ตอนที่ 661 ติดใจสามี ประตูผีซ่อนความลับ
ต้าซือมิ่งที่เอื้อนเอ่ย เขากำลังจะเดินขึ้นหน้า แต่กลับถูกภรรยาของเขากอดเอวไว้
ต้าซือมิ่งที่ถูกกอดก็ยกมุมปากขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กอดจนติดใจหรือ”
เยี่ยนอวี๋ที่รู้สึกติดใจจริงๆ นางย่อมไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กอดเขาแน่นกว่าเดิม “เมื่อครู่นี้หากไม่มีเสี่ยวเป่า เจ้าคงถูกดูดเข้าไปแล้ว ยังจะไปอีกหรือ”
“แม้จะไม่มีเสี่ยวเป่าก็มีเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์คอยปกป้องข้ามิใช่หรือ” ต้าซือมิ่งไม่เกรงกลัวเพราะมีคนหนุนหลังพูดว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยังปกป้องสามีไม่ได้หรือ”
“…อย่ามาเถียงข้า” เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่านางพูดเอาชนะความปากหวานของคนๆ นี้ไม่ได้ เกือบจะถูกโน้มน้าวไปแล้วทว่าต้าซือมิ่งยังคงโน้มน้าวนางสำเร็จ “วางใจเถอะ ยันต์เมื่อครู่นี้ก่อตัวขึ้นเพียงชั่วคราว มันจะใช้ไม่ได้หลังจากใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่มีครั้งที่สองอีก”
“เผื่อว่าล่ะ” เยี่ยนอวี๋ที่แม้จะถูกโน้มน้าวไปแล้ว แต่ยังคงเป็นห่วง นางยังคงไม่ปล่อยมือ แม้นางสัมผัสได้ว่ายันต์แปลกประหลาดเมื่อครู่นี้สลายไปหมดแล้ว ปัญหาเรื่องประตูบานนั้นในยามนี้มีแค่เรื่องกฎต้องห้าม
ต้าซือมิ่งที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ปิดตาข้า?”
“…” เยี่ยนอวี๋ที่เม้มปาก นางก็หยิบแถบผ้าออกมาออกมาทำท่าจะมัดปิดตาให้ต้าซือมิ่ง
หรงอี้ยิ้มทันที เขากอดภรรยาเข้ามาและจูบนาง “อวี๋เอ๋อร์คนโง่ จะปิดจริงๆ หรือ เช่นนั้นข้าจะดูกฎต้องห้ามอย่างไรเล่า กฎต้องห้ามของประตูบานนี้มีระดับสูงมากจริงๆ หากข้าต้องจัดการมันด้วยตาที่บอดคงไม่ไหว”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางรู้สึกโมโห ทว่าต้าซือมิ่งง้อนางแล้ว “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ารู้ขอบเขตดี เจ้าดูอยู่ด้านข้างก็พอแล้วก็หากจะเข้าไปในหลุมศพ เจ้าควรเรียกเม่ยเอ๋อร์มาหรือไม่”
เยี่ยนอวี๋ที่หรี่ตามองต้าซือมิ่ง นางก็หันไปสั่งยมราช “ฟ่านเจียง เจ้าไม่ต้องตามเข้าไปประตูผี เจ้ากลับตำหนักยมราช ส่งสารให้เทียนตี้ ให้เม่ยเอ๋อร์สาวใช้ของข้ามาที่นี่”
“ข้าน้อยรู้จักหลุมศพเล็กน้อย หากปฐมราชินีเป็นห่วงว่ายมโลกจะไม่มีคนดูแล เช่นนั้นให้เทียนตี้ส่งเทพองค์หนึ่งมาอีกคน ข้าน้อยยินดีตามปฐมราชินีเข้าไปในหลุมศพ” ฟ่านเจียงรู้สึกว่าหน้าที่ของยมราชต้องไม่มีค่าเท่าการติดตามปฐมราชินีเข้าไป
เยี่ยนอวี๋กลับเตือนขึ้นว่า “ดูจากกฎต้องห้ามของประตูบานนี้แล้ว เมื่อเข้าไปแล้ว ข้าอาจจะดูแลความปลอดภัยของเจ้าไม่ได้ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องไปก็ได้ ท่านแม่ พี่ใหญ่…”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ แม่ต้องไปกับเจ้า” จางอวิ๋นเมิ่งไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของบุตรสาวที่จะเข้าไปที่นั่นทันที แม้ตอนนี้นางอยากจะกลับไปหาสามีของตนเองมากจริงๆ ทว่า… เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของที่นี่ไม่สู้ดีนัก นางต้องการความช่วยเหลือมากกว่านี้
และที่นางนิพพานในบ่อหกวิถีอีกครั้งนั้นไม่ใช่เพียงเพื่อการเลื่อนขั้นธรรมดาเท่านั้น แต่นางต้องปกป้องครอบครัวของตนเองด้วย ปกป้องคนที่ตนรักด้วยความสามารถที่มากกว่าเดิม ดังนั้นไม่มีทางที่นางจะจากที่นี่ไป
เยี่ยนจื่อเยี่ยมองน้องสาวของตนอย่างยึดมั่นเช่นกัน
กู้จื่อเฟิงในครานี้ก็เอ่ยขึ้นจากข้างๆ ว่า “พลังพรสวรรค์ของท่านป้าเยี่ยนและพี่ใหญ่เยี่ยนน่าจะช่วยได้มากสำหรับการเดินทางต่อไปของเรา”
“แต่เสี่ยวเป่าควรต้องกลับไปหรือไม่” จางอวิ๋นเมิ่งมองไปที่เด็กตัวน้อยในอ้อมอกของลูกเขย “ที่แบบนี้ไม่ควรพาเสี่ยวเป่าไปด้วย”
“ท่านแม่ยายโปรดวางใจ เสี่ยวเป่าตามไปไม่เป็นอะไรขอรับ” หรงต้าซือมิ่งรับปากในฐานะลูกเขย
คราวนี้อินหลิวเฟิงก็มีอะไรจะพูด “ท่านป้าเยี่ยน พาเสี่ยวเป่ากลับไปไม่ได้จริงๆ นะขอรับ เจ้าหมอนี่ห่างจากอ้อมกอดของท่านพ่อเขาเมื่อไร เขาจะตื่นทันที จากนั้นก็จะร้องไห้ทันทีและต้องพาเขากลับมาทันทีด้วย หากไม่พามา เขาก็จะหาทางมาเอง”
“นายน้อยเคยทำเช่นนี้ ถึงอย่างไรซีซีเอาไม่อยู่ อย่าให้ซีซีอุ้มนายน้อยกลับไปนะ ซีซีทำไม่ได้” ซีหวังหมู่พูดพลางสั่นศีรษะเป็นกลองป๋องแป๋ง
เยี่ยนอวี๋เองก็ไม่ได้จะให้เด็กน้อยกลับไป ไม่เช่นนั้นเขาคงร้องไห้จะเป็นจะตายแน่ ดังนั้น…
“ฟ่านเจียง”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นเจ้ารีบกลับไปตำหนักยมราชและกลับมาที่นี่พร้อมเม่ยเอ๋อร์”
“น้อมรับคำสั่ง ข้าน้อยกลับไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ” ฟ่านเจียงรับคำสั่งและรีบกลับไปทันที
ทว่า…
โลกีเชลยศึกเอ่ยขึ้นว่า “ข้าขอไม่ไปได้หรือไม่ พวกเจ้าจะขังข้าไว้ที่ไหนก็ได้”
เพียะ
ซีหวังหมู่ที่เหวี่ยงโลกีไปกลางอากาศยิ้มหยัน “เป็นแค่เชลยยังคิดจะกลับไปนอนตีพุงรึ บอกเจ้าไว้เลย หน้าที่ของเจ้าก็คือสำรวจทาง”
“บัดซบ พวกเจ้าไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว”
“นั่นมันคืออะไรหรือ กินได้หรือไม่”
“…” โลกีพูดไม่ออก
ต้าซือมิ่งในครานี้เริ่มศึกษากฎต้องห้ามของประตูผีพร้อมภรรยาแล้ว
“ประตูต้องห้ามบานนี้เหมือนกับว่าจะเป็นฝีมือของสำนักชั่วร้ายโบราณ?” กู้จื่อเฟิงเอ่ยขึ้นจากด้านข้าง
เยี่ยนอวี๋เองก็รับรู้ได้แล้ว “สำนักที่ชั่วร้ายนั่นถูกเทียนตี้กวาดล้างไปนานแล้ว พวกเขาสูญเสียดวงจิตไปหมดแล้ว”
“ไม่ได้มีเพียงสำนักชั่วร้าย ยังมีอิทธิฤทธิ์ของเทพมารทั้งสิบสอง และสำนักชั่วร้ายน้อยใหญ่กว่าร้อยสำนักที่ถูกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทำลายล้างไปทีละแห่งล้วนมีส่วน” ต้าซือมิ่งที่อธิบายสีหน้าสดใส เหมือนกับไม่แปลกใจ
กู้จื่อเฟิงกลับอดถามไม่ได้ว่า “หลุมศพรับพวกเขาไว้? ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น การสูญเสียดวงจิตเท่ากับถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ แม้หลุมศพจะกลายเป็นที่รวมตัวของเจตจำนงที่หลงเหลือ เนื่องจากสภาพแวดล้อม แต่เจตจำนงที่หลงเหลือเหล่านี้สูญเสียพลังไปนานแล้ว เป็นได้เพียงวิญญาณที่ตายไปแล้วไม่ใช่หรือ”
ต้าซือมิ่งไม่ได้ตอบอะไร… พลังจิตใจของเขาแทรกซึมเข้าไปในประตูต้องห้าม เริ่มแยกแยะและจัดเรียงกฎต้องห้ามบนประตูบานนี้แล้ว
ตามความคิดเห็นของเขา กฎต้องห้ามเหล่านี้ไม่ถือว่าฉลาดมากนัก อย่างน้อยเท่าที่เขาดูก็ไม่มีส่วนที่ฉลาดเลย แต่เนื่องจากมีจำนวนมากและยังสามารถพัวพันกันยุ่งเหยิงได้อย่างสมดุล ดังนั้นจึงถือว่าค่อนข้างยุ่งยาก
เยี่ยนอวี๋เห็นเขาเงียบงันและกำลังครุ่นคิดอย่างหนักก็รู้ว่าเขากำลังทำงานแล้ว นางจึงส่งสัญญาณให้กู้จื่อเฟิงหยุดพูด ส่วนนางก็ตื่นตัวตลอดเวลา เผื่อว่ามีใครทำร้ายสามี
จู่ๆ กู้จื่อเฟิงก็รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกิน เขาจึงถอยออกมาเงียบๆ
ผ่านไปไม่นาน… ต้าซือมิ่งก็ส่งเด็กน้อยในอ้อมอกให้ภรรยา
“เนะ” เด็กน้อยที่ทำท่าจะตื่นก็จับแขนเสื้อของท่านพ่อเขาด้วยสัญชาติญาณ
เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อย “แม่อุ้มเสี่ยวเป่าเองจ๊ะ”
เจ้าตัวน้อยจึงมุดตัวเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่ก่อนจะหลับไปอีกครั้ง
มือที่เรียวยาวของต้าซือมิ่งประทับบนประตูต้องห้ามแล้ว
“ระวัง” เยี่ยนอวี๋พูดขึ้นทันที เพราะว่านางรู้สึกได้ว่าบนประตูต้องห้ามมีกลิ่นอายมากมายไหลทะลักอยู่ภายในจนเหมือนจะระเบิดแล้ว
ทว่ามือของต้าซือมิ่งแผ่ซ่านแสงสีฟ้าจางๆ ออกมาอย่างประหลาดแล้ว ประตูต้องห้ามทั้งบานเป็น ‘รูปธรรม’ ทันที ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่าประตูบานนี้ไม่ได้ล่องลอยเสมือนไม่มีอยู่จริงแล้ว
“เสร็จแล้วหรือ?” ซีหวังหมู่เข้ามา
จากนั้นต้าซือมิ่งก็พูดขึ้นว่า “ยืมใช้เชลยที่มัดกับหางเจ้าหน่อย”
“ได้” ซีหวังหมู่ส่งโลกีไปทันที
“ไม่ดีหรอก” โลกีโวยวาย
น่าเสียดายที่ต่อต้านไปก็ไร้ผล ต้าซือมิ่งกดตัวเขาไว้บนประตูต้องห้ามแล้ว
“ไม่นะ ม่ายยย…” โลกีที่กรีดร้องเสียงแหลมปลุกเอ้อร์เหมาตื่นทันที “เกิดอะไรขึ้น มีคนถูกข่มขืนหรือ”
เทพอัสนี “…” จู่ๆ มันก็ไม่อยากแบกเจ้าทึ่มคนนี้แล้ว
อินหลิวเฟิงหัวเราะดังลั่นอยู่ด้านข้าง “ฮ่าๆๆ เอ้อร์เหมาเจ้านี่นะ ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง แต่เรื่องชาวบ้านนี่เก่งที่สุดกลับไปเจ้าไปเป็นผู้ดูแลจวนเถอะ รับช่วงต่อได้แล้ว”
“อะไรนะ เลื่อนตำแหน่งหรือ อันนี้ได้” เอ้อร์เหมาที่ดูมีชีวิตชีวามาก เห็นได้ชัดว่าหายจากอาการบาดเจ็บหนักก่อนหน้านี้มาแล้ว แสดงให้เห็นว่าวิชารักษาของเยี่ยนอวี๋พวกนางเยี่ยมมากจริงๆ
โลกีในครานี้ถูกระเบิดจนกรอบนอกนุ่มใน
โลกีที่กระอักเลือดออกมา ควันดำก็ลอยออกมาจากปากของเขา พูดด้วยเสียงน่าสังเวชว่า “พวกเจ้าไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว นี่มันทารุณกรรมชัดๆ”
เสียงประตูผีเปิดดัง เอี๊ยด ดังตามมา ทำเอาโลกีที่ร้องโวยวายตกใจปิดปากเงียบ กลัวว่าจะถูกโยนเข้าไป เขารู้สึกว่าข้างในเย็นมากเลย
ในขณะเดียวกัน…
“คุณหนูใหญ่”
เม่ยเอ๋อร์และยมราชเร่งเดินทางมาถึง มาได้ประจวบเหมาะพอดี
เด็กน้อยในครานี้ก็ตกใจตื่น แม้เขาจะถูกท่านแม่ของเขาปกป้องไว้ในอ้อมอก แต่เขายังคงอดหดตัวไม่ได้ “หนาว…”
เยี่ยนอวี๋รวบตัวเด็กน้อยไว้แน่นกว่าเดิมทันทีและปล่อยความร้อนออกไปเล็กน้อย “ยังหนาวหรือไม่”
“พ่อ…” เด็กน้อยกลับต้องการพ่อ
ถึงอย่างไรอันที่จริงเด็กน้อยที่ยังไม่ตื่น เขาก็รู้สึกเหมือนว่าเขากลับไปในที่ที่มืดมิดแห่งนั้นอีกแล้ว หนาวมากเลย รู้สึกกลัว ต้องการพ่อ
ต้าซือมิ่งจึงรับเด็กน้อยมาปลอบ “พ่ออยู่นี่ นอนเถอะ”
เด็กน้อยที่เกาะท่านพ่อไว้แน่นถูกเยี่ยนอวี๋จิ้มก้นเบาๆ มองต้าซือมิ่งอย่างหึงหวง “ตอนนี้เสี่ยวเป่าชอบเจ้ามากขึ้นทุกที”
ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วเรียวยาว พูดว่า “เจ้าก็เหมือนกันมิใช่หรือ”
“…” เยี่ยนอวี๋ที่เม้มปาก นางก็หันไปเรียกทุกคนและโอบสามีและลูกมาข้างกาย ก่อนจะเดินนำเข้าไปในหลุมศพ ทว่าแทบจะในเวลาเดียวกัน…
ชิ้ว