ตอนที่ 746 ให้กำเนิดซือมิ่งน้อย
“ใครจะขวางเขาได้เล่า” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวากลับย้อนถามอย่างราบเรียบ
เหล่าทวยเทพพูดไม่ออก… เพราะว่าทุกคนรู้ว่าใครก็ขวางไม่ได้
ทว่า…
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเล่า” เทพราชาอาวุโสหลันถามถึงทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอีกครั้ง
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาส่ายศีรษะ “ไม่ทราบ”
“ก่อนหน้านี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายบอกว่าจะมาปกป้องเสด็จแม่” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองกล่าว อันที่จริงเขารู้สึกว่าสิ่งที่อสูรร้ายพูดเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เรื่องเท็จ มันกินทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปแล้ว มิเช่นนั้นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอยู่ที่ไหนเล่า
ทว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวายังคงส่ายศีรษะ “ตอนที่ข้ามา นางก็ไม่อยู่ในแดนคุนหลุนแล้ว”
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองขมวดคิ้ว “เป็นไปได้หรือไม่ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกจอมโจรใช้กลยุทธ์ล่อเสือออกจากถ้ำ?”
“คงจะใช่ มิเช่นนั้นจอมโจรเหล่านี้คงไม่สามารถทำร้ายปฐมราชินีได้ พวกเราเข้าช่วยไม่ทันเลย” ครานั้นเทพราชาอาวุโสหลันอยู่กับคุณชายอวิ๋นที่สิบสอง รู้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปทางบริเวณใกล้จุดศูนย์กลางคุนหลุนแล้วจริงๆ
“แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี” เทพราชาอาวุโสชิงที่ยังร้องไห้อยู่รู้สึกสับสน
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเงียบ
เหล่าทวยเทพเงียบ
ทุกคนทำได้เพียงมองเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกของนางจากไปเงียบๆ
สุดท้าย คุณชายอวิ๋นที่สิบสองยังคงไม่ยอมตายใจ “ถึงอย่างไรก็คงต้องประกาศให้ทุกชั้นสวรรค์รู้ว่าพวกเขาคือโจร”
“ได้” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเห็นด้วย “วาดแค่รูปสตรีผู้นั้นก็พอ”
“ทำไมเล่า” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองไม่ค่อยเข้าใจ ควร ‘จับ’ พวกเขาทั้งหมดมิใช่หรือ
“ต้องมีสักครั้งที่นางอยู่คนเดียว” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวากล่าวอย่างสงบ “ในสวรรค์สิบสองชั้นยังมีวิญญาณโบราณอื่นๆ ยังไม่ปรากฏ”
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองเข้าใจทันที “ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาปรีชา หากฆ่านางได้ก็ถือว่าแก้แค้นให้เสด็จแม่แล้ว”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพยักหน้าและหายไปจากที่เดิม
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองผงะ “ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาไปออกคำสั่งแล้วหรือ”
“คงจะใช่ เราก็ออกไปกันเถอะ” เทพราชาอาวุโสหลันไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่เศร้าโศกแห่งนี้
เหล่าหัวหน้าสำนักสิบเอ็ดชั้นสวรรค์ก็เตรียมจะออกจากแดนคุนหลุนแล้ว เพราะว่าพลังชีวิตในแดนคุนหลุนสูญเสียไปกว่าครึ่ง กฎระเบียบเก่าแก่มากมายก็กำลังสลาย
สำหรับเหล่าทวยเทพแล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่น่าเศร้า และยังสูญเสียโอกาสที่จะทำให้พวกเขาเลื่อนขั้น ดังนั้นหากอยู่ต่อไปก็ไร้ความหมาย
การเดินทางครั้งนี้ นอกจากพวกเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรแล้ว ยังรับบาดเจ็บสาหัสด้วย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ปฐมราชินีของพวกเขายังร่วงหล่นไปแล้วด้วย พระองค์ท่านร่วงหล่นอย่างน่าเจ็บปวดใจต่อหน้าพวกเขานี่เอง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทวยเทพที่ยังคงร้องไห้ แววตาสับสน “พวกเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ หากต้องการทำลายสวรรค์คุนหลุนของเรา เกรงว่าก็คงไม่ยาก”
“ต้องหาวิธีฆ่าพวกเขา” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองยังคงไม่ยอม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
เทพราชาอาวุโสหลันพวกเขาก็เช็ดน้ำตาพลางร้องไห้สะอึกพูดว่า “ใช่ ตอนนี้พวกเขายังไม่เริ่มทำลายสวรรค์คุนหลุน คงเพราะยังกังวลบางสิ่ง เราต้องสืบให้ได้ว่าพวกเขาหวาดกลัวเรื่องใด และดูว่าเราจะสามารถฆ่าพวกเขาได้หรือไม่ ใช่แล้ว แบบนี้แน่นอน”
เหล่าเทพอาวุโสที่ยิ่งพูดยิ่งมั่นใจก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้น
ทว่าเมื่อพวกเขาคิดถึงปฐมราชินีคุนหลุนที่แข็งแกร่งที่สุดไม่มีแล้ว พวกเขาก็อดห่อเหี่ยวไม่ได้อีกครั้ง
“บางทีคงต้องร่วมมือกับจักรพรรดิมารแล้ว” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่ดวงตาแดงก่ำคิดว่าบางทีมีเพียงจักรพรรดิมารเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาสังหารจอมโจรกลุ่มนี้หรือศัตรูที่ฆ่ามารดาเขาได้
เดิมทีคุณชายอวิ๋นที่สิบสองคิดว่าเยี่ยนอวี๋พวกเขากลายร่างมาจากจักรพรรดิมาร แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่ใช่เช่นนั้น
เพราะว่าหากจักรพรรดิมารมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆ พวกมันคงพลิกสวรรค์ไปแล้ว ใต้หล้าคงถูกปกครองด้วยปีศาจ
แต่บัดนี้… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองจำเป็นต้องตัดสินใจ เตรียมตัวไปคุยเรื่องความร่วมมือกับเผ่ามาร
แม้ใช่ว่าเผ่ามารจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ แต่เทพราชาอาวุโสหลันพูดถูก ในเมื่อจอมโจรเหล่านี้ยังไม่ทำลายคุนหลุนในตอนนี้ แสดงว่าพวกเขายังมีเรื่องหวาดกลัว ตราบใดที่หาจุดอ่อนของพวกเขาเจอ ค่อยร่วมมือกับเผ่ามาร ก็ใช่ว่าจะทำไม่สำเร็จ
ทวยเทพก็ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของคุณชายอวิ๋นที่สิบสอง เพราะว่าพวกเขารู้ว่านี่คงเป็นทางเดินสุดท้ายที่พวกเขาเลือกได้แล้ว
แม้จักรพรรดิมารจะชั่วร้าย แต่เทียบกับจอมโจรเหล่านี้แล้ว ถือว่าพวกเขา ‘มีเมตตาและชอบธรรม’
ถึงครานั้น ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายและมือขวาร่วมมือกับจักรพรรดิมาร กำจัดจอมโจรกลุ่มนี้ก่อนค่อยว่ากัน
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ… ขณะที่พวกเขาวางแผนนี่เอง ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่กลับตำหนักสวรรค์ นอกจากจะออกประกาศจับเยี่ยนอวี๋พวกเขาแล้ว เขายังไปหา ‘คน’ คนหนึ่งด้วย
คนๆ นั้นสวมหน้ากากผีเสื้อและสวมชุดสีดำ นางคือ ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’
“เป็นอย่างไรบ้าง” สตรีสวมหน้ากากถามทูตสวรรค์ฝ่ายขวา
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพยักหน้า “ท่านตายไปแล้ว สรรพชีวิตในสวรรค์ก็จะรู้ในเร็วๆนี้ ว่าคนที่สังหารท่านคือใคร”
“ดี” เห็นได้ชัดว่านางคือปฐมราชินีคุนหลุนอวิ๋นเหลียน แต่กลับปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย นางยิ้มหยัน “เยี่ยนอวี๋ ในยุคสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ข้าไม่สามารถฆ่านางได้ แต่ในยุคคุนหลุน ตราบใดที่คนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่ากราด ข้าก็จะสร้างกฎใหม่เพื่อสังหารนาง ผู้มาเยือนจากต่างถิ่นได้”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาไม่ได้ตอบ ยืนเงียบอยู่ที่เดิม
อวิ๋นเหลียนกลับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร นางพูดต่อไปว่า “ส่วนชายคนนั้น ช่างเขาเถิด เมื่อเยี่ยนอวี๋ตายแล้ว เป้าหมายของข้าสำเร็จแล้ว เขาอยากทำอะไรก็ไม่สามารถห้ามข้าได้”
“เหตุใดจึงไม่ฆ่าเขาไปด้วย” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาถาม
อวิ๋นเหลียนส่ายศีรษะ “เจ้าไม่รู้ เขาเป็นบุคคลที่ฆ่าไม่ตาย”
“เขาคือใคร” เหมือนกับว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาสนใจต้าซือมิ่งมาก
อวิ๋นเหลียนไม่แปลกใจ “เจ้าอย่าไปขัดแย้งกับเขา ชายผู้นี้ลึกลับมาก ความสามารถก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะเขาความจำเลอะเลือนและยังมีจุดอ่อนร้ายแรง ทุกๆ ชาติของเขาอยู่ได้ไม่นาน เยี่ยนอวี๋นังสารเลวคนนี้ ข้าคงไม่สามารถฆ่านางได้”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเงียบ เขาหลุบตาลง
“กลับไปเถอะ อย่าคิดมาก ต่อไปเจ้าและข้าเท่าเทียมกัน จงจำไว้ว่าข้าคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย” อวิ๋นเหลียนสั่งครั้งสุดท้าย
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพยักหน้าก่อนจะจากไป ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
อวิ๋นเหลียนส่ายศีรษะ รู้ว่าลูกน้องคนนี้คงหงุดหงิดตัวเองที่มีความสามารถไม่พอที่จะฆ่าต้าซือมิ่งคนนั้น มิหนำซ้ำเขายังถูกเอาชนะด้วย
แต่ต้าซือมิ่งนั่น แม้แต่นางเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วจะฆ่าเขาได้อย่างไรเล่า การฆ่าเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ในความดูแลของเขาได้ถือว่าไม่ธรรมดามากแล้ว
…
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกก็ออกจากคุนหลุนซวีแล้ว
ระหว่างทางไม่เจออุปสรรคใดๆ เพราะว่าหลังจากที่คำสั่งประกาศจับแพร่ออกไป ทุกคนในตำหนักสวรรค์และคุนหลุนซวีก็ร้องไห้ดังระงม ไม่มีผู้ใดตั้งสติได้
การสิ้นพระชนม์ของปฐมราชินีอวิ๋นเหลียน สำหรับเหล่านักฝึกฌานแล้วเท่ากับฟ้าถล่ม
โดยเฉพาะสำหรับตำหนักสวรรค์และคุนหลุนซวี พวกเขาเสียใจที่สุด เพราะว่าพวกเขาเป็นเขตแดนที่อยู่ใต้การปกครองโดยตรงของคุนหลุน อวิ๋นเหลียนมักจะปรากฏในสถานที่ทั้งสองแห่งนี้บ่อยๆ นางได้รับความรักอย่างสุดซึ้งจากทวยเทพและผู้คน
ทว่าตำหนักสวรรค์จะเป็นอย่างไร คุนหลุนซวีจะเป็นอย่างไร เยี่ยนอวี๋ไม่สนใจ
ตอนนี้นางสนใจเพียง…
“สามี เรารีบมีน้องกันเถอะ”
เยี่ยนอวี๋ที่กระซิบกระซาบข้างหูหรงอี้ นางอยากจะมีลูกให้สามีนางอีกหลายคนจริงๆ
ภรรยาที่กระตือรือร้นเช่นนี้ ทำเอาต้าซือมิ่งเลิกคิ้ว “รีบ?”
หรงต้าซือมิ่งที่ตั้งใจจะหยอกเล่นคิดว่าภรรยาคงเขินแน่ๆ และอาจจะอารมณ์เสียจนต่อยเขายกหนึ่ง
ทว่า…
เยี่ยนอวี๋กลับกอดสามีนางไว้แน่น ตอบอย่างจริงจังว่า “อืม”
————————————–