เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 710 กลยุทธ์อันล้ำลึก

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 710 กลยุทธ์อันล้ำลึก

“หาววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่หาวอีกครั้ง เขาก็เกาะหลังท่านพ่อของเขา “พ่อ…”

เยี่ยนชิงที่สาวเท้าเข้าไปในห้องรีบส่งเสียง ‘ชู่’ เบาๆ ให้เด็กน้อยทันที

จางอวิ๋นเมิ่งที่ตามเข้ามาก็เดินไปหาหลานชายน้อยอย่างรวดเร็วและทำท่าจะอุ้มเขาขึ้นมา

แต่เด็กน้อยผู้ชาญฉลาดหลบท่านยายของเขาและยังปีนขึ้นไปบนตัวของท่านพ่อเขาแล้ว แววตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าอยากจะเล่นแล้ว

โชคดีที่เยี่ยนชิงมือไว เขาคว้าเด็กน้อยไว้ทันที “อย่ากวนท่านพ่อเจ้า เขาเหนื่อยแล้ว”

“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยังคงงัวเงียอยู่ เขาก็คิดจะหนีออกมาจากอ้อมอกของท่านตาเขาเพื่อมาดูท่านพ่อ

แต่แล้วเยี่ยนจื่อเยี่ยก็ยกอาหารหอมกรุ่นเข้ามา “เสี่ยวเป่า ลุงใหญ่ทำซาลาเปาอิงอิงให้เจ้า กินหรือไม่”

จิ่วอิงที่ซ่อนตัวสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ “…”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกดึงดูดความสนใจไปตามคาด เขาก็รีบลงจากเตียงอย่างรวดเร็วและเดินเตาะแตะไปนอกห้องแล้ว

เทพอัสนีสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ หัวใจที่เกือบจะระเบิดของเขาค่อยนิ่งลง

จางอวิ๋นเมิ่งมองบุตรเขยและบุตรสาวที่ยังคงนอนอยู่บนตั่งอย่างระมัดระวัง เห็นแขนทั้งสองข้างของบุตรสาวกำลังแตกร้าว รู้สึกกังวลอย่างมิอาจเก็บไว้ได้ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…”

เยี่ยนชิงที่หันกลับไปมองบุตรสาวอันเป็นที่รักเช่นกัน ตาของเขาเริ่มแดง แต่เขาจับไหล่ของภรรยาสุดที่รักไว้แน่น “ออกไปเถอะ ดูแลเสี่ยวเป่าให้ดีก่อน”

“อืม” จางอวิ๋นเมิ่งยื่นมือไปลูบใบหน้าของบุตรสาวเบาๆ พยายามข่มความกระวนกระวายไว้ และออกจากห้องพร้อมเยี่ยนชิงอย่างไม่รีรอเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเด็กน้อย

เทพอัสนีคอยเฝ้าดูนายท่านและจวินโฮ่วของพวกมันด้วยความกังวลใจ

หารู้ไม่ว่า…

เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ แม้นางจะยังไม่ฟื้น แต่จิตเหนือสำนึกของนางกลับเข้าไปใน ‘ความทรงจำ’ ของต้าซือมิ่งอีกครั้งแล้ว แต่นางในครานี้ปรากฏตัวขึ้นในที่ที่นางคุ้นเคยที่สุด นั่นก็คือจักรวาลดั้งเดิม

“เอ๋?”

เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ในความทรงจำช่วงไหนของสามี

ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็รู้ในเวลาต่อมาทันที เพราะว่านางเห็นสามีของนางกำลังขุด ‘ป้าย’ แล้ว

ป้าย ‘ตำหนักไท่ชาง’ ที่นางเป็นคนเขียนเองถูกเขาขโมย

ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาเมื่อสามหมื่นปีก่อน ตอนที่นางร่วงหล่นไม่นาน

อีกทั้งในครานี้… เขาไม่ได้ ‘มองมา’ จากที่ไกล เขามาด้วยตนเองแล้ว แม้ยังคงมองไม่เห็นใบหน้าของเขา เห็นเพียงแผ่นหลังของเขาก็ตาม เยี่ยนอวี๋กลับรู้สึกถึงอารมณ์โมโหที่กำลังพลุ่งพล่านจากแผ่นหลังของเขาที่อยู่ข้างหน้าตำหนักไท่ชาง

ความโกรธกริ้วนั้น… เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง แต่ก็เต็มไปด้วยการยับยั้ง มิเช่นนั้นตำหนักไท่ชางคงจบเห่แน่ๆ คงไม่ได้รอนางกลับมาแล้ว

“สามี”

เยี่ยนอวี๋อยากจะปลอบสามีคนนี้ในยามนี้ ให้เขาอย่าโมโหจนไม่สามารถควบคุมพลังอำมหิตของตนได้และจำเป็นต้องระเบิดตนเองล่วงหน้า

ทว่า…

เยี่ยนอวี๋ที่ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้ก็เห็นว่ามือของสามีนางกำลังแตกร้าวแล้ว

เยี่ยนอวี๋ผงะ

นางคิดไม่ถึงว่า การร่วงหล่นของนางส่งผลให้ชาตินี้ของสามีแตกสลายล่วงหน้า

“สามี”

เยี่ยนอวี๋ร้อนรน เพราะว่านางรู้สึกถึงว่าสามีที่ระเบิดตนเองก่อนเวลาวิญญาณไม่เสถียร สภาพต่างจากการระเบิดตนเองก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง นางมั่นใจว่านี่ไม่ใช่การระเบิดตนเองโดยปกติของเขา

แต่เยี่ยนอวี๋เพิ่งจะร้อนใจ นางก็ได้ยินเสียงเบาแหบแห้งว่า “เจ้าโง่”

เยี่ยนอวี๋ “?”

นางคิดว่านางหูฝาด

“เจ้าโง่”

เสียงดุจพิณที่ทุ้มต่ำและแหบแห้ง คือเสียงที่เยี่ยนอวี๋ทั้งคุ้นเคยและชื่นชอบ ทำให้นางแทบจะโพล่งพูดออกไปว่า “เจ้าน่ะสิโง่”

“ข้ามองเจ้ามาหลายพันล้านปี ข้าแค่กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เจ้าก็สลายไปแล้ว”

“…”

เยี่ยนอวี๋ที่เงียบงันจู่ๆ ก็โต้แย้งไม่ได้ แม้นางอยากจะบอกว่าอันที่จริงก็เป็นเพราะนางไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว นางมีชีวิตอยู่ยาวเกินไปจนเบื่อหน่าย หากไม่ใช่เพราะนางไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ไท่เฮ่าร้อยคนหรือแม้แต่ศัตรูที่มีศักยภาพใดๆ ก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้

แต่ว่า… จู่ๆ นางก็คิดว่าเหตุใดตนจึงโหดร้ายเช่นนี้

เขามองนางมาพันล้านปี เพื่อมาอยู่ข้างกายนาง พยายามเกิดใหม่หลายพันครั้ง

นางกลับร่วงหล่นในเวลาที่เขากำลังจะมาถึง แม้นางจะไม่รู้เรื่อง แต่ว่า… นี่ก็คือส่วนที่โหดร้ายที่สุด

นางไม่รู้ ดังนั้นนางจึงจากไปอย่างสงบไร้กังวล

หากไม่ใช่เพราะเกิดใหม่ เขา…

น้ำตาของเยี่ยนอวี๋ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว กลับได้ยินว่าสามีของนางพูดขึ้นเบาๆว่า “ไม่เป็นไร ข้ามาแล้ว”

คำพูดนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ชะงักเล็กน้อย และทำให้นางเห็นสามีที่กำลังระเบิดตนเองได้ก่อหมอกสีขาวกลุ่มก้อนหนึ่งเหนือฝ่ามือ บนนั้นยังมีกลิ่นอายการเกิดใหม่อันลึกลับด้วย

จากนั้นนางก็เห็นว่าสามีของนางเดินผ่านทั่วทุกมุมของตำหนักไท่ชาง รวบรวมผมสองสามเส้นของนางไว้และใส่ลงไปในหมอกสีขาวจางๆ นั้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง…

เหมือนกับว่านางจะเห็นตัวนางเองขนาดเท่าไข่ไก่ท่ามกลางหมอกสีขาวนั่น?

“ฮึ”

ต้าซือมิ่งที่มองหมอกสีขาวกลุ่มก้อนนั้นในฝ่ามือ เขาก็ยกมือขึ้นสัมผัสปฐมราชินีตัวน้อยๆ และจางๆ ก่อนจะกดตัวนางเข้าไปที่หว่างคิ้ว

“นี่มัน…”

ภาพตรงหน้าเยี่ยนอวี๋หายไปหมด

แต่นางกลับรู้ว่าสามีของนางคงใช้วิญญาณของตนเองหล่อเลี้ยงวิญญาณที่หลงเหลือของนาง และจากนั้นก็ส่งนางกลับสู่วัฏจักร

ดังนั้น… การเกิดใหม่ของนางไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่โชคชะตา สามีของนางใช้วิญญาณของตนหล่อเลี้ยงนางไว้ก่อนเขาจะระเบิดตนเอง ทำให้นางมีโอกาสเกิดใหม่

และผลจากการทำเช่นนี้ของเขา ย่อมทำให้เขาดับอนาถยิ่งกว่าเดิม

“สามี…”

เยี่ยนอวี๋คาดเดาถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้ แต่ว่า…

เมื่อต้าซือมิ่งส่งนางเข้าสู่วัฏจักรและพังทลายอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแตกสลายกลายเป็นเศษเลือดเศษเนื้อเหมือนกับต้นอิงสีแดงที่เหี่ยวเฉา เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง นางก็รู้สึกหายใจลำบาก

จนเมื่อผ่านไปนานแสนนาน…

เมื่อภาพตรงหน้ากลายเป็นสีดำมืด เยี่ยนอวี๋ก็เรียกไม่หยุด “สามี สามี ฮือ…”

เป็นครั้งแรกที่เยี่ยนอวี๋ปล่อยร้องโฮอย่างไม่สามารถควบคุมตนเองได้

นางเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก… ราวกับถูกบีบหัวใจอย่างรุนแรง และถูกฉีกกระชากซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทว่ารอบกายของนางกลับมีแสงสีม่วงอร่ามจางๆ ค่อยๆ สว่างขึ้น

เหมือนกับว่ามีเสียงอันสง่ากำลังพูดว่า “เด็กดี รอข้านะ”

กลับทำให้เยี่ยนอวี๋น้ำตาไหลหนักกว่าเดิม “สามี”

น่าเสียดาย…

สามีของนางไม่ได้ตอบนาง ความมืดก็ค่อยๆ สลายไป ถูกทดแทนด้วยสีม่วงอร่าม ปกคลุมนางไว้อย่างแน่นหนา ปกป้องนางให้กำเนิดในเรือนของเจ้าสำนักน้อยของสำนักชางอู๋

ทว่า… แสงสีม่วงติดตามนางลงไปในสำนักชางอู๋ด้วย เยี่ยนอวี๋เข้าใจในทันทีว่าเหตุใดพวกเขาจึงพบเจอที่ชางอู๋ เพราะว่าวิญญาณส่วนหนึ่งของเขาปกป้องนางเข้าสู่วัฏจักร ดังนั้น… เขาในชาตินี้จึงไปรักษาตัวและต่อชีวิตที่ชางอู๋

ดังนั้น… อันที่จริงแล้วเขาในชาตินี้เมื่อกลับมาเกิดอีกครั้งจึงเป็นเพียงต้าซือมิ่งในราชวงศ์หนึ่งของเผ่ามนุษย์ในตอนแรก

ครานั้นทุกคนในต้าซย่าเห็นเขาเป็นบุรุษมากความสามารถผู้ลี้ลับและแข็งแกร่งที่สุด กลับไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้สูงส่งเหนือสามโลกที่คอยมองการเกิดแก่เจ็บตายของสรรพชีวิต

เพราะว่านาง เขาจึงจุติมาเป็นมนุษย์สามัญชน

เพราะว่านาง เป็นเพียงเพราะนาง

….

เยี่ยนอวี๋ถึงกับกำลังคิดว่า หลังจากที่เยี่ยนจื่ออวี๋ในโลกมนุษย์ผ่านเรื่องราวชีวิตอันทุกข์ทรมานเช่นนั้นแล้ว ยังมีโอกาสเกิดใหม่ก็เป็นเพราะเขาเช่นกัน

ถึงอย่างไรลมหายใจแห่งวิญญาณของนางก็บอบบางมาก แม้จะถูกเขาใช้วิญญาณหล่อเลี้ยง เกรงว่าก็กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ได้ยาก อาจจะต้องเกิดใหม่ถึงสองชาติจึงจะฟื้นตัวได้

ดังนั้น… เขาจึงปกป้องนางเกิดใหม่อีกครั้ง

เยี่ยนอวี๋เชื่อว่าไม่ว่านางจะล้มเหลวกี่ครั้ง เขาก็ไม่ยอมแพ้ นอกเสียจากว่าเขาจะตายจากไปโดยสิ้นเชิง มิเช่นนั้นนางก็จะสามารถกลับมาเกิดใหม่อีกได้

สามี

สามี

สามี…

เยี่ยนอวี๋น้ำตาไหลไม่หยุด

ไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ตนเองทอดทิ้งการมีชีวิตอยู่โดยยอมสนองตาม ‘แผนการ’ ที่แท้แล้วสามีของนางเสียสละมากมายเช่นนี้เพื่อให้นางมีชีวิตคืน นางไม่รู้เลยจริงๆ

โชคดีที่ตอนนี้นางรู้แล้ว

นางรู้ทุกอย่างแล้ว

เทพอัสนีในครานี้ มันก็ร้องไห้ตามอย่างหนัก และยังไม่กล้าเปล่งเสียง เอาแต่หดตัวอยู่ข้างหน้านายท่านพวกมัน เรียกเสียงเบาว่า “นายท่าน ท่านเป็นอะไรไปหรือ”

ในโลกแห่งความเป็นจริง เยี่ยนอวี๋ที่สลบไสลน้ำตาไหลพรากจนผ้าห่มเปียกไปหมดแล้ว ทำเอาเทพอัสนีตกใจมาก แต่มันก็โหวกเหวกไม่ได้ ได้แค่ส่งโทรจิตให้เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุน

แต่เทียนตี้ในยามนี้ย่อมมาไม่ได้ เพราะว่าเหนือศีรษะของมารฝูหมัวเริ่มปรากฏรูปร่างมงกุฎจักรพรรดิแล้ว ส่วนมงกุฎเหนือศีรษะของเทียนตี้ก็กำลังจางลง

“ฮึ” มารฝูหมัวยิ้มหยัน “ตี้จวิ้น เจ้ามันก็แค่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หากเจ้ายอมหันหลังกลับตอนนี้ ยอมเปิดใจที่สับสนของเจ้า ส่งเจ้าคนแซ่หรงนั่นออกมา ข้าจะไม่แย่งตำแหน่งจักรพรรดิกับเจ้า

ถึงอย่างไรสำหรับข้าแล้ว สวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ดีกว่าเดิมคือสิ่งที่ข้าปรารถนามาตลอดชีวิต ตำแหน่งเทียนตี้ จะมีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าปลอดภัยและสงบสุข ข้าไท่เฮ่าจะเป็นอย่างไรก็ได้”

คำพูด ‘โลกสวย’ เช่นนี้ เมื่อเซ่าเฮ่าได้ยินแล้ว เขาก็นึกถึงอินหลิวเฟิงที่เคยพูดในตอนที่เขาดื่มชาของแอตแลนว่า “ชานี้เขียวดีจริงๆ[1]…”

ทว่าเทียนตี้กลับหัวเราะออกมา เพราะว่า…

[1] ชาเขียว เป็นคำแสลงของจีน หมายถึง ผู้ที่ชอบพูดโกหก ตลบตะแลง พูดไม่จริง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท