ตอนที่ 716 จบสิ้น
อวิ๋นเหลียนที่ประคับประคองตนเองหลายสิบล้านปีในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า อวิ๋นเหลียนที่จงใจวางแผนทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก่อนที่เยี่ยนอวี๋จะหาร่างจริงของนางเจอ
เป็นไปตามที่เซ่าเฮ่าตระหนักรู้ ทุกๆ การพังทลายเป็นไปตามกฎเกณฑ์อย่างหนึ่ง และกฎเกณฑ์นี้ก็คือกฎเกณฑ์การทำลายล้างของอวิ๋นเหลียน นางเป็นผู้ควบคุมการพังทลายของสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามาโดยตลอด
แต่ว่า… เซ่าเฮ่าไม่เข้าใจ “หากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทลาย แล้วเจ้าจะรอดชีวิตได้อย่างไร จะดำรงอยู่อย่างคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิงต่อไปจนถึงยุคหน้า แล้วทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าใหม่ต่อไปเรื่อยๆ หรือ”
นี่คือเป้าหมายของอวิ๋นเหลียน? เช่นนั้นเป้าหมายนี้ก็คงต้องเสียพลังและเวลามากเกินไปแล้ว
แต่แล้ว… อวิ๋นเหลียนที่ได้ยินเซ่าเฮ่าถามกลับหัวเราะดังลั่นกว่าเดิม “ฮ่าๆๆ เจ้าย่อมไม่รู้ พวกเจ้าไม่รู้ พวกเจ้าที่ไม่รู้ไม่คู่ควรกับการมีชีวิตอยู่ ไปตายเสียเถอะ”
ตูม
เสียงระเบิดดังสนั่นอีกครา มันทำลายกฎของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่เยี่ยนอวี๋เป็นผู้ควบคุม ทำให้การพังทลายที่ถูกระงับไว้ก่อนหน้านี้ถูกผลักดันขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครา
เยี่ยนอวี๋เองก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าการพังทลายทั้งหมดมาจากหลุมศพ
แม้ว่าหลุมศพถูกปิดผนึกแล้ว สิบสองเทพขุนเขาเองก็ควบคุมการไหลเวียนของกลิ่นอายหลุมศพไว้ได้แล้ว แต่ไอมรณะแดนมืดนิรันดร์ที่ไหลออกมาจากหลุมศพยังคงแทรกซึมเข้าไปในยมโลก
แม้จะซึมเข้าไปเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อวิ๋นเหลียนควบคุมได้แล้ว
ทว่า… เยี่ยนอวี๋รู้สึกได้ว่าพลังทั้งหมดของอวิ๋นเหลียนได้ผสานเข้าไปในการพังทลายนี้ ซึ่งก็หมายความว่า หากครั้งนี้ไม่สำเร็จ วิญญาณดวงนี้ของอวิ๋นเหลียนก็จะสลายตามไป
เยี่ยนอวี๋เดาว่านี่เป็นเพราะถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์ที่เป็นที่ซ่อนตัวและยืดชีวิตของอวิ๋นเหลียนได้กำลังพังทลายและถูกผนึกไว้แล้ว
อวิ๋นเหลียนที่ไม่มีถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์ได้แต่ลองดูสักตั้ง ยุ่งยากไม่น้อย…
ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นในหัวของเยี่ยนอวี๋ ทำให้นางมั่นใจในระดับหนึ่ง ส่งเสียงเรียก “ปู่จิ่ว”
“มาแล้ว” จิ่วอิงที่ปีนออกมาจากตัวของเด็กน้อย มันรู้ดีว่าเยี่ยนอวี๋เรียกมันมาทำอะไร มันอุ้มเด็กน้อยไปทันที
เด็กน้อยไม่ยินยอมในตอนแรก จิ่วอิงจึงพูดว่า “เราดูท่านแม่เจ้าต่อสู้ข้างๆ จะได้เห็นการปะทะที่ทำให้เกิดประกายไฟหลากสี สดใสงดงาม น่าสนุกมากเลยนะ สนุกกว่านั่งดูในอ้อมอกของท่านแม่เจ้าอีก”
“จริง หรือ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกโน้มน้าวจนเริ่มหวั่นไหว
“แน่นอน” จิ่วอิงพูดพลางอุ้มเด็กน้อยไปนั่งยองๆ อยู่ด้านข้างแล้ว
“นายท่าน…” เซ่าเฮ่ามองเยี่ยนอวี๋อย่างเป็นกังวล
ซีหวังหมู่ยังทำท่าจะเข้ามาหา… แต่เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นส่งสัญญาณว่าพวกเขาไม่ต้องตามไป และไม่ต้องเป็นห่วง “พวกเจ้าเฝ้าจักรวาลดั้งเดิมให้ดีก็พอ”
ตี้จวิ้นคิดได้ “อาจารย์โปรดวางใจ”
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าเบาๆ ในขณะเดียวกันก็มองไท่เฮ่าที่นอนอยู่ข้างหยวนสื่อเทียนจุนและหลับตาลงอีกครั้ง “คอยเฝ้าไท่เฮ่าให้ดี คอยดูว่าเขาจะตื่นอีกหรือไม่”
“ขอรับ” อันที่จริงตี้จวิ้นจับตามองไท่เฮ่าตลอด เขารู้สึกว่าฝ่ายหลังกำลังใช้พลังชีวิตฟื้นฟูพลังชีวิตที่มากกว่าเดิมอย่างเต็มที่
ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตกลับมาได้
ทันทีที่คิดเช่นนี้ สายตาที่ตี้จวิ้นมองไปที่คุณชายน้อยท่านหนึ่งก็แปรเปลี่ยน นัยน์ตาลุ่มลึกกว่าเดิม เขารู้สึกว่า ‘พี่เสี่ยวเป่า’ ท่านนี้มหัศจรรย์มากจริงๆ
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางก็เหินขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของสวรรค์ อยู่ระหว่างรอยแตกแยกที่แตกไปทุกที่ด้วยสีหน้าสงบ
ทำให้ทวยเทพที่เห็นภาพนี้เอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว “ปฐมราชินี”
ทวยเทพในครานี้ ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าพวกเขาเพิ่งประสบเหตุการณ์อะไรมา
และรู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบจะกลายเป็นดาบของคนทรยศที่ชื่อ ‘อวิ๋นเหลียน’ คนนั้นสังหารเทียนตี้และจวินโฮ่วของปฐมราชินี
“เห็นทีนอกจากจวินโฮ่วจะไม่ใช่จักรพรรดิอสูรที่ทำร้ายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว ยังเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถของปฐมราชินี และทำให้อวิ๋นเหลียนรู้สึกถึงภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่ นางจึงวางแผนสังหารผู้ใกล้ชิดนายท่าน” หงส์เทพเอ่ยขึ้นหลังจากคิดได้
น่าเสียดายที่นางถูกล่อลวงสำเร็จเมื่อครู่นี้ เพราะว่า… ผู้ที่เรียกพวกเขาคือจักรพรรดิฝูซี จักรพรรดิฝูซีเชียวนะ
“จอมโจรนี่โหดร้ายเกินไปแล้ว ถึงกับควบคุมจักรพรรดิฝูซี” ตัวเหวินเทียนอ๋องเหงื่อตก “หากไม่ใช่เพราะนอกจากเทียนตี้ไม่ได้หลงกล และยังขัดขวางพวกเราไม่ให้ลงมือ พวกเราคงทำผิดมหันต์อย่างไม่สามารถชดเชยได้แน่”
เหล่าทวยเทพเงียบงัน… เหงื่อไหลท่วมตัว
พูดตามตรง พวกเขาไม่รู้สึกเลยว่าตนเองถูกครอบงำจนถึงบัดนี้
พวกเขาครุ่นคิด ล้วนพบว่าความคิดทุกอย่างล้วนเป็นความคิดของพวกเขาเอง ไม่ได้ถูกครอบงำแต่อย่างใด?
แม้บัดนี้พวกเขาจะสงบจิตสงบใจลงแล้วก็ยังคิดว่าเมื่อครู่นี้ตนเองแค่สุดโต่งเกินไป
ซึ่งหมายความว่า… อันที่จริงพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อใจจวินโฮ่วของพวกเขา ดวงวิญญาณอวิ๋นเหลียนดวงนี้คงแค่กระตุ้นความไม่ไว้วางใจนี้ขึ้นมา
“น่ากลัวจริงๆ”
อวิ๋นเจิงเทียนอ๋องที่เงียบสงบเผยสีหน้าหวาดกลัว ต่างเงยหน้ามองปฐมราชินีเยี่ยนพวกเขาแล้ว
ทวยเทพในบัดนี้ล้วนรู้ดีว่านี่คือการแก่งแย่งอำนาจการปกครองของปฐมราชินีจากสองยุค
หากปฐมราชินีหยวนชูแห่งตำหนักไท่ชางพ่ายแพ้ เช่นนั้น… สวรรค์เก้าชั้นฟ้าต้องถูกอวิ๋นเหลียนคนนั้นทำลาย เรื่องนี้… ดูจากการกระทำของอวิ๋นเหลียนแล้วก็รู้ได้ว่านางย่อมไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่มีอยู่ในตอนนี้เหลือรอด
ส่วนอวิ๋นเหลียน… นางกลับไม่ได้สนใจเทพองค์อื่น นางแค่ ‘จับตามอง’ เยี่ยนอวี๋ในที่ลับ และส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “จึ๊ เยี่ยนอวี๋ เจ้าคิดหรือว่าเจ้ายังมีโอกาสขัดขวางทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ข้าทำลายกฎความมั่นคงของเจ้าไปหมดแล้ว อีกทั้งในเมื่อข้าสามารถทำลายไปแล้วครั้งหนึ่งได้ ก็สามารถทำลายครั้งที่สอง ครั้งที่สาม จนนับครั้งไม่ถ้วนได้ ส่วนเจ้าเกรงว่าจะไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ต่อไปได้อีก เจ้าจะถูก ‘สิ่งมีชีวิตไร้สติปัญญากลืนกิน’ อีกไม่นานก็จะถูกกำจัดทิ้ง”
“ในเมื่อเช่นนี้ เหตุใดเจ้าจึงต้องทำลายข้าผ่านการทำลายสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเล่า” เยี่ยนอวี๋ย้อนถามอย่างสงบ “หากข้าจะถูกกำจัดจริงๆ แล้วเจ้าจะรีบร้อนไปไย”
“เจ้า…” เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นเหลียนสะอึกจนพูดไม่ออก
เยี่ยนอวี๋ยิ้มเบาๆ ท่าทีไม่แยแส “ข้าจะตอบให้แทนเจ้าเอง เพราะว่าหลังจากออกจากหลุมศพแล้ว เจ้าก็ใกล้จะสลาย มีเพียงการดูดพลังของข้าจึงจะทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
เมื่อเยี่ยนอวี๋เอ่ยขึ้น… อวิ๋นเหลียนที่ซ่อนตัวอยู่รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว น่าเสียดายที่นางไม่ทันได้ทำอะไร เยี่ยนอวี๋ก็โจมตีกลับแล้ว
“สรรพชีวิต กลับสู่ต้นกำเนิด”
แขนขาที่สะเทือนของเยี่ยนอวี๋เก็บพลังทั้งหมดของตัวนางเองที่ซ่อนอยู่ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลับสู่ร่างกาย รวมถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่นางใช้ในการรักษาความเสถียรของมิติด้วย
ตูม
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าพังทลายลงอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าบ้าไปแล้ว”
อวิ๋นเหลียนอุทานอย่างคิดไม่ถึง
เยี่ยนอวี๋กลับนั่งขัดสมาธิลงอย่างสงบนิ่ง รอบกายก็ไม่ได้แผ่ซ่านพลังศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ออกมา แต่จิตเหนือสำนึกของนางกลับกระจายอยู่ในทั่วทุกมุมของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
นางกำลังตามหาอวิ๋นเหลียน อวิ๋นเหลียนที่กระจายไปทั่วสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เพราะว่าเยี่ยนอวี๋รู้ดีว่าหลังจากไม่สามารถดึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของนางออกจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว พลังวิญญาณของอวิ๋นเหลียนต้องมาประจบกันที่จักรวาลดั้งเดิมด้วยสัญชาติญาณแน่นอน
นี่คือสัญชาติญาณอย่างหนึ่ง สัญชาติญาณการเอาชีวิตรอด
โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในยามที่ไม่ทันตั้งตัว สัญชาติญาณเช่นนี้ก็จะปรากฏชัดกว่าเดิม
ในความเป็นจริง… ปฏิกิริยาของอวิ๋นเหลียนก็เป็นไปตามที่เยี่ยนอวี๋คาดคิด นางประจบกันที่จักรวาลดั้งเดิมแล้ว
ทว่าสตรีช่ำชองเช่นอวิ๋นเหลียนที่ ‘บริสุทธิ์’ เช่นนี้มีนิสัยขี้ระแวง นางยับยั้งสัญชาติญาณเช่นนี้ไว้ในทันที
น่าเสียดาย… ยังคงช้าไป
เยี่ยนอวี๋จับกลิ่นอายของอวิ๋นเหลียนที่กระจายไปทั่วทุกมุมของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้แล้ว
ดังนั้น… สัญชาติญาณที่อวิ๋นเหลียนเพิ่งยับยั้งไว้ได้จึงถูกเยี่ยนอวี๋ล้อมจับ
“เหล่าขุนเขาและท้องทะเล ออกมา”
เสียงเยือกเย็นศักดิ์สิทธิ์ของเยี่ยนอวี๋ดังขึ้นทีละคำ
“พ่ะย่ะค่ะ”
ภาพยิ่งใหญ่ตระการตาและน่าตื่นตาตื่นใจของอดีตเหล่าขุนเขาและท้องทะเลปรากฏขึ้นข้างหน้าทวยเทพอีกครั้ง กระทั่งปรากฏต่อหน้าเผ่าทั้งห้าและสามโลก เพราะว่าดวงวิญญาณของอวิ๋นเหลียนแทรกซึมเข้าไปทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ดังนั้นการไล่ล่าของเยี่ยนอวี๋จึงแผ่ซ่านไปทั่วสวรรค์
เทพขุนเขาและท้องทะเลโบราณกว่าหกร้อยองค์ พวกมันเหมือนกับไยแมงมุมที่จับศัตรูได้อย่างแม่นยำ ทันทีที่ปรากฏขึ้นก็จับกุมดวงวิญญาณอวิ๋นเหลียนที่ซ่อนตัวอย่างรวดเร็วตามความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครระหว่างพวกมันและเยี่ยนอวี๋
ดวงวิญญาณของอวิ๋นเหลียนโดนจับได้จนหมด ไม่เหลือแม้แต่น้อย ทุกอย่างเข้าที่
ทันทีที่อวิ๋นเหลียนรู้สึกถึงอันตราย ดวงวิญญาณทั้งหมดของนางก็ถูกจับไว้แล้ว
“ให้ตายเถอะ”
อวิ๋นเหลียนทั้งตระหนกและโมโห พยายามหนีออกมา น่าเสียดาย…
“หวนคืน”
เยี่ยนอวี๋บัญชา เหล่าขุนเขาและท้องทะเลกลับสู่ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลทันที
ความรวดเร็วนั้น… ไม่ใช่สิ่งที่อวิ๋นเหลียนสามารถขัดขวางหรือควบคุมได้
ที่สำคัญคือเมื่อเหล่าขุนเขาและท้องทะเลรวมตัว อวิ๋นเหลียนก็รู้สึกได้ว่ามีพลังกดทับอันลี้ลับที่แข็งแกร่งกดทับลงมาที่ตัวนางอย่างรวดเร็ว นางไม่มีทางหนีรอด และไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
“ไม่!”
อวิ๋นเหลียนไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะถูกจับ
อวิ๋นเหลียนที่ประคับประคองตนเองมาหลายสิบล้านปี นางไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะร่วงหล่นด้วยฝีมือของนังหนูเยี่ยนอวี๋คนนี้ ทว่าความจริงก็คือ… นางถูกจับแล้วจริงๆ ถูกจับอย่างไม่ทันตั้งตัว รวดเร็วปานสายฟ้า ถูกจับอย่างง่ายดายเช่นนี้…