[เล่มที่ 8 ฟ้าใสตะวันจรัสแสง] ตอนที่ 717 เขาอีกแล้ว
เล่มที่ 8 ฟ้าใสตะวันจรัสแสง
ตอนที่ 717 เขาอีกแล้ว
อวิ๋นเหลียนมอง ‘กรง’ ที่ปิดผนึกนางอย่างแน่นหนาด้วยภูเขาและทะเล แม่น้ำโบราณทับซ้อนขวางกั้น รู้สึกถึงความไร้พลังของตนเอง ดวงตาที่ดูคล้ายดวงตาของกู้หยวนซูเบิกกว้างถึงขีดสุด “เป็นไปได้อย่างไร?”
มิน่าแปลกใจที่อวิ๋นเหลียนจะตกตะลึงเช่นนี้ เพราะว่าตามหลักแล้ว เยี่ยนอวี๋ไม่สามารถกักขังนางได้เช่นเดียวกับที่นางเองก็ไม่สามารถกักขังเยี่ยนอวี๋ได้ เพราะว่าพลังของพวกนาง ‘เสมอ’ กัน ต่างฝ่ายต่างไม่สามารถกักขังหรือทำร้ายซึ่งกันและกันได้ แม้แต่การกลืนกิน อวิ๋นเหลียนเองก็ต้องใช้เวลาเพื่อตระหนักรู้ถึงหลายสิบล้านปีจึงสามารถค่อยๆ กลืนกินพลังของเยี่ยนอวี๋ได้ นางไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน มิเช่นนั้นนางเองก็คงไม่ต้องทรมานหลายปีเช่นนี้…
ทว่าเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้กักขังอวิ๋นเหลียนไว้ได้สำเร็จแล้ว และสำเร็จด้วยการใช้ผนึกขุนเขาและท้องทะเล เพียงแต่ว่าในผนึกขุนเขาและท้องทะเลนี้ นอกจากจะประกายแสงสีม่วงไท่ชูอันเป็นเอกลักษณ์ของเยี่ยนอวี๋แล้ว ยังมีแสงสีม่วงอร่ามของต้าซือมิ่งด้วย มิหนำซ้ำ…
ฐานที่ผนึกไว้ยังเป็นมงกุฎที่ดูเหมือนดอกไม้บนหน้าผากของเยี่ยนอวี๋
อวิ๋นเหลียนที่เห็นสิ่งนี้ชัดเจนแล้วก็เข้าใจทันที “เขานี่เอง เขาอีกแล้ว เจ้าแซ่หรงนั่น เขากำลังผสานกับร่างพลังสุดท้ายของเขามิใช่หรือ เหตุใดจึงยังมาช่วยเจ้าได้”
อวิ๋นเหลียนโมโหจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
เหตุผลที่นางกล้าโจมตีกลับในยามนี้ก็เพราะว่านางรู้ว่าต้าซือมิ่งกำลังผสานกับร่างพลังร่างสุดท้าย ซึ่งเป็นร่างพลังที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีเวลาสนใจรอบตัว
สุดท้าย…
มารดามันเถอะ
เขาอีกแล้ว เหตุใดจึงเป็นเขาอีกแล้ว สามหมื่นปีก่อนเป็นเขา สามหมื่นปีให้หลังยังคงเป็นเขา
สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือ… ปฐมราชินีเยี่ยนยังตอบว่า “ใช่แล้ว สามีข้าช่วยข้าเอง พลังของข้าไม่สามารถกักขังเจ้าได้จริงๆ แต่พลังของสามีทำได้นี่”
เอื้อก อวิ๋นเหลียนกระอักเลือดทันที นางกระอักเลือดออกมาจริงๆ
เพราะว่าคำพูดของเยี่ยนอวี๋จุกอกนางจริงๆ
คนนอกไม่รู้ แต่เยี่ยนอวี๋รู้ว่าอวิ๋นเหลียนถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ให้กับสามีของนางมาหลายครั้งแล้ว อีกทั้งจำนวนครั้งที่แท้จริงอาจจะมากกว่าที่นางรู้ก็ได้
เช่นว่า… เรื่องราวชาติที่แล้ว
เยี่ยนอวี๋ถามอย่างไม่แยแส “ตั้งแต่สมัยที่ข้าเป็นเยี่ยนจื่ออวี๋ เจ้าก็ปลอมตัวเป็นกู้หยวนซูเริ่มกลืนกินพลังของข้าตั้งแต่ตอนนั้นแล้วสินะ สุดท้ายสามีข้าย้อนเวลากลับไป ทำให้เจ้าเหนื่อยเปล่า ต้องกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง คงโมโหมากใช่หรือไม่”
เอื้อก อวิ๋นเหลียนที่ถูกเปิดโปงกระอักเลือดอีกครั้ง นางโมโหแทบตาย
บัดซบ นังหนูสมควรตายคนนี้รู้ทุกอย่างได้อย่างไรกัน? หรือว่าเจ้าแซ่หรงคนนั้นไม่ได้หลับลึกก็ผสานกับอีกร่างหนึ่งเลยและยังเล่ารื่องทั้งหมดให้นังหนูคนนี้ฟังแล้ว?
นี่มัน…
แม้อวิ๋นเหลียนจะไม่อยากคิดเช่นนี้ แต่หากไม่ใช่เช่นนี้ นางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดนังหนูน้อยคนนี้จู่ๆ จึงกระจ่างได้ นอกจากจะรู้จักนางเป็นอย่างดีแล้ว ยังรู้ว่านางเสียเปรียบให้กับเจ้าหมอแซ่หรงนั่นหลายครั้ง
ดังนั้น เจ้าหมอนั่นทำให้นางสับสน หลอกลวงนางอีกครั้งแล้วหรือ?
บัดซบ โมโหจะตายแล้ว
อวิ๋นเหลียนที่รู้สึกตนเองตกหลุมพราง เมื่อนางเห็นใบหน้าโอ้อวดความรักหวานฉ่ำของเยี่ยนอวี๋ก็อยากจะฉีกทึ้งใบหน้านางให้กระจุย
มารดามันเถอะ
มีผู้ชายแล้วเจ๋งมากหรือไง
ฮึ
ก็เจ๋งมากจริงๆ สินะ ไม่รู้ว่าเจ้าคนบัดซบสมควรตายนั่นโผล่มาจากไหน เริ่มเป็นศัตรูกับนางดั้งแต่เมื่อสามหมื่นปีที่แล้ว ทำเอาแผนการทั้งหมดที่ราบรื่นของนางกลายเป็นอุปสรรคไปหมด
ความรู้สึกเช่นนี้… ทำให้อวิ๋นเหลียนรู้สึกจุกอกจริงๆ
ทั้งๆ ที่นางมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ขั้นสุดท้ายแล้ว
สุดท้าย… จุดสุดท้ายมักจะพลาดเสมอ
หรงอี้ผู้รักษาประตูตบลูกบอลที่นางเตะเข้าประตูกลับตรงสู่จุดเริ่มต้นทุกครั้ง…
“น่าโมโหจริงๆ”
อวิ๋นเหลียนที่สภาพจิตใจพังทลายอย่างสิ้นเชิงลุกเป็นไฟ แสดงให้เห็นถึงอาการโมโหจนควันออกหู
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นดังนั้นประหลาดใจยิ่งนัก “ว้าววว”
อวิ๋นเหลียนเงยหน้าเมื่อได้ยินเสียง นางมองเด็กน้อยเขม็งทันที เผยสีหน้าเคียดแค้นราวกับเห็นเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มีหน้าตาคล้ายต้าซือมิ่งเป็นต้าซือมิ่งไปแล้ว พยายามใช้สายตาพิฆาตมองเยี่ยนเสี่ยวเป่า
สุดท้าย…
“แสบ”
เด็กน้อยผู้อ่อนโยนกลับลงมืออย่างไม่อ่อนโยนเลย เขาสั่งให้ดอกไม้รสหมาล่าดอกน้อยดอกหนึ่งบานในดวงตาของอวิ๋นเหลียนแล้ว
ครานี้เอง…
“โอ๊ย!” อวิ๋นเหลียนร้องโหยหวนเพราะความแสบร้อนอย่างไม่ต้องสงสัย
เด็กน้อยผู้อ่อนโยนเอ่ยขึ้นว่า “จ้อง เป่า แสบ ตาบอด”
จิ่วอิงที่อุ้มเด็กน้อยพลันรู้สึกว่าดวงตาทั้งสิบแปดดวงของตนเองจู่ๆ ก็แสบร้อนเล็กน้อย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มองเจ้าตัวน้อยเลย
ในขณะเดียวกัน…
“สวรรค์กำหนด”
ตี้จวิ้นผู้รับผิดชอบงานเก็บกวาดก็ทำให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่กำลังระเบิดและแตกร้าวกลับมาเสถียร ถึงอย่างไรอวิ๋นเหลียนผู้ซึ่งทำให้เกิดการพังทลายนี้ก็ถูกจับแล้ว
รอยแยกที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้าค่อยๆ สมานกลับมาภายใต้การควบคุมของตี้จวิ้น มันค่อยๆ ฟื้นฟูอย่างเป็นระเบียบและมั่นคงอีกครั้ง ทำให้เหล่าทวยเทพที่ดูถึงตรงนี้โล่งอก
“การทำลายครั้งนี้แม้จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง แต่กลับจบอย่างรวดเร็ว คงไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายมากมายนัก” หงส์เทพสูดลมหายใจเข้าเบาๆ เงยหน้ามองร่างองค์หลากสีนั่นอีกครา
ศึกครานี้… จบลงอย่างรวดเร็ว เทพมากมายยังไม่ทันรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ก็จบลงแล้ว จำได้แค่ว่าเหล่าขุนเขาและท้องทะเลออกโรงอีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นว่าพวกมันลงมืออย่างไร
แต่ว่า… มีเรื่องหนึ่งที่พวกเขาจดจำได้อย่างตราตรึง ปฐมราชินีเด็ดขาดมาก
เพียงแค่เมื่อครู่นี้ ชั่วขณะที่ปฐมราชินีถอนพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง… อันที่จริงทวยเทพรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขากำลังพังทลายจากด้านในแล้ว ทว่าความรู้สึกเช่นนี้เพิ่งจะเกิดขึ้น ทุกอย่างก็จบลงแล้ว
เหล่าทวยเทพไม่แปลกใจเลย หากไม่ใช่เพราะปฐมราชินีลงมือรวดเร็ว พวกเขา รวมถึงตัวปฐมราชินีเองคงพังทลายและสลายไปกลายเป็นความว่างเปล่าแล้ว
“เด็ดขาดจริงๆ” มหาเทพมากมายปาดเหงื่ออย่างรู้สึกหวาดผวา คิดว่าหากตกอยู่ในห้วงเวลาสำคัญเช่นนั้น ตนเองคงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเช่นนั้นไม่ได้ และยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างสงบมาก
…
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกลับเข้าที่แล้ว เซ่าเฮ่าก็โล่งอก เมื่อเขาหันไปกลับพบว่า “ซีซี กรงเล็บของเจ้ายังแตกร้าวอยู่?”
ทุกอย่างจบลงแล้วไม่ใช่หรือ?
สวรรค์เก้าชั้นฟ้าฟื้นฟูแล้วไม่ใช่หรือ?
แต่แล้ว…
ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะว่าเทพอัสนีมุดออกมาจากจักรวาลดั้งเดิมแล้ว “นายท่าน”
เยี่ยนอวี๋ที่รีบนำอวิ๋นเหลียนที่ยังร้อง ‘โอ๊ยๆ’ ไม่หยุดเข้าไปในภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลก็อุ้มเด็กน้อยเข้ามาและหายตัวกลับเข้าไปในจักรวาลดั้งเดิมทันที นางรู้ดีว่าที่เทพอัสนีรีบมุดออกมาต้องเป็นเพราะสถานการณ์ของสามีนางแย่แล้ว
ต้าซือมิ่งในครานี้…