ตอนที่ 750 สมคบคิด
และเมื่อเยี่ยนอวี๋ซึ่งต้าซือมิ่งพาเดินเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัวที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอยู่ก็ต้องขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่านางคิดไม่ถึงว่าเมื่อมาตามคำเชิญของจักรพรรดิมาร แต่กลับได้พบทูตสวรรค์ฝ่ายขวา
ทว่าต้าซือมิ่งที่นำทางเห็นได้ชัดว่าเขาไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เขาอุ้มเด็กน้อยและจูงภรรยานั่งลงตรงข้ามทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว
“เมี๊ยว?” เจ้าเหมียวสีขาวที่งงงันมองทูตสวรรค์ฝ่ายขวา จากนั้นก็หันไปมองต้าซือมิ่ง มันเพิ่งรู้ว่าอดีตเจ้านายของมันที่ฝ่ายหลังพูดถึงคือท่านนี้?
“งงเลยล่ะสิ ปู่ก็งงเหมือนกัน” จิ่วอิงที่งุนงงเช่นกัน หลังจากที่เขาวางเม่ยเอ๋อร์เสร็จแล้วก็นั่งลงมองทูตสวรรค์ฝ่ายขวา “จะว่าไปแล้วเจ้าคือจักรพรรดิมารหรือทูตสวรรค์ฝ่ายขวากันแน่ หรือว่าทั้งสองคือเจ้า
ก็ไม่ถูกนะ ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินว่าจักรพรรดิมารต้องการรวมสวรรค์สิบสองชั้น และให้เหล่าปีศาจปกครองสวรรค์ทุกชั้นมิใช่หรือ? เหตุใดอยู่ฝ่ายเดียวกับตำหนักสวรรค์อีกแล้วเล่า”
จิ่วอิงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกน่าสนใจ “หรือว่าอันที่จริงเจ้าก็คือจักรพรรดิมาร แต่เป็นสายสืบอยู่ข้างกายอวิ๋นเหลียนยายแก่นั่นนะ ฮ่าๆๆ น่าสนใจจริงๆ”
เยี่ยนอวี๋เองก็รู้สึกน่าสนใจ นางมองไปที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวารอเขาปริปาก
แต่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาไม่ยอมปริปากเสียที และก็ไม่ได้มองเยี่ยนอวี๋ด้วย เขาเอาแต่มองต้าซือมิ่ง
สายตาที่เพ่งมองอย่างมุ่งมั่นเกินไปนั้น… ทำให้เยี่ยนอวี๋ไม่ค่อยพอใจ กล่าวว่า “มองอะไร”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาจึงมองกลับมาที่เยี่ยนอวี๋และยังกล่าวทักทายว่า “สิ่งที่ท่านพูดกับเหล่าทวยเทพก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง ข้ารู้”
เยี่ยนอวี๋ย่อมรู้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาคนนี้หมายถึงอะไร แต่ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าข้าไม่ได้โกหกพวกเจ้า ถึงอย่างไรคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ในวันนี้ คุณงามความดีของนางก็ยิ่งใหญ่มิอาจลบล้างได้”
“ค่ายกลเหล่านั้นนางเริ่มสร้างตั้งแต่สิบล้านปีก่อน ข้าลองตั้งใจศึกษาดูแล้ว ฐานค่ายกลนี้ประกอบขึ้นจากต้นกำเนิดของสิบสองชั้นสวรรค์ ดังนั้นเป้าหมายของมันคือการกลืนกินสิ่งมีชีวิตในสิบสองชั้นสวรรค์อย่างชัดเจน ไม่ใช่เจ้า พวกเจ้า” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาตอบอย่างชัดเจน
หลังจากกลายร่างเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายขวาแล้ว เห็นได้ว่ากลิ่นอายของจักรพรรดิมารก็แตกต่างไปมาก ดังนั้นแม้ครานี้จะมีปีศาจอยู่ข้างหน้าก็ไม่สามารถจำทูตสวรรค์ฝ่ายขวาท่านนี้ได้ว่าเขาก็คือจักรพรรดิมารของพวกมันแน่นอน
แน่นอนว่าแม้แต่อวิ๋นเหลียนก็จับไม่ได้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาท่านนี้คือจักรพรรดิมารที่เป็นปรปักษ์กับนางมาโดยตลอด แต่เขากลับเปิดเผยตัวตนทั้งสองของตนเองให้เยี่ยนอวี๋พวกเขารู้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสัญญาณของความเชื่อมั่น ยังเป็นการ ‘ยอมจำนน’ แบบหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าเขาจริงใจ
เยี่ยนอวี๋จึงมองทูตสวรรค์ฝ่ายขวาท่านนี้ด้วยสายตาที่ให้ความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม นางถามขึ้นว่า “เช่นนั้น เจ้านัดข้ามาที่นี่ มีจุดประสงค์อะไร”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่มองต้าซือมิ่งอีกครั้ง เหมือนกับว่าเขาต้องการถามอะไร แต่สุดท้ายกลับพูดว่า “ร่วมมือ”
“ฮ่าๆๆ” จิ่วอิงหัวเราะ “เจ้าเป็นสายลับจริงๆ ด้วย เอาเถอะ เจ้าอยากร่วมมือทำอะไรหรือ ต้องการรับช่วงดูแลคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ต่อใช่หรือไม่”
“พวกเจ้าคิดว่าอวิ๋นเหลียนตายไปแล้วจริงๆ หรือ” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาย้อนถาม
จิ่วอิงชะงักและยังลูบท้องของตนด้วยสัญชาติญาณ “ข้าย่อยไปหมดแล้ว เจ้าจะมาบอกข้าว่านางยังไม่ตายรึ”
“ค่ายกลของนางที่เห็นได้ชัดว่าต้องการกลืนกินสิบสองชั้นสวรรค์ แต่แท้ที่จริงแล้วมีไว้สำหรับเจ้าเท่านั้น” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวามองเยี่ยนอวี๋อย่างสงบ ดวงตามีสีม่วงประกายแสงดาวลึกล้ำ
ดวงตาคู่นี้มักจะทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาคนนี้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับสามีของนาง จนถึงตอนนี้ บัดนี้ นางยังคงรู้สึกเช่นนี้
ทว่า… เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว คำพูดของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเพียงพอที่จะทำให้เยี่ยนอวี๋ระมัดระวังตัว “ขอคำชี้แนะ”
“นางรู้ว่าเจ้าคือเยี่ยนอวี๋ปฐมราชินียุคสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แต่นางไม่สามารถใช้วิธีปกติสังหารเจ้า ทำได้เพียงล่อให้เจ้ามายังคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ และสร้างกฎที่มีไว้สำหรับสังหารเจ้าโดยเฉพาะ จึงจะสังหารเจ้าให้สิ้นได้” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาแฉอีกครั้ง
จิ่วอิงกระโดดขึ้นมา “เฮ้ย นางรู้ได้อย่างไร นางทะลุมิติกลับมาด้วยรึ?”
เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ คิดถึงคำพูดของไท่เฮ่ารู้แก่ใจว่า สิ่งที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพูดเป็นความจริง เพราะว่าอวิ๋นเหลียนกลับมาได้จริงๆ ซึ่งนี่ก็จะอธิบายได้ว่าเหตุใดอวิ๋นเหลียนจึงกลืนกินสรรพชีวิตทุกชั้นสวรรค์ล่วงหน้า
เกรงว่าตั้งแต่ที่นางสถิตมาคุนหลุนซวี อวิ๋นเหลียนก็สัมผัสถึงการมาของนางได้แล้ว ในขณะที่นางหาทางกลับบ้านก็ตกหลุมพลางของอวิ๋นเหลียน
แต่ว่าเยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจเรื่องหนึ่ง “อวิ๋นเหลียนที่ปู่จิ่วกินคือร่างของอวิ๋นเหลียนจริงๆ นี่”
“ใช่แล้ว นางรู้ว่าหากเป็นร่างแยกหรือการอำพรางอื่นๆ รอดพ้นจากสายตาเจ้าไม่ได้ ยิ่งรอดพ้นจากสามีท่านนี้ของเจ้าไม่ได้ ดังนั้นนั่นคือนางจริงๆ แต่นางเตรียมร่างแยกนับไม่ถ้วนไว้ตั้งแต่เมื่อสิบล้านปีก่อน ร่างแยกทุกร่างของนางล้วนมีความทรงจำที่สมบูรณ์ของนาง”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางที่ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก แต่กลับรู้สึกยุ่งยากขมวดคิ้วในใจอีกครั้ง
ถึงอย่างไรการกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นเหลียนหมายความว่าหากไม่สังหารนางให้สิ้นซาก นางย่อมยังคงสร้างปัญหาที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ เช่นนี้ก็คงไม่จบไม่สิ้น
เยี่ยนอวี๋เกลียดเรื่องยุ่งยากที่ไม่จบไม่สิ้นเช่นนี้ที่สุด
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพูดต่อไปว่า “นี่คือเหตุผลที่ข้าตามเจ้ามาร่วมมือด้วย ตราบใดที่ร่างแยกของอวิ๋นเหลียนยังอยู่ ไม่ช้าก็เร็วนางก็จะฟื้นตัวได้อีก”
“นี่ก็คือสาเหตุที่เจ้าปลอมตัวอยู่ข้างกายนางหรือ” เยี่ยนอวี๋ย้อนถาม
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาส่ายศีรษะอีกครั้ง “แต่เดิมข้าคือทูตสวรรค์ฝ่ายขวา ก่อนจะเป็นจักรพรรดิมาร”
“กบฏในรัง?” จิ่วอิงมองทูตสวรรค์อย่างดูถูก
ทว่า… ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาก็เป็นคนประหลาดจริงๆ “เป็นแค่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวามันน่าเบื่อ”
จิ่วอิงกลอกตาเป็นการให้ความเคารพ
เยี่ยนอวี๋เลิกคิ้ว “แต่ตอนนี้ หลังจากที่เจ้าแน่ใจว่าอวิ๋นเหลียนจะกลืนกินสวรรค์สิบสองชั้นแล้วยังตัดสินใจร่วมมือกับพวกข้า? แบบนี้ก็ไม่ถูก เจ้ารู้แล้วว่าการกลืนกินสวรรค์สิบสองชั้นของนางเป็นเพียงการปิดบัง สังหารข้าถึงจะเป็นจุดประสงค์ของนาง”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวายกมุมปากเล็กน้อย “แต่นางมีความสามารถกลืนกินสรรพชีวิตในสิบสองชั้นสวรรค์จริงๆ อีกทั้งเคย ‘ลงมือทำ’ ส่วนข้าไม่อยากมอบสิทธิ์ความเป็นความตายไว้ที่ผู้อื่น”
“เข้าใจแล้ว” จิ่วอิงตบขา “ดังนั้นเจ้าเองก็คิดจะกำจัดปฐมราชินีเสียสติของพวกเจ้าเช่นกัน เผื่อว่าวันใดนางคิดสั้น กลืนกินคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ รวมถึงเจ้าไป”
“ใช่แล้ว” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาพยักหน้า
จิ่วอิงกำลังจะยกนิ้วโป้งให้ เพราะว่าอวิ๋นเหลียนยายแก่นั่นก็ทำเช่นนี้จริงๆ
ทว่า…
จู่ๆ ต้าซือมิ่งก็พูดขึ้นว่า “นางทำให้สรรพชีวิตรู้ว่าภรรยาข้าสังหารนาง เท่ากับว่าทำให้สรรพชีวิตเชื่อว่านางตายไปแล้ว ซึ่งนี่หมายความว่าอะไร เจ้าจะไม่รู้หรือ”
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาหนังตากระตุก เขามองไปที่ต้าซือมิ่งทันที “เจ้านี่หัวไวจริงๆ”
“อะไรนะ” จู่ๆ จิ่วอิงก็รู้สึกว่าตนเองบกพร่องทางสติปัญหา
——————————————–