บทที่ 861 เป็นเซอร์ไพร์สที่…สุดยอดจริงๆ!?
ถ้าหานเซี่ยนอวี่ออกไปรับงานคนเดียวยังพอว่า แต่หานเซี่ยนอวี่ถึงกับเข้าบริษัทของเธอ ยอมมาอยู่ในบริษัทเล็กๆ ของเธอ แต่ไม่ยอมอยู่ในโกลบอล ครั้งนี้ฉู่หงกวงจึงโดนตบหน้าอย่างแรง…
ตอนนี้พวกเยี่ยนหวันหวั่นเข้าสู่โหมดทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว
วันนี้เยี่ยมู่ฝานเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมแฟชั่น เฟ่ยหยางพาหานเซี่ยนอวี่ไปสัมภาษณ์ที่สถานีโทรทัศน์ของเมืองหลวง ลั่วเฉินกับกงซวี่มีผู้ช่วยพาไปเข้าร่วมงานมีตติ้งแฟนคลับ เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งไปยืนยันสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ หลังจากเซ็นสัญญาเช่าเสร็จจึงค่อยรีบบึ่งกลับบริษัท…
ตอนเที่ยงสามารถพักผ่อนได้สองชั่วโมงแล้วค่อยทำงานต่อ เธอกำลังคิดว่าควรใช้เวลาสองชั่วโมงนี้ไปหาซือเยี่ยหานที่ซือกรุ๊ปดีไหม ช่วงนี้พวกเธอสองคนยุ่งกันมาก เวลาที่ได้เจอกันจึงน้อยลงเรื่อยๆ คราวนี้เหมือนจะไม่ได้เจอกันตั้งสามวันแล้ว!
เยี่ยนหวันหวั่นคิดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ สุดท้ายเพิ่งจะคว้าโทรศัพท์ออกมา เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็พลันดังขึ้น ซือเยี่ยหานโทรมาพอดี
เยี่ยหวันหวั่นรีบรับสาย “ฮัลโหล ที่รักคะ บังเอิญจัง ฉันกำลังคิดถึงคุณพอดี! คุณอยู่บริษัทไหม ฉันไปกินข้าวเที่ยงกับคุณได้ไหมคะ”
“ฉันอยู่ห้องทำงานของเธอ” ปลายสายมีเสียงที่เย็นชาเหมือนปกติของซือเยี่ยหานดังมา
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็เผยสีหน้าตกใจ “อะไรนะ ห้องทำงานของฉัน? คุณมาบริษัทฉันเหรอ”
ซือเยี่ยหานบอก “เอาข้าวเที่ยงมาให้ เธอกลับมาเลยก็ได้”
เยี่ยหวันหวั่นเหมือนได้รับความเมตตาโดยไม่ได้คาดหมาย!
ซือเยี่ยหานตั้งใจส่งข้าวเที่ยงให้เธอเหรอเนี่ย!
มีพัฒนาการเหมือนอีคิวพุ่งกระฉูดขึ้นชัดๆ…
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ค่ะๆๆ ฉันจะรีบกลับเลย! รอฉันก่อนนะ! ถึงหน้าประตูแล้ว อีกเดี๋ยวไปถึง!”
“เธอ…” ซือเยี่ยหานเหมือนอยากพูดอะไร แต่เยี่ยหวันหวั่นกดวางสายแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นขับรถไปถึงที่จอดอย่างงดงาม จากนั้นก็กดลิฟต์ด้วยความรวดเร็ว
ลิฟต์สะดวกมาก ขึ้นไปถึงห้องทำงานของพวกเขาโดยตรง
เมื่อขึ้นมาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเองทันที
พอเปิดประตูก็เห็นซือเยี่ยหานนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของเธอดังคาด
ชายหนุ่มถอดเสื้อเป็นทางการตัวนอกออก สวมเสื้อสเวตเตอร์สีเทาอ่อน ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว มือถือหนังสือภาษาต่างประเทศที่เข้าใจยากซึ่งเธอวางส่งเดชไว้บนชั้น กำลังอ่านด้วยสีหน้าจริงจัง แสงอาทิตย์จากด้านหลังห้องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา ภาพนี้งดงามราวกับม้วนภาพวาด…
ไม่เจอหนึ่งวันเหมือนห่างกันสามปี อย่าว่าแต่เก้าปีเลย
เยี่ยหวันหวั่นถูกความงดงามนี้สะกดทันใด ล็อกประตูห้องทำงาน โยนกระเป๋าเอกสารและกุญแจรถในมือทิ้ง ก่อนจะกระโจนเข้าไป ใช้สองมือค้ำโซฟาด้านหลังชายหนุ่ม จากนั้นโน้มตัวเข้าไปมอบจูบหวานฉ่ำ “ที่รัก รักคุณจังเลย!”
ซือเยี่ยหานที่จู่ๆ ถูกจูบมองเธอแวบหนึ่ง สีหน้าค่อนข้างยากจะบรรยาย…
หือ? สีหน้าของซือเยี่ยหานทำไมแปลกๆ?
เยี่ยหวันหวั่นกำลังสงสัย ก็ได้ยินเสียงตุบดังมาจากด้านข้าง
แอปเปิลลูกหนึ่งกลิ้งหลุนๆ มาถึงเท้าของเธอ…
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังตะลึงกับความงามก็เบือนหน้าไป สุดท้ายถึงเห็นว่านอกจากซือเยี่ยหานแล้ว…ในห้องยังมีคนอื่นด้วย…
กงซวี่ยังคงอยู่ในท่าถือแอปเปิล ใบหน้าหล่อเหลาอ้าปากตาค้าง ลั่วเฉินที่ตอนแรกกำลังคุยกับหานเซี่ยนอวี่ตะลึงไปแล้ว หานเซี่ยนอวี่อึ้งงันอยู่กับที่…
ห้องทำงานเงียบงัน ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย ทุกคนเหมือนถูกสะกดจุด…
เยี่ยหวันหวั่นตะโกนในใจราวกับภูเขาไฟระเบิด!
ตายแล้ว!
เกิดอะไรขึ้น!
ทำไมในห้องถึงมีคนอื่นได้!
วันนี้พวกเขาอยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ?
ทำไมซือเยี่ยหานไม่บอกเธอว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องทำงาน กรี๊ดๆๆๆๆๆ!
เยี่ยหวันหวั่นใช้สายตาต่อว่าอย่างคลุ้มคลั่ง!
ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ยังอยู่ในท่า ‘คร่อมบนโซฟา’ กับซือเยี่ยหาน
ซือเยี่ยหานจัดคอเสื้อที่ยับยุ่งเล็กน้อย บอกว่า “เธอไม่ให้โอกาสฉันพูด”
เยี่ยหวันหวั่น “…!”
——————————————————————-
บทที่ 862 เธอก็สิ้นหวังมากเหมือนกันนะ!
อะไรนะ! ไม่ให้โอกาสเขาพูดเหรอ
เป็นไปได้ยังไง!
เยี่ยหวันหวั่นใช้สมองที่สับสนวุ่นวายใคร่ครวญอย่างยากลำบาก พบว่าก่อนที่จะวางสายเหมือนซือเยี่ยหานอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่เธอฟังไม่ทันจบก็วางสายไปแล้ว จากนั้นเธอก็คิดเองว่าวันนี้ที่บริษัทต้องไม่มีคนแน่ เมื่อเข้าประตูมาในสายตาก็เหลือแต่ความงดงาม ผลคือไม่เห็นคนตัวเป็นๆ สามคนในห้อง พุ่งเข้าไปจูบซือเยี่ยหานทันที ไม่ให้โอกาสเขาได้พูดเลย…
บาปกรรมแท้ๆ…
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองที่ฉลาดมาตลอดจะทำข้อผิดพลาดระดับต่ำสุดแบบนี้!
ความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวคือขอแค่เธอแต่งตัวแบบผู้ชาย เสียงก็จะไม่เปลี่ยนเป็นผู้หญิง แต่มันจะไปมีประโยชน์บ้าอะไรกัน!
หลายครั้งก่อนหน้านี้เธอเค้นสมองคิดจึงเอาตัวรอดไปได้ แต่ครั้งนี้หลักฐานคาตา ต่อให้โดดลงแม่น้ำหวงโหวก็ล้างมลทินไม่หมด
ในห้องทำงานยังคงเงียบงัน คนทั้งสามเหมือนกลายเป็นหินไปแล้ว ลั่วเฉินไม่ต่างจากเสาหิน หานเซี่ยนอวี่มีใบหน้างงงวย ขนาดกงซวี่ที่รู้อยู่แล้วก็ยังตกตะลึง…
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกว่าเธอถอดใจไม่ได้ เธอยังเอาตัวรอดได้อยู่…
รีบคิดสิ คิดๆ! ครั้งก่อนตอนเธอพุ่งไปคร่อมบนตัวซือเยี่ยหาน แต่ลืมปิดประตู โดนลั่วเฉินกับหานเซี่ยนอวี่เข้ามาเห็นพอดี เธออธิบายไปยังไง…
สมองของเยี่ยหวันหวั่นทำงานเร็วจี๋ ทางหนึ่งก็ทำเป็นจัดเสื้อผ้า ดึงมือที่ยันอยู่ข้างตัวซือเยี่ยหานกลับมาอย่างใจเย็น
เวรเอ๊ย! ในช่วงเวลาอันตรายแบบนี้ ต่อให้เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ ซือเยี่ยหานอุตส่าห์มาหาด้วยตัวเอง แม้แต่ประตูเธอก็ล็อกไว้แล้ว แต่ดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก…
สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นก็ยังลุกขึ้นมาได้ด้วยความสามารถในการควบคุมตัวเองที่แข็งแกร่ง
กงซวี่ไม่จำเป็นต้องสนใจ หานเซี่ยนอวี่ยังถูไถไปได้ เรื่องเร่งด่วนคือลั่วเฉิน ลั่วเฉิน!
ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงยิ้มบางอย่างสนิทสนม มองลั่วเฉินพลางพูดว่า “ฮะๆ พวกนายอยู่กันหมดเลยเหรอ ลั่วเฉิน วันนี้พวกนายต้องไปร่วมงานแฟนมีตติ้งไม่ใช่หรือไง”
ลั่วเฉินมองซือเยี่ยหานบนโซฟา จากนั้นก็มองเยี่ยหวันหวั่น สักพักความสามารถในการพูดคุยถึงค่อยกลับมา ตอบทีละคำเหมือนเครื่องจักรว่า “เสร็จ…เสร็จก่อนเวลาครับ…ก็เลยกลับมาเร็วหน่อย…”
กงซวี่หันไปมองเยี่ยหวันหวั่น ทำหน้าเหมือนกับบอกว่า ‘เอาเลย ผมจะดูว่าพี่จะแต่งเรื่องยังไง’…
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “อ๋อ ไม่น่าล่ะ! อะแฮ่ม ฉันกำลังเล่นกับเพื่อนฉันอยู่พอดี!”
กงซวี่เงียบงัน
หานเซี่ยนอวี่นิ่งไป
รู้แล้วๆๆ เธอรู้ว่าใช้เหตุผลแบบนี้เหลวไหลเกินไป ทำเหมือนคนอื่นเป็นคนด้อยปัญญา ครั้งก่อนดีร้ายอย่างไรก็แค่พุ่งไปทับไม่ได้จูบกัน ยังพอถูไถเอาตัวรอดไปได้ แต่เธอจะมีวิธีอะไรอีก เธอก็สิ้นหวังมากเหมือนกันนะ!
นอกจากเหตุผลนี้เธอก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว…
กงซวี่พลันเผยสีหน้าหน่ายใจ มองเยี่ยหวันหวั่นอย่างจนปัญญา ‘พี่เยี่ย พี่คิดว่าพวกเราเป็นคนปัญญานิ่มเหรอ?’
เยี่ยหวันหวั่นอึกอัก โอเค แย่เกินไปจริงๆ ด้วย…
“คือว่า แค่ก ฮ่าๆ โทษทีนะ เพื่อนฉันเอาข้าวเที่ยงมาให้ ฉันตื่นเต้นไปหน่อย พวกนายอย่าคิดลึกล่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นเค้นสมองอธิบายต่อ
กงซวี่อดทนไม่ไหวอีกต่อไป มุมปากกระตุกพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าว…ข้าวเที่ยงแห่งความรักเหรอครับ…”
พี่เยี่ย พี่ยิ่งพูดยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วรู้ไหม?
เยี่ยหวันหวั่นสะอึก
ตายแล้ว ทำไมเธอถึงได้บื้อขนาดนี้…
ลั่วเฉิน! นายฟังฉันอธิบายก่อน…
“ที่แท้เป็นแบบนี้…” ลั่วเฉินได้ยินแล้ว สีหน้าค่อยผ่อนคลายลง ระบายลมหายใจโล่งอกออกมา “งั้นพี่เยี่ยรีบกินเถอะครับ! ยุ่งมาทั้งเช้าแล้ว ต้องหิวแน่เลย!”
เยี่ยหวันหวั่นงงงัน หา?
กงซวี่ “…?”
หานเซี่ยนอวี่ “…”
………………………………………