ตอนที่ 677 จอมโหดที่นอนเฉยๆ ก็ชนะเปิดฝาโลง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ ‘ไม่เชื่อฟัง’ คลานมาแล้ว เขาทุบหางงูของเจ้าแม่หนี่ว์วาทันที จากนั้น… ก็ไม่มีจากนั้นอีก
แม้ค้อนของเยี่ยนเสี่ยวเป่าจะทำให้หางงูของเจ้าแม่หนี่ว์วาชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เยี่ยนอวี๋ลงมาอยู่ข้างกายเด็กน้อยแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้…
ตูม
ต้าซือมิ่งที่เปิดฝาโลงศพออกด้วยตนเอง เขาก็ออกมาและยังรวบร่างพลังวิญญาณตัวน้อยของเด็กน้อยไปด้วย
“พ่อ”
เด็กน้อยหันไปมองท่านพ่อและยิ้มให้ เขายังรีบมุดเข้าไปในอ้อมกอดของท่าพ่อ กลัวจะถูกท่านแม่เขาจัดการ…
“ถอย”
ไท่เฮ่าตัดสินใจพาจักรพรรดิเซวียนหยวนที่บาดเจ็บหนักที่สุดหายตัวไป
น่าเสียดาย…
“หยุด”
ต้าซือมิ่งที่เปิดฝาโลงศพออกก็ผนึกอักษรศักดิ์สิทธิ์สีม่วงอร่ามตัวหนึ่งไว้รอบบริเวณ ทำให้การเคลื่อนไหวของลมปราณถูกควบคุมไว้
ผลที่เกิดขึ้นเหมือนกับภูเขายักษ์โบราณที่เยี่ยนอวี๋ใช้ควบคุมเมื่อก่อนหน้านี้ สามารถปิดล้อมพื้นที่และผนึกเวลาไว้ แต่จักรพรรดิดำจวนซวี เขาเผยความชาญฉลาดออกมาอีกครั้ง เขาบีบแหล่งกำเนิดดั้งเดิมของตนเองทันที “รัตติกาล กลางวัน สลาย โลกา”
จักรพรรดิจวนซีระดับบรรพกาลที่เป็นตัวแทนของแสงสว่าง สามารถสลายความมืดทั้งสิ้นได้ เขาบีบแหล่งกำเนิดของตนเอง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดส่วนหนึ่งของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเช่นกันแตกสลาย
เรื่องนี้เพียงพอที่จะทำให้พลังของจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสั่นสะเทือน ดังนั้นเมื่อเขาทำเช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ก็ด่าทันที “ให้ตายเถอะ จวนซวีเจ้าคิดจะทำลายจักรวารสวรรค์เก้าชั้นฟ้าหรืออย่างไร”
เอื้อก
จวนซีที่อาเจียนเป็นเลือดออกมาอย่างรุนแรง เขาไม่ได้ตอบเยี่ยนอวี๋
เจ้าแม่หนี่ว์วาถือโอกาสตอนที่จวนซวีระเบิดตนเอง รีบม้วนตัวเขาและจักรพรรดิองค์อื่นๆ หนีไป
พลังจิตใจของเยี่ยนอวี๋เข้าควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระเบิดตนเองของจวนซวีทันที นางจำกัดผลกระทบทั้งหมดไว้ในบริเวณนี้
“เจอกันใหม่”
ขณะที่ไท่เฮ่าตอบ เขาก็สลายไปอย่างสมบูรณ์
เทพทั้งห้าหนีไปจากเหตุการณ์แล้ว
น่าเสียดาย…
“เปิด”
ทันทีที่หรงอี้สะบัดแขนเสื้อก็ฉีกชั้นอากาศของหลุมศพขาดทันที เขายื่นมือเรียวยาวของเขาไปทางเทพทั้งห้า
ซู่
ฝ่ามือเรียวยาวสีขาวนวลนั่นขยายใหญ่กลายเป็นมือที่สามารถจับเทพทั้งห้าพร้อมกันได้ ยื่นไปจับพวกเขาทันที
“ให้ตายเถอะ”
จักรพรรดิจวนซวีหน้าดำหน้าแดง เขาว่าแล้วว่าเจ้าแซ่หรงคนนี้คือหายนะที่แท้จริง ไม่ผิดเลย เจ้าคนนี้ทำลายได้แม้แต่ความว่างเปล่าของหลุมศพแห่งนี้และยังจับพวกเขาไว้ได้อย่างแม่นยำ
ต้องรู้ว่าที่นี่คือพื้นที่ที่พวกเขาดูแลมานับพันปี นอกจากจะถูกฉีกกระจุยอย่างง่ายดายเช่นนี้ ด้วยความสามารถที่ในการผสานตัวเข้าไปในหลุมศพได้อย่างสมบูรณ์ของพวกเขา ยังถูกเขาจับได้
ที่สำคัญคือ… นี่ยังเป็นเพียงร่างพลังวิญญาณของเจ้าหมอนั่นเท่านั้น ไม่ใช่ร่างจริง
บัดนี้ เทพทั้งห้าได้รู้จักความยิ่งใหญ่ของหรงอี้ใหม่อีกครา และครานี้…
“กระบี่ชิงหยวน ระเบิด”
ไท่เฮ่าสังเวยกระบี่ชิงหยวนซึ่งเป็นอาวุธประจำวิญญาณของเขาออกมา
กระบี่ชิงหยวนถือกำเนิดขึ้นพร้อมไท่เฮ่า มันเหมือนกับกระบี่ไท่ชางที่เป็นอาวุธวิเศษชั้นยอดที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่ยุคไท่กู่ ไม่ด้อยไปกว่าขวานเบิกฟ้าของยักษ์ผานกู่
บัดนี้…ตูม
ภายใต้การกระตุ้นกระบี่ชิงหยวนของไท่เฮ่า มันเปล่งและกระจายแสงไร้ที่สิ้นสุดออกมาไปทางมือของต้าซือมิ่งอย่างต่อเนื่อง
“ไป”
ไท่เฮ่าฉวยโอกาสแผ่ซ่านแสงสีดำมือเจือสีเขียวหม่นออกมา หายตัวไปอีกครั้ง
ทว่าก่อนที่เขาจะหายตัวไป เขากลับเห็นภาพที่ทำให้เขาต้องหน้าเปลี่ยนสี
ไท่เฮ่าเห็น… ฝ่ามือขนาดใหญ่สีขาวนวลนั้นแผ่ซ่านเพลิงสีม่วงเจิดจ้าออกมาและยังหลอมและควบแน่นกระบี่ชิงหยวนที่กระจัดกระจายกลับไปในครานี้
ใช่แล้ว
หลอมกลับไป
เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น
ไท่เฮ่าเห็นเจ้าแซ่หรงคนนั้นหลอมอาวุธประจำวิญญาณของเขารวมเป็นหนึ่ง นอกจากจะไม่ได้ปล่อยให้มันระเบิดตนเองแล้ว ยังหลอมความสัมพันธ์ระหว่างเขาและอาวุธประจำวิญญาณเล่มนี้
ไท่เฮ่าอาเจียนเป็นเลือดขนานใหญ่ เอื้อก
“ไท่เฮ่า”
เจ้าแม่หนี่ว์วาอุทานตกใจ
“ไป”
ไท่เฮ่ายังคงยืนหยัดที่จะพาเทพทั้งสี่องค์หนีไป แต่เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเพราะกระบี่ชิงหยวนถูกหลอม สิ่งนี้เจ็บปวดกว่าการทำลายอาวุธประจำวิญญาณด้วยตนเองมากกว่าแน่นอน
แน่นอนว่า นี่ยังไม่ใช่เพียงแค่อาการบาดเจ็บด้านร่างกาย สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความเจ็บแค้นใจ
“หรง อี้”
ไท่เฮ่ากัดฟันกรอดจากไป เพราะว่านอกจากต้าซือมิ่งจะหลอมอาวุธประจำวิญญาณของเขาแล้ว ยังถือเป็นการหลอมต้นทุนแห่งความภาคภูมิทั้งหมดของเขาไปด้วย
ลองคิดดูสิ…
เดิมทีไท่เฮ่าคิดว่าอาวุธประจำวิญญาณของตนเองเพียงพอที่จะทำลายฝ่ามือยักษ์ที่ติดตามมาของต้าซือมิ่งได้ สุดท้ายนอกจากจะต้องสูญเสียอาวุธประจำวิญญาณไป ยังถูกต้าซือมิ่งหลอมผสานต่อหน้าต่อตาเขา
ความรู้สึกเช่นนี้… ทรมานยิ่งกว่าการถูกแย่งคนรัก เพราะเท่ากับว่าเมื่อคนรักถูกแย่งไปแล้วก็เปลี่ยนใจทันทีซึ่งหมายความว่าเขาพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
นอกจากนี้ กระบี่ชิงหยวน ‘คนรัก’ ในฐานะที่เป็นอาวุธประจำวิญญาณของไท่เฮ่ามาตลอด สิ่งที่มัน ‘รู้’ และ ‘เห็น’ ย่อมมีมาก
มิหนำซ้ำ กระบี่ชิงหยวนที่ ‘แปรพักตร์’ โกหกไม่เป็น มันจะมอบ ‘ความจำ’ ทั้งหมดให้หรงอี้ที่หลอมผสานมันไป ฝ่ายหลังก็จะรู้ว่าหลายปีมานี้ไท่เฮ่า ‘ผ่าน’ อะไรมาบ้าง
ยังมีอะไรที่กระทบกระเทือนไท่เฮ่าได้มากกว่านี้หรือ ย่อมไม่มี
ประเด็นคือเขายังไม่สามารถชิงกระบี่ชิงหยวนกลับมาได้ เขาทำได้เพียง ‘จากไป’ โดยมิอาจทำอะไรได้เลย มิเช่นนั้นเขาอาจจะไปไม่ได้ด้วยซ้ำจึงทำให้ไท่เฮ่าที่ถึงที่หมายอาเจียนเลือดขนานใหญ่ออกมาอีกครา หากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งและร่างกายที่ไม่ธรรมดาของเขา เขาคงหมดสติไปแล้ว
หรงอี้ในครานี้ เขาก็กำลังหลอมกระบี่ชิงหยวนอย่างสมบูรณ์และได้รับ ‘ความจำ’ ทั้งหมดของกระบี่ชิงหยวนดังเช่นที่ไท่เฮ่ารู้
ดังนั้นหรงอี้ในครานี้ ในมือของเขาปรากฏกระบี่ชิงหยวนขึ้น ทำเอาเยี่ยนอวี๋งงงัน “กระบี่ชิงหยวน?”
“อืม” หรงอี้ที่พยักหน้าเบาๆ เขายังหลอมกระบี่ชิงหยวนที่เดิมทีมีขนาดใหญ่ให้เล็กลงและมีประกายสีม่วง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นดังนั้นก็ตาลุกวาว “ให้ เป่าหรือ”
ต้าซือมิ่งคิดจะให้เด็กน้อยจริงๆ เขายื่นกระบี่เล่มน้อยๆ ไปข้างหน้าเด็กน้อยแล้ว “รางวัลให้เสี่ยวเป่าที่เป็นคนเก่ง”
“อ้ะ อ้ะๆๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดีใจจนกรีดร้องไม่หยุด เขายื่นมือไปจับกระบี่ทันที
เดิมทีเยี่ยนอวี๋รู้สึกกังวลเล็กน้อย ถึงอย่างไรกระบี่เล่มนี้ก็เป็นอาวุธประจำวิญญาณของไท่เฮ่า ทว่า… ทันทีที่เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับกระบี่ชิงหยวน
วิ้ง
กระบี่ชิงหยวนก็มีเสียงดังก้องอย่างปรีดาออกมาและยังพยักปลายกระบี่ให้เจ้าตัวน้อย
ไม่เพียงเท่านี้… กระบี่ชิงหยวนยังสลายเข้าไปในฝ่ามือของเด็กน้อย
“อ้ะ อ้ะๆๆ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากรีดร้องอีกครั้ง ครานี้เป็นเพราะร้อนรน ถึงอย่างไรของขวัญชิ้นน้อยของเขาก็ ‘หาย’ ไปแล้ว
“เจ้าเด็กโง่” หรงอี้ที่หยิกแก้มอวบอ้วนของเด็กน้อยอดพูดไม่ได้ว่า “คิดถึงกระบี่น้อยเหมือนที่คิดถึงค้อนจิ๋ว มันก็จะปรากฏขึ้น”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้อนรนจนแก้มแดงจึงถามขึ้นด้วยอารมณ์เย็นลงว่า “แบบ แบบนี้หรือ”
“อืม” ต้าซือมิ่งที่สอนเด็กน้อยยังถือว่ามีความอดทน “เจ้าลองดู”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าลองคิดถึง จากนั้น…
วิ้ง
ค้อนจิ๋วสีดำออกมาก่อนแล้ว
วิ้ง
กระบี่สีเขียวก็ออกมาแล้ว
เมื่อเยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นก็หัวเราะอย่างมีความสุข “ฮ่า…”
เยี่ยนอวี๋อดถามไม่ได้ว่า “เหตุใดออกมาสองอย่างพร้อมกันเล่า”
“รัก” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าดูแบบนี้มีความสุขดี
แต่ต้าซือมิ่งสงสัยว่าเด็กน้อยไม่รู้ว่าต้องเรียกค้อนประจำตัวและกระบี่เชลยนี้ออกมาอย่างไรจึงเรียกออกมาพร้อมกัน
แต่เนื่องจากเด็กน้อยกำลังเล่นค้อนจิ๋วและกระบี่น้อยสีเขียวในมืออย่างมีความสุข เขาจึงไม่ได้พูดอะไร มิเช่นนั้นเด็กน้อยคงทุบเขาด้วยค้อนและแทงเขาด้วยกระบี่เป็นแน่
ทว่า… ไท่เฮ่าในครานี้ หลังจากที่เขาอาเจียนเสร็จแล้วกลับพูดขึ้นว่า “น้องสาว เจ้าและเทพกสิกรรมลงมือเดี๋ยวนี้ ถือโอกาสตอนที่ร่างพลังวิญญาณเจ้าแซ่หรงคนนั้นและปฐมราชินียังไม่กลับเข้าร่าง รีบจับสหายข้างกายของพวกเขาซะ”
ถึงครานี้ ไท่เฮ่าจำเป็นต้องใช้วิธีสกปรกเช่นนี้แล้ว ถึงแม้เขาจะไม่เคยคิดจะทำเช่นนี้และดูแคลนผู้ที่เคยทำเช่นนี้ ทว่าบัดนี้ เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้แล้ว มิเช่นนั้นเขาจะไม่มีทางชนะ
เจ้าแม่หนี่ว์วาและจักรพรรดิเปลวเพลิงย่อมรู้เรื่องนี้ดี แต่ว่า…
จักรพรรดิเปลวเพลิงจำเป็นต้องพูดขึ้นว่า “ข้าไปก็พอ หนี่ว์วาดูแลพวกเจ้าที่นี่ ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหมอนั่นจะไล่ตามมาหรือไม่”
“ไม่เป็นไร รีบไป รีบจัดการให้ไว หากพวกเขามา ข้าฝูซีไท่เฮ่ายังต้านทานได้” ไท่เฮ่าตอบเสียงเคร่งขรึม เร่งเร้าเจ้าแม่หนี่ว์วาและจักรพรรดิเปลวเพลิงให้ลงมือทันที
จางอวิ๋นเมิ่งและคนอื่นๆ ที่อยู่ในปราสาทผีในครานี้ยังคงอยู่ที่เดิม เฝ้าร่างกายของครอบครัวเยี่ยนอวี๋ไว้อย่างระมัดระวัง โดยที่ไม่รู้เลยว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา