ตอนที่ 650 กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของความรัก! เด็กเจ้าเล่ห์!
เยี่ยนอวี๋แผ่จิตสัมผัสไปยังมารดาทันที จากนั้นนางก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่า “ยังมีวิญญาณหลงเหลือของท่านแม่อยู่ที่อื่นจริงๆ ด้วย อีกทั้งอยู่ในจักรวาลดั้งเดิม”
“จักรวาลดั้งเดิม?” ซีหวังหมู่รู้สึกตะลึงมาก “หรือว่าท่านแม่ของใต้เท้าท่านคือร่างจริงของนกเฟิ่งหวง”
“ไม่ใช่” เยี่ยนอวี๋มั่นใจในเรื่องนี้มาก
ในขณะเดียวกัน…
เยี่ยนชิงที่อยู่จักรวาลดั้งเดิมกำลังลูบคลำรูปภาพของภรรยาอันเป็นที่รัก เขาก็เห็นว่าภรรยาสุดที่รักของเขาเหมือนกับกำลังมองมาที่เขาราวกับมีชีวิต!?
นี่มัน…
เยี่ยนชิงขยี้ตา ลำแสงสีทองบังเอิญแผ่ซ่านออกมาตรงหน้าเขาพอดี เขาจึงไม่เห็น และเห็นได้ชัดว่านี่ก็คือวิญญาณที่หลงเหลือส่วนหนึ่งของจางอวิ๋นเมิ่ง
ที่แท้แล้ว หลายปีมานี้อันที่จริงนางไม่ได้จากเยี่ยนชิงสามีของนางไปอย่างสิ้นเชิง
คนที่นางอาลัยมากที่สุดก็คือเยี่ยนชิงตามคาด
“ท่านพ่อเจ้าน้ำตา”
เยี่ยนอวี๋รับรู้ได้แล้ว นางน้ำตาคลอ รู้สึกสะเทือนใจกับความรักของท่านพ่อและท่านแม่
ที่แท้แล้ว… แม้จะสูญเสียดวงจิต ท่านแม่ยังคงทิ้งส่วนหนึ่งของวิญญาณที่อ่อนแอไว้ข้างกายท่านพ่ออย่างดื้อรั้น ไม่เคยสลายไป อยู่ข้างกายเขาเสมอมา
นี่ต้องใช้เจตนาที่แรงกล้าเพียงใดจึงจะทำเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะสำหรับจางอวิ๋นเมิ่งที่ครานั้นมีตบะอยู่ในขั้นสุวรรณชาดเท่านั้น นั่นยิ่งเป็นเรื่อง… ปาฏิหาริย์!
“สมแล้วที่เป็นท่านแม่” เยี่ยนอวี๋ยิ้มอีกครั้ง มีเพียงสตรีที่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวเท่านั้นจึงสามารถอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ได้และยังสร้างชีวิตใหม่ให้ลูกๆ ทั้งสามของตนเอง
แม้พลังจะอ่อนแอ แต่ยังคงยึดมั่นเปลี่ยนแปลงโชคชะตา แม้สุดท้ายแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของตนเองได้ แต่ยังคงไม่ยอมแพ้ เปลี่ยนมาเปลี่ยนแปลงชะตาของลูกๆ แทน
นี่คือสตรีที่แข็งแกร่ง และเป็นสตรีที่ยิ่งใหญ่ ในขณะเดียวกันก็เป็นภรรยาที่อ่อนโยน
บัดนี้…
วี้ด!
นางนิพพานในบ่อหกวิถีแล้ว! โชคชะตาเคยปฏิบัติต่อนางอย่างอยุติธรรมเช่นนั้น แต่นางไม่เคยยอมแพ้ บัดนี้… ในที่สุดนางก็ทำได้แล้ว นางได้โอกาสที่ควรเป็นของนางแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ได้ทำให้โอกาสครั้งนี้เสียเปล่า นอกจากนางจะเกิดใหม่แล้ว! นางยังนิพพานด้วย!
เยี่ยนจื่อเยี่ยที่รับรู้ได้ ดวงตาเขาแดงก่ำ สมแล้วที่เป็นมารดาของพวกเขาจริงๆ ไม่ว่าเมื่อใด ขอแค่มีโอกาสเพียงเล็กน้อย นางก็จะสามารถผงาดอย่างภาคภูมิ
“ดีจังเลย” อินหลิวเฟิงกล่าวชมจากใจอีกครั้ง “สมแล้วที่ท่านป้าเยี่ยนเป็นถึงยอดฝีมือที่โด่งดังในสำนักอัญเชิญวิญญาณในอดีต!”
กู้จื่อเฟิงผู้มีความทรงจำของกู้หยวนหมิง เขาก็เงียบ เขาเองก็รู้ทุกอย่าง เขารู้ด้วยว่ามีชาติหนึ่งจางอวิ๋นเมิ่งไม่ได้ความหวังเลยในตอนสุดท้าย บุตรสาวของนางยังต้องตายอย่างอนาถ ทว่า… วนเวียนไปมาย่อมจบด้วยดีเสมอ ถือได้ว่าปฐมราชินีหยวนชูได้ผดุงความยุติธรรมให้แก่โชคชะตาที่ไม่ยุติธรรมแล้ว เพียงแต่ว่ากู้จื่อเฟิงที่นึกถึงปฐมราชินีเยี่ยนร่วงหล่น จู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า “ท่านกุ่ยหมู่ ท่านคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องกฎแห่งกรรมหรือ”
“?” เจี่ยนชิวที่ถูกถามก็งงงัน ตอบส่งๆ ไปว่า “มีเหตุย่อมมีผล คงเป็นเช่นนี้”
“เช่นนั้นสิ่งที่ปฐมราชินีได้รับจากการร่วงหล่นก็คงเป็นครอบครัว คนรักและบุตร” กู้จื่อเฟิงตอบไม่นอกประเด็น
เจี่ยนชิวรู้สึกถึงเจตนาร้าย นางมองไปที่กู้จื่อเฟิงด้วยสัญชาติญาณ
กู้จื่อเฟิงในครานี้ เขากลับกำลังมองปฐมราชินีเยี่ยนด้วยสายตาอ่อนโยน “ก็ดี”
เจ้าชอบปฐมราชินีเยี่ยน เจี่ยนชิวที่จู่ๆ ถามกู้จื่อเฟิงผ่านความคิดพลันรู้สึกว่านางอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้ดี แต่แล้ว… กู้จื่อเฟิงยิ้ม “กุ่ยหมู่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของข้าและปฐมราชินี อย่าได้ทายซี้ซั้ว มิเช่นนั้นต้าซือมิ่งจะไม่พอใจเอาได้”
เจี่ยนชิวทำตัวไม่ถูกเพราะว่ากู้จื่อเฟิงไม่ได้ตอบนางผ่านความคิด แต่เขาพูดออกมาอย่างเปิดเผย
ที่สำคัญคือ ต้าซือมิ่งที่กำลังอุ้มลูก ‘ไม่มีอะไรทำ’ อยู่ไม่ไกลก็ได้ยินแล้วและเอ่ยว่า “ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์อย่างไร ข้าก็ไม่พอใจ”
“ไม่พอใจ!” เด็กน้อยเลียนแบบ บอกว่าอยู่ฝ่ายท่านพ่อ
กู้จื่อเฟิงยังคงพูดอย่างไม่เร็วไม่ช้าว่า “แต่ต้าซือมิ่งก็ไม่ได้ทำอันใดต่อข้าน้อย แต่หากข้าน้อยมีความคิดไม่ดีจริงๆ ท่านคงไม่เกรงใจเช่นนี้แล้ว”
“เจ้ายังคิดจะมีความคิดอะไรหรือ” ต้าซือมิ่งที่เลิกคิ้วก็หันมามองกู้จื่อเฟิง สายตาแหลมคมมิอาจคาดเดาได้
กู้จื่อเฟิงโค้งตัวกล่าวว่า “มิบังอาจ และไม่มีประโยชน์มิใช่หรือ ในสายตาของปฐมราชินีมีเพียงท่าน ในสายตาของท่านก็มีเพียงปฐมราชินี เกรงว่าแม้แต่นายน้อยก็เป็นส่วนเกิน”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินว่าถูกว่าเป็น ‘ส่วนเกิน’ เขาก็ไม่พอใจจริงๆ ! ยังพยายามยื่นขาออกไปถีบกู้จื่อเฟิง “ไม่ดี! ว่าเป่า”
“นายน้อยอย่าได้โมโห นี่คือความจริง” กู้จื่อเฟิงยิ้มมองเด็กน้อย “ไม่เชื่อถามท่านพ่อของท่าน”
“ไม่เอา!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูดกับท่านพ่ออย่างโมโห “ตี! พ่อ! ตี!”
แต่แล้วต้าซือมิ่งพูดขึ้นว่า “พ่อยังไม่เสร็จ เป่าตีแทนพ่อก่อน”
“ได้!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับมือเตรียมเรียกค้อนจิ๋วออกมา
กู้จื่อเฟิงเคยเห็นสัญญาณที่เด็กน้อยจะแผลงฤทธิ์ เขาจึงขอร้องว่า “นายน้อยโปรดไว้ชีวิต จื่อเฟิงไม่พูดแล้ว”
“╭(╯^╰)╮” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเชิดใบหน้าน้อยๆ ขึ้นอย่างพึงพอใจ
เจี่ยนชิวยิ้มอย่าง ‘ใจดี’ “นายน้อยน่ารักจริงๆ ”
“แล้วกุ่ยหมู่รู้หรือไม่ว่านายน้อยกำเนิดอย่างไร” กู้จื่อเฟิงถามลองเชิงต่อไป
เจี่ยนชิวรู้สึกงงงัน “ข้าจะรู้ได้อย่างไร” หากรู้ นางคงไม่ปล่อยให้เขาได้เกิด
กู้จื่อเฟิงยิ้มตอบว่า “ข้าน้อยคิดว่าในเมื่อกุ่ยหมู่ท่านอยู่ยมโลกแล้วอาจจะรู้ก็ได้ ถึงอย่างไรก็น่าจะเกิดปรากฏการณ์ไม่ธรรมดาตอนที่นายน้อยกำเนิด”
“…ไม่มีจริงๆ” เจี่ยนชิวตอบ “ข้าไม่เห็นปรากฏการณ์ผิดปกติใดๆ เลย” อีกทั้งนางในครานั้นก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลาสนใจอะไร
นางสูญเสียพลังงานไปไม่น้อยเพื่อไขปริศนาการกลับชาติมาเกิดของคุณชายหรง หากไม่ใช่เช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ก็คงไม่ได้เปรียบ ทว่าคำพูดของกู้จื่อเฟิงทำให้นางฉุกคิดบางอย่างได้ บางทีนางอาจจะลงมือจากวันเกิดของเด็กน้อย จากนั้นถ่วงดุลปฐมราชินีจากเจ้าทารกน้อยคนนี้
กระทั่ง… บางทีนางสามารถแว้งกัดปฐมราชินีเยี่ยนผ่านสายเลือดของทารกคนนี้โดยตรง
นางมีวิชาต้องห้ามที่เกี่ยวข้องกับโลหิตไม่น้อย! เกรงว่าบางวิชาปฐมราชินีไม่รู้จักด้วยซ้ำ คุณชายหรงก็ต้องไม่รู้แน่นอน แม้เขาจะรู้ นางก็ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสทำลาย ครั้งนี้นางจะลงมือให้เร็วขึ้น
แต่แล้วสิ่งที่เจี่ยนชิวไม่รู้คือ…