ตอนที่ 666 ห้ามถอดเสื้อท่านพ่อรูปงามของเจ้า แม่ถอดเอง…
เจี่ยนชิวตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง แต่นางเชื่อมั่นว่าราชาแห่งจักรวาลสามารถรับมือได้ ดังนั้นนางจึงรีบไปยังตำหนักผีเพื่อฟื้นฟูตบะของตนเองทันที
น่าเสียดาย…
เปรี้ยง
เทพอัสนีในครานี้ฟาดสายฟ้าเหนือตำหนักผีที่ว่านี้แล้ว
ว๊าย
เจี่ยนชิวตกใจร้องอุทาน นางตกตะลึง
เทพอัสนีในครานี้มันก็ตะโกนขึ้นว่า “นายท่าน ข้าได้ยินเสียงกรีดร้องของเจี่ยนชิวแล้ว นางอยู่ข้างในจริงๆด้วย”
“ฮ่าๆๆๆ…”
ซีหวังหมู่หัวเราะออกมา ร่างอสูรของมันขยายใหญ่จนค้ำฟ้าได้ กรงเล็บสีทองขนาดใหญ่จู่โจมใส่ตำหนักผีทันที “เจี่ยนชิว ออกมาตายซะ!”
ในขณะเดียวกัน… เม่ยเอ๋อร์คนโหดพูดน้อยหยิบดาบเล่มใหญ่ฟันลงมาจากท้องฟ้าแล้ว
ตูม
เม่ยเอ๋อร์แยกไอมรณะเป็นสองส่วน ได้เปิดถนนยาวร้อยจั้งที่ไร้ซึ่งไอมรณะข้างหน้าเยี่ยนอวี๋
ฉากระเบิดจากด้านบนและด้านล่าง ด้านซ้ายและขวาที่ยิ่งใหญ่นั้น… ทำเอาท่านเสี่ยวเป่าที่นั่งหงอยๆเห็นดังนั้นก็ลุกนั่งขึ้นทันที “ว้าววว…”
ท่าทีมีชีวิตชีวานั่นทำให้เยี่ยนอวี๋อดจิ้มแก้มจ้ำม่ำของเขาไม่ได้ “เจ้านี่นะ ชอบดูการต่อสู้จริงๆ” เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก เมื่อได้ยินว่ามีคนต่อสู้กัน เขาก็จะกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที
“วิ เศษ น่ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่ามันน่าดูนี่นา
ทว่าเขาเพิ่งจะชมเสร็จ ซีหวังหมู่ที่มีหูไวก็ฮึกเหิมขึ้นมา “พี่น้อง เล่นใหญ่กว่านี้อีก นายน้อยบอกว่าพวกเราวิเศษน่ะ”
“ได้เลย” เทพอัสนีทุบหน้าอกทีหนึ่ง ดอกไม้ไฟมากมายระเบิดเหนือตำหนักผีทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังแสดงให้เด็กน้อยดู
“ฮ่า” นายน้อยเองก็รู้สึกสนุกสนาน เขาหัวเราะเสียงประหลาดออกมาแล้ว ตัวก็จะลอยขึ้นไปด้วยแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านพ่อเขาจับไว้แน่น เขาคงจะบินขึ้นไปเล่นแล้ว ทว่าสิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้นายน้อยหยุดปรบมือได้ “เสี่ยว เหลย เก่ง”
“นายน้อย หลีหลี่ก็ทำได้” หมาป่ายักษ์เฟนเลย์ที่ไม่ยอม มันบอกว่ามันต้องทำให้นายน้อยชมมันตัวเดียว มันต่างหากที่เป็นอสูรที่โปรดปรานของนายน้อย ทว่านายน้อยจูบ ‘เฟนเลย์’ ที่อยู่หลังมือแล้ว “เก่ง”
หมาป่ายักษ์เฟนเลย์ที่เชื่อฟังก็ไม่พูดอะไรแล้ว มันอยู่ในตราผนึกต่อไปและยังรู้สึกอิ่มเอมมากด้วย มันรู้ว่าแม้นายน้อยจะเด็ก แต่เขารู้ดีกว่าผู้ใดว่าใครเก่งที่สุด
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว นายน้อยเยี่ยนรู้สึกว่าทุกคนเก่งหมด
“ฮ่า…”
เมื่อซีหวังหมู่ฉายแสงเจิดจ้าออกมา เขาก็หัวเราะ
“ว้าว”
ดาบเล่มใหญ่ของเม่ยเอ๋อร์ส่งเสียงมังกรคำราม เขาก็อุทาน
“ร่าเริงจริงๆ” จางอวิ๋นเมิ่งชอบหลานชายน้อยที่น่ารักน่าชังคนนี้มากจริงๆ นางอดลูบขาของเขาเบาๆไม่ได้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าครอบครัวของบุตรสาวและบุตรเขยเหมือนมาเที่ยวหลุมศพหนึ่งวัน
อย่างน้อยฟ่านเจียงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ยมราชเช่นเขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ความเข้าใจเกี่ยวกับหลุมศพที่เขามียังไม่ทันได้แสดงเลยสักครั้ง ท่านทั้งสามที่อยู่ข้างหน้าก็ขจัดอันตรายไปหมดแล้ว
ฝ่าคลื่นหาญลมตลอดทาง คลื่นโบยบินโดยไม่หยุดนิ่ง
สมุนปฐมราชินีเยี่ยนไร้คนอ่อนแอจริงๆ โชคดีที่ตัวข้าฟ่านเจียงไม่ได้เจอปฐมราชินีในครานั้น ไม่เช่นนั้นนางแค่ส่งเหล่าขุนเขาและท้องทะเลตัวหนึ่งออกมา ข้าฟ่านเจียงก็ไม่ใช่ยมราชแล้ว แต่คงเป็นผีในยมโลกไปจริงๆ แล้ว ฟ่านเจียงคิดพลางเช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง
ทว่าเขาเพิ่งจะคิดเสร็จ ‘ท้องฟ้า’ อันมืดมิดของหลุมศพก็ปรากฏการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ฉ่า ฉู่ฉ่า…
ไม่รู้ว่าฝูงอะไรจู่โจมออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ท้องฟ้าของหลุมศพถูกฉีกจนหลายเป็นรอยแยกมากมาย จากนั้น…
ซู่ ซู่ๆ…
ตัวอะไรบางอย่างสีดำแดงนับไม่ถ้วนสยายปีกบินลงมาจากท้องฟ้าสูง
“มารดามันเถอะ”
“แมลงสาบ”
อินหลิวเฟิงที่กรีดร้องตกใจจนกระโดดขึ้นมา เขาก็กระโดดไปข้างหลังเยี่ยนอวี๋ด้วยสัญชาติญาณทันที
เอ้อร์เหมามองเขาอย่างพูดไม่ออกอีกครั้ง “นายน้อย สมแล้วที่ท่านเป็นเจ้านายที่ชอบเกาะผู้หญิงกิน”
“ไสหัวเจ้าไปซะ! แมลงสาบโว๊ย แมลงสาบ!” อินหลิวเฟิงหน้าถอดสี เขากลัวสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ที่สุด
ทว่า…
“โอ๊ยๆๆๆ โอ๊ยยย…” เสียงกรีดร้องแหลมของเด็กน้อยก็ดังขึ้นในครานี้ ช้ากว่าอินหลิวเฟิง แต่อุทานเสียงดังกว่าเขาแน่นอนและยังแหวกเสื้อฟ้าของท่านพ่อของเขาอย่าง ‘ติดนิสัย’ เพื่อมุดเข้าไปในเสื้อผ้าของท่านพ่อเขาอีกครั้ง
อินหลิวเฟิงเห็นแผ่นอกสีขาวนวลดั่งหยกของต้าซือมิ่ง อย่าหาว่าเช่นนั้นเช่นนี้เลย ต้าซือมิ่งเป็นผู้ชายที่แม้จะดูผอม แต่จริงๆ แล้วมีกล้ามหน้าอกที่น่าทึ่งยิ่งนัก
น่าเสียดาย… อินหลิวเฟิงเห็นเพียงปราดเดียวเท่านั้น เยี่ยนอวี๋ก็รีบจัดเสื้อผ้าให้ต้าซือมิ่งแล้ว เด็กน้อยก็ถูกนางควักออกมายัดเข้าไปในแขนเสื้อของสามีแล้ว และยังถูกนางบ่นอีกครั้ง “เสี่ยวเป่า บอกกี่รอบแล้ว ตื่นเต้นทีไรห้ามถอดเสื้อผ้าท่านพ่อรูปงามของเจ้า”
“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เหมือนจะจำได้แล้ว เขาก็กอดแขนของท่านพ่อเขาไว้แน่น “อ้ะ พ่อ ตีแมลงให้ตาย เร็วเข้า ใหญ่มาก จะกินเป่า อ้ะ อ้ะ…”
ต้าซือมิ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาก็ปลอบเด็กน้อยด้วยการลูบพลางจูบภรรยาที่ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เขาอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาตีความคำว่า ‘ความสุขอิ่มเอิบ’ คำนี้ได้อย่างถึงอกถึงใจ และยังกระซิบข้างหูภรรยาว่า “ให้ภรรยาถอด”
เยี่ยนอวี๋ “…”
กลับไปถอดแน่
…
อินหลิวเฟิงถอยไปข้างหลังเงียบๆ รู้สึกตัวเองเป็นส่วนเกิน
จางอวิ๋นเมิ่งในครานี้ นางบินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว
ชู่
เพลิงนิพพานต้นกำเนิดอันเจิดจรัสบดขยี้แมลงสาบขนาดยักษ์ที่บินว่อนเต็มท้องฟ้าทันที พวกมันถูกทำลายจนร้องไม่หยุดก่อนจะสลายกลายเป็นควันสีดำ
“ไม้ศักดิ์สิทธิ์อู๋ถง กวาดล้างสิ่งสกปรก” ทันทีที่เยี่ยนจื่อเยี่ยเอ่ย ต้นอู๋ถงปรากฏกลางอากาศ มันเสริมพลังให้เพลิงนิพพานของมารดาจางอวิ๋นเมิ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้เพลิงนิพพานลุกโชนโชติช่วงยิ่งขึ้น
วี้ด หงส์ผีที่บินออกมาจากไม้อู๋ถงทยานออกไปกัดแมลงสาบขนาดยักษ์ตัวหนึ่งไว้ในครานี้ ก่อนจะบินลงไปข้างหน้าเยี่ยนอวี๋
กู้จื่อเฟิงรีบเดินขึ้นหน้าไปดู อยากรู้หลักการการก่อตัวของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ ทว่าเขาเพิ่งเดินขึ้นไป
ซู่
แมลงสาบขนาดใหญ่เท่าคนหนึ่งคนจู่ๆ ก็พ่นของเหลวบางอย่างออกมา และยังมีตัวบ้าอะไรไม่ทราบระเบิดออกมาจากเนื้อในร่างกายของแมงสาบขนาดยักษ์ พวกมันโถมใส่กู้จื่อเฟิง
“บัดซบ” อินหลิวเฟิงสะดุ้งโหยง แต่เขาดึงกู้จื่อเฟิงออกไม่ทัน ทว่ากู้จื่อเฟิงเองก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วย
แส้จามรีที่สะเทือนออกมาจากร่างกายของกู้จื่อเฟิงซัดใส่สิ่งมีชีวิตนั่นจนร่วงลงบนพื้นทันที
ปัง
ตัวบ้านั่นหล่นกระแทกพื้นรุนแรง มันร้องเสียงหลงอย่างเจ็บปวด
อินหลิวเฟิงจึงเห็นชัดเจนว่า “แมงป่อง?”
แซ่ด
หางที่จู่ๆ ตั้งชันขึ้นมา คือแมงป่องพิษจริงๆ มันยังไม่ตายและทำท่าจะโจมตีใส่อีกครั้ง
“อ้ะเนะ”
ค้อนจิ๋วของเด็กน้อยถูกเหวี่ยงออกไปก่อนแล้ว ทุบแมงป่องพิษนั่นจนสลบคาที่ไปทันที แต่กลับยังไม่เละ เห็นได้ว่าเจ้าแมงป่องตัวนี้แข็งแกร่งมากทีเดียว
“นี่มันตัวบ้าอะไรกัน แมงป่องปรสิตที่อาศัยอยู่ในร่างของแมลงสาบบ้าแบบนี้” อินหลิวเฟิงมองแมงป่องอย่างหวาดกลัว รู้สึกขนลุกไปหมด จากนั้น…
วี้ด
หงส์ผีที่แต่เดิมบินอยู่หน้าเยี่ยนอวี๋ จู่ๆ ก็หายตัวไปข้างหลังอินหลิวเฟิง
จากนั้น… หงส์ผีที่ปากคาบตะขาบยักษ์สีดำแดง ‘โยน’ ตะขาบยักษ์ตัวนี้ไปข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ให้นางดู
ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เพิ่งจัดการแมงป่องเสร็จตกใจแทบตาย “อ้ะ อ้ะ ไม่เอา”
ต้าซือมิ่งที่หยิกลูกเบาๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี “กลัวอะไร พ่ออยู่ไม่ใช่หรือ”
“นั่นน่ะสิ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตบหน้าอกเบาๆ รู้สึกไม่กลัวแล้ว เขาหันไปเผชิญหน้ากับตะขาบยาวขนาดครึ่งตัวคนที่กำลังพยายามดิ้นหนี แต่ถูกเยี่ยนอวี๋ใช้พลังกดทับไว้ แสดงความเห็นว่า “ขี้เหร่”
ทว่าเขาเพิ่งแสดงความเห็นอย่างน่ารักน่าชังเสร็จ จู่ๆ รอบทิศก็ปรากฏแมงมุมขนาดยักษ์ตัวหนึ่งออกมา มันพ่นเส้นใยสีเหลืองเหนียวออกมาใส่เขาทันที
“อ้ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบแอบในอ้อมกอดของท่านพ่อเขา
ทว่าเจ้าตัวนั่นกลับยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกจางอวิ๋นเมิ่งใช้ไฟเผาแล้ว เมื่อนางพบว่าศัตรูจะโผล่ออกมาจากพื้นดินก็ถูกนางเผาลงมาข้างล่างเช่นกัน แต่แล้ว…
กรู
ขณะนี้เอง เสียงร้องแปลกๆ ดังก้องข้างหน้าเยี่ยนอวี๋พวกเขาแล้ว
จากนั้น…
แซ่ด
ของเหลวเหนียวหนืดดับเพลิงนิพพานของจางอวิ๋นเมิ่งในทันที เพลิงนิพพานของนางที่อยู่ในระดับหยวนสื่อยังคงถูกดับไป
ฟ่านเจียงในครานี้ตะโกนขึ้นว่า “ยันต์ปีศาจล่าถอย! จงไป!”
ภาพยันต์ผีใบหนึ่งพุ่งไปทางของเหนียวหนืดนั่นทันที ทำให้เมือกเหล่านั้นระเหย เห็นได้ว่าฟ่านเจียงก็มีฝีมือไม่น้อย ทว่า…
“อ้ะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตกใจ เพราะว่ามีคางคกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นข้างหน้าเขา มันกำลังมองเด็กน้อยพลางกะพริบตาสีเขียวปนสีเลือดขนาดใหญ่ของมัน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องไห้ทันที
ขี้เหร่เกินไปแล้ว… เป่าทนรับความอัปลักษณ์นี้ไม่ได้
กู้จื่อเฟิงในครานี้ก็พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ค่ายกลห้าพิษยุคก่อนประวัติศาสตร์”