เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 643 เอาใจภรรยา ต้าซือมิ่งสังหารผี

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 643 เอาใจภรรยา ต้าซือมิ่งสังหารผี

เจี่ยนชิวรู้สึกว่านางคงทำความลับแตกเพราะชาเฉาลู่แล้ว นี่เป็นชาบรรณาการพิเศษสำหรับตำหนักสวรรค์เท่านั้น

หากรู้เช่นนี้แต่แรก นางก็คงไม่เลือกใช้เหยาจี บัดนี้ปฐมราชินีเยี่ยนคงรู้แล้วว่านางมีเส้นสายในตำหนักสวรรค์ เพียงแค่ยังไม่ได้หลักฐานที่แน่ชัดเท่านั้น แต่หากนางเผยพิรุธอีกครั้งก็คงพูดยาก

“ให้ตายเถอะ”

“ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ…”

เจี่ยนชิวที่สบถไม่หยุดหายใจถี่และรัว “เจ้ารู้แค่เรื่องสู้รบฆ่าฟันไม่ใช่หรือ เป็นคนละเอียดอ่อนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน แม้แต่ชาที่จิบไปเพียงคำเดียวยังใส่ใจกับมันด้วย?”

เจี่ยนชิวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ไม่เคยลนลาน ครานี้นางโมโหมากจริงๆ แต่นางก็ไม่สามารถระบายอารมณ์ใส่ผีน้อยที่ยกน้ำชามาเมื่อครู่นี้ได้ นางเชื่อว่าปฐมราชินีเยี่ยนต้องจับตามองอยู่แน่นอน ทว่า… เจี่ยนชิวที่จู่ๆ คิดบางอย่างขึ้นได้ก็หายโกรธทันทีก่อนจะเผยสีหน้าชั่วร้าย “ปฐมราชินีเยี่ยน หวังว่าเจ้าที่เห็นวิญญาณมารดาผู้ให้กำเนิดแล้วจะยังสงบนิ่งเช่นนี้ได้”

ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกก็มาถึงตำหนักยมราช

ยมราชถูกเยี่ยนอวี๋สั่งให้ไปเตรียมตัวทันที อินหลิวเฟิงจึงถือโอกาสพาเอ้อร์เหมาเดินเล่นรอบๆ ถึงอย่างไรก็มีเพียงคนตายเท่านั้นที่สามารถมาตำหนักยมราชได้ ส่วนเยี่ยนอวี๋ก็พาสามีรูปงาม ‘กลับห้อง’ เด็กน้อยหลับไปแล้ว ปกติแล้วหลังจากทานอิ่มไม่นาน เขาก็จะรู้สึกง่วง ซึ่งก็ทำให้สองสามีภรรยาสามารถพูดคุยกันอย่างสะดวก เยี่ยนอวี๋จึงถามขึ้นว่า “กุ่ยหมู่เป็นอย่างไร”

ต้าซือมิ่งสัมผัสระหว่างคิ้วด้วยนิ้วชี้ ดึงแสงหมอกสีม่วงออกมาและไหลเข้าไปในหน้าผากของภรรยา

แรกเริ่มเยี่ยนอวี๋ยังไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร จนเมื่อภาพภาพแรกปรากฏในอนุสติของนาง นางจึงเข้าใจ “เจ้าสงสัยว่าโจรผู้นี้คือกุ่ยหมู่หรือ”

ต้าซือมิ่งกลับตอบว่า “ข้ามิกล้า… มองกุ่ยหมู่อะไรนั่นใกล้ๆ อยากให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ช่วยข้าดูว่าใช่นางหรือไม่”

เยี่ยนอวี๋ที่ฟังคำพูดเจืออารมณ์หยอกเย้าของต้าซือมิ่งออก จู่ๆ นางก็เข้าประชิดตัวจูบปากเย็นเยียบของชายคนนี้เล็กน้อย “เด็กดี มีรางวัล”

“ฮึ” หรงต้าซือมิ่งที่กอดภรรยาเข้ามา เขาก็ลงน้ำหนักมากกว่าเดิม เหมือนกับขอรางวัลเพิ่มเติมให้ตนเอง

เยี่ยนอวี๋คล้องคอเรียวของชายคนนี้ไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ความรู้สึกพัฒนาจากความไม่เคยชินในตอนแรกจนเป็นความรู้สึกชอบการคลอเคลียใกล้ชิดเช่นนี้ ช่างหวานฉ่ำ

สามีของนางหวานมาก หัวใจของนางก็หวานมากเช่นกัน

ผ่านไปนาน เจ้าตัวน้อยที่ถูกท่านพ่อและท่านแม่หนีบจนแบน เขาก็ส่งเสียงร้องในความฝัน บอกให้ท่านพ่อเขาตื่น บอกว่าลูกสุดน่ารักคนนี้ยังอยู่ที่นี่นะ

แม้จะเป็นเช่นนี้ ต้าซือมิ่งก็ยังคงจูบดอกไม้บนหน้าผากภรรยาอย่างเสน่หา มือข้างหนึ่งกุมใบหน้าที่เนียนนุ่มของนางไว้อย่างมิอาจปล่อยมือได้ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…”

เยี่ยนอวี๋โอบเขาเข้ามาในซอกคอและจูบจมูกที่สูงโด่งของเขา ค่อยๆ สงบอารมณ์ลงและกอดเอวบางของสามีไว้แน่นพูดว่า “ดูจากรูปร่างแล้ว เหมือนจะไม่ใช่กุ่ยหมู่ แต่ข้ากลับยิ่งสงสัยนาง”

“หมายความว่าอย่างไร” ต้าซือมิ่งที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยังจูบคอของภรรยาต่อไป

เยี่ยนอวี๋อยากจะปล่อยตามใจเขา แต่ความเป็นจริงไม่อนุญาต นางได้แต่กดสามีที่ซุกไซร้คนนี้ไว้ “ไม่เล่น”

ต้าซือมิ่งหัวเราะ กอดภรรยาเข้ามาในอ้อมอก พร้อมกับอุ้มเด็กน้อยเข้าไปในอ้อมอกของภรรยา ก่อนจะค่อยๆ ถามขึ้นว่า “นอกจากชานั้นแล้ว ยังมีตรงไหนผิดปกติหรือ”

“สัญชาติญาณ” สัญชาติญาณแรกที่เยี่ยนอวี๋เห็นกุ่ยหมู่ก็รู้สึกไม่ค่อยดี และนางมั่นใจในสัญชาติญาณของตนเองมาโดยตลอด

ต้าซือมิ่งหัวเราะและจูบสันจมูกของภรรยาผู้น่าเอ็นดู “ดูเหมือนว่าไม่ว่าปีศาจผีสางใดๆ ก็หนีไม่พ้นสัญชาติญาณของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”

“แต่เทียนตี้มีใจให้นาง และนางก็เคยมีคุณูปการต่อสวรรค์เก้าชั้นฟ้า หากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดก็ลงมือยาก มิหนำซ้ำ ข้าไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของนางคืออะไร” เยี่ยนอวี๋มองสามีของนางอย่างไม่เข้าใจ “นางขโมยพลังของเจ้าไปแล้วสามารถใช้ได้หรือ”

“ไม่ได้” ต้าซือมิ่งที่มั่นใจมากตอบอย่างหนักแน่น

“เช่นนั้นก็ถูกแล้ว นางเป็นเทพผู้มีปัญญา ในเมื่อใช้ไม่ได้ เหตุใดจึงต้องขโมย อีกอย่างนางไม่ได้ปรารถนาและลุ่มหลงในอำนาจเหมือนซีเหอ ดังนั้นแม้นางจะใช้พลังของเจ้าได้แล้วนางต้องการแข็งแกร่งขึ้นไปเพื่ออะไร” เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจจริงๆ

ถึงอย่างไรความรักที่เจี่ยนชิวมีให้เทียนตี้ หากนางจะสู้กับซีเหอ ซีเหอย่อมแพ้นาง อีกทั้งด้วยความฉลาดหลักแหลมของนาง ซีเหอก็สู้นางไม่ได้

เรื่องเหล่านี้เยี่ยนอวี๋รู้ดี นางเคยเห็นเจี่ยนชิวเป็นถึงตัวเลือกภรรยาอันดับหนึ่งที่เหมาะสมกับเทียนตี้ที่สุด ดังนั้นนางค่อนข้างใส่ใจและศึกษานางมาพอควร

แต่เจี่ยนชิวน่ะ แรกเริ่มดูเหมือนมีใจให้เทียนตี้จริงๆ ไม่เช่นนั้นเทียนตี้ก็ไม่ตามตอแย แต่ภายหลัง… เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หรงอี้ที่เห็นภรรยาครุ่นคิดพลางขมวดคิ้ว เขาก็ลูบคิ้วภรรยา ถามด้วยน้ำเสียงสง่างามว่า “คิดอะไรอยู่หรือ พูดออกมาสิ ข้าช่วยเจ้าคิด”

เยี่ยนอวี๋เล่าจนจบ จากนั้นยังพูดหยอกว่า “…คงไม่ใช่เพราะชอบเจ้าหรอกนะ”

หรงอี้ที่กัดภรรยาก็ตอบว่า “ข้ามายังจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าของเจ้าเมื่อสามหมื่นปีก่อน แต่ตอนที่นางปฏิเสธเทียนตี้ ข้ายังไม่มาเสียหน่อย ความผิดนี้ข้าไม่รับหรอกนะ”

ทว่า… เขาที่จู่ๆ ขมวดคิ้วก็พูดขึ้นว่า “หากโจรผู้นั้นคือกุ่ยหมู่ ใช่ว่านางจะไม่เคยไปจักรวาลอื่น”

เยี่ยนอวี๋กำลังจะถามอย่างจริงจัง เสียงรายงานเร่งรีบของยมราชก็ดังขึ้นจากนอกตำหนัก “ทูลรายงานปฐมราชินี ไม่ได้การแล้ว พื้นที่ปิดผนึกที่ท่านกล่าวถึงปรากฏวิญญาณร้ายจิ่วจิ้น”

เมื่อสิ้นเสียง… เยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันตอบ ซีหวังหมู่ที่ได้ยินเสียงก็ปรากฏตัวขึ้น “เหตุใดยังมีวิญญาณร้ายจิ่วจิ้นอยู่อีก วิชาผีชั่วร้ายชนิดนี้ถูกกำจัดและสูญสิ้นไปแล้วไม่ใช่หรือ”

“ข้าน้อยก็ไม่ทราบ แต่มันปรากฏขึ้นแล้วจริงๆ อีกทั้งยังกำลังกลืนกินผีน้อยบริเวณนั้นอย่างกำเริบเสิบสาน ข้าน้อยกลัวว่าทหารกว่าหมื่นตนที่เข้าไปช่วยเหลือจะถูกกินหมด” ยมราชคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเหตุใดปฐมราชินีเพิ่งมาตรวจตรายมโลกก็เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ทันที

“ไปดูกันเถอะ” เยี่ยนอวี๋ที่ผลักประตูออกไปพูดขึ้น “ซีซี เจ้าไปพากุ่ยหมู่ไปด้วย ออกเดินทางทันที”

“ได้” ซีหวังหมู่หายไปทันที

เยี่ยนจื่อเยี่ยที่เพิ่งเร่งเดินทางมาถึงก็ถามขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เกิดเรื่องแล้วหรือ”

“อืม พี่ใหญ่รอพวกเราในตำหนักยมราชดีหรือไม่” จุดประสงค์ที่เยี่ยนอวี๋พาพี่ใหญ่นางมาเดิมทีก็เพื่อหาท่านแม่เยี่ยน ไม่ใช่มาจับโลกีและโจรผู้อยู่เบื้องหลังคนนั้น

แต่เยี่ยนจื่อเยี่ยพูดว่า “ไปด้วยกันเถอะ พี่จะได้ฝึกมือด้วย”

“ก็ดี” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า เทพอัสนีก็จับอินหลิวเฟิงและเอ้อร์เหมากลับมาอย่างรวดเร็ว

กู้จื่อเฟิงมาพร้อมเยี่ยนจื่อเยี่ย ดังนั้นทุกคนจึงรวมตัวกันครบอย่างรวดเร็ว

ซีหวังหมู่ก็ ‘จับ’ กุ่ยหมู่มาได้ในระหว่างนี้

“นายท่าน…” ครั้นเจี่ยนชิวจะถามอะไร เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้ให้โอกาสนาง “ไป”

เมื่อสิ้นเสียง เยี่ยนอวี๋ก็พาทุกคนรวมถึงยมราชไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน…

โลกีที่หลบหนีมาถึงพื้นที่ผนึกแดนมืดแล้วจริงๆ กลับไม่ได้ไปต่อ “หากทำตามสิ่งที่แม่นางนั่นพูดจริงๆ ไม่แน่ว่าจะเข้าทางนาง คงไม่ดี”

เมื่อคิดได้ดังนั้น โลกีก็ตัดสินใจไม่ไปยมโลกชั่วคราว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนเลวที่ชอบ ‘พูดกลับไปกลับมา’ อยู่แล้ว เขาย่อมไม่เทใจทั้งหมดให้ผู้ที่ร่วมมือกับตนเอง เขาจึงตัดสินใจหลบหนีไปทางอื่นแทน ทว่าขณะที่เขากำลังจะไปนั่นเอง…

กรู กรูๆ

เสียงร้องประหลาดดังออกมาจากบริเวณผนึกระหว่างสองโลกแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่ทำให้ขนลุกเช่นนี้กลับทำให้โลกีประหลาดใจ เขาเข้าใกล้มันด้วยสัญชาติญาณ อยากจะสัมผัสว่าสิ่งที่อยู่ด้านล่างคือตัวอะไรผ่านผนึกที่อ่อนแอลงจากการเปลี่ยนแปลงของจักรวาล

แต่แล้ว…

กรู

วิญญาณร้ายจิ่วจิ้นที่จู่ๆ ฉีกผนึกจนขาดและตะปบใส่โลกีพัดม้วนเสียงร้องโหยหวนของผีสางอันน่าสะพรึงออกมาทันที ทำเอาโลกีตกใจจนรีบสยายปีกบินขึ้นสูง

วิญญาณร้ายจิ่วจิ้นที่รู้สึกได้ถึงความเอร็ดอร่อย มันก็ฉีกทะลวงผนึกขาดราวกับฉีกเต้าหู้ มันข้ามมาจากยมโลกแล้ว

“บัดซบ”

โลกีพ่นคำหยาบออกมา เพราะว่าวิญญาณร้ายจิ่วจิ้นที่มุดศีรษะเข้ามาเป็นส่วนแรกทำให้เขาตกใจ

ใบหน้าผีที่หนาแน่นราวกับผีเร่ร่อนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันโถมใส่เขา

กรู

เสียงร้องประหลาดอันน่าสะพรึง สิ่งที่พ่นออกมาด้วยคือพลังกลืนกินอันน่าหวาดกลัวที่สามารถดูกลืนวิญญาณได้

โลกีถูกดูดเข้าไปจนเขาเวียนศีรษะตาลายเกือบจะร่วงลงบนพื้น

“บัดซบ”

ครานี้โลกีรู้สึกได้ว่าเขาคงต้องตายเพราะความอยากรู้อยากเห็นของตนเองแล้ว มารดามันเถอะ เหตุใดเมื่อครู่นี้เขาต้องประหลาดใจกับของพรรค์นี้ด้วยนะ

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเอง… เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกก็ปรากฏขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่ผนึกแล้ว

“แย่แล้ว ผนึกถูกมันฉีกขาดแล้ว” เมื่อยมราชเห็นผนึกถูกฉีกขาดก็อยากจะร้องไห้

เยี่ยนอวี๋เหินไปทางผนึกอย่างไม่แปลกใจ ขณะเดียวกันนางก็เห็นวิญญาณร้ายจิ่วจิ้นขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยไอเคียดแค้นและดุร้ายแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งร่าง

ที่น่าสะพรึงคือ…

กรู

เมื่อวิญญาณร้ายได้กลิ่นหอมหวาน มันก็หันมา เผยให้เห็นใบหน้าที่แน่นขนัดไปด้วยใบหน้าใบเล็กใบน้อยอีกที เพียงพอที่จะทำให้ซีหวังหมู่ร้องเสียงหลง “เจ้าปีศาจนี่ใช้วิญญาณเร่ร่อนและผีร้ายกี่ตนเพื่อสร้างมันขึ้นมานะ?”

เยี่ยนอวี๋ไม่รู้ เพราะว่าใบหน้าผีเหล่านี้มีจำนวนมากเกินไปแล้ว นับพันนับหมื่นก็ไม่พอจะอธิบาย แต่สีหน้าของเยี่ยนจื่อเยี่ยกลับเปลี่ยนไปในครานี้ “ท่านแม่?”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท