ตอนที่ 718 รักมาก
ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยมวลสีดำโปร่งใสและขอบของมวลสีดำนี้ยังมีชั้นแสงสีขาวขุ่นอยู่ด้วย
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เทพอัสนีรีบมุดออกไปหาใต้เท้าพวกมัน
ทว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋พาเด็กน้อยกลับมาถึงห้องบรรทม มวลสีดำนั่นก็กำลังแตกร้าวแล้ว
“อ้ะ”
เด็กน้อยอยากจะกระโจนเข้าไปหาทันที แต่เยี่ยนอวี๋กอดเด็กน้อยไว้แน่น ไม่ได้ปล่อยให้เขาหนีไปสำเร็จ
เด็กน้อยร้องโวยวาย “อ้ะ พ่อออ แม่ ปล่อยเป่า…”
“ใจเย็นๆ” เยี่ยนอวี๋เกลี้ยกล่อมเด็กน้อยพลางสัมผัสอาการของสามีนาง
แต่นางก็พบในทันทีว่า เมื่อจิตเหนือสำนึกของนางสัมผัสโดนแสงสีขาวกลุ่มนั้น มันก็ถูก ‘ดูดซึม’ เข้าไป ราวกับหินที่จมลงสู่มหาสมุทร ไร้ซึ่งสุ้มเสียงและร่องรอย
ซึ่งก็หมายความว่านางไม่สามารถสัมผัสถึงสถานการณ์ของสามีนางได้เลย
เรื่องนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ได้แต่อุ้มเด็กน้อยเข้าใกล้เตียง “เสี่ยวเป่า”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับหน้ามองท่านพ่อของเขาพลางตอบท่านแม่เขา
เยี่ยนอวี๋จูบศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ “เจ้าสัมผัสได้หรือไม่ว่าตอนนี้ท่านพ่อเจ้าสบายดีหรือไม่”
“อะไรนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่เข้าใจ เขามองท่านแม่เขาตาปริบ
เยี่ยนอวี๋ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เด็กน้อยฟังอย่างไร ได้แต่อธิบายคร่าวๆ ว่า “รู้สึกหรือไม่ว่าท่านพ่อของเจ้าจะจากพวกเราไปแล้ว”
“ไม่” เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่ายศีรษะอย่างรุนแรง “ไม่ให้”
เยี่ยนอวี๋จึงเข้าใจความหมายของเด็กน้อย และรู้ว่าสามีคนนี้ของนางคงไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต มิเช่นนั้นนางคงจับเด็กน้อยคนนี้ไว้ไม่อยู่
ทว่า… เยี่ยนอวี๋ที่ไม่สามารถสัมผัสอาการของต้าซือมิ่งได้ยังคงรู้สึกเป็นกังวล “เช่นนั้นเสี่ยวเป่าคิดว่าท่านพ่อเจ้านอนหลับไป หรือว่าเป็นอะไรไปหรือ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จับใบหน้าด้วยมืออวบอ้วน เห็นได้ชัดว่าถูกท่านแม่เขาถามจนงงไปหมด แต่ว่า…
จางอวิ๋นเมิ่งที่มีสายตาเฉียบแหลมก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ดูมือของลูกเขยสิ”
อันที่จริงเยี่ยนอวี๋นางเห็นแล้ว ตั้งแต่ที่มือของต้าซือมิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลง นางก็เห็นแล้ว
ดังนั้นจางอวิ๋นเมิ่งเพิ่งจะพูดเสร็จ เยี่ยนอวี๋ก็อุ้มเด็กน้อยนั่งยองๆ ลงมา
มือของต้าซือมิ่งเองก็ ‘มุด’ ออกมาจากวงแหวนสีดำและแตะลงบนมือของภรรยา
เยี่ยนอวี๋จับชีพจรของเขาทันที เด็กน้อยเองก็รีบแตะมือของท่านพ่อเขาอย่างไม่ยอมน้อยหน้าท่านแม่
เพียงแค่ครู่เดียว… เยี่ยนอวี๋ก็รู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าสามีนางยังสบายดี เพียงแต่ว่ามีพลังจำนวนหนึ่งในร่างกายกำลังอาละวาด แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่สามารถควบคุมได้
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะโกน “พ่อ ตื่น เป่า หิว…”
ต้าซือมิ่งที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ฝ่ามือของเขากลับปรากฏกระเป๋าวิจิตรใบหนึ่ง
เด็กน้อยกะพริบตา มองไปที่ท่านแม่ของเขา “เนะ?”
เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ตอบ เพียงแค่หยิบกระเป๋าใบนั้นมา นางเดาว่าในนั้นมีอาหารของเด็กน้อย
เมื่อนางหยิบกระเป๋าใบนั้นมา… มือของต้าซือมิ่งก็ค่อยๆ ‘หด’ กลับไป
ต้าซือมิ่งที่มีท่าทางเชื่องช้านั้นกลับทำให้จางอวิ๋นเมิ่งแม่ยายคนนี้ประทับใจอย่างมาก นางเดาว่าลูกเขยคนนี้คงกลัวว่าบุตรสาวของนางเป็นห่วงจึงทำเช่นนี้
ความจริงก็คงต้องเป็นเช่นนี้ เพราะว่า…
วิ้ง
แสงสีดำที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ต้าซือมิ่งค่อยๆ เข้มขึ้นไม่โปร่งใสอีกต่อไป
วิ้ง
อักษรศักดิ์สิทธิ์อันมหัศจรรย์ก็เพิ่งกำเนิดขึ้นเหนือชั้นแสงสีขาว ห่อหุ้มแสงสีดำในนั้นและต้าซือมิ่งไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถเห็นได้อีกว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น
“อ้ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรน ทำท่าจะดึงชั้นแสงนั่นออกไป
แต่เยี่ยนอวี๋มือไว ห้ามเขาไว้ทัน “อย่ารบกวนท่านพ่อเจ้า ให้เขานอนพักเสียหน่อย”
“นอน นานมาก” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่น้อยอกน้อยใจบอกว่าเป่าตื่นมาสองรอบแล้ว พ่อยังนอนอยู่อีก “พ่อ เป็นหมู…”
เยี่ยนอวี๋ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม แค่จูบใบหน้าของเด็กน้อยเบาๆ ปลอบว่า “เพราะว่าท่านพ่อเจ้าเหนื่อยแล้ว เราจะไม่รบกวนเขา ออกไปกันก่อนดีหรือไม่”
“ขอรับ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แม้จะยังไม่อยากจากท่านพ่อไป แต่ก็หันตัวกลับไปกอดคอของท่านแม่เขาไว้แล้ว “ไปเถอะ…”
“เสี่ยวเป่าน่ารักที่สุด” เยี่ยนอวี๋ที่อดจูบเด็กน้อยไม่ได้อีกครั้งจึงอุ้มเด็กน้อยออกจากห้อง และส่งสัญญาณให้ท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่ออกไปพร้อมกัน
เยี่ยนจื่อเยี่ยถามว่า “น้องเขยเป็นอะไรหรือ”
“คงกำลังผสานกับร่างพลังร่างสุดท้าย คงไม่ตื่นในเร็วๆ นี้” เยี่ยนอวี๋คิดถึงคำพูดที่อวิ๋นเหลียนหลุดพูดออกมา รู้ว่าคงจะเป็นเช่นนี้
แต่ว่าร่างพลังร่างสุดท้ายนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผสานได้ง่ายเช่นนั้น สามีนางคงต้องใช้เวลาไม่น้อย เรื่องนี้คือสิ่งที่นางดูออกจากการจับชีพจรเมื่อครู่นี้
เยี่ยนอวี๋รู้ว่านี่คือการปลอบประโลมนางให้นางอย่างเป็นห่วง ให้นางอุ่นใจ…
สามี
สามีที่ไม่ว่าเมื่อใดมักจะคิดถึงนางเสมอ สามีที่แม้จะตื่นขึ้นมาไม่ได้ ยังคงไม่ลืมที่จะบอกให้นางไม่ต้องเป็นห่วง
ทำให้เยี่ยนอวี๋คิดถึงสิ่งที่เขาทำเพื่อนางทั้งหมดอีกครั้ง…
หัวใจของนางรู้สึกขมขื่นและอ่อนแอ น้ำตาไหลลงมา
“อ้ะ?” เด็กน้อยที่ถูกน้ำตาของท่านแม่หยดใส่ เขาก็มองท่านแม่ของเขาอย่างประหม่า “แม่?”
เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยเบาๆ รวบและกอดตัวเด็กน้อยไว้แน่นกว่าเดิม “แม่ไม่เป็นไร แค่สงสารท่านพ่อเจ้า”
หลังจากที่ ‘รู้’ ความจริงมากมาย… เยี่ยนอวี๋ก็กำลังคิดว่าหากนางรู้จักสามีตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว นั่นคงจะดีมาก
เช่นนี้เขาก็ไม่ต้องพยายามอยู่ฝ่ายเดียว นางก็จะต่อต้านการกลืนกินของอวิ๋นเหลียนอย่างเต็มที่ เช่นนั้นเมื่อสามหมื่นปีก่อน พวกเขาก็คงได้พบเจอกันแล้ว
ไม่ต้องรอให้ถึงสามหมื่นปีให้หลัง ยิ่งไม่ต้อง…
เยี่ยนอวี๋ที่คิดถึงคืนนั้นในเมืองชางอู๋ ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าเหตุใดหลังจากที่ออกจากหอจ่างสื่อแล้วเจอเขาอีกครั้งจึงโถมใส่อ้อมอกของเขาอย่างไร้ซึ่งความระแวง
เมื่อก่อนนางไม่เคยตั้งใจคิด… คิดว่าเป็นเพราะตนเองชอบหน้าตาของชายคนนี้เท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ในเมื่อต้องแก้พิษ เช่นนั้นก็ใช้เขาแล้วกัน
บัดนี้เมื่อลองตั้งใจคิดดูแล้ว เพิ่งรู้ว่า… หากไม่ใช่เขา นางคงมิอาจปลดเกราะป้องกันสุดท้ายด้วยสัญชาติญาณ
ทั้งหมดเป็นเพราะเขา
ส่วนเรื่องชาติที่แล้ว เยี่ยนจื่ออวี๋ชาตินั้น
เยี่ยนอวี๋ก็จำได้แล้ว นางถูกเขาตีสลบ
คงเป็นเพราะวิญญาณของตนเอง ตอนนั้นยังไม่ฟื้นฟูสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ ‘ลงมือ’
ถึงอย่างไรเขาก็หยิ่งผยองเช่นนั้น…
หากไม่ใช่ ‘นาง’ สตรีคนใดนั่งตักเขาก็ไม่หวั่นไหวจริงๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยนอวี๋จูบเด็กน้อยในอ้อมอกอีกครั้ง “ท่านพ่อเจ้าเก่งจริงๆ”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่งุนงงมองท่านแม่เขาอย่างงงงวย
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางหันกลับไปมองในห้องแล้ว… ไม่มีใครรู้ว่าอันที่จริงนางตั้งตารอให้เขาตื่นขึ้นมาเพียงใด อยากจะจูบเขาและเข้านอนกับเขามากเพียงใด
สามี
สามีของนาง