ตอนที่ 742 จิตที่สื่อถึงกัน
“บัดซบ”
อินหลิวเฟิงพ่นคำหยาบ
เยี่ยนชิงถึงกับตะโกนขึ้นว่า “ลูกเขยมั่นคงไว้นะ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์และเสี่ยวเป่ายังไม่กลับมาเลย”
“น้องเขย” เยี่ยนจื่อเยี่ยที่เพิ่งไล่ตามมาถึง หัวใจของเขาเต้นระส่ำ ในฐานะที่เป็นคนที่เห็นหรงอี้ลืมตา เขายังไม่ทันดีใจได้นานเท่าไรก็เห็นฉากฐานค่ายกลมิติแตกร้าวเสียแล้ว
ช่างน่า…
เยี่ยนจื่อเยี่ยไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีแล้ว แต่เขารู้แก่ใจดีว่า น้องเขยคนนี้ของเขาคงรู้สึกถึงความผิดปกติของฐานค่ายกลนี้จึงตื่นขึ้นมาได้ ‘ทันกาล’ เช่นนี้
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ..
เยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในยุคที่แล้ว ‘อันไกลโพ้น’ ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งกว่า
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่รับปากว่าจะช่วย เขาบีบดอกไม้ไฟในมือแตก “สลาย”
ทันทีที่เสียงของเขาดังขึ้น
หึ่ง
แดนคุนหลุนสั่นสะเทือน แต่อวิ๋นเหลียนผู้ถูกจิ่วอิงกัดไว้กลับเหมือนกับว่าจะฟื้นพลังกลับมาไม่น้อยเพราะเหตุนี้ เพราะว่าหลังจากที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาบีบดอกไม้ไฟแตกแล้ว มันส่งพลังชีวิตไม่น้อยไปให้อวิ๋นเหลียน คำว่า ‘สลาย’ คำนั้นเหมือนกับว่าพูดเพียงเพื่อต้องการทำให้ผู้คนสับสน
ดังนั้น… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองและเทพราชาหลันและเทียนอ๋องท่านอื่นๆ รับรู้ได้ว่าพลังชีวิตของปฐมราชินีของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย ย่อมรู้สึกดีใจ พวกเขาโจมตีจิ่วอิงอีกครา “เจ้าสวะ ยังไม่รีบปล่อยอีก”
“ออกไปซะ” เม่ยเอ๋อร์ที่ตวัดดาบเล่มใหญ่ใส่ทันที ทำให้เกิดพายุหมุนอันโหดเหี้ยมอีกครั้ง นางพยายามปกป้องจิ่วอิงอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ผู้ใดรบกวนมันกินคน
จิ่วอิงในครานี้ มันหายเผ็ดแล้ว ดังนั้นทันทีที่อวิ๋นเหลียนขยับตัว มันก็กัดลงไปแรงกว่าเดิม จนเกิดเสียงดัง ‘กร๊อบ’ อีกครั้ง
พรวด
เลือดสดพุ่งออกมาจากปากของจิ่วอิง แต่จิ่วอิงเป็นอสูรร้ายสาย ‘งก’ ศีรษะที่เหลือทั้งเก้าของมันรีบอ้าปากรับเลือดของอวิ๋นเหลียนไว้และกลืนลงไป ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
จากนั้นจิ่วอิงก็ร้องไห้… ในที่สุดก็ไม่เผ็ดแล้ว จิ่วอิงซาบซึ้งจนน้ำตานองหน้า
“บัดซบ”
อวิ๋นเหลียนที่ตะโกนออกมาอย่างอ่อนแอ นอกจากนางจะยังไม่ตายแล้ว นางยังกรีดร้องอย่างโอหังในปากของจิ่วอิง นอกจากนี้นางที่เพิ่งหายเผ็ดและหลุดพ้นจากการกดขี่ก็ต่อต้านจิ่วอิงอย่าง ‘รุนแรง’ อีกครั้ง
ซู่
คลื่นมิติปริภูมิกำลังถูกอวิ๋นเหลียนรวบรวมในปากของจิ่วอิง มันพยายามตัดฟันอันแหลมคมน่าสะพรึงเหล่านั้นของจิ่วอิงอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อทำลายฟันอันแหลมคมที่ดุร้ายเหล่านี้ให้แตกสลาย
ในขณะเดียวกัน…
ชิ้วๆ
ชิ้วๆๆ…
ผู้แข็งแกร่งแดนคุนหลุนมากกว่าเดิมก็ทยอยกันสถิตลงมา
เทพราชาจินและเทพราชาเฮ่อ เทพราชาขั้นสูงสุดที่อยู่ระดับเดียวกับเทพราชาหลันและเทพราชาชิงก็มาถึงแล้ว
สภาพการณ์เช่นนี้… เห็นได้ชัดว่าเป็นผลเสียต่อเยี่ยนอวี๋ แม้เม่ยเอ๋อร์จะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถต้านทานศัตรูแข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ได้ มิหนำซ้ำผู้ดูแลแต่ละชั้นสวรรค์ยังพาผู้แข็งแกร่งของสำนักตนมาด้วย
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…
เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว นางรู้ว่ายิ่งยื้อยิ่งไม่เป็นผลดีต่อตนเอง แต่ประตูมิติยังไม่เปิด จะไปก็ไม่ได้
ไม่เพียงเท่านี้…
แคร่ก
แคร่กๆ
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังกวาดตามองสถานการณ์ตรงหน้า นางยังได้ยินเสียงแตกร้าวเหนือศีรษะนางอย่างชัดเจน นางตกใจรีบมองไปที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาทันที
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาท่านนั้น ดวงตาไร้แววของเขาก็กำลังมองนาง มุมปากของเขาเหมือนกับว่ายกขึ้นเล็กน้อยด้วย?
เยี่ยนอวี๋หน้าเปลี่ยนสี นางเงยหน้ามองขึ้นไปทันที และนางก็เห็นว่า ‘ภาพม้วน’ ขุนเขาและท้องทะเลที่นางอัญเชิญมากำลังพังทลายตามคาด
ตูม
มิติปริภูมิทั้งมิติก็แตกร้าวอีกครั้งในครานี้
ในเวลาเดียวกัน… เยี่ยนอวี๋รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสายใยบางๆ ระหว่างตนเองและจักรวาลดั้งเดิมถูกตัดขาดแล้ว ซึ่งนี่หมายความว่าประตูมิติไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกแล้ว
เยี่ยนอวี๋หรี่ตาลง ในที่สุดก็เผยแววสังหารออกมา
จากนั้น…
หึ่ง
กระบี่ไท่ชางปรากฏขึ้นกลางอากาศทันทีที่เยี่ยนอวี๋คิด
“ตาย”
เยี่ยนอวี๋ที่เปล่งเสียง กระบี่ไท่ชางพุ่งใส่หน้าผากของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาทันที
“ถอย”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่ไม่แยแส เขารวบรวมกฎต้นกำเนิดแดนคุนหลุนทั้งแดนอีกครั้ง มันกัดกร่อนพลังของกระบี่ไท่ชางอย่างต่อเนื่องโดยใช้สิทธิ์ความเหนือกว่าจากการเป็นเจ้าถิ่น
ทำเอาพลังสังหารที่ระเบิดออกมาจากกระบี่ไท่ชางลดลงกว่าครึ่ง
ทว่าในขณะเดียวกัน…
“อ้ะเนะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้องอย่างโมโห เขาก็เรียกค้อนจิ๋วของตนออกมา
ตุบ
ทันทีที่ค้อนจิ๋วปรากฏ มันก็ทุบกฎต้นกำเนิดคุนหลุนที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวารวบรวมแตก
ฟิ้ว
กระบี่ไท่ชางจึงได้โอกาสแทงลงไปที่หน้าผากของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาทันที
ซู่
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่ลอยกลางอากาศกลับถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านี้…
“โกลาหล”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่มีดวงตาสีม่วงประกายระยิบระยับทำให้กฎของแดนคุนหลุนปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายเถอะ”
นี่ทำให้เยี่ยนอวี๋มั่นใจว่าทูตสวรรค์ต้องรู้ว่านางจะทำอะไรแน่ๆ มิเช่นนั้นเหตุใดเขาจึงต้องทำให้กฎมิติปั่นป่วนเล่า เห็นได้ชัดว่าต้องการให้นางกลับไปไม่ได้
เยี่ยนอวี๋เพ่งสมาธิอัญเชิญ ‘ภาพม้วน’ ขุนเขาและท้องทะเลออกมาอีกครั้ง และหยดเลือดสีม่วงหยดหนึ่งลงไปในความว่างเปล่า “ในนามของข้าหยวนชู อัญเชิญจักรวาลดั้งเดิม”
เยี่ยนอวี๋รู้ดีว่านางไม่สามารถตัดการเชื่อมต่อกับจักรวาลดั้งเดิมได้ มิเช่นนั้นนางจะกลับไปไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นสามีนางจะทำอย่างไร ครอบครัวและเหล่าลูกน้องของนางจะทำอย่างไร
ดังนั้นนางจึงใช้พลังโลหิตพยายามเชื่อมต่อกับจักรวาลดั้งเดิมอีกครา
และเป็นเพราะเลือดหยดนี้ของนาง… ทำให้หรงอี้ที่ยืนอยู่บนฐานค่ายกลในจักรวาลดั้งเดิมเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนทันที
จากนั้นเขาใช้นิ้วเรียวยาวของตนสะกิดเรียก ‘เขา’ ตัวน้อยๆ ออกมาจากระหว่างคิ้ว
ต้าซือมิ่งตัวน้อยที่สั่นเทาโขกศีรษะลงบนฝ่ามือของต้าซือมิ่งดังเช่นทุกครั้ง
แทบจะในเวลาเดียวกัน…
ตูม
วงแหวนสีม่วงเจิดจ้าที่คล้องบนแขนและข้อเท้าของเยี่ยนอวี๋แตกละเอียด ทำเอาเยี่ยนอวี๋ที่กำลังเพ่งสมาธิสัมผัสจักรวาลดั้งเดิมตกใจ
“อ้ะ”
เด็กน้อยก็จับท่านแม่ของเขาไว้แน่นอย่างกังวล “พ่อ พ่อแตก…”
เด็กน้อยที่เห็นกลิ่นอายของท่านพ่อแตกละเอียดบนตัวของท่านแม่เขาด้วยตาตนเอง เขาก็อยากจะร้องไห้ รู้สึกเหมือนกับว่าท่านพ่อจะจากพวกเขาไปแล้ว
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับพบว่าแสงเหล่านี้กำลังรวมตัวเหนือศีรษะนาง
ในความเป็นจริงแล้ว… ต้าซือมิ่งที่ยังอยู่ในจักรวาลดั้งเดิม เขาเห็นภาพภรรยาอยู่กับลูกอย่างชัดเจนแล้ว
ทว่าในขณะเดียวกัน
ฐานค่ายกลมิติก็สลายไปอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์พ่อ”
เทียนตี้ร้อนรนจนเกือบจะกระโดดเข้าไปในฐานค่ายกล ทว่าต้าซือมิ่งหายไปจากฐานค่ายกลนั่นก่อนแล้ว