ตอนที่ 646 ครอบครัวเยี่ยนพร้อมหน้า! ธนูนับหมื่นแทงทะลุหัวใจกุ่ยหมู่!
เทพอัสนีที่เห็นดังนั้นก็อดทอดถอนใจไม่ได้ “มารดาของนายท่านที่ถูกหลอมเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณร้ายจิ่วจิ้น เกรงว่าจะไม่รอดแล้ว”
“คงเป็นเช่นนั้น…” เจี่ยนชิวที่หายใจอ่อนแรง นางมองใบหน้าของมารดาเยี่ยนที่กำลังสลายใบนั้น พลันรู้สึกว่าเป็นเช่นนี้ก็ไม่เลว หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ก็คงสร้างความบาดหมางระหว่างคุณชายหรงและปฐมราชินีเยี่ยนได้
น่าเสียดาย… นางเพิ่งจะคิดเช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ที่นำมงกุฎหงส์องค์หนึ่งออกมา นางรับใบหน้าวิญญาณของมารดาดวงนั้นมาจากมือของสามี และมงกุฎหงส์ที่อยู่ในมือของนางชิ้นนี้นั้น ที่จริงแล้วก็ได้มาจากท่านพ่อเจ้าน้ำตาของนาง นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ท่านแม่ของนางหวงแหนมากที่สุดในชีวิต เพราะว่ามงกุฎหงส์นี้ท่านพ่อเจ้าน้ำตาของนางเป็นผู้ทำให้ และถูกใช้ในวันที่ท่านพ่อและท่านแม่ของนางแต่งงาน
ตลอดหลายปีที่จางอวิ๋นเมิ่งจากไป… มงกุฎนี้ถูกเยี่ยนชิงเก็บรักษาไว้อย่างดี ทุกค่ำคืนที่เงียบงัน เขาจะหยิบมันออกมาดูและ ‘กอด’ ภรรยาผู้จากไปแล้วท่ามกลางความเงียบของสรรพชีวิต รำลึกถึงความหลังของพวกเขา ดังนั้นในครานี้ เมื่อเยี่ยนอวี๋บอกว่าต้องการสิ่งของที่จางอวิ๋นเมิ่งโปรดปรานที่สุด เยี่ยนชิงก็คิดถึงมงกุฎนี้เป็นสิ่งแรก เขาจึงหยดโลหิตจากหัวใจของเขาลงไปบนมงกุฎนั้น และยังหยดไปไม่น้อยก่อนจะมอบให้บุตรสาวอันเป็นที่รัก
บัดนี้…
ยามนี้… เมื่อเยี่ยนอวี๋หยิบมงกุฎนี้ออกมาและท่องคาถาอัญเชิญวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้น
ใบหน้าของจางอวิ๋นเมิ่งที่เดิมทีกำลังสลายไปหยุดชะงักลงทันที โดยเฉพาะเมื่อแสงสีเลือดจางๆ ที่มาจากโลหิตหัวใจของเยี่ยนชิงบนมงกุฎผสานกับจางอวิ๋นเมิ่ง ใบหน้าวิญญาณของนางนอกจากจะหยุดสลายแล้ว มันยังควบแน่นกลับมาเหมือนเดิม!?
“นี่มัน…”
เทพอัสนีตะลึงงัน แต่มันก็ยอมรับได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรผู้ที่ร่ายคาถาก็คือนายท่านของพวกมัน! ไม่มีอะไรที่นายท่านของพวกมันทำไม่ได้
แต่เยี่ยนอวี๋กลับรู้ดีว่า พลังของนางนั้นสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ที่แท้จริงคือโลหิตหัวใจของท่านพ่อเจ้าน้ำตาของนางในมงกุฎหงส์ต่างหาก เป็นไปตามที่นางคาดเดาไว้ สิ่งที่จางอวิ๋นเมิ่งมารดาผู้ให้กำเนิดปล่อยวางไม่ลงมากที่สุดอันที่จริงก็คือท่านพ่อเจ้าน้ำตาของนาง
ถึงอย่างไรสำหรับลูกๆ ทุกคนแล้ว จางอวิ๋นเมิ่งก็เตรียมการทุกอย่างไว้ให้อย่างดีที่สุดแล้ว นางอุทิศทุกอย่างให้กับลูกทั้งสามคน โดยเฉพาะบุตรสาวคนเล็ก แต่ว่า… สำหรับเยี่ยนชิงผู้เป็นสามีแล้ว นางกลับทำอะไรไม่ได้เลย นางไม่สามารถอยู่กับเขาจนแก่เฒ่าดั่งที่ได้สาบานไว้ในวันแต่งงานได้ ไม่สามารถรักกันตลอดไปได้ ทำให้เขาต้อง ‘ผิดหวัง’
จนท้ายที่สุด นางรู้ว่าเขาปรารถนาให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้จะมีชีวิตอยู่เพิ่มอีกหนึ่งวันก็ดี! แต่ว่าเพื่อบุตรสาวคนเล็กแล้ว นางกลับจากไปก่อน ดังนั้น… ห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต คนที่นาง จางอวิ๋นเมิ่งอาลัยมากที่สุดคือสามีเยี่ยนชิงของตนเอง
แต่นางรู้ว่านางไม่มีชาติหน้า และไม่มีทางที่วิญญาณของนางจะท่องในธารเหลืองได้ กระทั่งไม่สามารถมีชีวิตหลังความตายได้
ดังนั้นแม้นางจะรู้ว่าการจากไปของนางจะทำให้สามีที่รักนางมากคนนี้มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ จะทำให้เขาเจ็บปวดเพราะคะนึงหาถึงนางทุกๆ ปี นางก็ต้องให้เขารับปากว่าจะดูแลลูกๆ ทั้งสามคนจนเติบใหญ่ ดูแลลูกๆ ให้มีชีวิตที่สงบสุดตลอดไปแทนนาง
ดังนั้น… บัดนี้ เมื่อกลิ่นอายของเยี่ยนชิง โลหิตหัวใจของเยี่ยนชิงปรากฏขึ้น วิญญาณที่หลงเหลือของจางอวิ๋นเมิ่งก็ระเบิดความปรารถนาอันแรงกล้าในการฟื้นคืนชีพออกมาด้วยสัญชาติญาณ
เยี่ยนอวี๋น้ำตาคลอ รู้ว่าท่านพ่อเจ้าน้ำตาของนางอาจจะสมปรารถนาได้ในเร็ววันแล้ว
ทว่าทั้งหมดนี้เจี่ยนชิวไม่เข้าใจเลย “ตามหลักแล้ววิญญาณร้ายที่ถูกหลอมหลุดออกจากสามโลกแล้ว ไม่อยู่ในสังสารวัฏหกวิถี กลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังต้องห้าม ไม่ว่าพลังใดๆ ก็ไม่สามารถ ‘ควบคุม’ ได้แล้วไม่ใช่หรือ”
“พลังใดๆ แต่ไม่รวมถึงพลังของนายท่าน” เทพอัสนีตอบอย่างสมเหตุสมผล
เจี่ยนชิว “…”
นางรู้สึกจุก หลักๆ เป็นเพราะเจอสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นในวันนี้มากเกินไป และยังรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอีกหลายครั้ง
ทุกครั้งที่นางรู้สึกมีความหวัง ความจริงก็มักจะตบหน้านางฉาดใหญ่ ตบจนนางรู้สึกเวียนศีรษะ
นางกลับยังไม่สามารถเผยพิรุธได้ มิเช่นนั้นนางก็จะยิ่งไม่มีโอกาสสำเร็จ นางต้องทน! นางอดทนต่อความยากลำบากและรอมาหลายปีเช่นนี้ เรื่องไม่ควรจบลงเช่นนี้
เมื่อคิดได้ดังนี้… เจี่ยนชิวก็สงบอารมณ์ลงและจำเป็นต้องสงบลง
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางย่อมสามารถฟื้นฟูสามจิตของจางอวิ๋นเมิ่งต่อไปผ่านวิญญาณที่หลงเหลือของจางอวิ๋นเมิ่งได้อย่างราบรื่น
ด้วยตบะระดับเยี่ยนอวี๋ เดิมทีก็สามารถทำได้แล้ว ตราบใดที่มีวิญญาณหลงเหลือเพียงน้อยนิด นางก็สามารถช่วยฟื้นคืนชีพจางอวิ๋นเมิ่งได้ในที่สุด อีกทั้งจางอวิ๋นเมิ่งเองก็ฮึดสู้ ทุกอย่างย่อมไม่มีเรื่องน่าหวั่นวิตกอะไร
ดังนั้น… กู้จื่อเฟิงอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ต้องขอบคุณผู้ที่หลอมวิญญาณร้ายจิ่วจิ้นผู้นี้ มิเช่นนั้นวิญญาณหลงเหลือของมารดาปฐมราชินีท่านนี้คงไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้ และคงไม่สามารถรอจนกว่าปฐมราชินีเยี่ยนมาฟื้นฟูได้”
เมื่อสิ้นเสียง…
ชิ้ว!
เจี่ยนชิวรู้สึกเหมือนมีธนูยิงทะลวงหัวใจ! ลูกธนูลูกนี้ยังแทงลงไปลึกมาก! และเจ็บปวดมาก
ดังนั้นที่นางทำมามากมายเช่นนี้ กระทั่งยอมบุกเข้าหลุมศพ ทำให้ตนเองเสียโฉม ยัง…
ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นทำประโยชน์ให้ผู้อื่นและยังทำให้ปฐมราชินีเยี่ยนสมหวังหรือ …เห็นได้ชัดว่านี่คือความจริง เพราะว่าร่างวิญญาณของจางอวิ๋นเมิ่งค่อยๆ เปลี่ยนจากใบหน้าหนึ่งใบเป็นศีรษะและยังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ภายใต้พลังไร้ที่สิ้นสุดของเยี่ยนอวี๋
เจี่ยนชิว “…”
นางอยากจะกระอักเลือดจริงๆ แต่ใบหน้าของนางกลับจำเป็นต้องหัวเราะดีใจจากใจจริง “ดีมากเลย”
“ใช่แล้ว! ดีมากเลย! นี่คือความปรารถนาสูงสุดของการมายมโลกของปฐมราชินี ไม่คิดเลยว่าจะทำสำเร็จเร็วเช่นนี้ นี่เพิ่งมาถึงที่นี่ไม่ถึงหนึ่งเค่อเท่านั้น” เทพอัสนีเองก็รู้สึกว่าสมบูรณ์แบบ
จากนั้น…
ชิ้ว!
เจี่ยนชิวรู้สึกเหมือนกับถูกธนูแทงทะลวงหัวใจอีกครั้ง!
ดังนั้นที่นางทำงานอย่างหนักเพื่อปล่อยวิญญาณร้ายจิ่วจิ้นออกมานั้นทำเพื่ออะไรกัน ให้ปฐมราชินีเยี่ยนสมหวังรึ!?
ความจริงคือ… ใช่แล้ว
อินหลิวเฟิงพูดขึ้นว่า “ครานี้ดีแล้ว เจ้าสำนักเยี่ยนต้องดีใจแน่ๆ! ในที่สุดครอบครัวเยี่ยนก็จะได้พร้อมหน้ากันแล้ว ถือว่าสลัดความเสียใจของกูไหน่ไนแล้ว”
“นั่นน่ะสิ ครั้นคุณหนูใหญ่เยี่ยนรู้ว่ามารดาตายอย่างอยุติธรรมและอนาถเช่นนั้น ก็คงอยากจะฟื้นคืนชีพท่านแม่ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เสียดายที่แม้นางจะยิ่งใหญ่ เรื่องบางเรื่องก็ฝืนไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะจบบริบูรณ์แล้ว” นานๆ ทีเอ้อร์เหมาจะมีอารมณ์ศิลปินเช่นนี้
เจี่ยนชิว “…”
ชิ้ว! ชิ้วๆ!
นางรู้สึกว่ามีธนูหลายหมื่นเล่มแทงทะลวงหัวใจ! ครานั้นที่นางเก็บวิญญาณที่หลงเหลือของจางอวิ๋นเมิ่งไม่ใช่เพื่อทำให้ปฐมราชินีเยี่ยนสมหวังเสียหน่อย! ไม่ใช่! ไม่ใช่! ไม่ใช่เสียหน่อย!…
น่าเสียดายที่ไม่ว่าในใจนางจะคัดค้านอย่างไร สามจิตของจางอวิ๋นเมิ่งก็รวบรวมกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ภายใต้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเยี่ยนอวี๋
ครานี้เอง…
เพียะ!
โลกีถูกจับเป็นโดยความร่วมมือของซีหวังหมู่ยมราชแล้ว!
เจี่ยนชิว “…”
แม้จะไม่อยากยอมรับ นางก็จำเป็นต้องยอมรับ นางต้องคว้าน้ำเหลว ตัดชุดแต่งงานให้ปฐมราชินีเยี่ยน
ความรู้สึกเช่นนี้ ไม่ใช่ความอัดอั้นธรรมดาจริงๆ ทว่านางกลับไม่สามารถระบายออกมาได้ ใบหน้ายังคงต้องเผยความปลื้มปีติยินดี
สำหรับเจี่ยนชิวที่อันที่จริงจิตใจบอบบางมากแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุด ทว่าในใจของนางเป็นเช่นไร ไม่มีใครสนใจ
ตอนนี้ทุกคนกำลังดูวิญญาณของจางอวิ๋นเมิ่งที่ฟื้นฟู เยี่ยนจื่อเยี่ยก็กำลังมอง เขายังพึมพำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านแม่กลับมาแล้ว จริงๆ หรือ”
เยี่ยนจื่อเยี่ยยังคงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ! จริงๆ ฉากตรงหน้านี้ทำให้เขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นความจริง
เมื่อตอนแปดขวบ ตอนที่มารดาจากไป เขาคิดตลอดว่ามารดาจะกลับมาอีกเหมือนกับที่เขาพูดกับน้องชายและน้องสาวว่าท่านแม่ของพวกเขาแค่ออกเดินทางไกล ต้องกลับมาอีกแน่
แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปีและหลังจากรับรู้ความจริง รู้จักการเกิดแก่เจ็บตาย เขาก็เข้าใจไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
แม้เขาจะกลายเป็นเทพ เขาก็ไม่อาจตามหาท่านแม่กลับมาได้ เพราะว่าท่านแม่ของพวกเขาวิญญาณแตกสลายไปแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เยี่ยนจื่อเยี่ยก็คิดแต่จะแก้แค้น เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหลาย เขาก็ไม่คิดถึงอีก และไม่กล้าคิดถึงอีก เพราะเขารู้สึกน่าสิ้นหวังเกินไป
ทว่าบัดนี้… ความปรารถนาที่เขาละทิ้งไปนั้นได้ปรากฏเป็นจริงแล้ว และยังเป็นความจริงที่ค่อยๆ เกิดขึ้นต่อหน้า
ทั้งหมดนี้… ทำให้เยี่ยนจื่อเยี่ยน้ำตาคลอ
พี่คนโตประจำตระกูลเยี่ยนที่ไม่เคยหลั่งน้ำตาตั้งแต่อายุแปดขวบจนถึงบัดนี้ วันนี้เขาหลั่งน้ำตาถึงสองครา
ครั้งแรกเพราะเสียใจ อีกที่สองเพราะดีใจ
อารมณ์ทุกข์และสุขสุดขีดที่สับเปลี่ยนไปมาเช่นนี้ เคราะห์ดีที่เยี่ยนจื่อเยี่ยไม่ป่วย มิเช่นนั้นอาจจะรับไม่ไหวก็ได้
เพียงแต่ว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยที่เพิ่งเช็ดน้ำตาเสร็จกลับได้ยินเสียงร้าวดัง ‘แคร่ก’ เบาๆ
“แย่แล้ว!”