เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 749 สายลับ

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 749 สายลับ

ณ คุนหลุนซวี

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม นักฝึกฌานที่สงบสติอารมณ์ลงได้จึงเริ่มพูดถึงเยี่ยนอวี๋

บัดนี้ในใจของเหล่านักฝึกฌานเต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อเยี่ยนอวี๋ ซึ่งก็เป็นไปตามที่อวิ๋นเหลียนต้องการ

ถึงแม้บนภาพประกาศจับไม่ได้เขียนชื่อของเยี่ยนอวี๋ แต่ภาพนั้นเหมือนจริงมาก ทุกคนในตำหนักสวรรค์และคุนหลุนซวีชี้นิ้วด่าอย่างโมโห

“นางสังหารปฐมราชินีได้อย่างไร นางต้องตายไม่ดีแน่”

“นางคือใคร เหตุใดนางจึงต้องทำกับปฐมราชินีคุนหลุนเช่นนี้”

“ฆ่า ‘แม่’ ของตนเอง นางทำลงได้อย่างไร…”

คำตำหนิที่มีต่อเยี่ยนอวี๋ค่อยๆ ขยายจากคุนหลุนซวีถึงสวรรค์สิบสองชั้นและไปถึงยมโลก โลกมนุษย์ และยังขยายอย่างต่อเนื่อง

และการชี้นำของอวิ๋นเหลียน บรรดาผู้ที่ยังสับสนกับพฤติกรรมของเยี่ยนอวี๋หรือผู้ที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของนางค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยการประณาม ความโมโห และเกลียดชัง

เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกในครานี้ พวกเขายังอยู่ในป่านอกเมืองคุนหลุนซวี ไม่มีใครพบพวกเขาเลย

เด็กน้อยที่ตอนนี้กินอิ่มและเล่นเสร็จแล้วกำลังเตรียมตัวนอน

“หาววว”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าหาว เขาหาท่านพ่อและมุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อโดยอัตโนมัติ

เยี่ยนอวี๋หลีกทางให้เด็กน้อยและลูบหลังของเขาเบาๆ เริ่มกล่อมเขานอน

เจ้าเหมียวสีขาวกระโดดไป ‘แตะ’ หน้านุ่มของเด็กน้อย และยังร้อง ‘เหมียวๆๆ’ อย่างสนุกสนาน ราวกับกำลังบอกว่า “นอนอะไรเล่า มาสนุกกันเถอะ”

“หาววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ง่วงนอนมาก เขาก็เบือนหน้าหนี มุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่อเขา ไม่สนใจเจ้าเหมียวสีขาว

ต้าซือมิ่งเองก็จับเจ้าเหมียวสีขาวขึ้นมา “อย่ากวนเขา”

“เหมียว” เสี่ยวไป๋ที่พลิกตัวขึ้นไปที่แขนของหรงอี้ มันก็เชื่อฟัง ไม่กวนเด็กน้อยแล้ว และเริ่มสนทนากับอี้เอ๋อร์ของมันต่อ “เมี๊ยวๆๆ…”

เยี่ยนอวี๋อดถามไม่ได้ว่า “สามี เสี่ยวไป๋พูดภาษาที่ข้าเข้าใจได้หรือไม่” จนถึงบัดนี้ ภาษาแมวของเจ้าเหมียวตัวนี้เป็น ‘ภาษา’ เดียวที่นางไม่สามารถเข้าใจได้

“ไม่ได้” หรงอี้ที่หยิกเจ้าเหมียวสีขาวขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็จับมันวางไว้บนไหล่ ฝ่ายหลังคลอเคลียที่บริเวณคอของเขาทันที แต่มันก็หยุดส่งเสียงร้องแล้ว เพียงแค่มองเยี่ยนอวี๋ด้วยดวงตาสีเขียวมรกตสุกใส

เยี่ยนอวี๋ยื่นมือไปหามัน ย่อมได้รับการตอบสนองในทันที

เสี่ยวไป๋กระโดดไปที่ฝ่ามือของเยี่ยนอวี๋และยังเลียมือของนาง

น่าเสียดายที่มันเพิ่งจะเลียก็ถูกต้าซือมิ่งจับกลับไปแล้ว เพราะว่าต้าซือมิ่งคิดว่าแม้แต่เขาเองก็ยังไม่เคยเลียมือของภรรยาเลย

เยี่ยนอวี๋กลับประท้วงพูดขึ้นว่า “สามีอย่าจับมันไปสิ ให้ข้าดูก่อน”

“เหมียววว” เสี่ยวไป๋บอกว่าข้าชอบเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มากเลย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าปลาน้อย หอมเหมือนปลาตากแห้งเลย

เจ้าเหมียวสีขาวที่กินทุกอย่าง มันไม่เคยลืมว่าจริงๆ แล้วมันชอบกินปลาตากแห้ง เหมียวๆ

“มันง่วงแล้ว” ต้าซือมิ่งที่ยัดเจ้าเหมียวสีขาวเข้ามาอย่างจริงจังตัดบทว่าเจ้าเหมียวสีขาวง่วงแล้ว ชนิดที่ไม่ง่วงก็ต้องง่วง

เจ้าเหมียวสีขาวย่อมไม่ยอม มันมุดศีรษะออกมา “เหมียว”

หรงอี้จิ้มศีรษะมันกลับไป “อยู่นิ่งๆ”

“เหมียว” เจ้าเหมียวสีขาวอยากพูดว่าตนเองไม่ง่วงเลยจริงๆ ยังวิ่งเล่นอีกสามร้อยรอบได้

ทว่าการหาวในเวลาต่อมาของมันกลับหักหลังตัวมันเสียเอง

เยี่ยนอวี๋เห็นดังนี้ก็ไม่ได้บังคับ กลับยังคงมองเจ้าเหมียวสีขาว

เพราะว่าเจ้าเหมียวสีขาวที่ถูกคลาย ‘ผนึก’ แล้วมีชีวิตชีวากว่าเดิม และยังร่าเริงและน่ารักยิ่งขึ้นด้วย ตัวก็เล็กและงดงาม ปฐมราชินีเยี่ยนย่อมต้านทานไม่ไหว

ทว่าเสี่ยวไป๋กลับยิ่งอยู่ยิ่งง่วง ไม่นานมันก็ผล็อยหลับในอ้อมอกของเด็กน้อย

จากนั้น… เยี่ยนอวี๋ก็พบว่าจังหวะการหายใจของแมวเหมียวเหมือนกับเด็กน้อยเลย

นอกจากนี้มันนอนไปสักพักยังมุดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเด็กน้อย ราวกับรู้ว่าต้องซ่อนตัวเองไว้

เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ “นี่…”

“ตอนข้าเด็ก มันก็ชอบมุดเข้าไปนอนในกระเป่าเสื้อของข้าเช่นนี้” หรงอี้อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้หวนลำรึกถึง ซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในอดีต เพียงเพราะว่าเมื่อเสี่ยวไป๋เทียบกับจิ่วอิงแล้ว เสี่ยวไป๋เป็นคนที่อยู่กับเขาตลอดในวัยเด็ก

กระทั่ง…

“มารดาข้าบอกว่าตอนที่ท่านยังไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ข้า เสี่ยวไป๋ก็รู้แล้วและยัง ‘อุ่นท้อง’ ให้นางทุกวัน ราวกับพยายามจะฟักข้าออกมา มันโง่มาก”

แม้จะพูดเหมือนรังเกียจ แต่เยี่ยนอวี๋ฟังออกว่าอันที่จริงสามีนางชอบเสี่ยวไป๋มาก สำหรับเขาแล้วเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้เป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดาเลย

เยี่ยนอวี๋กอดสามีนางแน่น รู้แก่ใจว่าในตอนแรกสามีต้องรู้สึกผิด โทษตนเอง และเสียใจอยู่นานเพราะการหายสาบสูญของเสี่ยวไป๋

แต่อันที่จริงเยี่ยนอวี๋คิดมากไปเอง…

หรงต้าซือมิ่งที่ ‘ความจำเลอะเลือน’ อันที่จริงเขาเพิ่งจำได้ว่าเจ้าแมวเหมียวมาผ่านด่านเคราะห์กับเขาก็ครานี้หลังจากที่เขาตื่น

ส่วนจิ่วอิง ก่อนที่จะเจอเสี่ยวไป๋ มันจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่ามันยังมีสหายตัวน้อยจอมโง่ตัวนี้มาด้วย ช่างไร้หัวใจจริงๆ

ทว่าจิ่วอิงที่ ‘ไร้หัวใจ’ จู่ๆ ก็เบิกตาทั้งสิบแปดดวงกว้าง “อุแว้”

เยี่ยนอวี๋พุ่งความสนใจไปที่เขาทันที เพราะว่าเสียงร้องของจิ่วอิงกำลังเตือนให้ระวัง

“ไม่มีอะไรหรอก” ต้าซือมิ่งที่ลูบหลังของภรรยาเบาๆ พลางส่งพลังจิตสัมผัสไปทางใต้ดิน เขาก็ ‘มัด’ หนูดำดินที่ไร้ซึ่งวิญญาณตัวหนึ่งออกมาจากใต้ดิน

“จิ๊ดๆ” หนูดำดินพยายามดิ้นหนี น่าเสียดายที่มันไม่สามารถขยับตัวได้เลย

จิ่วอิงเองก็มุดออกมา “บัดซบ หนูธรรมดาตัวหนึ่งเองรึ”

“ใช่หนูธรรมดา แต่เป็นปีศาจที่มีความสามารถซ่อนตัวเก่งเป็นพิเศษ” หรงอี้รู้จักตัวตนของผู้มาเยือน

พลังโกลาหลในดวงตาของหนูดำดินสลายไปทันที มันขอร้องวิงวอนว่า “ข้าน้อยแค่มาส่งข่าวเท่านั้น ท่านอย่าทำอะไรข้าน้อยเลย”

“ทำตัวลับๆ ล่อๆ” จิ่วอิงประชิดตัวเข้าใกล้หนูดำดินทันที

หนูดำดินตัวนั้นตัวสั่น “ทะ ทะ ทะ ท่านราชา ข้าน้อยแค่ได้รับบัญชาให้มาส่งข่าวจริงๆ นะขอรับ แต่เมื่อครู่นี้ข้าน้อยยังไม่รู้ว่าพวกท่านคือจอมโจรที่สังหารปฐมราชินีคุนหลุนที่เล่าลือกันหรือไม่ ข้าน้อยจึงอำพรางตัวน่ะ”

“ส่งข่าวให้ผู้ใด” จิ่วอิงถามอย่างดุร้าย

เจ้าหนูดำดินพูดติดอ่าง “หะ ให้ จะ จะ จะ จักรพรรดิของพวกเรา พะ พระองค์เชิญทะ ท่านไปหอ ทะ ทะ เทียนเยา”

“จักรพรรดิรึ” จิ่วอิงหมดความอดทน “เจ้าพูดให้มันไหลลื่นหน่อย จักรพรรดิอะไร เชิญปู่จิ่วของเจ้าไปหอเทียนเยาทำไม”

เจ้าหนูดำดินจะร้องไห้ จิ่วอิงดุมากจริงๆ มันตัวสั่นจนไม่สามารถพูดให้คล่องได้แล้ว ได้แต่มองราชาจิ่วอิงอย่างน่าสงสาร

เยี่ยนอวี๋จึงพูดขึ้นว่า “ปู่จิ่วท่านออกห่างจากมันหน่อย”

“อ้อ ภรรยาอี้เอ๋อร์พูดอะไรก็ตามนั้นเลย” ตอนนี้จิ่วอิงรู้สึกดีกับเยี่ยนอวี๋มาก มันวิ่งออกไปไกลทันที ดูเชื่อฟังมาก

เยี่ยนอวี๋เม้มปาก อยากหัวเราะ…

จิ่วอิงที่ทั้งดุร้ายและเป็นลูกสมุนเช่นนี้น่ารักดีจริงๆ

ส่วนเจ้าหนูดำดิน หลังจากที่จิ่วอิงออกไปแล้ว มันก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นตามคาด “คืออย่างนี้ขอรับ ข้าน้อยได้รับข่าวจากราชาหนู ให้พวกเราหาวิธีส่งสารให้จอมโจรที่สังหารปฐมราชินีคุนหลุนไป

ตอนนี้ข้าน้อยเห็นชัดแล้ว ผู้ที่จักรพรรดิเผ่ามารของเราต้องการเชื้อเชิญไม่ใช่ท่านราชาเมื่อครู่นี้ แต่คือท่านราชินีผู้งดงามต่างหาก ท่านเหมือนกับภาพวาดในใบประกาศจับเลย ไม่สิ ท่านงดงามกว่าในภาพมาก”

“จักรพรรดิมาร?” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว อันที่จริงไม่อยากเจอจักรพรรดิมารอะไรนั่น ไม่รู้สึกสนใจเท่าไร

ทว่าต้าซือมิ่งตอบว่า “ได้”

“เช่นนั้นข้าน้อย… กลับไปแจ้งนะขอรับ” เจ้าหนูดำดินถามอย่างระมัดระวัง สัญชาติญาณความเป็นหนูของมันบอกมันว่าชายที่งดงามเช่นกันท่านนี้น่ากลัวว่าท่านราชาเมื่อครู่นี้เสียอีก

“อืม” หรงอี้ที่ตอบเสร็จก็ปล่อยหนูทันที

ทันทีที่เจ้าหนูดำดินร่วงลงพื้น มันก็มุดเข้าไปในดินด้วยสัญชาติญาณ

ทว่าผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็มุดออกมาจากดินอีกครั้ง “แล้วพวกท่านจะไปเมื่อใดหรือขอรับ”

คำถามนี้หรงอี้ไม่ทันตอบ เจ้าเหมียวสีขาวที่เหมือนกับสัมผัสบางอย่างได้จู่ๆ ก็กระโดดออกมา “เหมียว?”

ฟิ้ว เจ้าหนูดำดินหนีไปไกลแล้ว มารดามันเถอะ มีแมวด้วย ที่นี่มีแมวด้วย โอยๆๆ…

เจ้าหนูดำดินกลัวจนวิ่งหายสาบสูญไปแล้ว เร็วจนเยี่ยนอวี๋เลิกคิ้วเล็กน้อย “เจ้าหนูดำดินตัวนี้คล่องแคล่วดีนี่”

“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวถาม มีหนูจริงๆ หรือ มิน่ามันถึงรู้สึกหิว

หรงอี้หรี่ตามองมันและพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องนอนแล้ว จะพาเจ้าไปหาเจ้านายคน ‘ก่อน’ ของเจ้า”

“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวงงงัน “เหมียวๆ?” ใครหรือ เจ้านายของข้า ไม่ใช่เสี่ยวซีเอ๋อร์ท่านย่าของเจ้าหรือ เจ้านายคน ‘ก่อน’ ที่ไหนกัน

ทว่าต้าซือมิ่งไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาอุ้มภรรยาและลูก เรียกจิ่วอิงที่วิ่งไปไกล ให้ฝ่ายหลังพาเม่ยเอ๋อร์ที่ยังไม่ฟื้นตัวไปยังสวรรค์ชั้นเก้าที่อยู่ใกล้ๆ กับอาณาจักรมาร

เพราะว่าหอเทียนเยาที่พูดถึงไม่ได้อยู่ในอาณาจักรมาร แต่อยู่ในเมืองซานเหอ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสวรรค์ชั้นเก้า แต่สวรรค์ชั้นเก้าก็อยู่ใกล้กับอาณาจักรมาร

ในขณะเดียวกัน…

จักรพรรดิมารที่กลายร่างกลับมาเป็นทูตสวรรค์มือขวา เขาก็รออยู่ในหอเทียนเยาแล้ว ราวกับรู้ว่าเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกต้องมาแน่นอน

———————————–

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท