เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 737 หรงอี้ตื่น

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 737 หรงอี้ตื่น

“นี่กำลังทำอะไรน่ะ” จิ่วอิงเองก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาถามขึ้นเบาๆ

เยี่ยนอวี๋รู้สึกได้ว่าประตูเขตแดนเปิดขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วโดยพลังของอวิ๋นเหลียน

เมื่อนึกถึงแดนคุนหลุนที่คนของคุนหลุนซวีกำลังรอให้เปิดนั่น นางก็เข้าใจทันที “ประเดี๋ยวที่นี่จะมีผู้คนมากมายเข้ามา เราต้องเร่งมือหน่อย”

“ได้ เช่นนั้นก็เร็วเข้า” จิ่วอิงที่อุ้มเยี่ยนเสี่ยวเป่าไว้ดีแล้วก็คอยสอดส่องรอบทิศอย่างระมัดระวัง

เด็กน้อยเองก็ตื่นตัว มือข้างหนึ่งปิดปากน้อยๆ ของตนไว้ อีกข้างหนึ่งปิดปากของเจ้าแมวเหมียวสีขาวไว้

หูของเจ้าเหมียวสีขาวตั้งชันขึ้นราวกับกำลังระวังตัวอยู่เช่นกัน

เยี่ยนอวี๋นั่งสมาธิอีกครั้ง นางเพ่งสมาธิทั้งหมดเพื่อสัมผัสยุคของนางเอง

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองในครานี้รู้สึกปวดศีรษะมาก… เพราะว่างานเรียกคืนสมบัติต้องเกิดปัญหาไม่น้อยเนื่องจากการเปิดแดนคุนหลุนก่อนเวลานี้แน่ๆ นักฝึกฌานมากมายต้องคิดว่าแดนคุนหลุนเปิดแล้ว เข้าไปแล้วจะมีชีวิตรอดกลับมาอีกหรือไม่ไม่รู้ สู้เอาทรัพย์สมบัติเข้าไปด้วย ออกมาค่อยไปคืนดีกว่า

“เหตุใดจู่ๆ จึงเปิดเล่า ตามหลักแล้วกว่าพระวจนะจะส่งมายังประตูเขตแดนอย่างน้อยต้องใช้เวลาสิบวัน มิใช่หรือ” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองกุมขมับ ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำหนักสวรรค์

นี่เขาเพิ่งลงมาแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี้แล้วหรือ

หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับจอมโจรสามสี่คนนั่นนะ

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองไม่รู้ แต่เขารู้ว่าตนเองต้องกลับตำหนักสวรรค์แล้วจึงเรียกคนมาถามว่า “ฉิงเอ๋อร์ยังไม่ฟื้นหรือ”

“คุณชายสิบสอง ยังไม่ตื่นขอรับ อาการสาหัสมาก”

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองลุกขึ้นพูดว่า “ข้าขอไปดูสักเล็กน้อยก่อนกลับตำหนักสวรรค์แล้วกัน ถือว่าช่วยเหลือนางให้สมปรารถนาในความรัก”

“คุณชายสิบสองเมตตา” เหลียงฟางอวิ๋นคิดเช่นนั้นจริงๆ ถึงอย่างไรหลังจากที่รู้ข่าวนายท่านตระกูลซั่งกวนเสียชีวิต ก็มีเพียงคุณชายอวิ๋นที่สิบสองไปจวนซั่งกวน

แน่นอนว่าอาจจะเป็นเพราะผู้อื่นยังไม่ทันตั้งสติได้ เพราะว่าตั้งแต่ที่นายท่านตระกูลซั่งกวนเสียชีวิตจนถึงบัดนี้ก็ผ่านไปเพียงแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น ตระกูลใหญ่ที่ยังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ชัดเจนย่อมถือวิสาสะมาเองได้ ดังนั้นการมาเยี่ยมด้วยตนเองของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองจึงสำคัญกับการรักษาตระกูลซั่งกวนในวันข้างหน้าอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าการตายของนายท่านซั่งกวนจะเกี่ยวข้องกับตำหนักสวรรค์ แต่คนตายก็เหมือนตะเกียงดับ เมื่อตระกูลหนึ่งสูญเสียเทียนอ๋องและมหาเทพอันดับหนึ่งต่อเนื่องกันก็ยากที่จะยืนหยัดในคุนหลุนซวีต่อไปได้จริงๆ ดังนั้นซั่งกวนฉิงที่ฟื้นขึ้นหลังจากนั้นไม่นานย่อมเคียดแค้นเยี่ยนอวี๋เข้ากระดูกดำ ทว่าแม้นางจะโกรธแค้นเพียงใด สำหรับเยี่ยนอวี๋แล้วไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลย เพราะสำหรับเยี่ยนอวี๋แล้ว จะกลับจักรวาลดั้งเดิมอย่างไรในตอนนี้สำคัญที่สุด

“หาววว…”

เยี่ยนเสี่ยวเป่ากังวลจนเริ่มง่วงภายใต้บรรยากาศน่ากังวลนี้

จิ่วอิงจึงเริ่มกล่อมเขานอน แต่เจ้าตัวน้อยกลับชี้ไปที่ตักของท่านแม่ บอกว่าจะไปนอนบนตักท่านแม่เขา

จิ่วอิงจึงกล่อมว่า “ให้ปู่จิ่วอุ้มเจ้าดีกว่านะ อย่ารบกวนท่านแม่เจ้าเลย”

“หาววว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองจิ่วอิงตาปริบ

สายตาชวนเวทนาเช่นนี้ใครจะไปทนได้เล่า

ถึงอย่างไรจิ่วอิงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นเขาจึงอุ้มเจ้าตัวน้อยไปข้างกายเยี่ยนอวี๋อย่างเบามือ

เด็กน้อยลอยเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่เขา เมื่อหาที่ได้แล้วก็นอนลงไปราวกับบัวลอยลูกหนึ่ง

เจ้าเหมียวสีขาวถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน กอดจนมันจำใจต้องนอนตามไปด้วย

“เจ้าหมอนี่…” จิ่วอิงมองเด็กน้อยที่หลับไปทันที เมื่อมั่นใจแล้วว่าเยี่ยนอวี๋ไม่ถูกเด็กน้อยรบกวน เขาก็วางใจลงและสอดส่องรอบทิศต่อไป

เยี่ยนอวี๋ในครานี้นางรู้สึกถึงกลิ่นอายที่มาจากยุคของนางแล้ว ทำให้นางสัมผัสตามไปอย่างทุ่มเทมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน…

ณ จักรวาลดั้งเดิมในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

หึ่ง

ลำแสงสีม่วงหม่นจางๆ ปรากฏขึ้นในค่ายกลที่อินหลิวเฟิงนั่งขัดสมาธิอยู่แล้ว

อินหลิวเฟิงลืมตาทั้งคู่ขึ้นอย่างรู้สึกถึงได้ “นายท่าน?”

“ใช่ กลิ่นอายขอนายท่าน เจ้ารีบเปิดค่ายกลเร็วเข้า” เทียนตี้ตอบอย่างแน่ใจ

หยวนสื่อเทียนจุนที่ติดตามอยู่ข้างๆ เขาก็กล่าวอย่างมั่นใจเช่นกันว่า “ใช่แล้ว กลิ่นอายของปฐมราชินี”

ขณะที่อินหลิวเฟิงพยักหน้า เขาก็กระตุ้นค่ายกลอย่างไม่รีรอ

หึ่ง หึ่ง…

ทันทีที่พลังจิตใจของอินหลิวเฟิงพุ่งเข้าไปในค่ายกล แสงสีม่วงอร่ามสว่างขึ้นอีกครั้ง มันค่อยๆ จุดค่ายกลสว่าง

ทว่าความเร็วในการสว่างครานี้ เห็นได้ชัดว่าช้ากว่าครั้งที่แล้วมาก

ทำเอาเทียนตี้ร้อนรน “เหตุใดจึงช้าเช่นนี้”

“ตบะของเจ้าวิหคทมิฬคงสู้ของจวินโฮ่วไม่ได้สินะ” ซีหวังหมู่ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย สัญชาติญาณของมันบอกมันว่าค่ายกลที่จู่ๆ ถูกเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็วเมื่อครู่นี้เป็นเพราะถูกพลังของจวินโฮ่วกระตุ้น

เทียนตี้และหยวนสื่อเทียนจุนจำเป็นต้องยอมรับ เกรงว่าคงเป็นเพราะสาเหตุนี้จริงๆ แต่ก็ยังร้อนใจอยู่ดี นี่ก็ช้าเกินไปหน่อยแล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรหรือไม่

“ขอให้ทุกอย่างราบรื่น” เทพอัสนีอธิษฐานเสียงดัง มันเองก็กลัวจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น นอกจากนี้ที่นั่นยังเป็นถิ่นของอวิ๋นเหลียน ใครก็ไม่สามารถไปช่วยนายท่านได้

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นเด็กดีเช่นนี้ ต้องสำเร็จแน่นอน” เยี่ยนชิงกล่าวอย่างมั่นใจ แต่ตนเองกลับกังวลจนเหงื่อไหลท่วมศีรษะ

เยี่ยนจื่อเยี่ยในครานี้ที่กำลังเฝ้าต้าซือมิ่งทางนั้น เขาก็พบว่ากลุ่มก้อนสีดำที่ห้อมล้อมน้องเขยของเขาไว้เปลี่ยนไปแล้ว

เยี่ยนจื่อเยี่ยรีบตะโกนขึ้นว่า “ใครก็ได้เข้ามาที!”

“ข้าไปดูเอง” หยวนสื่อเทียนจุนลุกขึ้นทันที ให้เทียนตี้อยู่ที่เดิมต่อไป

เทียนตี้กลับทนไม่ไหว “ใกล้แค่นี้ ไปดูเขาก่อนก็ไม่เป็นไร”

เมื่อทั้งสองปรากฏขึ้นในห้องบรรทมของเยี่ยนอวี๋ พวกเขาก็เห็น… กลุ่มก้อนสีดำที่แต่เดิมห่อหุ้มต้าซือมิ่งไว้กำลังสลายไป

“นี่คือกำลังจะฟื้นแล้วหรือ” หยวนสื่อเทียนจุนถามด้วยสัญชาติญาณ

เทียนตี้สัมผัสอย่างตั้งใจ แต่กลับเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเยี่ยนอวี๋ หลังจากที่จิตเหนือสำนึกสัมผัสโดนกลุ่มก้อนสีดำเหล่านั้น มันก็จมลงไปราวกับหินที่จมลงสู่มหาสมุทร หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ดังนั้นเทียนตี้เองยังพูดอะไรไม่ได้ แต่เขายังคงพยายามสัมผัสและสังเกตการณ์ต่อไป

ผ่านไปประมาณหนึ่งเค่อ… ก็สามารถมองเห็นรูปร่างของต้าซือมิ่งแล้ว

เยี่ยนจื่อเยี่ยมั่นใจว่า “เห็นทีคงจะฟื้นแล้วจริงๆ”

“คงเป็นเช่นนั้น” เทียนตี้เองก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะว่าในที่สุดตอนนี้เขาก็รับรู้ถึงลมหายใจที่มั่นคงของต้าซือมิ่งที่ถูกหมอกสีดำจางๆ ห่อหุ้มไว้ มันคือสัญลักษณ์ว่าจะตื่นแล้วจริงๆ

เยี่ยนจื่อเยี่ยวางใจไม่น้อย “ราบรื่นก็ดี”

เทียนตี้กำลังจะพยักหน้า กลับรับรู้ว่ากลิ่นอายค่ายกลทางนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน…

หึ่ง

หมอกสีดำรอบกายต้าซือมิ่งสลายหายไปหมดแล้ว

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท