ตอนที่ 674 ชนะด้วยการอาศัยภรรยาและลูก
ซู่ ซู่ๆ…
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์รสหมาล่าที่กำลังผลิบานก็คว้าและแว้งกัดพลังของเทพทั้งห้าอย่างรวดเร็วภายใต้การนำพาของจิตเหนือสำนึกของเยี่ยนอวี๋ ต่อจากนั้น…
เคร้ง
ความรู้สึกทั้งชาทั้งเผ็ดและเวียนศีรษะนั่นโถมเข้าใส่อนุสติของเทพทั้งห้า แม้แต่จักรพรรดิเซวียนหยวนที่ถอยออกมาแล้วก็ไม่พ้น
ถึงอย่างไรแม้จักรพรรดิเซวียนหยวนจะถอยออกมาแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถดึงพลังที่เข้าไปอยู่ในจิตเหนือสำนึกของต้าซือมิ่งออกมาได้ ดังนั้นเทพทั้งห้าที่รู้สึกชาไปทั้งตัวแทบจะแข็งทื่อไปหมด
เยี่ยนอวี๋เพิ่งรู้ว่าดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์รสหมาล่าของเด็กน้อยมีพลังการต่อสู่อันน่าสะพรึงเพียงใดต่อศัตรู มิน่าจิ้งจกยักษ์ระดับยุคก่อนประวัติศาสตร์จึงสลบไปได้
แม้แต่ไท่เฮ่าพวกเขาก็ตัวชาแข็งทื่อเพราะความเผ็ดไปแล้ว
เยี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยโอกาสการโจมตีกลับอันดีเช่นนี้ไปแน่นอน
“สังหาร”
เมื่อเยี่ยนอวี๋เอ่ยขึ้น… พลังวิเศษสีม่วงหม่นก็โจมตีใส่อนุสติของเทพทั้งห้าขณะที่พวกเขารู้สึกเผ็ดชาทันที
วิกฤตการณ์ร้ายแรงทำให้เทพทั้งห้าตื่นขึ้นจากอาการอัมพาตทันทีและทำการป้องกันอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดาย…
ปิ้ว
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์รสหมาล่าให้ความร่วมมือกับการโจมตีของเยี่ยนอวี๋เป็นอย่างดี มันจู่โจมใส่พร้อมกันแล้ว
ขณะนั้นเอง… แม้เทพทั้งห้าจะทำการป้องกันและต่อต้านทันกาล ทว่าน่าเสียดาย…
ตู้มเคร้ง
ไฟสีม่วงแผดเผาขึ้นในทวารทั้งเจ็ดของทวยเทพทั้งห้าแล้ว
“โอ๊ย”
จักรพรรดิเซวียนหยวนที่ทนเผ็ดไม่ได้มากที่สุด รู้สึกเพียงว่าทวารทั้งเจ็ดเผ็ดร้อนไปหมด โดยเฉพาะอนุสติที่กำลังถูกไฟเผ็ดร้อนแผดเผา
ความรู้สึกแสบร้อนเช่นนี้ทำให้น้ำตาของเขาไหลลงมาทันที
พูดตามตรง ตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมานกับการลงโทษเช่นนี้เลย ถึงอย่างไรสำหรับจักรพรรดิเซวียนหยวนแล้ว การถูกผู้อื่นหั่นเป็นร้อยๆ ครั้งสนุกกว่าความรู้สึกที่เผ็ดจนวิญญาณหลุดออกจากร่างเสียอีก
หากไม่ใช่เพราะเจ้าแม่หนี่ว์วาตั้งสติได้ทันกาล นางตัดสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างอักษรโบราณที่บิดเบี้ยวและเขาไปแล้ว ไม่ใช่แค่การถอนพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง จักรพรรดิเซวียนหยวนคงเผ็ดจนระเบิด
นอกจากนี้เจ้าแม่หนี่ว์วายังอัญเชิญว่า “น้ำแข็งลี้ลับไร้ประมาณ”
น้ำแข็งลี้ลับอันศักดิ์สิทธิ์เป็นองค์ประกอบที่เป็นน้ำแข็งของความโกลาหล ในที่สุดก็ทำให้จักรพรรดิเซวียนหยวนมีอาการดีขึ้น แต่ว่าอิทธิฤทธิ์ของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์รสหมาล่าไม่ใช่สิ่งที่น้ำแข็งลี้ลับไร้ประมาณสามารถ ‘รักษา’ ได้อย่างรวดเร็ว
ถึงอย่างไรทวยเทพทั้งห้าก็ใช้เวลาฟื้นตัวอยู่นานกว่าจะกลับมาเป็นปกติได้
จักรพรรดิเซวียนหยวนกลับยังคงน้ำตาไหล “เผ็ดเกินไปแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“แค่ก” จักรพรรดิดำจวนซวี เขาก็พบว่าปากของจักรพรรดิจวนซวีบวมขึ้นกว่าสามเท่า ดูน่าอัปยศมากเลย แต่จักรพรรดิดำรู้ว่าเขาเองก็คงไม่ได้ดีไปไหน เขาเผ็ดจนรู้สึกปวดหู ช่าง…
“ข้าก็อยากรู้ว่านี่มันตัวอะไรกันแน่ ไม่เคยเจอมาก่อนเลย” จักรพรรดิดำคิดในใจ หากเขาไม่เข้าใจ เขาคงไม่กล้าทำต่อ
ไท่เฮ่าเดาว่า “ข้าเดาว่านี่คงเป็นเหตุผลที่จิ้งจกยักษ์ถูกกำจัด เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้น”
“…”
เทพที่เหลือสี่องค์มองหน้ากันไปมา คิดไม่ถึงว่าพลังการโจมตีที่กระทบกระเทือนพวกเขาอย่างมากเช่นนั้นจะมาจากเด็กน้อยคนหนึ่ง
ทว่า… เนื่องจากพ่อแม่เด็กเป็นพวกวิปริต พวกเขาจึงยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วและเงียบงันลงด้วยสัญชาติญาณ
ผ่านไปครู่หนึ่ง จักรพรรดิเปลวเพลิงจึงถามขึ้นว่า “เช่นนั้นตอนนี้ต้องทำอย่างไร ยอมแพ้?”
“หากไม่มีวิธีทำลายก็ต้องยอมแพ้” เจ้าแม่หนี่ว์วากล่าวอย่างมีเหตุมีผล
ไท่เฮ่าเองก็พยักหน้า “แม้ตอนนี้จะเป็นโอกาสการสังหารเจ้าแซ่หรงคนนั้น แต่พวกเรายังไม่เหมาะที่จะประจันหน้ากับปฐมราชินี ดังนั้นหากเราไม่สามารถเอาชนะได้ก็ต้องถอนตัว”
“ข้าเดาว่าปฐมราชินีเยี่ยนจะติดตามและโจมตีกลับตามลวดลายบิดเบี้ยวนี้” เซวียนหยวนกลับเอ่ยขึ้น “หากพวกเราวางกับดักที่นี่ จะมีโอกาสกำจัดทั้งสองพร้อมกันหรือไม่”
“…”
เทพสี่องค์ที่เหลือเงียบงันอีกครั้ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไท่เฮ่าเอ่ยขึ้นก่อนว่า “ด้วยนิสัยของปฐมราชินีเยี่ยน นางอาจจะทำเช่นนี้จริงๆ”
“ใช่แล้ว นางไม่ใช่คนที่มีความอดทนเฝ้าต้นไม้รอกระต่ายตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เป็นไปได้มากว่านางจะโจมตีกลับ” เจ้าแม่หนี่ว์วายืนยันการวิเคราะห์ของไท่เฮ่า
“เช่นนั้นก็เริ่มเถอะ” จักรพรรดิเปลวเพลิงลุกขึ้นยืน
ไท่เฮ่าถอนหายใจเบาๆ “เดิมทีไม่อยากเผชิญหน้าโดยตรง”
จักรพรรดิเซวียนหยวนพูดได้เพียงว่า “ชะตาฟ้ากำหนด หากนางต้องมาจริงๆ เราก็ชำระล้างความข้องใจให้นางและสังหารนางเถอะ บางทีการเกิดใหม่ครั้งที่แล้วของนางเป็นเพราะตายอย่างลึกลับเกินไป ใจยังวางไม่ลง”
“ช่างเถอะ ถือเสียว่าจบสิ้นวัฏจักรนี้” เจ้าแม่หนี่ว์วาถอนหายใจยาว กลายร่างเป็นร่างงูร่างเดิมของนางและเริ่มใช้พลังของสรรพชีวิตสร้างฐานค่ายกล
ในฐานะที่เป็นผู้ที่รู้จักเยี่ยนอวี๋ดีที่สุด เทพทั้งห้ารู้จักความสามารถของเยี่ยนอวี๋ดี พวกเขาย่อมไม่ดูแคลน ล้วนกำลังสร้างค่ายกลอย่างสุดกำลัง
ในครานี้เอง…
“เนะ?”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รับรู้ได้ว่าดอกไม้ทุกดอกกลับมาแล้ว เขาก็มองไปที่ท่านแม่ของเขา “แม่ เสร็จหรือ ยัง?”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าเบาๆ “ไล่พวกเขาไปได้ชั่วคราวแล้ว”
“ว้าว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลิ้งไปมาในหมู่เมฆอย่างดีอกดีใจ “พ่อ หายหรือยัง”
“ใกล้แล้ว เสี่ยวเป่าช่วยรักษาท่านพ่อเจ้าต่อไปนะ แม่ส่งกระแสจิตสัมผัสทางฝั่งท่านพ่อเจ้าเสียหน่อย” เยี่ยนอวี๋อธิบายให้เด็กน้อยฟังอย่างตั้งใจ ไม่ได้ทิ้งเขาทันทีที่ใช้เขาเสร็จเพียงเพราะเขายังเป็นเด็ก
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเป็นผึ้งตัวน้อยรักษาท่านพ่อในจิตเหนือสำนึกของท่านพ่อเขาต่อไปอย่างดีอกดีใจ ค่อนข้างยุ่งกับการทำให้ดอกไม้ผลิบานไปทั่วท่านพ่อ
ต้าซือมิ่งในครานี้ เขาก็ผสานพลังของตนเองในโลงศพโลงแรกกลับมาแล้ว แต่หลังจากที่เขาสัมผัสดูแล้วกลับรู้สึกประหลาดใจ “เหมือนกับว่าพวกเขาไม่สามารถใช้พลังนี้ได้”
จากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขามีความเห็นตรงกับภรรยาของตนว่าเทพทั้งห้าขโมยและใช้พลังของเขาแล้ว แต่บัดนี้เมื่อเขาลองสัมผัสดูแล้ว อย่างน้อยแหล่งพลังสีเขียวนี้ก็ไม่ได้ถูกใช้แม้แต่น้อย
“บางทีหลังจากผสานอีกหนึ่งโลงเสร็จอาจจะรู้ผล” หรงอี้ที่คิดเช่นนี้ได้เตรียมจะออกจากโลงศพแล้ว
ทว่าเทพทั้งห้าในครานี้ พวกเขาล้วนกำลังสร้างค่ายกลล้อมโลงศพ ไม่ได้หลับตาเพ่งสมาธิเพื่อส่งพลังให้อักษรศักดิ์สิทธิ์ที่บิดเบี้ยวนั่นเหมือนเมื่อครู่นี้ ดังนั้นทันทีที่หรงอี้ออกไป พวกเขาต้องเห็นแน่นอน
แม้จะเป็นเช่นนี้ ต้าซือมิ่งก็ไม่เกรงกลัว “เห็นทีคงต้องแย่งชิงเอาแล้ว”
ขณะที่คิดเช่นนี้ เขาก็ทำท่าจะออกไป ทว่า…