เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 752 ดวล

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 752 ดวล

โอ้ ไม่สิ

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกอสูรของพวกเขากินไปแล้ว เช่นนั้นสามีภรรยาคู่นี้ต้องรู้แน่นอนว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็คือปฐมราชินีคุนหลุน

อย่างนี้ก็น่าสนุกยิ่งกว่าเดิม…

ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่แปลงโฉมเป็นจักรพรรดิมารคิดถึงตรงนี้ก็เอนตัวพิงเก้าอี้ขนาดใหญ่ เขายังวางเท้าบนโต๊ะอย่างป่าเถื่อน แสดงท่าทางเหมือนกำลังรอดูละคร

ทว่าจิ่วอิงไม่ปล่อยตามใจเขา มันตีขาของเขาอย่างแรง “นั่งดีๆ ปู่จิ่วเจ้ายังไม่อวดดีเช่นนี้เลย เจ้าน่ะเสเพลจริงๆ”

ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่ถูกตีตกใจเล็กน้อย เผยให้เห็นเจตนาสังหารอย่างชัดเจน ทำเอาเจ้าเหมียวสีขาวรีบร้อง ‘เหมียว’ ขึ้นมา และหนีไปหลบในอ้อมอกของเจ้าตัวนุ่มนิ่มแล้ว

ทว่าเจตนาสังหารนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก็หายไป จิ่วอิงยังไม่ทันแน่ใจด้วยซ้ำว่าคือเจตนาสังหารหรือไม่ ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาก็ยกขาของมาก่ายไว้บนเก้าอี้กว้างใหญ่ของเขาแทนแล้ว

จิ่วอิงไม่ได้สนใจ เขารินชาให้ตนเองต่อไปและยังรินชาให้เยี่ยนอวี๋แก้วหนึ่งด้วย “ภรรยาอี้เอ๋อร์ ดื่มชาสิ”

ส่วนต้าซือมิ่งและจักรพรรดิมารหรือทูตสวรรค์ฝ่ายขวากลับต้องลงมือเองจึงจะ ‘อยู่ดีกินดี’ ได้

ทูตสวรรค์ฝ่ายขวายิ้มพูดว่า “ลูกน้องของคุณชายอี้ท่านนี้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ”

“พูดจาเหลวไหล ข้าคือปู่จิ่วของอี้เอ๋อร์ ลูกน้องอะไรกัน” จิ่วอิงยึดมั่นในความเป็นผู้อาวุโส แม้อันที่จริงมันจะหวาดกลัวต้าซือมิ่งก็ตาม แต่ว่าจิ่วอิงไม่ยอมแน่นอน และยังถลึงตามองทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอย่างอารมณ์ร้าย “เจ้าเองก็อยู่เฉยๆ มิเช่นนั้นแม้ปู่จะไม่ค่อยชอบกินมารและอสูร แต่ก็กัดเจ้าตายได้”

“รับทราบ” ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่จิบชาคำหนึ่งเสร็จแล้วยังเริ่มทานอาหารว่าง ท่าทางกำลังรออวิ๋นเหลียนมาอย่างสบายอกสบายใจ

อวิ๋นเหลียนเองก็ไม่ทำให้ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาผิดหวัง ทันทีที่นางออกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายก็เดินไปที่หอเทียนเยาทันที

“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านว่าจักรพรรดิมารคนนี้จะยอมร่วมมือกับเราหรือไม่” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองรู้สึกกังวล กลัวว่าจักรพรรดิมารคนนี้จะไม่รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ และยังคงดื้อรั้น

อวิ๋นเหลียนยิ้มเย็นชา “เขาจะให้ความร่วมมือ”

“จริงหรือ” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองยังคงไม่มั่นใจนัก

อวิ๋นเหลียนมีความอดทนกับบุตรอันเป็นที่รักคนนี้ไม่น้อย “คนกลุ่มนั้นสังหารปฐมราชินีได้เท่ากับว่าพวกเขาก็สามารถสังหารเขาได้ แม้เขาจะทำเพื่อตนเอง ก็คงไม่ปล่อยให้จอมโจรกลุ่มนั้นหลุดลอยไป ไม่แน่ว่าเขาในตอนนี้อาจจะเริ่มลงมือทำบางอย่างแล้ว”

ตามความเข้าใจที่อวิ๋นเหลียนมีต่อจักรพรรดิมาร นางเชื่อว่าจักรพรรดิมารองค์นี้ไม่ยอมฝากชีวิตของตนไว้ให้ผู้อื่นตัดสินใจ เขาต้องลงมือทำอะไรบางอย่างแล้วแน่ๆ

ดังนั้น หลังจากที่นางรู้ว่าจักรพรรดิมามาหอเทียนเยา การมาครั้งนี้ นางก็ต้องการความช่วยเหลือจากจักรพรรดิมาร เพื่อป้องกันสิ่งไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น

น่าเสียดาย… อวิ๋นเหลียนวางแผนมาดีอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จักรพรรดิอยู่กับเยี่ยนอวี๋

อีกทั้งห้องส่วนตัวนั่นถูกต้าซือมิ่งสร้างม่านป้องกันไว้ นางจึงไม่รู้ว่าในห้องมีใครรอนางอยู่จนเมื่อนางเดินไปถึงข้างหน้าหอเทียนเยา

ทว่านางก็รู้สึกถึงความผิดปกติ “จักรพรรดิมารนี่ช่ำชองในเรื่องการสร้างค่ายกลมากขึ้น” นางถึงกับไม่สามารถสัมผัสถึงห้องส่วนตัวที่จักรพรรดิมารอยู่เป็นอย่างไร

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่มีตบะไม่ถึงได้ยินดั้งนั้นก็ได้แต่ถามว่า “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายพบอะไรหรือ”

“ห้องส่วนตัวนั่นปิดกั้นจิตเหนือสำนึกของข้าได้” อวิ๋นเหลียนเงยหน้ามองห้องส่วนตัวที่หันมาทางถนน นางไม่ได้เข้าไปในหอเทียนเยาทันที

คุณชายอวิ๋นที่สิบสิงถามอย่างระวังตัวว่า “หรือว่าจะเป็นหลุมพราง?”

“ไม่เป็นไร ลองเข้าไปดูก่อน” ขณะที่อวิ๋นเหลียนตอบ นางก็ส่งข่าวไปให้ซานเหอมู่หัวหน้าสำนักซานเหอในฐานะและกลิ่นอายของนาง ให้เขารีบพาคนมาหอเทียนเยา

เมื่อซานเหอมู่ทางฝั่งนั้นได้รับข่าวก็ไม่ได้ชักช้าและยังเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนส่งข่าวการปรากฏตัวของจักรพรรดิมารที่หอเทียนเยาให้ตำหนักสวรรค์

หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าซานเหอมู่จะนำคนมา อวิ๋นเหลียนก็พาคุณชายอวิ๋นที่สิบสองเข้าไปในหอเทียนเยา

“มาแล้ว” จิ่วอิงตาเป็นประกาย “ภรรยาอี้เอ๋อร์ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคนนี้น่าสนใจจริงๆ อันที่จริงก็คือร่างแยกอีกร่างหนึ่งของอวิ๋นเหลียนสินะ”

จิ่วอิงที่กินทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปไม่ต้องให้ใครสะกิดบอก เขาก็รู้ได้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่เดินเข้ามาคนนี้เก้าส่วนคือร่างแยกของอวิ๋นเหลียนแน่ๆ

จิ๊ จิ่วอิงที่จุปากด้วยสัญชาติญาณ กำลังคิดว่าไม่รู้ว่าร่างแยกคนนี้เทียบกับร่างจริงแล้วจะมีรสชาติอย่างไร จะเหมือนกันหรือไม่นะ?

สภาพน้ำลายไหลเช่นนั้นทำเอาทูตสวรรค์ฝ่ายขวารู้สึกสนุกขึ้นมา “ทางที่ดีท่านอย่ากินนางเลย มิเช่นนั้นนางกลับไปใช้ร่างแยกอื่นอีกข้าอาจจะไม่รู้”

จิ่วอิงไม่สนใจ เขามองเยี่ยนอวี๋ตาปริบๆ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็คิดว่าฟังเยี่ยนอวี๋อย่างไรก็ต้องได้กินเนื้อ

เยี่ยนอวี๋ถูกมองจนอยากหัวเราะ นางยื่นมือไปลูบศีรษะของจิ่วอิงแล้ว “ปู่จิ่วเด็กดี ตอนนี้ไม่กินก่อนนะ”

จิ่วอิงที่ถูกลูบหัวตะลึงงัน รู้สึกเหมือนถูกลูบเป็นหมาน้อย

ทว่า…

ก๊อกๆ

ประตูห้องส่วนตัวถูกเคาะดังแล้ว จักรพรรดิมารสะบัดแขนเสื้อเปิดประตู

อวิ๋นเหลียนและคุณชายอวิ๋นที่สิบสองเห็นทันทีว่าในห้องไม่ได้มีเพียงจักรพรรดิมาร ยังมีเยี่ยนอวี๋พวกเขาด้วย

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองชักดาบออกมาทันที “ให้ตายเถอะ!”

กรร

บรู๊ว…

เหล่าปีศาจที่เฝ้าประตูห้องระเบิดร่างจริงของตนออกมา หอเทียนเยาสะเทือนไหวทันที หน้าต่างบานใหญ่กระแทกผนังดังปึงปัง

หากไม่ใช่เพราะ ‘คุณภาพ’ ของหอเทียนเยามั่นคงดี เกรงว่าคงพังทลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว

ส่วนแขกที่ถูกต้อนออกไปข้างนอกหอเทียนเยาแต่ยังไม่แยกย้ายกันไปนั้นย่อมตกใจกันจนเหงื่อตก และรู้สึกโชคดี

มารดามันเถอะ

หากเมื่อครู่นี้พวกเขาไม่ได้วิ่งออกมา ครานี้คงจะบาดเจ็บเพราะกลิ่นอายความดุร้ายน่าสะพรึงที่ระเบิดออกมาจากมารเหล่านี้แน่ๆ ดังนั้นแล้ว อย่างไรก็ต้องยอมให้เหล่ามารออกโรง

หากพวกสารเลวกลุ่มนี้จะก่อปัญหา พวกมันไม่เลือกเวลาและสถานที่ อยากทำเมื่อไหร่ก็ทำ

แต่ว่า…

“ผู้ที่เข้าไปเมื่อครู่นี้ไม่ใช่คุณชายอวิ๋นที่สิบสองหรือ บทจะสู้ก็สู้กันได้เลยรึ?”

“ปฐมราชินีร่วงหล่นไปแล้ว จักรพรรดิมารย่อมโอหังกว่าเดิม เฮ้อ…”

“ต่อไปคุนหลุนสวรรค์สิบสองชั้นคงไม่ตกอยู่ในมือของเหล่าปีศาจหรอกนะ”

“…”

นักฝึกฌานที่มุงดูที่รู้สึกหวาดกลัวคิดว่านี่คงไม่ใช่สัญญาณที่ดี แต่ขณะที่พวกเขากังวล วิตก และไม่มั่นใจนั้น…

ชิ้ว

ชิ้วๆ…

ซานเหอมู่หัวหน้าสำนักซานเหอนำทัพที่แข็งแกร่งที่สุดมาแล้ว

เทียนอ๋องซานเหอชวน หนึ่งในบุคคลที่พึ่งพาได้ของสำนักซานเหอก็มาแล้ว

ด้วยกองทัพที่ยิ่งใหญ่นี้ทำเอาเหล่าปีศาจทั้งในและนอกหอเทียนเยาถูกกระตุ้น

กรร

บูร๊ว

โฮกกก…

เสียงคำรามอสูรดังไม่หยุด เมืองซานเหอทั้งเมืองตื่นตระหนก

ปีศาจตัวใหญ่มากมายระเบิดร่างสภาพต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ท่าทางราวกับว่าหากซานเหอมู่พวกเขากล้าเข้ามา พวกมันจะกระโจนออกไปทันที ดูดุร้ายมาก

อวิ๋นเหลียนที่รับรู้ยิ้มเย้ยเหยัน “จักรพรรดิมาร เจ้าสมคบคิดกับจอมโจรกลุ่มนี้หรือ?”

แม้จะพูดในฐานะของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย แต่คำพูดที่อวิ๋นเหลียนพูดออกมานี้ก็มีบารมีมาก

อย่างน้อยเหล่าปีศาจที่ยืนข้างหน้าประตูห้องก็รู้สึกถูกคุกคาม

แต่ว่า… จักรพรรดิมารหัวเราะ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ใช่แล้วอย่างไร”

“เจ้าบัดซบ” อวิ๋นเหลียนก้าวเข้าไปในห้อง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาฆ่าปฐมราชินีได้ก็ต้องฆ่าเจ้าได้ และเผ่าของเจ้าทั้งหมดได้ หรือว่าเจ้าใสซื่อจนเชื่อว่าพวกเขาจะปล่อยเจ้าไป”

อวิ๋นเหลียนไม่เชื่อว่าจักรพรรดิมารจะเลือกร่วมมือกับเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกของนางที่ไม่รู้อะไรเลย และไม่เลือกตำหนักสวรรค์ที่รู้ทุกอย่าง

น่าเสียดาย… นางเพิ่งพูดจบ เยี่ยนอวี๋ก็ลงมือแล้ว

จากนั้น… อวิ๋นเหลียนไม่ทันหลบ นางก็ถูกเยี่ยนอวี๋บีบคอไว้แล้ว

แม้กระทั่ง… จิตวิญญาณของนาง

————————————-

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท