ตอนที่ 660 หมาล่ากินดอกไม้สวรรค์ เปิดประตูผี
จากนั้น…
ซู่
เยี่ยนอวี๋ทั้งกลุ่มปรากฏขึ้นหน้าเจี่ยนชิวทันที เจี่ยนชิวที่ใกล้จะสลายได้ทุกเมื่อแทบจะแตก “เป็นไปได้อย่างไร”
ทั้งๆ ที่นางไม่ได้ใช้ร่างกายของยมทูตดำแล้วไม่ใช่หรือ
ทั้งๆ ที่นางใช้ทางลัดหนีมา และไม่ใช่การเคลื่อนไหวปกติ ตามหลักแล้วจะถูกติดตามไม่ได้ไม่ใช่หรือ
ทั้งๆ ที่นางระวังตัวมากแล้ว ใช้วิธีมากมาย กระทั่งต้องสูญเสียตบะและพลังทั้งหมดของนาง
นอกจากนี้ ที่นี่คือประตูผี ทางเข้าหลุมศพ
ตามหลักแล้ว แม้แต่ยมราชที่รู้จักยมโลกดีที่สุดก็ไม่รู้ทางเข้าของประตูผี โดยทั่วไปแล้วผู้ที่หลงเข้าไปในหลุมศพล้วนถูกดูดเข้าไปจากรอยแยกของหลุมศพ ดังนั้น… ประตูผีแห่งนี้มีเพียงนางเจี่ยนชิวที่รู้ เพื่อสิ่งนี้ นางยอมแลกกับการเสียโฉมทว่าสุดท้ายตอนนี้บอกนางว่าถูกเปิดโปงแล้ว?
เจี่ยนชิวรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ วิญญาณของนางจะแตกสลายแล้วจริงๆ
“นี่คงไม่ต้องลงมือเองแล้วสินะ” อินหลิวเฟิงหมดคำจะพูด รู้สึกว่ากุ่ยหมู่เพี้ยนไปแล้ว เพียงแค่โดนกระทบกระทั่งเล็กๆ น้อยเท่านี้ก็ไม่ไหวเสียแล้ว ทว่าอินหลิวเฟิงก็พบในทันทีว่า กุ่ยหมู่ที่แตกร้าวหายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านี้… ร่างวิญญาณของเจี่ยนชิวยังควบแน่นอย่างรวดเร็ว หลุดพ้นจากสภาพใกล้สลายเมื่อครู่นี้ทันที
“กลิ่นอายปีศาจที่นี่ช่วยรักษาร่างวิญญาณของนางได้” กู้จื่อเฟิงได้ข้อสรุปทันที “เห็นทีท่านกุ่ยหมู่คงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับที่นี่”
“ฮึ” เจี่ยนชิวที่สงบลงอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด นางยิ้มหยัน สายตายังแปลกพิลึกมาก
กุ่ยหมู่เช่นนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วด้วยสัญชาติญาณ
ต้าซือมิ่งที่อุ้มเด็กน้อยหันไป…
“อ้ะเนะ”
เจ้าตัวน้อยเห็นประตูที่อยู่ไม่ไกลมีแมลงมากมายกำลังคลาน?
ที่สำคัญคือในสายตาของเด็กน้อย ‘แมลง’ เหล่านี้ก่อตัวเป็นอักษรรูนบิดเบี้ยวในครานี้ จากนั้นมันก็แผ่ซ่านแสงสีดำและฟ้าแปลกประหลาดออกไปทางต้าซือมิ่ง
ในขณะเดียวกัน เสียงได้ใจของเจี่ยนชิวก็ดังขึ้น “คุณชายหรง ไปกับข้าเถอะ”
เห็นได้ชัดว่านี่คือกับดัก เหมือนกับว่าจะเป็นกับดักสำหรับดักต้าซือมิ่งโดยเฉพาะด้วย เพราะว่าอักษรรูนที่บิดเบี้ยวตัวนั้นมีไว้จัดการต้าซือมิ่ง เขาเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งในจังหวะนั้นเพราะอักษรรูนบิดเบี้ยวที่จู่ๆ สว่างขึ้นจริงๆ ทว่า…
“อ้ะเนะ”
ดอกไม้ของเด็กน้อยเบ่งบานขณะที่แสงจากอักษรรูนนั่นห่อหุ้มเข้ามา
เยี่ยนอวี๋เองก็โอบเอวบางของสามีรูปงามไว้ในชั่วขณะ ปกป้องสองพ่อลูกไว้ในอ้อมแขน
เคร้ง
กระบี่ไท่ชางที่ปรากฏตัวขึ้น เดิมทีมันกำลังจะโจมตีคลื่นที่จู่โจมกระทันหันลูกนี้ ทว่า…
กระบี่ไท่ชางที่แข็งทื่ออยู่ข้างหน้าเยี่ยนอวี๋พบว่าเหมือนกับว่ามันไม่ต้องออกโรงแล้ว
เพราะว่ามีดอกไม้สีม่วงขนาดใหญ่ดอกหนึ่ง นอกจากจะบานออกข้างหน้ามัน ยังกินแสงสีดำและฟ้าประหลาดที่ไหลออกมาจากประตูผีนั่นก่อนหน้ามันเพียงเล็กน้อย
ไม่เพียงเท่านี้…
อึก
ดอกไม้ดอกใหญ่ยังส่งเสียงกลืน ผ่านไปครู่หนึ่ง…
เอิ๊กกก
ดอกไม้ดอกใหญ่ยังเรอเสียงดัง ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง…
ซู่
ดอกไม้ดอกนี้ก็หดเล็กลงกลับเข้าไปในร่างกายของเด็กน้อยแล้ว
????
เหล่าทวยเทพที่แต่เดิมกระจายตัวเป็นวงโค้งเพื่อไม่ให้เกะกะเยี่ยนอวี๋ ศีรษะของพวกเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
แม้แต่โลกีที่ถูกมัดไว้กับหางของซีหวังหมู่ เขาก็หยุดแกล้งตายแล้ว เขากำลังตกตะลึง
มีเพียงเอ้อร์เหมาที่นอนอยู่บนหลังเทพอัสนียังคงหลับอยู่
เยี่ยนอวี๋ก็… ก็มองไปที่เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของสามี… เจ้าตัวน้อยจู่ๆ ยังเรอเสียงดัง เอิ๊กกก…
“อิ่มแล้วหรือ” ต้าซือมิ่งที่ยกมือขึ้นมาลูบท้องน้อยๆ ของเด็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจ ‘พลังวิเศษฉับพลัน’ ของเด็กน้อยเท่าไรนักเช่นกัน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกลูบจนหัวเราะคิกคัก “อิ่ม… ดอกไม้เก่ง”
ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วถาม “ไม่ใช่ว่าไม่ชอบมันแล้วหรือ”
“ใช่ หรือ” เด็กน้อยไม่ยอมรับอย่างหน้าด้านๆ “เป่า จำไม่ได้แล้ว เป่าเด็ก จำไม่ได้…”
ท่าทีเป็นอันธพาลตัวน้อยๆ นั่นทำให้ท่านพ่อและท่านแม่ของเขาขบขัน
เยี่ยนอวี๋หยิกแก้มตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยเบาๆ “ใช่จ๊ะ ดีที่ดอกไม้ของเจ้าไม่ถือสาเจ้า เสี่ยวเป่ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
“ไม่ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเอนตัวในอ้อมแขนของท่านพ่ออย่างมีความสุข “สบาย… จะนอน…”
ต้าซือมิ่งลูบคอของเด็กน้อย “นอนเถอะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เข้านอนทันที เขาก็ค่อยๆ หายใจช้าลง หลับสนิทไปในไม่ช้า
เยี่ยนอวี๋บีบมืออวบอ้วนของเด็กน้อยเบาๆ “ดอกไม้ของเสี่ยวเป่านี่คืออะไรหรือ รู้สึกเหมือนเป็นทั้งวิชาฟื้นคืนชีพของข้า ยังมีกลิ่นอายของต้นไม้แห่งชีวิตและมีพลังซ่อนเร้นที่ว่องไวเป็นพิเศษด้วย?”
“พลังที่ซ่อนเร้นนี้มาจากท่านย่าของเสี่ยวเป่า ท่านแม่ของข้า” หรงอี้อธิบาย “ท่านแม่มีพลังวิเศษโดยกำเนิดชื่อว่าดอกไม้ไท่อี้ เป็นพลังในตระกูลรักษาเช่นกัน มันคงจะผสมผสานกับวิชาฟื้นคืนชีพของเจ้าและต้นไม้แห่งชีวิต บัดนี้จึงกลายเป็นดอกไม้ที่มีรสหมาล่าของเสี่ยวเป่า ดูเหมือนว่าจะกินเก่งด้วย บางทีอาจจะมีพลังกลืนกินสวรรค์อยู่ในนั้นด้วย”
“มารดามันเถอะ” อินหลิวเฟิงอุทานในทันที “โชคดีที่ท่านเสี่ยวเป่าปลุกพลังวิเศษนี้ช้า มิเช่นนั้นครานั้นข้าอาจจะถูกเสี่ยวเป่ากินไปแล้วก็ได้”
“เจ้ารู้ก็ดี” เยี่ยนอวี๋กล่าว นี่เป็นความจริงแน่นอน
อินหลิวเฟิงพูดไม่ออก ไม่ต้องจริงใจขนาดนั้นก็ได้
ทว่า… กู้จื่อเฟิงที่อยู่กำลังสำรวจอยู่ข้างหน้าประตูผีก็พูดขึ้นว่า “ประตูบานนี้มีการควบคุมระดับสูงมาก”
“เจ้าระวังตัวหน่อย อย่าถูกแสงยันต์ประหลาดนั่นกลืนเข้าไปล่ะ” อินหลิวเฟิงเตือน เขายังรู้สึกหวาดหวั่นไม่หาย “เมื่อครู่นี้ตกใจแทบตาย แต่จะว่าไปแล้ว กุ่ยหมู่หนีไปอีกแล้วใช่หรือไม่”
“ใช่แล้ว” ซีหวังหมู่กัดฟันกรอด “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจี่ยนชิวหนีเก่งเช่นนี้ ไม่สิ นางไม่ใช่เจี่ยนชิวแล้ว ไม่รู้ว่ากลายเป็นตัวอะไรแล้ว”
“บางทีกุ่ยหมู่อาจจะได้รับ ‘โอกาส’ ที่ไม่ชอบธรรมจากครานั้นที่นางหลงเข้าไปในหลุมศพ จิตใจจึงถูกทำร้ายด้วยสิ่งนี้” ยมราชกล่าว อาจจะมีความเป็นไปได้เช่นนี้
“ก็อาจจะเป็นไปได้ ปัญหาตอนนี้คือ ประตูบานนี้แปลกพิลึกจริงๆ” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วมองประตูสีดำสนิทที่ดูเหมือนมีอยู่จริง แต่ก็เหมือนกับล่องลอยไม่มีตัวตนบานนั้น ทำให้นางสัมผัสกฎเกณฑ์ใดๆ บนประตูบานนั้นไม่ได้เลย
ทว่า…
“ไม่เป็นไร”