ตอนที่ 649 เสี่ยวเป่าสุดฮอตยั่วยวนกุ่ยหมู่! เยี่ยนอวี๋ปลาจิ่นหลี่
เมื่อยมราชได้ยินก็รีบขึ้นมากล่าวว่า “ใช่แล้ว! ปฐมราชินี ข้าน้อยจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ ให้ผีน้อยที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน จะได้ไม่รบกวนการฟื้นตัวของมารดาท่านและการเลื่อนขั้นของชายท่านนี้”
เจี่ยนชิวชื่นชมในใจว่าฟ่านเจียงเป็นคนรู้งาน ต่อไปต้องเลื่อนตำแหน่งดีๆ ให้เขา
น่าเสียดาย… เยี่ยนอวี๋กลับพูดว่า “ยมราชไปก็พอ เจี่ยนชิวอยู่ที่นี่เถอะ ข้าเห็นลมปราณและเลือดของเจ้ายังไหลย้อนกลับ ควรพักผ่อนก่อน”
“ขอบพระทัยปฐมราชินีที่เห็นใจเพคะ” เจี่ยนชิวที่ไม่กล้าดิ้นรนเพราะกลัวจะเป็นจุดสนใจ นางก็รู้สึกว่าลมปราณและเลือดของตนไหลย้อนกลับจริงๆ ติดขัดไปเสียทุกเรื่อง น่าโมโหจริงๆ
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ มองไปที่เจี่ยนชิว เขาก็กะพริบดวงตากลมโตมองกุ่ยหมู่ ท่าทีเหมือนกับชอบกุ่ยหมู่มาก
เจี่ยนชิวเงยหน้าขึ้นบังเอิญเห็นพอดี อดคิดและพูดขึ้นไม่ได้ว่า “นายน้อยอยากให้หม่อมฉันอุ้มหรือไม่”
เดิมทีเยี่ยนอวี๋คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า… เยี่ยนเสี่ยวเป่ายื่นมืออวบอ้วนไปทางเจี่ยนชิวและยังส่งรอยยิ้มหวานและน่ารักมากให้นาง “อุ้ม…”
เจี่ยนชิวรู้สึกลมปราณและเลือดกลับมาไหลเวียนเป็นปกติหมดแล้ว แม้เด็กคนนี้จะเป็นลูกของปฐมราชินีเยี่ยน แต่ใบหน้าของเขาก็งดงามมากจริงๆ เหมือนกับคุณชายหรงราวกับแกะสลักออกมา แค่อ้วนไปเล็กน้อย
นอกจากนี้ หากนางทำให้เด็กน้อยคนนี้โปรดปรานนางได้ ต่อไปก็คงทำอะไรได้ง่ายขึ้น อีกอย่างทุกอย่างก็จะราบรื่นกว่านี้มาก ถึงอย่างไรก็บีบคอเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้
ขณะที่เจี่ยนชิวคิดเช่นนี้ นางก็ยื่นมือไปหาเจ้าตัวน้อย ทำท่าจะรับเด็กน้อยน่ารักน่าชังเข้ามาอย่างกระตือรือร้น สุดท้าย… นางได้รับเพียงความว่างเปล่า เพราะหลังจากที่นางยื่นมือออกไป นอกจากเยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้โถมตัวเข้าหานาง เขายังหันไปโถมตัวกลับไปยังอ้อมอกของท่านแม่และท่านพ่อ และยังหัวเราะ ‘ฮ่า’ ออกมา
เจี่ยนชิว “…”
นางยกมือค้างอยู่เช่นนั้น มีชั่วจังหวะหนึ่งลมปราณและเลือดจะไหลย้อนกลับจริงๆแล้ว
เยี่ยนอวี๋กลับคิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยจะซนขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมาก ถึงอย่างไรเจ้าหมอนี่ก็เคยทำเรื่องประเภทนี้มาก่อน กู้หยวนซูในครานั้นก็เคยถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้
หากเป็นเช่นนี้ ความรู้สึกที่เด็กน้อยมีต่อกุ่ยหมู่ก็คงไม่ค่อยดีนักเช่นกัน
แม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ยังคงอธิบายให้เจี่ยนชิวฟังว่า “เสี่ยวเป่าซุกซนมาก อย่าถือสา”
“นั่นน่ะสิ! นายน้อยเจ้านี่นะ!” ซีหวังหมู่จิ้มเด็กน้อยสองสามที “ครานั้นก็หยอกข้าเช่นนี้เหมือนกัน ตอนนี้ให้ซีซีกอดหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามุดตัวเข้าไประหว่างท่านพ่อและท่านแม่ของเขา เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมให้ซีหวังหมู่อุ้ม
ซีหวังหมู่ได้แต่ถูอุ้งเท้าไปมาอย่างคันไม้คันมือ “ใต้เท้า นายน้อยน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ! น่ารักเกินไปแล้ว”
“นั่นน่ะสิและยังเฉลียวฉลาดด้วย” เจี่ยนชิวที่เดิมทีทำตัวไม่ถูก ตอนนี้ก็ตั้งสติตอบแล้ว รอยยิ้มยังดูเป็นธรรมชาติ อย่างน้อยในส่วนของใบหน้าก็เป็นธรรมชาติมาก
แต่ในใจของเจี่ยนชิวนั้น มีเพียงนางที่รู้ว่านางโมโหจนอยากจะระเบิดอยู่แล้ว!
ในความคิดของนาง ซีหวังหมู่ก็แค่ช่วยนางคลายสถานการณ์ให้ด้วยเจตนาอันดี ในความเป็นจริงแล้วทารกน้อยคนนี้แกล้งนางคนเดียวเท่านั้น ทำเช่นนี้กับนางคนเดียวแน่ๆ! ไม่แน่ว่าปฐมราชินีอาจจะเป็นคนสอนด้วย
แม้จะไม่ได้สอน แต่เด็กน้อยคนนั้นเหมือนจะไม่ถูกกับนาง บางที… ไม่จำเป็นต้องเก็บเขาไว้อีก
กุ่ยหมู่ที่สกัดกลั้นอารมณ์ไว้ นางก็กล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นหม่อมฉันขอไปรักษาตัวก่อน”
“ไปเถอะ” เยี่ยนอวี๋อนุญาต ยังหยิกเด็กน้อยเบาๆ “ต่อไปห้ามดื้อแบบนี้อีกนะ”
“ดื้อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกเสียงดังว่าจะดื้ออีก
ซีหวังหมู่หัวเราะเสียงดัง “นายน้อยกล้าหาญชาญชัยจริงๆ ยังกล้าเถียงนายท่าน ระวังถูกตีนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้ามองท่านแม่ของเขาตาปริบ “ไม่หรอก นะ?”
“โอ๊ะ!” ซีหวังหมู่อุทานเกินจริง “ไม่ไหวแล้ว! นายน้อยน่ารักเกินไปแล้ว! ซีซีใจจะละลายอยู่แล้ว! นายท่าน! เหตุใดนายน้อยจึงน่ารักเช่นนี้!”
เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยเบาๆ กล่าวว่า “ถึงอย่างไรข้าและท่านพ่อเขาก็โดดเด่นเช่นนี้”
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกชมจนดีอกดีใจก็ยิ้มอย่างน่ารักกว่าเดิม
ยมราชในครานี้ เขาไปจัดการธุระอย่างรู้งานแล้ว
เพียงไม่นาน ยมราชก็ส่งสารกลับมาว่าทุกอย่างตระเตรียมเรียบร้อยแล้ว เยี่ยนอวี๋จึงให้พี่ใหญ่เขาหยุดการรักษาชั่วคราว พวกเขาต้องเปลี่ยนไปที่อื่นก่อน
…
เมื่อถึงบ่อหกวิถี เอ้อร์เหมาก็รู้สึกขี้ขลาดขึ้นมา “คุณหนูใหญ่ นี่… ก็คือบ่อหกวิถีหรือ”
อินหลิวเฟิงมองบ่อหกวิถีที่เหมือนกับทะเลสีเลือดก็รู้สึกหวาดกลัว จู่ๆ ก็รู้สึกดีใจที่คนที่เลื่อนขั้นไม่ใช่ตนเอง ในขณะเดียวกันก็ตบไหล่เอ้อร์เหมาเบาๆ ให้กำลังใจว่า “ไปเถอะ! สู้เพื่อตัวข้านายน้อยหน่อย! อย่าทำให้เลือดต้นกำเนิดปลาคุนนกเผิงของกูไหน่ไนต้องเสียเปล่าล่ะ”
“หรือไม่ นายน้อยท่านลงไปเถอะ” เอ้อร์เหมารู้สึกกลัวจริงๆ
แต่เยี่ยนอวี๋ให้เลือดต้นกำเนิดปลาคุนนกเผิงให้เขาแล้ว “ไปเถอะ มิเช่นนั้นต่อไปเจ้าจะไม่สามารถติดตามนายน้อยจวนเจ้าได้”
“?” เอ้อร์เหมาไม่ค่อยเข้าใจ
อินหลิวเฟิงก็พูดขึ้นว่า “ถึงอย่างไรตัวข้านายน้อยก็มีพรสวรรค์เป็นเลิศ! ย่อมต้องมีอายุยืนยาวพันปี แต่เจ้าน่ะก็ไม่แน่ ถึงครานั้นข้าก็จะได้เปลี่ยนลูกน้องแล้ว! ดีจริงๆ!”
จ๋อม!
จู่ๆ เอ้อร์เหมาก็กระโดดลงไปในบ่อทันทีเหมือนกับกำลังบอกว่า นายน้อยคิดจะเปลี่ยนลูกน้องเป็นซานเหมา ไม่มีทางเสียหรอก!
เยี่ยนอวี๋ยิ้มก่อนจะหันหลังมาส่งดวงจิตของมารดาเข้าไปในบ่อหกวิถีด้วย
เยี่ยนจื่อเยี่ยมองด้วยความกังวล! แต่จางอวิ๋นเมิ่งที่หลังจากลงไปในบ่อหกวิถีแล้วก็ถูกทำลายด้วยสายเลือด ทำให้เขาไม่สามารถทนดูต่อไปได้ ทำให้เขายิ่งเป็นกังวล
เยี่ยนอวี๋จับมือของเขาไว้แน่น พูดปลอบว่า “พี่ใหญ่อย่าได้กังวล ข้าจะคอยดูเอง”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” เยี่ยนจื่อเยี่ยที่จับมือน้องสาวไว้เช่นกัน เขามีคำพูดเป็นหมื่นล้านคำในใจ แต่สุดท้ายก็พูดเพียงคำว่า “ขอบใจนะ”
เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจนัก เยี่ยนจื่อเยี่ยกลับยื่นมือไปกอดน้องสาวคนเล็กคนนี้ไว้แล้ว “ขอบใจ!”
เยี่ยนจื่อเยี่ยในครานี้ เขารู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่น้องสาวเกิดในครอบครัวของพวกเขา นางเป็นปลาจิ่นหลี่ซึ่งเป็นปลามงคลของพวกเขาตั้งแต่เด็กและเสมอมา แต่พวกเขากลับปกป้องนางได้ไม่ดีพอ สุดท้ายคนที่ปกป้องนางได้ดีที่สุดกลับคือน้องเขย
เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นตบหลังพี่ใหญ่เบาๆ “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“อืม” เยี่ยนจื่อเยี่ยกอดน้องสาวไว้แน่น “ครอบครัวเดียวกัน!”
เยี่ยนอวี๋ยิ้มจางๆ “อยากเห็นสีหน้าท่านพ่อตอนเห็นท่านแม่จริงๆ”
“ต้องร้องไห้แน่ๆ” เยี่ยนจื่อเยี่ยพูดพลางหัวเราะและปล่อยน้องสาวในอ้อมอกออก “และร้องหนักแน่ๆ”
เยี่ยนอวี๋ก็คิดเช่นนี้ แต่ครานี้ นางไม่กลัวว่าท่านพ่อจะร้องไห้แล้ว “ท่านแม่จะปลอบเขาเอง”
“ใช่แล้ว” เยี่ยนจื่อเยี่ยมองไปที่ทะเลสีเลือด
กู้จื่อเฟิงกลับแอบมองกุ่ยหมู่ตลอดเวลา ทว่า…
ตูม!
บ่อหกวิถีกลับระเบิดขึ้นในครานี้!