ตอนที่ 730 สวรรค์
ผู้แข็งแกร่งที่มุงดูไม่น้อยล้วนรู้สึกได้ว่าจังหวะที่นายท่านซั่งกวนถูกซัด เขาก็สิ้นใจในทันที? แต่เนื่องจากนายท่านตระกูลซั่งกวนเป็นถึงมหาเทพ พวกเขาจึงไม่ค่อยมั่นใจในความรู้สึกของตนเองว่าถูกต้องหรือไม่
ทว่าโจวปินมั่นใจมากว่าซั่งกวนซวินสิ้นใจไปแล้วจริงๆ…
สายตาที่โจวปินมองเยี่ยนอวี๋เปลี่ยนจากแววตาชื่นชมความงามกลายเป็นหวาดกลัว เพราะว่าเขารู้ดีว่าคนที่ทำให้ซั่งกวนซวินตาย ไม่ใช่ชายผู้มีรอยมีดบากตรงหน้าคนนี้ และก็ไม่ใช่สาวใช้ที่แบกดาบเล่มใหญ่คนนั้น แต่คือสตรีหยาดเยิ้มที่กำลังอุ้มลูกท่านนี้ นางโจมตีด้วยพลังจิตวิญญาณ… พลังจิตวิญญาณเชียวนะ ซึ่งหมายความว่าตบะของสตรีที่สามารถโค่นล้มซั่งกวนซวินได้คนนี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับเทียนอ๋อง มิเช่นนั้นคงไม่สามารถฆ่ามหาเทพตายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
เยี่ยนอวี๋ยังกล่าวอย่างสงบว่า “บอกแล้วว่าอย่าบีบคั้นคนซื่อสัตย์”
“ฮูหยินน้อย…” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองเหงื่อตก รู้ว่าครานี้ทำเรื่องบานปลายไปจริงๆ เล่นเลยเถิดไปจริงๆ
ใครจะไปคิดว่าในบรรดาเจ้านายและคนใช้ทั้งสี่ ผู้ที่โหดเหี้ยมที่สุดคือฮูหยินน้อยงดงามท่านนี้?
ไม่ๆๆ… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองควรคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่ที่เขาพบว่าเจ้าทารกนั่นไม่ธรรมดา เขาก็ควรจะเดาได้แล้ว เด็กน้อยประหลาดเช่นนี้ นับประสาอะไรกับมารดาของเขา
ตอนนี้คุณชายอวิ๋นที่สิบสองมั่นใจมากว่าสองแม่ลูกคู่นี้ ลูกเป็นตัวประหลาด ส่วนแม่เป็นปีศาจ
เขาจึงพูดทันทีว่า “ฮูหยินน้อยพูดถูก เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นความผิดของข้าน้อย ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่ได้ห้ามฉิงเอ๋อร์ไว้ ข้าน้อยจะรับผิดชอบทุกอย่าง ขอโทษขอรับ”
“คุณชายเป็นคนมีเหตุมีผล ข้าอภัยให้เจ้า” เยี่ยนอวี๋กล่าวอย่างใจกว้าง
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองลอบถอนหายใจ “น้องฉิงเอ๋อร์เอาแต่ใจเกินไป แต่ตอนนี้นางสลบไปแล้ว ข้าน้อยขอโทษแทนน้องฉิงเอ๋อร์ด้วยขอรับ”
เยี่ยนอวี๋กวาดตามองซั่งกวนฉิงบนพื้นและครอบครัวซั่งกวนที่ต่างหวาดกลัว นางก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาลำบากใจ “เอาเถิด ข้าไม่อยากถือสาเอาความกับมดแมลง”
มดแมลง…
หากว่าเป็นคำพูดก่อนหน้านี้ ทุกคนคงคิดว่าเยี่ยนอวี๋โอหังมาก แต่ตอนนี้ไม่มีใครคิดเช่นนั้น แม้แต่โจวปินก็เช่นกัน
ทว่าสีหน้าของโจวปินก็ไม่สู้ดีนัก แววตาเจือความไม่พอใจ
นี่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเดิมทีเขาจะมาช่วยตระกูลซั่งกวนต่อสู้กับเยี่ยนอวี๋ สุดท้ายกลับเกินความคาดหมาย ครานี้ถือว่าเขาเอาชนะไม่ได้และยังต้องอับอายต่อหน้ามหาชน
แต่เนื่องจากเยี่ยนอวี๋เก่งมากจริงๆ นอกจากนี้คุณชายอวิ๋นที่สิบสองก็ขอโทษแล้ว ความแค้นเคืองทั้งหมดของโจวปินจึงได้แต่กลั้นไว้
ทว่า… จิ่วอิงกลับเปิดเผยว่า “ท่านผู้นี้ น้องชายแซ่โจวใช่หรือไม่ ข้าเห็นเจ้าเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ มาประลองกันหน่อยหรือไม่”
โจวปินกำหมัดแน่น แต่คุณชายอวิ๋นที่สิบสองยิ้มกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสอย่าเข้าใจท่านทูตโจวผิด เขาเป็นคนจริงจังมาโดยตลอด มิได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ใด”
“อ๋อ คงรับประทานอุจจาระมากไป” จิ่วอิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
โจวปินทนไม่ไหว กำหมัดแน่นจนเกิดเสียง กร๊อบ
แต่คุณชายอวิ๋นที่สิบสองกล่าวว่า “ถึงแม้จะประลอง ด้วยตบะของท่านทั้งสองก็ควรไปประลองที่ตำหนักสวรรค์ อย่าทำลายคุนหลุนซวี ดีกว่าหรือไม่”
“ข้าไม่สนใจเท่าไรหรอก” จิ่วอิงอยากจะสู้ที่นี่ เขาจะได้กินคนที่ตายเพราะลูกหลงไปด้วย เช่นนั้นคนที่ตายยิ่งมากยิ่งดี
แต่โจวปินเป็นห่วง “คุณชายอวิ๋นที่สิบสองพูดมีเหตุผล ท่านชอบต่อสู้เช่นนี้ เราไปสู้ที่ตำหนักสวรรค์ให้สาสมใจดีกว่า”
“ชิ” จิ่วอิงเดินกลับไปข้างกายเยี่ยนอวี๋ ไม่มองโจวปินแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรก็กินคนไม่ได้ ขี้เกียจสู้…
โจวปิน “…”
เขารู้สึกถูกดูแคลน ทนไม่ไหวแล้ว
ทว่าคุณชายอวิ๋นที่สิบสองพูดต่อไปว่า “ในเมื่อฮูหยินน้อยเป็นผู้ฝึกตนอิสระ คงไม่เคยลงทะเบียนเข้าสำนักเซียน เพื่อรับของสัมมนาคุณที่มอบให้เทพเซียนระดับมหาเทพขึ้นไปใช่หรือไม่ขอรับ”
“มีหรือไม่มีก็ได้” เยี่ยนอวี๋กล่าวอย่างไม่สนใจนัก ถึงอย่างไรจะมีหรือไม่มีก็แกร่งเช่นนี้แล้ว
ทำเอาผู้แข็งแกร่งที่มุงดูอิจฉาตาร้อนไปหมด…
ทุกคนรู้ว่าสำนักเซียนมอบทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ให้เหล่าท่านที่อยู่เหนือมหาเทพเพื่อกระชับความสัมพันธ์ สุดท้ายคนอื่นเขากลับไม่อยากได้ นี่มันช่าง…
นักฝึกฌานบางคนอดพูดความในใจออกมาไม่ได้ว่า “ฮูหยินน้อย ท่านไม่เอาก็เอามาทำความดีในเมืองก็ได้ ทำบุญกุศล แบ่งให้พวกเราเถอะ”
“ใช่แล้ว ทำบุญทำทาน ไปรับเถอะแล้วให้พวกเรา พวกเราไม่รังเกียจ ยังจะขอบคุณมากด้วย”
“ใช่ๆๆ ทำบุญทำทานเถอะ…”
ผู้คนที่มุงดูพากันเอ่ยขึ้น บางคนถึงกับคุกเข่าลงอย่างจริงใจ
ทว่าเดิมทีทุกคนคิดว่าแค่ลองพูดเท่านั้น ไม่กล้าบังคับ ถึงอย่างไรความสามารถของเยี่ยนอวี๋ที่ทำให้ซั่งกวนซวินตายคาถนนนั้นก็ทรงพลังมาก ใครจะกล้าเสียมารยาทกับนางเล่า
ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่คุณชายอวิ๋นที่สิบสองก็ยังต้องเกรงใจนาง แม้แต่เอกอัครราชทูตก็ไม่กล้าปริปากแล้ว
แต่แล้ว… เยี่ยนอวี๋กลับพยักหน้าอย่างจริงจัง “ก็ได้”
ทุกคน “…”
ตกลงจริงๆ ด้วยหรือนี่?
เหตุใดจึงรู้สึกว่าฮูหยินน้อยท่านนี้เป็นคนดีและเมตตานะ?
คนงามจิตใจก็งามจริงๆ ด้วย
“ขอบคุณฮูหยินน้อย” ผู้คนที่ตื้นตันพากันกล่าวขอบคุณ
เยี่ยนอวี๋มองไปที่คุณชายอวิ๋นที่สิบสอง “คุณชายนำทางเถอะ”
“…เชิญ” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองพูดได้เพียงคำนี้ เพราะเขาหมดคำพูดแล้ว
ส่วนซั่งกวนฉิง คุณชายอวิ๋นที่สิบสองขอให้มหาเทพท่านหนึ่งอยู่ช่วยเก็บกวาดเรื่องที่เหลือ
จากนั้นโจวปินก็สังเวยศาสตราเวทลักษณะหินหมึกออกมาพาเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกขึ้นสวรรค์
“ฮูหยินน้อย พวกเราจะรอท่านนะ”
“ใช่ๆๆ”
…
ฝูงชนส่งเยี่ยนอวี๋จากไปอย่างตื่นเต้น และรอคอยการกลับมาของนางอย่างกระตือรือร้น
แม้จะมีคนบางส่วนรู้ดีว่าเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกคงจะไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว แต่ไม่แน่เล่า
“งานวันนี้คุ้มค่ากับการเดินทางจริงๆ”
“นั่นน่ะสิ น่าเสียดายที่ตามไปตำหนักสวรรค์ด้วยไม่ได้”
“พอเถอะ ตบะน้อยนิดเช่นพวกเราตามไปคงตายสลายเป็นเถ้าถ่าน” เหล่านักฝึกฌานที่ยังไม่ผ่านด่านเคราะห์เลื่อนขั้นขึ้นเป็นเทพล้วนรู้แก่ใจดี
ในขณะเดียวกัน… เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกก็ทะลุชั้นเมฆเหนือคุนหลุนซวีแล้ว
เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่ามีกฎมิติอันมหัศจรรย์หลายชั้นถูกกลิ่นอายอันรุนแรงที่แผ่ซ่านออกมาจากศาสตราเวทใต้เท้าของพวกเขาดันออก
เพียงพริบตาเดียว ชั้นเมฆ ‘สลายไป’ ประตูสวรรค์สีขาวหยกปรากฏตรงหน้าเยี่ยนอวี๋พวกเขา
สิ่งที่ปรากฏตามมายังมีกองทหารสวมชุดเกราะอีกหลายพันนาย
ทหารเหล่านี้ล้อมเยี่ยนอวี๋พวกเขาไว้
“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ห้าองค์”
จิ่วอิงนับเสร็จพบว่ามีเทียนอ๋องถึงห้าองค์เชียว
นอกจากนี้…