ตอนที่ 697 สบตา
“หยวนสื่อ”
หยวนสื่อเทียนจุนที่ตัวกระเด็นเพราะแรงระเบิด ทำเอาสิบสองเทพขุนเขาตกตะลึง จนลืม ‘เชยชม’ ดอกไม้ยักษ์สีม่วงดอกหนึ่งที่จู่ๆ บานออกมา
ในขณะเดียวกัน
ตูม
เยี่ยนอวี๋ที่กอดลูกและสามีไว้ก็ ‘ผลิบาน’ ออกมาจากดอกไม้แล้ว
ตูม ครืน
หลุมศพกำลังพังทลาย
“กลับมา…”
เสียงของหนี่ว์วายังคงคำรามอย่างดุร้ายท่ามกลางเสียงระเบิด
แต่เยี่ยนอวี๋มั่นใจว่าเมื่อครู่นี้นางเห็นเทาเที่ยหนี่ว์วาถูกค้อนของสามีนางทุบจนแตกสลายไปแล้วเต็มสองตา นางแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับแดนมืดนิรันดร์นั่นไปแล้ว ดังนั้นเสียงนี้คงจะเป็นแค่เสียงสะท้อน
“แม่เจ้า”
เอ้อร์เหมาที่กลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ตกใจแทบตาย “เกือบจะถูกกินไปแล้ว เทาเที่ยหนี่ว์วานั่นโหดเหี้ยมจริงๆ”
เพียะ
อินหลิวเฟิงตบศีรษะของเอ้อร์เหมาอย่างรุนแรง “เจ้ายังรู้จักกลัวอีกหรือ ตอนที่เจ้าช่วยคน ไม่ใช่กล้าหาญนักรึ ทำไม รู้จักเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วหรือไง?”
ทว่า… เอ้อร์เหมาที่ถูกตียังกล้าตอบว่า “นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ข้าน้อยต้องช่วยนายน้อยท่านเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามสิ หากชุนซิ่นจวินถูกกินไป ท่านจะไม่เช็ดน้ำตาทุกคืนหรือ”
อินหลิวเฟิง “…”
เขาที่โมโหจนหายใจไม่ทันไม่อยากพูดกับลูกน้องโง่เขลาคนนี้แล้ว
มารดามันเถอะ เขาเคยพูดว่าเขาชอบชุนซิ่นจวินหรืออย่างไร ยังมีหน้าไปช่วยเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม หากเขาอยากจะเป็นวีรบุรุษจริงๆ ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นรึ น่าบัดซบจริงๆ… โมโหจะตายอยู่แล้ว ลูกน้องโง่เขลาเช่นนี้ ฝูงชนมากมาย ท่านพ่อเขาเลือกมาได้อย่างไรนะ ในด้านความสามารถ ท่านพ่อของเขามีความสามารถมากที่สุด
ทว่า… เยี่ยนอวี๋อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เอ้อร์เหมาฉลาดดี ศักยภาพก็ดีมากด้วย”
“กลายร่างเป็นปลาคุนนกเผิงได้ในช่วงเวลาสำคัญ” ซีหวังหมู่ล่าว มันยังตั้งสติไม่ได้ด้วยซ้ำ เอ้อร์เหมานกเผิงน้อยที่ไม่สามารถเลื่อนขั้นในบ่อหกวิถีก็กลายร่างเป็นปลาคุนนกเผิงได้สำเร็จแล้ว
ในความเป็นจริงเอ้อร์เหมาเองก็ไม่เข้าใจ “ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน จู่ๆ ก็สำเร็จ”
“ร้อนรนแทนเจ้านาย จนบีบคั้นออกมา?” ยมราชอดถามไม่ได้ พูดความจริง ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมานี้ เขารู้สึกว่ารุ่นน้องเอ้อร์เหมาที่สติไม่เต็มบาทคนนี้นอกจากจะปากพล่อยแล้ว ยังใสซื่อ (โง่) ดี
บางที… นี่ก็คงเหมือนกับที่เขาว่ากันว่า สวรรค์ปิดประตูบานหนึ่ง ย่อมเหลือหน้าต่างบานหนึ่งไว้ให้เสมอ
เอ้อร์เหมาเจ้าหมอนี่เป็นลูกน้องที่ไม่เอาไหนก็จริง เขาเถียงเจ้านายเก่งและยังดูมีแนวโน้ม ‘ทรยศ’ ด้วย แต่ในเวลาฉุกเฉินความสามารถที่แสดงออกมาก็ไม่ธรรมดา ช่วย ‘เจ้านาย’ ได้
ยมราชทอดถอนใจ รู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ สาบานว่ากลับไปแล้วจะจำศีลทันที หากไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับเทียนอ๋องได้จะไม่ออกมา
ทว่า…
เยี่ยนอวี๋ในครานี้มองไปที่กู้จื่อเฟิง ถามขึ้นว่า “เหตุใดต้องทำเช่นนี้”
คำถามนี้ทำให้สายตาของทุกคนมองไปที่กู้จื่อเฟิง
กู้จื่อเฟิงในครานี้นอกจากสีหน้าซีดเผือดแล้ว ที่เหลือก็ยังปกติดี แต่โลกีไม่อยู่ที่นี่ นานๆ ทีซีหวังหมู่จึงจะแสดงความเป็นห่วง “เชลยคนนั้นคงจะตายไปแล้ว คงไม่มีผลกระทบอะไรใช่หรือไม่”
“ผลกระทบน่ะมีแน่ แต่ยังตายไม่ได้” ต้าซือมิ่งผู้ที่ควบคุมทุกอย่าง เขารู้แก่ใจดี “วิชาต้องห้ามสายเลือดของราชวงศ์แอตแลน ข้าลบล้างไปแล้ว”
“แค่ก…” กู้จื่อเฟิงที่ไอออกมาเป็นเลือดอย่างอ่อนแอพูดได้เพียงว่าวิธีการของต้าซือมิ่งคนนี้ทำให้เขาจำเป็นต้องยอมจริงๆ แม้แต่ให้สิทธิ์เขาทำให้ปฐมราชินีจดจำเขาไว้ก็ไม่ยอมให้
ทว่า… ซีหวังหมู่ถามขึ้นว่า “จวินโฮ่ว เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงไม่ลบล้างตั้งแต่แรก”
“เจ้าโง่หรือไง” อินหลิวเฟิงกลอกตา “เช่นนั้นจะทำให้กูไหน่ไนได้รับบาดเจ็บไงเล่า เจ้าดูชุนซิ่นจวินสภาพจะตายมิตายแหล่นี่สิ ต้าซือมิ่งจะทำใจได้หรือ”
“อ๋อ” ซีหวังหมู่เข้าใจทันที “ที่แท้คำนึงถึงนายท่าน”
เทียนตี้รู้สึกจุก “…จะว่าไปแล้วตอนนั้นเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว อาจารย์พ่อยังคำนึงถึงเรื่องนี้” เทียบกับการถูกดูดกลืนแล้ว อาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้คงไม่เป็นอะไรหรอก
เยี่ยนอวี๋เองก็คิดเช่นนั้น นางจึงมองสามีอย่างไม่เข้าใจนัก
ทว่าต้าซือมิ่งตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ตอนแรกคิดไม่ถึง”
“อ๋อ เช่นนี้นี่เอง” ซีหวังหมู่เชื่อ
อินหลิวเฟิงกลอกตาอีกครั้ง บ่นในใจไม่หยุดว่า ‘เชื่อเจ้ากะผีน่ะสิ’
กู้จื่อเฟิงก็ไม่เชื่อ แต่ก็ไม่สำคัญแล้ว มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ดีเหมือนกัน
ทว่า… เขาตอบคำถามของเยี่ยนอวี๋ว่า “ครานั้นพนันกับปฐมราชินีว่าหลังจากจักรพรรดิหูจวิ้นแพ้แล้ว ข้าน้อยจะยอมจำนนต่อท่าน แต่ข้าน้อยไม่ได้ทำ ดังนั้นวันนี้คงเป็นกรรมตามสนองของข้า”
เยี่ยนอวี๋ที่ได้ยินดังนั้นจึงเลื่อนสายตาจากต้าซือมิ่งมาที่กู้จื่อเฟิง “ในเมื่อเช่นนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ไม่ได้ติดค้างอะไรข้าแล้ว แต่เจ้าติดบุญคุณชีวิตสามีข้า ดังนั้นก็จงทำงานให้ข้าต่อไป”
“ยินดีที่จะรับใช้ท่าน” กู้จื่อเฟิงกำหมัดประสานมือ
ต้าซือมิ่งเม้มปาก เขาแอบหยิกมือของภรรยาเงียบๆ
เยี่ยนอวี๋กะพริบตามองสามีของนาง ดวงตาสุกใสคู่หนึ่งราวกับกำลังถามว่า “ทำไมหรือ”
ท่าทีใสซื่อบริสุทธิ์นั่นเหมือนกับเด็กน้อยไม่มีผิด
ต้าซือมิ่งที่เม้มปากอีกครั้ง เขาก็ยืนมือไปบีบหน้าของภรรยาเบาๆ ทำเอาปฐมราชินีเยี่ยนงุนงง ถึงอย่างไรทุกคนก็กำลังมองอยู่ ยังมาบีบ… ทว่าเยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันต่อต้าน
ครืน
เสียงระเบิดในหลุมศพดังขึ้นกว่าเดิม
ความเอ็นดูในสายตาของทุกคนกลายเป็นความเคร่งขรึมทันที ทุกคนมองไปที่หลุมศพแล้ว
“อ้ะ”
เด็กน้อยอ้าปากค้างเหม่อมองหลุมศพที่ระเบิดเหมือนกับน้ำที่เดือดพล่าน
วิ้ง
ระหว่างคิ้วของต้าซือมิ่งกลับแผ่ซ่านแสงจางๆ ออกมาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน…
ณ ศูนย์กลางความมืดนิรันดร์ที่แตกแยกอย่างต่อเนื่อง เงาที่ยืนอยู่ในความมืดได้เปล่งแสงสีขาวจางๆออกมา ไม่เพียงเท่านี้…
วิ้ง
‘ต้าซือมิ่งผมสีดำ’ ท่านนี้ที่จู่ๆ ลืมตาขึ้น เขาลืมตาที่ไม่มีลูกตาดำคู่หนึ่ง ในนั้นมีเพียงสีขาวเหมือนหมอกทว่าสว่างไสวเหมือนกับแสงจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากระหว่างคิ้วของต้าซือมิ่ง เป็นหมอกสีขาวเหมือนเมฆควัน
มิหนำซ้ำ… เมื่อ ‘เขา’ ลืมตาทั้งคู่ขึ้น