ตอนที่ 751 เย้ายวนภรรยา
เยี่ยนอวี๋กลับเข้าใจ เพราะว่านางเดาได้ตั้งแต่แรกว่า… ตนเองคงจะตกหลุมพราง แต่นางยังคงทำในสิ่งที่ควรทำ เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ไม่คิดว่าอวิ๋นเหลียนจะสามารถขังนางไว้ในยุคคุนหลุนได้ เช่นนั้นแล้วตราบใดที่นางกลับไปได้ แผนการที่อวิ๋นเหลียนวางไว้ในยุคคุนหลุนย่อมไร้ประโยชน์
นี่คือความมั่นใจที่เยี่ยนอวี๋มีต่อตนเอง ดังนั้นนางจึงไม่กลัวและสุดท้ายแล้วก็ทำทุกอย่างที่นางต้องการ
ทว่าเยี่ยนอวี๋ในครานี้กำลังคิดว่านางเองก็สามารถกำจัดอวิ๋นเหลียนในยุคคุนหลุนให้สิ้นซากได้ เพราะว่า ‘กระบี่’ มาถึงมือแล้ว
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงถามทูตสวรรค์ฝ่ายขวาคนนั้นว่า “เมื่อเราฆ่านางแล้ว เจ้าอยากจะแทนที่นางหรือ”
“ไม่หรอก” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเคาะโต๊ะเบาๆ “ท่านไม่ถามข้าหรือว่านางจะสร้างกฎในการสังหารท่านที่ไหน”
“โปรดชี้แนะ” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างคล้อยตาม
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวายกมุมปากขึ้นอีกครั้ง “ท่านมั่นใจในความสามารถของตนเองจริงๆ”
เยี่ยนอวี๋ไม่ได้พูดอะไร แต่นางก็มั่นใจในตัวเองจริงๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน นางก็สามารถใช้ประโยชน์จาก ‘ความได้เปรียบ’ ที่อวิ๋นเหลียนนำมาสร้างกฎการสังหารอวิ๋นเหลียนสิ้นซากได้
ถึงอย่างไรในใจของสรรพชีวิตทั่วทั้งสวรรค์คุนหลุนสิบสองชั้นฟ้า ปฐมราชินีคุนหลุนก็ตายแล้ว
หากเยี่ยนอวี๋ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้สังหารอวิ๋นเหลียนกลับในต่างยุค อันที่จริงนั้นไม่ยากเลย
แน่นอนว่า อวิ๋นเหลียนจะสังหารนางก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน แต่ว่า… จากจุดเริ่มต้นที่เดียวกัน เยี่ยนอวี๋เชื่อว่านางสามารถเอาชนะอวิ๋นเหลียนได้ มิหนำซ้ำข้างกายนางยังมีสามี นางจะแพ้ให้อวิ๋นเหลียนได้อย่างไร
แน่นอนว่าหากทูตสวรรค์ฝ่ายขวายังมีวิธีการที่สะดวกสบายกว่าของนาง นางก็ไม่ถือสาที่จะรับฟัง ถึงอย่างไรเสร็จงานเร็วจะได้จบงานเร็ว นางยังต้องกลับไปจักรวาลดั้งเดิมเพื่อมีบุตรให้สามีนางอีก
ความคิดเหล่านี้แวบผ่านเยี่ยนอวี๋อย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าของนางเพียงแค่มองทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอย่างสงบ
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาลุกขึ้น “นางจะไปที่ยอดเขาถงซานที่อยู่สวรรค์ชั้นสองเพื่อสร้างกฎสังหารท่าน”
“ขอบคุณ” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าบอกว่ารู้แล้ว
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวามองไปที่ต้าซือมิ่งอีกครั้ง อันที่จริงเขาอยากจะถามคนๆ นี้ว่าตนเองมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถาม “ลาก่อน”
เมื่อพูดจบ ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาก็หายตัวไปจากที่เดิม
“เมี๊ยว” เจ้าเหมียวสีขาวร้องและมองต้าซือมิ่งอีกครั้ง ราวกับกำลังสับสน
จิ่วอิงถามว่า “ดังนั้น อวิ๋นเหลียน ‘ทำ’ ตัวเองตายเพียงเพราะต้องการฆ่าเจ้า ภรรยาอี้เอ๋อร์หรือ แต่ตอนนี้เพราะว่าทุกคนคิดว่านางตายแล้ว เจ้าภรรยาอี้เอ๋อร์ก็สามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อฆ่านางกลับได้เช่นกันหรือ”
“ใช่แล้ว” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า
จิ่วอิงจับศีรษะของตน รู้สึกว่าตอนนี้ตนมีแค่ศีรษะเดียว สามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ดังนั้น… ดังนั้น “ทูตสวรรค์ฝ่ายขวานี่เชื่อได้หรือไม่”
“ยังไม่แน่นอน” หรงอี้เป็นคนตอบ
ทำเอาเยี่ยนอวี๋เหลือบมองเขา “ข้าคิดว่าเจ้าจะมั่นใจว่าเขาเชื่อได้เสียอีก”
หรงอี้ที่หยิกมืออ่อนนุ่มของภรรยากล่าวว่า “ยังไม่แน่ใจ”
“แล้วเขา…” เยี่ยนอวี๋กำลังจะถาม
นิ้วชี้เรียวยาวของต้าซือมิ่งก็แตะลงบนปากงามและนุ่มของนาง ส่งเสียงไพเราะและสง่าราวกับเสียงพิณทว่าทะเล้นออกมา “ชู่ว์”
เยี่ยนอวี๋ชะงัก จากนั้นเมื่อสัมผัสถึงความเย็นจากริมฝีปาก นางก็หันไปข้างๆ อ้าปากกัดอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับเจ้าปลาตัวน้อยที่ติดเบ็ด
ต้าซือมิ่งที่ถูกกัดร้องซื้ดเบาๆ ร่างของเขาแข็งเกร็ง
จิ่วอิงเห็นดังนั้นก็คิดว่าตนเองไม่ควรดู ทว่า…
“ขอทางหน่อย ขอทางหน่อย”
“จักรพรรดิเผ่ามารเสด็จ ลุกออกไปซะ”
“ออกไป ออกไป…”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากภายในหอเทียนเยา แขกไม่น้อยที่เดิมทีกำลังดื่มชา ดื่มสุรา และพูดคุยอย่างสนุกสนานในหอตกใจกลัวพากันหนีกระเจิง
เยี่ยนอวี๋ตกใจกับความเคลื่อนไหวนี้ จากนั้นนางก็ถูกสามีของนางกอดและกัดหูเบาๆ “กัดแล้วสนุกหรือ หืม?”
เยี่ยนอวี๋ที่หดคอเล็กน้อยกอดคอของสามีนางทันที และยังหันไปจูบปากของเขาคนนี้ ส่วนมือข้างหนึ่งยังเชิดคางของสามีขึ้นเบาๆ พูดอย่างมั่นใจว่า “สามี เจ้ากำลังเย้ายวนข้า”
ต้าซือมิ่งที่ถูกเปิดโปงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเจ้าปลาตัวน้อยตัวนี้ของเขาไวต่อความรู้กว่าเมื่อก่อนมาก แม้แต่เขากำลังเย้ายวนนาง นางก็จับได้ด้วย
ทว่า…
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่ ‘เปลี่ยนเสื้อ’ กลับมาเป็นจักรพรรดิมารเสร็จแล้วก็กำลังเคาะประตู
จิ่วอิงไม่กล้าขยับ และไม่รู้ว่าเหมาะสมที่จะเปิดประตูหรือไม่
ต้าซือมิ่งกลับเอ่ยว่า “เข้ามา”
จักรพรรดิมารที่ผลักประตูเข้ามาทำให้จิ่วอิงส่งเสียง จึ๊ๆ
เมื่อประตูปิดลง จิ่วอิงก็ถามว่า “สหายน้อย เจ้าทำอะไรน่ะ เล่นละครต้องเล่นให้ครบหรือ”
“ใช่แล้ว” จักรพรรดิมารที่นั่งลงไม่ได้ใส่หน้ากาก ดวงตาของเขาก็ไม่ใช่สีม่วง แต่กลายเป็นสีเขียวแล้ว
สีเขียวชอุ่มนั่น เยี่ยนอวี๋เห็นแล้วก็รู้สึกคุ้นตามาก
หากไม่ใช่เพราะหน้าตาของจักรพรรดิสวรรค์ไม่เหมือนกับต้าซือมิ่งเลย เยี่ยนอวี๋คงคิดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่มีงานอดิเรกเป็นจักรพรรดิมารคนนี้คงเป็นร่างพลังของสามีนางแน่นอน
ทว่าตอนนี้ดูแล้วกลับไม่ใช่เช่นนั้นจริงๆ
แต่เยี่ยนอวี๋ยังคงถามว่า “เจ้าแปลงโฉมด้วยหรือ”
“เปลี่ยนกระดูกน่ะ” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาตอบอย่างตรงไปตรงมา นี่ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของเขา เพราะว่าหลังจากสวมหน้ากากแล้ว ผู้ที่ละเอียดย่อมพบพิรุธได้จากรูปปากและแนวสันกราม
ดังนั้นการ ‘แปลงโฉม’ ของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเห็นได้ชัดว่าแนบเนียนมาก หลายปีมานี้อวิ๋นเหลียนจึงยังคงจับไม่ได้ เพราะการแปลงโฉมอันไร้ที่ตินี่เอง
เพียงแต่ว่าเขาเพิ่งจะเปลี่ยนโฉมเป็นจักรพรรดิมาร เขาก็สัมผัสได้ว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายของตำหนักสวรรค์ที่อยู่ในเมืองซานเหอมีความเคลื่อนไหวแล้ว ทำให้เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
จากนั้น… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองและอวิ๋นเหลียนที่ปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ปรากฏขึ้นข้างหน้าค่ายกลเคลื่อนย้าย
เรื่องนี้เกินความคาดหมายของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาจริงๆ เดิมทีเขาคิดว่าอวิ๋นเหลียนต้องไปที่ยอดเขาถงซานแล้ว สุดท้ายนางยังมีเวลาว่างมาเมืองซานเหอเป็นเพื่อนลูกรักของนางเพื่อดักรอเขาจักรพรรดิมารท่านนี้?
นี่มัน… น่าสนใจจริงๆ
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่หน้าตายิ้มแย้ม เขาก็มองสองสามีภรรยาเยี่ยนอวี๋ตรงหน้า “ทั้งสองออกไปก่อน?”
“ถูกเห็นไม่ได้หรือ” เยี่ยนอวี๋ย้อนถาม
“ข้าไม่สนใจหรอก” ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิมาร เขาไม่สนใจจริงๆ เขายังอยากรู้ด้วยว่าสามีภรรยาตรงหน้าคู่นี้จะมองออกหรือไม่ว่า… ทูตสวรรค์มือซ้ายตัวปลอมคือร่างแยกร่างหนึ่งของอวิ๋นเหลียน ซึ่งเป็นร่างแยกที่แข็งแกร่งที่สุด