ตอนที่ 753 เล่นละครหลอก
อวิ๋นเหลียนหายใจไม่ออกจนเกือบจะเผยพลังร่างจริงออกมา
ปฐมราชินีเยี่ยนกลับตบหน้ากากนางเบาๆ “แต่หากเขาไม่ร่วมมือกับข้า วันนี้ข้าก็จะไม่ปล่อยเขาและเผ่ามารของเขาไป ดังนั้นเจ้าว่าเขาควรเลือกอย่างไร”
“ใช่แล้ว ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคิดว่าข้าควรเลือกอย่างไร” จักรพรรดิมารเล่นด้วย
อวิ๋นเหลียนขมวดคิ้ว ย่อมไม่เชื่อว่าจักรพรรดิมารจะไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไร แต่นางพูดไม่ออก เพราะถูกบีบคอไว้
เยี่ยนอวี๋กลับเขี่ยหน้ากากของนางเบาๆ “อีกอย่าง ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกกลืนกินไปแล้ว แล้วเจ้า… คือใครกัน”
“น่าขัน ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีตบะแข็งแกร่ง จะมีร่างแยกไม่ได้หรือไง” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองพูดขึ้นอย่างห้าวหาญ ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเพราะทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกคุมตัว
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนอวี๋ก็ดึงหน้ากากของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายออก สิ่งที่เห็นคือใบหน้าใบหนึ่งที่ไม่รู้จัก
เยี่ยนอวี๋ยิ้มพูดว่า “ข้าคิดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้คือผู้ที่ปฐมราชินีคุนหลุนปลอมแปลงมาเสียอีก ตอนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่สินะ”
“เจ้า…” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองสูดหายใจเข้าลึก รู้ดีว่าคนของตนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาพร้อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนกลุ่มนี้แน่นอน ดังนั้นแม้ในใจจะเคียดแค้นเพียงใด เขาก็ต้องอดกลั้นไว้
สีหน้าของอวิ่นเหลียนกลับขาวซีดจนดูไม่ได้ เหมือนกับว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
จักรพรรดิมารจึงปริปากพูดอย่าง ‘ทันท่วงที’ ว่า “แม่นางไว้ชีวิตด้วยเถิด หากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตายที่นี่ พวกเขาไม่กล้าหาเรื่องท่าน แต่จะมาหาเรื่องข้าแทน ได้โปรดท่านไว้หน้าด้วย แม้อยากจะฆ่านางก็รอตอนที่ข้าไม่อยู่เถิด”
“จักรพรรดิมาร ท่าน…” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองโมโหควันออกหู รู้สึกเพียงว่าจักรพรรดิมารช่างไม่รู้จักแยกแยะว่าตนอยู่ฝ่ายใดเลย
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับได้โอกาสปล่อยมือ “ก็ได้”
“แค่ก แค่ก…”
อวิ๋นเหลียนที่ได้หายใจอีกครั้ง สีหน้ายังคงย่ำแย่มาก รู้สึกอับอายอย่างยิ่ง
หากไม่ใช่เพราะนางไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้ เพื่อปกปิดเยี่ยนอวี๋ที่สงสัยว่านางยังมีชีวิตอยู่จริงๆ นางคงโจมตีจอมโจรแหลกสลายไปแล้ว
นังโจรสมควรตายนั่น หากไม่ใช่เพราะอาศัยเจ้าคนแซ่หรงนั่นปกป้อง นางคงตายสลายหายไปกับกลีบเมฆแล้ว จะย้อนมาอวดดีในยุคคุนหลุนของนางได้อย่างไร
นังสารเลว
อวิ๋นเหลียนที่ยิ่งคิดยิ่งโมโหได้แต่อดกลั้นไว้ เพราะว่านางรู้ดีว่า หากนางลงมือตอนนี้ นอกจากจะฆ่าเยี่ยนอวี๋ไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้หรงอี้รู้ตัวด้วย ถึงครานั้นแผนการทั้งหมดของนางคงสูญเปล่า
แต่นางกลับไม่รู้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่นางไว้ใจที่สุดขายนางไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการอดกลั้นของนางในยามนี้ สำหรับเยี่ยนอวี๋แล้วคือเรื่องตลก แต่เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้เปิดโปงนาง ถึงอย่างไรจักรพรรดิมารก็พูดถูก หากทำให้อวิ๋นเหลียนที่ปลอมแปลงเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายร่างนี้ตาย ร่างแยกร่างต่อไปของนางจะเป็นใคร ต้องใช้ความพยายามและเวลาหาอีก
เช่นนี้ สู้ไว้ชีวิตนางก่อน จะได้รู้ด้วยว่าแผนการต่อไปของนางคือการไปยอดเขาถงซานจริงๆ หรือไม่
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เยี่ยนอวี๋ไม่ให้จิ่วอิงกิน แน่นอนว่า… การลงมือครั้งนี้ของเยี่ยนอวี๋ ใช่ว่าจะไม่มีจุดประสงค์
หากไม่ใช่เพราะได้ตรวจสอบด้วยตนเองแล้ว เยี่ยนอวี๋คงไม่สามารถมั่นใจเต็มร้อยว่าทูตสวรรค์คนนี้ปลอมแปลงมาจากอวิ๋นเหลียน เพราะถึงอย่างไรการปลอมแปลงของฝ่ายหลังก็แนบเนียนมากจริงๆ
อวิ๋นเหลียนในตอนนี้มีร่างวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จริงๆ เห็นได้ว่านางคงมีร่างแยกไม่น้อย แสดงว่าการเปิดโปงของทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอย่างน้อยก็เชื่อได้เจ็ดถึงแปดส่วน
ถึงแม้ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาหยิบยื่นความจริงใจออกมา เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ใช่คนหูเบา นางเชื่อในผลจากการตรวจสอบของตนมากกว่า
บังเอิญกับที่อวิ๋นเหลียนมาส่งตัวเองถึงที่ เยี่ยนอวี๋ย่อมไม่ปล่อยโอกาสอันดีนี้ไป
อวิ๋นเหลียนก็ทนเก่งจริงๆ และยังดูห้าวหาญแบบโง่เขลาด้วย ดังนั้นหลังจากที่นางดีขึ้นแล้วยังกล้านั่งลงและมองเยี่ยนอวี๋ถามว่า “พวกเจ้าต้องการอะไรกันแน่”
“อย่างที่เจ้าเห็น ฆ่าปฐมราชินีของพวกเจ้า” เยี่ยนอวี๋หยอกอวิ๋นเหลียนเล่นอย่างรู้สึกสนุกสนานขึ้นมา
อวิ๋นเหลียนไม่รู้ว่าตนเองกำลังถูกหยอก ยังคงคิดว่าตนเองทำได้ดีมาก “แต่ในเมื่อพวกเจ้าทำสำเร็จแล้ว เหตุใดยังไม่ไป เจ้ายังอยากจะร่วมมืออะไรกับจักรพรรดิมารรึ”
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคงอยากตายมากจริงๆ” เยี่ยนอวี๋หันไปมองจักรพรรดิมาร “หรือไม่เจ้าออกไปสักครู่ ข้าฆ่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายนี่ก่อน เราค่อยคุยกันต่อ”
“เจ้า…” อวิ๋นเหลียนพยายามสงบอารมณ์ลง ก่อนจะถามขึ้นว่า “จักรพรรดิมารไม่ร่วมมือกับพวกเจ้าหรอก เจ้าฆ่าปฐมราชินี เจ้าคือศัตรูของคุนหลุนทั้งหมด ตายใจเถอะ”
“แต่จักรพรรดิมารไม่ได้พูดเช่นนี้นะ อีกทั้งปฐมราชินีคุนหลุนในตอนนี้ตายไปแล้ว ข้าสามารถช่วยเขาขึ้นแทนที่ปฐมราชินีคุนหลุนได้อย่างสบายๆ ให้เขากลายเป็นเจ้าแห่งคุนหลุนคนใหม่” เยี่ยนอวี๋พูด
“ฮึ” อวิ๋นเหลียนหัวเราะ “ไม่มีทาง” ข้ายังไม่ตาย ใครก็ตามอย่าคิดจะแทนที่ข้า
เยี่ยนอวี๋จ้องตาของอวิ๋นเหลียน ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร ในใจกลับรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
ตามแผนการของอวิ๋นเหลียน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่รู้ว่าหลังจากที่นางถูกฆ่าต่อหน้าทุกคน หากมีคนในสวรรค์คุนหลุนสิบสองชั้นฟ้าอยากจะแทนที่นาง ใช่ว่าจะไม่มีทาง
เห็นที… อวิ๋นเหลียนคงมั่นใจมากว่าจักรพรรดิมารทำไม่ได้ หรือไม่ก็ยังมีทางหนีทีไล่อย่างอื่น เรื่องนี้ต้องระวังไว้หน่อย
หลังจากเยี่ยนอวี๋สำรวจอวิ๋นเหลียนเสร็จแล้ว นางก็ไม่สนใจที่จะมองต่อไปแล้ว เยี่ยนอวี๋มองกลับมาเตรียมจะจากไป
ทว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง
ตูม
อวิ๋นเหลียนกลับลงมือด้วยการระเบิดกลุ่มควันหนาทึบออกมา นางที่จะเอาคืนอย่างเห็นได้ชัดบีบโอสถสะเทือนวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดแตก
เหล่าปีศาจที่อยู่ทั้งในและนอกหอเทียนเยา รวมถึงนักฝึกฌานที่มุงดูอยู่ข้างนอกตกตะลึงจนสั่นสะท้าน จิตใจของพวกเขาว่างเปล่า
นี่คือสิ่งที่เก่งกาจของโอสถสะเทือนวิญญาณ แม้แต่เยี่ยนอวี๋ นางเองก็รู้สึกวิงเวียนและวูบไหว
เพราะว่าโอสถนี้คือโอสถที่อวิ๋นเหลียนกลั่นหลอมด้วยมือตนเอง ในนั้นมีกฎอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคคุนหลุน มันสามารถทำให้ดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในนี้สั่นสะเทือน
ทว่า… ที่อวิ๋นเหลียนบีบโอสถเม็ดนี้แตกกลับไม่ได้ต้องการลงมือกับเยี่ยนอวี๋ แต่คือเม่ยเอ๋อร์ที่นางเล็งไว้แต่แรกแล้ว
นี่คือ ‘เหยื่อ’ ที่อวิ๋นเหลียนเล็งไว้ตั้งแต่นั่งลงแล้ว เพราะว่าเม่ยเอ๋อร์สลบไสลไม่ตื่นอยู่ข้างหนึ่ง และยังอยู่ห่างจากเยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งไกล เป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดในการลงมือ
อีกทั้งอวิ๋นเหลียนรู้ว่าตนรู้จักเยี่ยนอวี๋ดี นางเชื่อว่าตราบใดที่นางจับสาวใช้ชุดดำคนนี้ไว้ เยี่ยนอวี๋จะถูกควบคุมโดยสิ่งนี้แน่นอน นางย่อมชนะได้สบายกว่าเดิม ดังนั้น…
ชิ้ว
ขณะที่หมอกควันสลาย เยี่ยนอวี๋วิงเวียน อวิ๋นเหลียนก็จับเม่ยเอ๋อร์ไว้แล้ว
“เฮ้ย”
จิ่วอิงที่ตั้งสติได้เร็วกระโจนเข้าไป ทว่าจิ่วอิงที่ได้รับผลกระทบจากโอสถสะเทือนวิญญาณเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เร็วไปกว่าอวิ๋นเหลียน
ครานี้เอง…
“เม่ยเอ๋อร์!”
********************************