เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 704 ทำลายตนเอง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 704 ทำลายตนเอง

ในเวลาเดียวกัน… เทียนตี้ที่เพิ่งปรากฏข้างหน้าหลุมศพ เขาก็ได้ประจักษ์หลุมศพทั้งหลุมหายไปด้วยตาของเขาเอง

หลุมศพสีเทาที่เหมือนกับมีป้ายหลุมศพมากมายตั้งตระหง่านอยู่ในความมืดหายไปแล้ว?

“นี่มัน…” เทพอสูรหน้ามนุษย์ตะลึงงัน

เทพวิหคมังกรเองก็มองพื้นที่อ้างว้างสีดำตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก “หายไปกลางอากาศ?”

“เทียนตี้ ท่านทำหรือ” เทพอสูรหน้ามนุษย์มองเทียนตี้ที่บังเอิญปรากฏขึ้นพอดี

เทียนตี้รู้สึกถูกปรักปรำ “หากข้ามีความสามารถขนาดนั้นคงจัดการหลุมศพให้สิ้นซากตั้งแต่แรกแล้ว”

“เหตุใดจึงหายไปกลางอากาศเช่นนี้ได้นะ” เทพที่เหลืองุนงงมาก “ไม่มีคลื่นความเคลื่อนไหวใดๆ เลย นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว”

“ข้าเข้าไปดูเอง พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ต่อไป อย่าเพิ่งตระหนก ไม่แน่ว่าอาจจะแค่ถูกซ่อนไว้” ในขณะที่เทียนตี้กล่าวสิ่งที่ตนคาดคิดไว้ออกมาก็เหินไปบริเวณที่หลุมศพอยู่แล้ว

“ระวัง” เทพวิหคมังกรเตือน

เทียนตี้กลับไม่ได้ตอบอะไรอีก เขาจมหายเข้าไปในความมืดแห่งนั้น เขารู้สึกได้ว่าหลุมศพหายไปแล้วจริงๆ แต่ที่แห่งนี้ยังหลงเหลือกลิ่นอายของหลุมศพ

บัดนี้เทียนตี้อดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่มาได้ทันกาล มิเช่นนั้นหากเขาเพิ่งเร่งเดินทางมาจากตำหนักสวรรค์ในยามนี้ เกรงว่าจะคลาดกับกลิ่นอายสุดท้ายที่หลงเหลือนี้

เพียงแต่ว่า เทียนตี้เพิ่งจะจมเข้าไปในกลิ่นอายที่หลงเหลือของหลุมศพ สิบสองเทพขุนเขาก็พากันร้องอุทานอย่างตกใจ “เทียนตี้”

เพราะว่าในสายตาของสิบสองเทพขุนเขา เทียนตี้หายไปแล้ว เขาหายไปกลางอากาศเหมือนกับหลุมศพ?

นี่มัน…

“เสร็จกัน” เทพอสูรหน้ามนุษย์กัดฟันกรอด แต่กลับไม่ได้ผลีผลามพุ่งเข้าไป ถึงอย่างไรแม้แต่เทียนตี้ก็หายไปแล้ว มันไม่คิดว่าตนเองจะจัดการได้

“ส่งสารให้นายท่านก่อน” ขณะที่เทพวิหคมังกรกล่าวก็ส่งโทรจิตให้เยี่ยนอวี๋แล้ว

ทว่าเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้กำลังหลับ ไม่สามารถตอบเทพวิหคมังกรได้

หยวนสื่อเทียนจุนที่ตรวจชีพจรให้ครอบครัวเยี่ยนอวี๋ทั้งครอบครัว หลังจากที่เขาปิดม่านสกัดกั้นพวกเขาแล้วก็จำเป็นต้องพูดว่า “เท่าที่ข้าดูแล้ว พวกเขาไม่เป็นอะไร”

สองสามีภรรยาเยี่ยนชิงและเยี่ยนจื่อเยี่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมทันที พวกเขารู้ว่าไม่เป็นอะไรนี่สิคือปัญหาใหญ่สุด ทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไรแต่กลับสลบไม่ฟื้น ยิ่งทำให้พวกเขากระวนกระวายใจ

“อย่าได้วิตกเกินไปเลย” หยวนสื่อเทียนจุนกลับไม่กังวลมากนัก “เมื่อคืนข้าลองทำนายกับสหายน้อยกู้ แต่เราไม่พบลางร้ายใดๆ ครอบครัวนายท่านก็คงไม่เป็นอะไร”

“เช่นนั้นก็ดี” เยี่ยนชิงเชื่อมั่นในคำทำนายของหยวนสื่อเทียนจุน เพราะถึงอย่างไรก็ตรงทุกครั้ง

เยี่ยนจื่อเยี่ยเองก็ถอนหายใจโล่งอกเบาๆ “บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไป เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์และน้องเขยได้พักเสียหน่อยก็ดี มิเช่นนั้นก็วุ่นเกินไปแล้ว ไม่เคยได้หยุดพักเลย”

“จริงตามนั้น” หยวนสื่อเทียนจุนทอดถอนใจ ตั้งแต่ที่ปฐมราชินีกลับมา บังเอิญตรงกับฤดูกาลที่มีเรื่องประดังเข้ามา ท่านไม่เคยได้หยุดพักเลยจริงๆ เร่งเดินทางไปทางนั้นทีทางนี้ที คงเหนื่อยทั้งกายและใจ ถือโอกาสพักผ่อนสักวันสองวันก็ใช่ว่าจะไม่ใช่เรื่องดี

เพียงแต่ว่า… หยวนสื่อเทียนจุนเพิ่งคิดเช่นนี้เสร็จก็ได้รับโทรจิตจากเทพวิหคมังกร

เทพวิหคมังกรที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากเยี่ยนอวี๋คิดถึงหยวนสื่อเทียนจุนเป็นคนแรก

หยวนสื่อเทียนจุนกลับยังคงมีสีหน้าปกติ เพียงแค่ส่งโทรจิตตอบกลับไปว่า “ข้าจะตามไปทันที พวกเจ้าเฝ้าไว้ก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม”

“เทียนจุนวางใจ เราไม่กล้าทำอะไร เรื่องนี้ประหลาดยิ่งนัก ท่านระวังตัวด้วย” เทพวิหคมังกรเตือน

หยวนสื่อเทียนจุนเพิ่งตอบเสร็จ…

สีหน้าของจางอวิ๋นเมิ่งก็เปลี่ยนไปแล้ว “พวกเจ้าดูมือของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์สิ”

หยวนสื่อเทียนจุนมองไปทันที เขาเห็นมือของปฐมราชินีกำลังแตกร้าว?

นี่มัน…

“เกิดอะไรขึ้น” เยี่ยนชิงอยากจะพุ่งตัวขึ้นไปจับไว้ แต่เขาไม่กล้า เขากลัวว่าบุรุษหยาบกระด้างเช่นเขาจะทำให้มือของบุตรสาวอันเป็นที่รักแตกสลาย

ทว่าครานี้เยี่ยนชิงทนไม่ไหวแล้ว ตาเขาแดงก่ำ “ไหนว่าไม่เป็นไร เหตุใจจึง…”

“ใจเย็นๆ” เยี่ยนจื่อเยี่ยพยายามสงบสติอารมณ์ “อย่าได้ร้อนรน ให้เทียนจุนดูก่อน”

หยวนสื่อเทียนจุนกลับไม่กล้ายื่นมือไปแตะปฐมราชินีเช่นกัน ลมหายใจเขาค่อนข้าวถี่รัว “สหายน้อยจื่อเยี่ย ไปเชิญสหายน้อยกู้และหลิวเฟิงมา”

“ขอรับ” เยี่ยนจื่อเยี่ยหายตัวจากไปทันที

ผ่านไปไม่นาน กู้จื่อเฟิงและอินหลิวเฟิงก็ถูกนำตัวมาแล้ว

เดิมทีสองคนนี้ยังคงงุนงง แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นสภาพของมือทั้งคู่ของเยี่ยนอวี๋ พวกเขาก็ ‘กระปรี้กระเปร่า’ ขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันก็เผยสีหน้าเคร่งขรึม “เกิดจากอะไร”

“เกรงว่าจะเป็นเพราะการหายสาบสูญของหลุมศพ เมื่อครู่นี้ข้าได้ข่าวว่าหลุมศพหายไปกลางอากาศ เทียนตี้เข้าไปตรวจสอบก็หายตามกันไป” หยวนสื่อเทียนจุนคิดว่าน่าจะข้องเกี่ยวกับสองเรื่องนี้

กู้จื่อเฟิงจึงเขยิบเข้าไปใกล้เยี่ยนอวี๋เพื่อตรวจดูมือของเยี่ยนอวี๋ เพียงแต่ว่าเขาเพิ่งจะเขยิบตัวเข้าไป ต้าซือมิ่งที่เดิมทีนอนนิ่ง จู่ๆเขาก็ขยับตัว แม้จะเล็กน้อยมากก็ตาม…

แต่อินหลิวเฟิงก็สังเกตเห็นแล้ว “ต้าซือมิ่งจะตื่นแล้วหรือ”

“ไหน” หยวนสื่อเทียนจุนมองไปที่หรงจวินโฮ่วที่ถูกเขาเมินเฉยทันที กลับไม่เห็นว่ามีท่าทีจะตื่น

แต่อินหลิวเฟิงมั่นใจมาก “เมื่อครู่นี้ขนตาของต้าซือมิ่งขยับ ขนตาเขายาวเช่นนั้น เห็นได้ชัดมาก ข้าไม่ได้ตาฝาดแน่นอน”

ก็ได้… หยวนสื่อเทียนจุนเชื่อว่าอินหลิวเฟิงไม่ได้พูดเท็จ แต่ตอนนี้ยังไม่ตื่นนี่นา?

ทว่า… ต้าซือมิ่งที่ยังไม่ตื่นจริงๆ กลับแสดงปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนึกที่ทำให้จางอวิ๋นอดขบขันไม่ได้

ต้าซือมิ่งตะแคงไปด้านข้าง โอบภรรยาและลูกน้อยไว้แล้ว

กู้จื่อเฟิง “…”

เขารู้สึกถึงเจตนาร้าย นี่คือต้องการอวดความรักให้เขาดูรึ

อินหลิวเฟิงที่เดิมทีรู้สึกกังวลทนไม่ไหว เขาโพล่งหัวเราะทันที “พรืด ข้าคิดว่าคงไม่เป็นอะไร ต้าซือมิ่งไม่มีทางปล่อยให้กูไหน่ไนสลายไปหรอก”

“แต่เขาเองก็กำลังแตกร้าว” หยวนสื่อเทียนจุนอดเตือนเจ้าวิหคทมิฬที่สมองไม่ค่อยจะดีคนนี้ไม่ได้ และยังชี้ไปที่มือของต้าซือมิ่ง

ทุกคนในเหตุการณ์หน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง เพราะว่ามือของต้าซือมิ่งกำลังแตกร้าวจริงๆ อีกทั้งยังแผ่ซ่านไอความมืดจางๆ ออกมา นั่นคือ…

“ไอมรณะแดนมืดนิรันดร์” กู้จื่อเฟิงลุกขึ้นและถอยออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ชักจะซับซ้อนแล้ว”

“ผลสืบเนื่องจากถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์ ไม่…” อินหลิวเฟิงอดพูดไม่ได้ว่า “เราคงตกหลุมพรางตั้งแต่ตอนที่เข้าถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์แล้ว บัดนี้เรารอสองเค่อ แล้วดูว่าเราจะแตกร้าวด้วยหรือไม่”

กู้จื่อเฟิงเข้าใจความหมายของนายน้อยอิน เขาพยักหน้าสำทับแล้ว “หากพวกเราแตกร้าวเช่นกัน เท่ากับว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเราหาย

เกรงว่าในสภาพแวดล้อมนั่นมีพลังบางอย่างที่เราไม่รู้จัก มันบุกรุกเข้ามาในร่างกายของเราแล้ว แต่พวกเรากลับไม่รู้ตัวเลย”

“ใช่แล้ว หากการแตกร้าวไม่เกิดขึ้นกับเรา เช่นนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” อินหลิวเฟิงเอ่ย รู้สึกได้ว่าคงจะหนีไม่พ้นอาการเช่นนี้

หยวนสื่อเทียนจุนมองทั้งสองอย่างเป็นกังวล “หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ไม่เท่ากับว่าเหลือข้าเพียงผู้เดียวหรือ”

“หากจนถึงสุดท้าย เรายังคงไม่สามารถคลี่คลายได้ เช่นนั้นท่านก็ต้องไปด้วย” อินหลิวเฟิงเชื่อว่าพลังที่ควบคุมพวกเขาไว้ได้ย่อมไม่ปล่อยให้หยวนสื่อเทียนจุนมีชีวิตรอดคนเดียว เว้นแต่หยวนสื่อเทียนจุนจะยอม ‘เชื่อฟัง’

แต่ว่า… เหมือนกับว่าจะแปลกๆ

“เป้าหมายของจักรพรรดิทั้งห้าคือครอบครัวปฐมราชินีมาโดยตลอด” กู้จื่อเฟิงรู้สึกว่า “บางทีพวกเขาอาจจะถือโอกาสกำจัดเราไปด้วย แต่นี่ก็ไม่ได้สำคัญ ตอนนี้มาดูกันก่อนดีกว่าว่าการแตกร้าวนี่สามารถแก้ไขได้หรือไม่”

“ไม่ได้ ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงปมของปัญหาได้เลย” หยวนสื่อเทียนจุนจำเป็นต้องพูดให้กระจ่างว่า “จนถึงบัดนี้ ปฐมราชินีที่ข้ารับรู้ถึงยังคงไม่เป็นอะไร…”

“เช่นนั้นท่านไปดูเทียนตี้ก่อนเถิด” อินหลิวเฟิงได้แต่พูดเช่นนี้ ถึงอย่างไรหยวนสื่อเทียนจุนอยู่ต่อไปก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์

หยวนสื่อเทียนจุนเองก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ “จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์มาก”

“ไม่ต่างกัน” อินหลิวเฟิงสะบัดพัดพูดว่า “ตอนนี้เราได้แต่คาดเดา”

หยวนสื่อเทียนจุนไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไร แต่เขาก็จากไปแล้ว ไปดูว่าเทียนตี้เป็นอย่างไรบ้าง

เทียนตี้ในครานี้ เขาตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยดีนักจริงๆ

เขาพบว่าเขาเข้าไปในหลุมศพ ไม่สิ ที่ถูกต้องคือเขาตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าอ่อนแอมากอีกครั้ง

“ไม่ใช่เจ้าแม่หนี่ว์วาเทาเที่ยทำให้ข้าเข้ามาหรอกนะ” แรกเริ่มเทียนตี้คิดเช่นนี้

แต่เขาก็พบในทันทีว่าไม่ใช่เช่นนั้น เพราะว่าเขาเห็นว่าข้างหน้าเขามีคนอยู่คนหนึ่ง

แม้คนๆ นี้เกือบจะผสานรวมเป็นหนึ่งกับแดนมืดนิรันดร์แล้ว แต่หากดูดีๆ ยังมีเค้าโครงอยู่

และรูปร่างสูงสง่านั่น…

“อาจารย์พ่อ?”

เทียนตี้เรียก แต่เขาไม่ได้ตอบ

เทียนตี้จึงเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เดินขึ้นไปข้างหน้าต่อ

แต่เทียนตี้ก็พบอย่างรวดเร็วว่า เขาไม่สามารถแยกได้ว่าเงานี้เป็นเงาด้านหน้าหรือด้านหลัง

“นี่…”

“อาจารย์พ่อ?”

เทียนตี้อดเรียกอีกครั้งไม่ได้ อยากให้ฝ่ายตรงข้ามตอบสนองบ้าง

น่าเสียดาย เขายังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ

เทียนตี้จึงเข้าไปใกล้อีก ในขณะเดียวกันก็ลองเรียกต่อไป “อาจารย์พ่อ ใช่ท่านหรือไม่” ไม่น่าจะใช่หรอกนะ อาจารย์พ่อยังนอนอยู่ในจักรวาลดั้งเดิมมิใช่หรือ

แต่รูปร่างนี้…

เทียนตี้ไม่ทันครุ่นคิดละเอียด

ร่างเงานั้นขยับแล้ว บริเวณโดยรอบสว่างไสว

ต่อจากนั้น…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท