ตอนที่ 687 ต้นกำเนิด
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับพ่อแม่ไว้และซ่อนไปข้างหลังแล้ว
แทบจะในเวลาเดียวกัน… มีความรู้สึกเหมือนสายลมอ่อนๆ พัดผ่านข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้ว่าต้องมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งผ่านหน้านางไปแน่ๆ
ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น เพราะว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋รวบรวมตบะทั้งหมดไว้ในดวงตา ในที่สุดนางก็เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เหมือนปลาไหลตัวหนึ่งกำลังแหวกว่ายอย่างเชื่องช้าข้างหน้านาง
เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้ทำให้เด็กน้อยที่จับพ่อแม้ไว้อดอุทานออกมาไม่ได้ “โหหห” ใหญ่มาก ใหญ่มาก ทำอาหาร ต้องอร่อยมากแน่ๆ…
เมื่อคิดเช่นนี้… เยี่ยนเสี่ยวเป่าน้ำลายไหลทันที เขาชี้ไปที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นพูดกับท่านพ่อเขาเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “พ่อ เป่า อยากกิน ข้าวปลา…”
เยี่ยนอวี๋จะบอกว่าเจ้าตัวนี้กินไม่ได้ ถึงอย่างไรมันก็ไม่มีแม้แต่ร่างกาย
แต่แล้วต้าซือมิ่งพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเจ้าเข้าไปกัดคำหนึ่ง ลองชิมดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร”
“ไม่…” เยี่ยนอวี๋กำลังจะคัดค้าน
“ขอรับ” เจ้าตัวน้อยที่ตอบเสร็จก็โถมตัวออกไปและเกาะ ‘ปลาไหล’ ขนาดยักษ์นั่นไว้ได้สำเร็จ ก่อนจะ ‘หงับ’ กัดลงไปทันที
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางเตรียมตัวรับเด็กน้อยและเข้าไปปกป้องเขาแล้ว ถึงอย่างไรปลาไหลยักษ์นั่นก็ไม่ใช่สัตว์ที่รับมือด้วยง่ายแน่นอน
ทว่าเยี่ยนอวี๋พบในทันทีว่าตนเองผิดไปแล้ว เพราะว่าลูกของนางรับมือด้วยยากยิ่งกว่า…
ซู่
หลังจากถูกกัด ปลาไหลยักษ์สีดำที่สะดุ้งทันที มันก็ไม่สามารถสะบัดเด็กน้อยออกไปได้เลย
ถึงอย่างไรเด็กน้อยที่กัดคำหนึ่งแล้วพบว่าปลายักษ์หวานมาก เขาก็ดูดกินทุกอย่างของปลาไหลยักษ์สีดำอย่างบ้าคลั่งด้วยความสามารถในการกินอันเหลือเฟือของเขา
ความเคลื่อนไหวนี้ ทำให้เฟนเลย์ที่อยู่ ‘บนหลังมือ’ ของเด็กน้อยรู้สึกคุ้นแบบแปลกๆ
จิ๊
ปลาไหลยักษ์ตัวนั้นถึงกับร้องเสียงหลง ในถ้ำมรณะที่เงียบเหมือนเป่าสากแห่งนี้กลายเป็นความเคลื่อนไหวที่พบเจอได้ยากนักและยังดึงดูดสัตว์ประหลาดไม่น้อยมา ‘มุงดู’
แต่สัตว์ประหลาดเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาใกล้ เหมือนกับแค่มุงดูด้วยสัญชาติญาณ และยังเรียงตัวเป็นวงกลมล้อมอยู่ด้านนอก
ไม่เพียงเท่านี้… สิ่งที่ทำให้เยี่ยนอวี๋อึ้งมากที่สุดคือลูกของนาง
เพราะว่าเยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่าปลาไหลยักษ์ตัวนี้พยายามว่ายหนีไปหลายครั้ง แต่ถูกเด็กน้อยคว้ากลับมาทุกครั้ง เขาไม่ยอมปล่อยให้ไปและไม่ปล่อยปากด้วย ตั้งแต่คำแรกที่กัดลงเขาก็ไม่ได้ปล่อยอีกเลย
ซู๊ดๆ
เยี่ยนอวี๋ได้ยินเสียงดูดเอร็ดอร่อยของเด็กน้อยนุ่มนิ่มของนาง จู่ๆ ก็รู้สึกปลาไหลตัวนี้โชคร้ายจริงๆ
“ไม่รู้ว่าจะมีปลาแบบนี้อีกหรือไม่” ต้าซือมิ่งกำลังคิดว่าจะจับไว้สักสองสามตัว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เด็กน้อยก็สงเคราะห์วิญญาณไปมากมาย ทำให้เขาเสียพลังงานไปมาก หากไม่บำรุงดีๆ ตัวอาจจะหดกลับไปอีก
เยี่ยนอวี๋ที่พูดไม่ออกอดถามไม่ได้ว่า “ตอนเด็กเจ้าก็กินอาหารเช่นนี้หรือ”
“…คงไม่ต่างเท่าไร”
เยี่ยนอวี๋ได้ยินน้ำเสียงที่เจือความรู้สึกผิด นางมองไปที่ชายข้างกายอย่างสงสัย กลับเห็นว่าระหว่างคิ้วของเขาส่องแสงออกมาเล็กน้อยอีกแล้ว
หรงอี้เองก็สังเกตเห็น เขาจึงเดินเข้าไปส่วนลึกกว่าเดิมและในครานี้นอกจากส่วนลึกวิญญาณของเขาจะสั่นไหวแล้ว ยังเหมือนกับพยายามเตือนด้วย?
เตือน?
หรงอี้ที่หรี่ตาลงเล็กน้อยยิ่งอยากเข้าไปสัมผัสส่วนลึกของแดนมืดนิรันดร์ว่าเป็นอย่างไร
ในครานี้เอง…
แม้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาจะอ่อนแอมาก พลังสัมผัสที่เขาแผ่ซ่านออกมายังคงกระตุ้น ‘ตัวเขาเอง’ อย่างเห็นได้ชัดในแดนมืดนิรันดร์
วิ้ง
ถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์สั่นไหวอีกครั้ง
ในครานี้… เยี่ยนอวี๋รับรู้ถึงแรงสั่นไหว เพราะว่าการสั่นไหวครั้งที่แล้วเบามาก อีกทั้งแวดล้อมของสถานที่แดนมรณะนี้ไม่เหมือนที่อื่น แรงสั่นไหวจึงยิ่งไม่ชัดเจน
แต่ครานี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
แรงสั่นสะเทือนนี้รุนแรงมาก
รุนแรงมาก
ถึงกับทำให้ไท่เฮ่าพวกเขาที่อยู่ข้างนอกเกือบจะคิดว่าถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์จะพังทลายแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” เจ้าแม่หนี่ว์วาเสียงเปลี่ยน “หรือว่าแม้แต่แดนมรณะก็ขังปฐมราชินีเยี่ยนและเจ้าแซ่หรงคนนั้นไม่ได้?”
ไท่เฮ่าเงียบ เขาสัมผัสต้นกำเนิดของแรงสั่นไหวระลอกนี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงทุกอย่างในพื้นที่แดนมรณะได้ ดังนั้นจึงไร้ประโยชน์
จักรพรรดิเซวียนหยวนกำลังค่อยๆ สลายไปแล้ว “ไท่เฮ่า ที่เหลือฝากพวกเจ้าด้วย ข้าไปหาจวนซวีก่อนแล้ว”
“เซวียนหยวน…” เจ้าแม่หนี่ว์วามองไปที่จักรพรรดิเซวียนหยวนอย่างอาลัย
กู้จื่อเฟิงจึงสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเซวียนหยวนกำลังแตกร้าว?
ซีหวังหมู่และเทพอัสนีก็เห็นแล้ว ทว่า…
“พวกเจ้าเป็นอะไรไปกันแน่” ซีหวังหมู่ไม่เข้าใจจริงๆ “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ครานั้นหลังจากที่พวกเจ้าตายไป นายท่านใช้ความพยายามมากเพียงใดเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ในการเกิดใหม่ให้พวกเจ้า? พวกเจ้าน่ะสิเยี่ยมไปเลย เกิดใหม่แล้วก็มาแอบสมคบคิดเป็นศัตรูกับนายท่าน บัดนี้ยังต้องมาสูญเสียโอกาสในการเกิดใหม่เพราะสิ่งนี้ พวกเจ้าป่วยหรือไง”
“เจ้าไม่เข้าใจหรอก” จักรพรรดิเซวียนหยวนที่กำลังสลาย เขามองซีหวังหมู่อย่างโศกเศร้า “และเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ พวกเราจะทำทุกอย่างให้กลับสู่ปกติในวันใดวันหนึ่ง ถึงครานั้น… ปฐมราชินีไม่อยู่ เจ้าก็จะจำปฐมราชินีผู้สร้างท่านนี้ไม่ได้อีก สวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะลืมนาง นางจะหายสาบสูญไปอย่างสมบูรณ์ ถึงวันนั้น สวรรค์เก้าชั้นฟ้าจึงจะได้รับระเบียบและชีวิตนิรันดร์ได้อย่างแท้จริง”
คำพูดเหล่านี้… ทำให้ซีหวังหมู่แทบจะระเบิดอารมณ์
กู้จื่อเฟิงกลับถามว่า “ดังนั้น พวกเจ้าหรือที่วางแผนการร่วงหล่นของปฐมราชินีเมื่อสามหมื่นปีก่อน”
“ใช่…” จักรพรรดิเซวียนหยวนเว้นจังหวะครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็พูดต่อว่า “แต่ก็ไม่ใช่ เราถือว่าเป็นผู้ผลักดันเท่านั้น ถึงอย่างไรปฐมราชินีก็เป็นจุดเริ่มต้นของโลก หากจะทำให้นางร่วงหล่นสมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย หากไม่ใช่เพราะเจ้าแซ่หรงคนนั้นทำลายกำแพงจักรวาล ทำให้กฎของแอตแลนบุกเข้ามาในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทำให้กฎระเบียบสวรรค์เก้าชั้นฟ้าปั่นป่วน พวกเราก็คงไม่สามารถทำสำเร็จได้”
คำพูดนี้กำลังฝังรากความคิดให้ลึกกว่าเดิมให้กับซีหวังหมู่และทุกคนว่าต้าซือมิ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วงหล่นของเยี่ยนอวี๋
เจ้าแม่หนี่ว์วากลับรู้สึกว่าการโยนความผิดให้ผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีความหมายแล้ว เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องกลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
แต่ว่า… ไท่เฮ่ากลับเอ่ยขึ้นว่า “ตามคำทำนายของเรา เจ้าแซ่หรงคนนี้ ในเมื่อเขาสามารถสร้างปฐมราชินี เขาก็ต้องสามารถทำลายปฐมราชินี เห็นทีจะถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะเขาต้องการเข้ามาแดนมรณะ ปฐมราชินีอาจจะไม่เข้ามา แผนการของเราก็คงล้มเหลว”
แม้ยังไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิดจากอะไร แต่ไท่เฮ่ายังคงพูดคล้อยตามคำพูดของเซวียนหยวน