนั้นก็… ยิ่งห้ามเข้าไป จวินโฮ่วท่าน… ท่านไปไม่ได้”
หรงอี้เลิกคิ้ว เงยหน้ามองตำหนักที่ตั้งอยู่ไม่ไกลออกไป จากนั้นเขาก็เห็นแสงสีรุ้งจางๆ แผ่ออกมาจากในตำหนัก กลิ่นอายนั่นคือกลิ่นอายของภรรยาของเขาจริงๆ ด้วย?
ต้าซือมิ่งไม่สนใจเหยาจี เขาเดินไปทางห้องบรรทมของวังกว่านเหอทันที
“หรงจวินโฮ่ว”
เหยาจีร้องเรียกอย่างตื่นตระหนก
ในขณะเดียวกัน… นางฟ้าอายุมากคนหนึ่งก็ขวางต้าซือมิ่งไว้ พูดเกลี้ยกล่อมว่า “จวินโฮ่ว ไยจึงต้องทำเช่นนี้เล่า ท่านยังเห็นไม่ชัดอีกหรือ ในห้องบรรทมนั่นคือปฐมราชินีและเทียนตี้ ตี๋อีเหนียงเหนียงของเราจิตใจดี ไม่อยากปิดบังท่านไว้จึงล่อให้ท่านมา บัดนี้หากท่านเข้าไป คนที่รับไม่ได้จะมีแต่จะเป็นตัวท่าน และยังทำให้ตี๋อีเหนียงเหนียงที่มีเจตนาดีของเราต้องผิดหวัง หากท่านไม่เชื่อจริงๆ ก็ลองกลับไปดูที่จักรวาลดั้งเดิมดูว่าปฐมราชินีอยู่ที่ไหน”
เมื่อต้าซือมิ่งฟังถึงตรงนี้… เขายังมีอะไรไม่เข้าใจอีกเล่า ทว่าเขายังคงเหินผ่านนางฟ้าอายุสูงคนนี้ เดินเข้าไปในห้องบรรทม
หลังจากที่เขาเดินผ่านไป นางฟ้าที่เดิมทีขวางเขาไว้ก็เงยหน้าขึ้น ในดวงตาชั่วร้ายคู่นั้นของนางปรากฏประกายแห่งความสำเร็จ เพราะว่า… ขณะที่ต้าซือมิ่งถูกพามายังวังหว่านเหอ เทพรับใช้ของเทียนตี้ก็ไปจักรวาลดั้งเดิมเพื่อขอเข้าพบเยี่ยนอวี๋
“เกิดอะไรขึ้น” หยวนสื่อเทียนจุนสงสัย “เมื่อครู่นี้ซานเซิงขอพบเทียนตี้ ตอนนี้ผู้ติดตามของเทียนตี้ขอพบปฐมราชินี? ข้าต้องไปดูเสียหน่อย”
“ข้าไปด้วย” ซีหวังหมู่ตามหยวนสื่อเทียนจุนไป
เทพอัสนีและเทียนอ๋องเบิกฟ้าครุ่นคิด ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรต้องทำ ลองไปดูแล้วค่อยกลับมาก็ได้ อันที่จริงเป็นห่วงเทียนตี้มากกว่า โดยเฉพาะเทพขุนเขาทั้งสิบเอ็ดองค์
เทพอสูรหน้ามนุษย์พึมพำว่า “ช่วงนี้เทียนตี้โหมงานหนักมากจริงๆ คงไม่ได้ช้ำในหรอกนะ”
“ไปดูแล้วย่อมรู้” เทพขุนเขาทั้งกลุ่มพากันตามไป
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้วก็ส่งเสียงเรียกขึ้น “อิงอิง ไป ตามไป”
“ไม่เห็นน่าตามไปเลย” จิ่วอิงรู้สึกไม่ค่อยดีกับเทียนตี้ มันจึงไม่อยากไป
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าอยากไปดูเพื่อความบันเทิงด้วย เขามองจิ่วอิงตาปริบ “อิงอิง…”
จิ่วอิงทนไม่ไหว “ก็ได้ๆ ปู่จิ่วพาเจ้าไป”
“ฮ่าๆๆ” เยี่ยนชิงขบขัน “ปู่จิ่วพาเสี่ยวเป่าไปเถอะ ถึงอย่างไรเรื่องทำอาหาร ท่านก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“ใช่แล้ว ไปเล่นเถอะ” เยี่ยนจื่อเยี่ยก็โบกมือและรวบตัวเจ้าเด็กน้อยจอมก่อกวนให้จิ่วอิง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าปีนขึ้นไปบนศีรษะของจิ่วอิงอย่างดีอกดีใจ “ไป อิงอิงไป”
“นายน้อยน่ารักจังเลย” ซวงเสวี่ยเทียนอ๋อง จิ้งจอกเก้าหางที่ช่วยเก็บวัตถุดิบ นางเองก็กลายเป็น ‘สาวผู้คลั่งไคล้’ เด็กน้อยไปแล้ว นางหลงความน่ารักของเสี่ยวเป่าจนโงหัวไม่ขึ้น
เยี่ยนจื่อเสาพูดขึ้นต่อว่า “แน่นอน หลานชายน้อยของข้าน่ารักที่สุด แถมยังฉลาดและใส่ใจมากด้วย แต่ชอบแกล้งทำเป็นชอบพี่ใหญ่ข้ามากกว่าข้า จงใจทำให้ข้าโกรธนี่สิที่ร้ายไปหน่อย”
“ไม่ได้แกล้ง แต่เป็นเครื่องจริงต่างหาก” เยี่ยนจื่อเยี่ยแย้งกลับ
เยี่ยนจื่อเสาทำเป็นไม่ได้ยิน เขาสนทนากับซวงเสวี่ยเทียนอ๋องต่อไป “จะว่าไปแล้ว ครานั้นที่ข้าอัญเชิญเจ้า เหตุใดเจ้าจึงตอบสนองไก่อ่อนเช่นข้าเล่า”
“สงสัยเช่นกัน” ขณะที่เม่ยเอ๋อร์กำลังสับกระดูกก็ไม่ลืมว่าเยี่ยนจื่อเสาในครานั้นอัญเชิญจิ้งจอกเก้าหางมาแย่งเด็ดหัวคนของนางไปอย่างไร น่าโมโหนัก
“ย่อมเป็นเพราะว่าบนตัวเจ้ามีกลิ่นอายของปฐมราชินี” ซวงเสวี่ยเทียนอ๋องนวดแป้งพลางพูดว่า “มิเช่นนั้นไก่อ่อนเช่นเจ้า ข้าไม่ปรากฏตัวหรอก”
เยี่ยนจื่อเสา “…”
นางควรจะตอบว่าซาบซึ้งกับความอุตสาหะและพรสวรรค์ของเขาไม่ใช่หรือ
ทว่าอินหลิวเฟิงตบไหล่เขาเบาๆ “รู้จักพอเถอะ พี่รองเสา ไม่ดีหรอกหรือ หากข้ามีน้องสาวอย่างกูไหน่ไน หลอกล่ออสูรวิญญาณที่งดงามเช่นนี้มาให้ข้าได้ จะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม”
“นายท่าน หยุดพูดได้แล้ว ชุนซิ่นจวินมองท่านอยู่ เขาคงเสียใจแย่แล้ว” เอ้อร์เหมารีบเตือน
อินหลิวเฟิง “…”
เขาอยากจะต่อยลูกน้องบัดซบนี่ให้ตายจริงๆ ทว่าเห็นได้ชัดว่ากู้จื่อเฟิงเขาไม่ได้ยิน แม้สายตาของเขามองมาที่อินหลิวเฟิง แต่อันที่จริงเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด หากไม่ใช่เพราะเรื่องสถานะ อันที่จริงเขาอยากตามไปดู สัญชาติญาณของเขาบอกเขาว่าตำหนักสวรรค์ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับปฐมราชินีเยี่ยนและเทียนตี้
ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น เพราะว่าเมื่อหยวนสื่อเทียนจุนและคนอื่นๆ มาถึงวังกว่านเหอ เป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้าซือมิ่งบุกเข้าไปในตำหนักกว่านเหอพอดี
ดังนั้น… เมื่อยามทหารของวังกว่านเหอประกาศขึ้นว่า “หยวนสื่อเทียนจุนมาถึง เหล่าทวยเพมาถึง…”
นางฟ้าสูงวัยที่เคยขวางต้าซือมิ่งไว้ก็รีบออกไป ‘ต้อนรับ’ ทันที สีหน้าตื่นตระหนกอย่างมาก
หรงอี้ในบัดนี้ เขาบุกเข้าไปถึงในห้องบรรทมแล้ว เขาเห็นเสื้อผ้าหลากสีเกลื่อนเต็มพื้น ในตำหนักไม่เพียงแต่จะมีกลิ่นอายของภรรยาของเขา ยังมีกลิ่นอายของเทียนตี้ด้วย
เขาเดินไปที่เตียงและเปิดผ้าม่านออกทันที
ทว่าในขณะนั้นเอง… นางฟ้าสูงวัยที่วิ่งไปข้างหยวนสื่อเทียนจุนและเหล่าทวยเทพ นางก็กรีดร้องอย่างตื่นตระหนก “แย่แล้ว แย่แล้ว ฝ่าบาทแอบพบปฐมราชินีถูก ไม่สิ ผ่าบาททะเลาะกับจวินโฮ่วแล้ว”
หากคำพูดที่คลุมเครือนี้ถูกพูดออกมาจากปากของนางฟ้าสูงวัยคนนี้จริงๆ คงเลิศล้ำน่าดู
น่าเสียดาย… นางฟ้าสูงวัยที่เปล่งเสียงออกไปก็พบว่าไม่มีเสียงใดๆ ดังออกมาเลย
นี่มัน…
“ทหาร”
นางฟ้าสูงวัยที่ไม่เชื่อลองเรียกอีกครั้ง แต่แล้วย่อมไม่มีเสียงเช่นเดิม ทำเอาเหยาจีที่รอข้างหน้าประตูตำหนักร้อนใจแทบแย่
หยวนสื่อเทียนจุนกลับอ่านปากของนางฟ้าสูงวัยได้ รู้ว่านางจะพูดอะไร เขาถีบนางลงไปทันที “ทาสแก่จากไหนกัน หยาบคายและน่าเกลียดเช่นนี้ นายน้อยของเราตกใจหมด”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดจิ่วอิงไว้อย่างให้ความร่วมมือ “อ้ะเนะ”
“นายน้อยอย่ากลัว” หยวนสื่อเทียนจุนสะบัดแขนเสื้อบังสายตาของเด็กน้อยไว้ ในขณะเดียวกันก็คุร่นคิด รู้ว่าต้องมีคนคิดจะเปิดเผยความคิดของเทียนตี้ที่มีต่อปฐมราชินี ไม่ เกรงว่าจะมากกว่านั้น
เมื่อคิดได้ดังนี้ หยวนสื่อเทียนจุนก็กำลังจะบอกจิ่วอิงให้ส่งเด็กน้อยกลับไปก่อน ทว่าเหยาจีคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้าหยวนสื่อเทียนจุนแล้ว “ความ… ความผิดข้าเอง ข้าไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเสด็จพ่อเขา เขาโปรดปราน…”