ตอนที่ 754 ท่านเสี่ยวเป่า
จิ่วอิงตกใจ คิดว่าครานี้เม่ยเอ๋อร์ต้องตกอยู่ในมือของศัตรูแน่ๆ อี้เอ๋อร์ต้องหาวิธีไปช่วยอีกแล้ว
ทว่า…
วี้ดด
เสียงกรีดร้องเหมือนผีสางร้องไห้และหมาป่าเห่าหอนกลับดังขึ้นพร้อมกันในครานี้ จากนั้นคนที่ถูกซัดย่อมคืออวิ๋นเหลียน
อวิ๋นเหลียนที่ลอบโจมตีเม่ยเอ๋อร์ถูกดาบเล่มใหญ่ที่เม่ยเอ๋อร์แบก ‘โจมตีกลับ’
ตูม
อวิ๋นเหลียนไม่ทันตั้งตัว นางถูกซัดกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างทันที
โครม
สิ่งก่อสร้างมากมายของหอเทียนเยาก็ล้มระเนระนาด
จากนั้น…
ตูม
อวิ๋นเหลียนกระแทกลงพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น
วี้ดดๆ…
ทุ่งอสุรีอันน่าสะพรึงที่เม่ยเอ๋อร์ระเบิดออกมาทำให้หอเทียนเยากลายเป็นแดนผีสางไปแล้ว
เม่ยเอ๋อร์ที่ไม่ต้องให้ผู้ใดช่วยก็ซัดอวิ๋นเหลียนไปกองกับพื้นได้ ราวกับราชาแห่งภูตผีดุร้ายที่คลานออกมาจากแดนผีอสุรี ร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลังงานความชั่วร้าย ทั่วทั้งร่างของนางก็เต็มไปด้วยไอมรณะมันเป็นความมืดมนที่ดั้งเดิมที่สุด
เม่ยเอ๋อร์เช่นนี้… ทำเอาจิ่วอิงร้องอุทาน
มารดามันเถอะ เม่ยเอ๋อร์เลื่อนขั้นแล้ว
จิ่วอิงมั่นใจมากว่าพลังการต่อสู้ของเม่ยเอ๋อร์ในยามนี้แข็งแกร่งขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน พลังของนางพุ่งขึ้นไปใกล้เคียงกับหยวนสื่อเทียนจุน ระดับผู้สร้าง
อีกทั้งเม่ยเอ๋อร์มีพลังการต่อสู้ที่ดุเดือดมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว หากต้องการฟัน ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ ที่อยู่ในระดับหยวนสื่อ ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
มิหนำซ้ำอวิ๋นเหลียนที่แปลงโฉมเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคิดไม่ถึงว่าเม่ยเอ๋อร์ที่สลบไสลนั้นจะลุกขึ้นมาโจมตีนางได้
ถึงอย่างไรเมื่อครู่นี้เม่ยเอ๋อร์ก็สลบไสลไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นจริงๆ… ดังนั้นแม้แต่ต้าซือมิ่งเองก็ต้องเลิกคิ้ว “เม่ยเอ๋อร์มีความสามารถไม่รู้จบจริงๆ”
“เนะ?”
เด็กน้อยที่เหมือนกับ ‘ตกใจตื่น’ เพราะการโจมตีอันดุเดือดของเม่ยเอ๋อร์ ดวงตาของเขายังดูสะลึมสะลือมองไปที่ ‘ความว่างเปล่า’ สายตาน่ารักน่าชังนั่นไร้ซึ่งความกังวลแม้แต่น้อย
เยี่ยนอวี๋ยังคิดว่าเด็กน้อยตกใจจนตื่น นางจึงกำลังจะลูบผมอ่อนนุ่มของเด็กน้อยเพื่อกล่อมเขานอนต่ออีกสักครู่
เยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกท่านแม่ของเขาลูบอย่างอ่อนโยนจนกำลังจะปิดตาลง เหมือนกำลังจะเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง
“เมี๊ยว” เจ้าเหมียวสีขาวที่เห็นว่าเด็กน้อยตื่นแล้วกลับกระโจนใส่หน้าของเด็กน้อยอย่างดีอกดีใจ และยังเลียเขาไม่หยุดอีกครั้ง
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกเลียจนรู้สึกจักจี้ก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีและยังลูบเจ้าเหมียวสีขาว ก่อนจะจับมันมาข้างหน้าราวกับจะจูบ แต่แล้ว…
หงับ เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อ้าปากน้อยๆ ของตนก็ยัดเจ้าเหมียวสีขาวเข้าไปในปากทันที
เยี่ยนอวี๋ตกใจ รีบจับหางของเจ้าเหมียวสีขาวไว้
ทว่าศีรษะของเจ้าเหมียวสีขาวถูกเด็กน้อยกัดไว้แล้ว
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางที่กังวลว่าเจ้าเหมียวสีขาวจะถูกกินก็ได้ยินเสียงร้อง ‘เหมียวๆๆ’ จากเจ้าเหมียวสีขาว เหมือนกำลังสนุกสนาน
จากนั้นเยี่ยนอวี๋ก็เห็นว่าเจ้าเหมียวสีขาวใช้อุ้งมืองัดปากของเด็กน้อยออกและช่วยศีรษะของตนเองออกมาแล้ว มันยังกระโจนเข้าไปเลียเด็กน้อยต่อไป
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่น่ารักน่าชังถูกเลียจนหัวเราะและจะยัดเจ้าเหมียวสีขาวเข้าไปในปากอีกครั้ง
เยี่ยนอวี๋ “…”
นี่มันภาพพิสดารอะไรกัน
นางไม่อยากดูต่อแล้วจึงเงยหน้ามองกลับไปที่เม่ยเอ๋อร์ที่ดูจะปกติกว่า
เม่ยเอ๋อร์ในครานี้ นางหายตัวออกจากหอเทียนเยาและเหยียบลงบนใบหน้าของอวิ๋นเหลียนที่ยังไม่ลุกขึ้นแล้ว
“ว้าว”
จิ่วอิงลุกขึ้นมาปรบมือทันที “สำเร็จ สวยงาม” แปะๆๆ…
จักรพรรดิมารที่กะพริบตาสองสามที เพิ่งจะเก็บแววตาตกใจ เขามองผ่าน ‘หน้าต่าง’ ที่พังไปแล้วด้วยความสนใจ ใช้สายตาที่ดีของเขามองไปที่เม่ยเอ๋อร์และอวิ๋นเหลียนที่อยู่บนถนน
ระดับความสนุกของละครเรื่องนี้เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก
ไม่รู้ว่าปฐมราชินีคุนหลุนที่ไม่เคยถูกเหยียบหน้า ตอนนี้จะรู้สึกอย่างไร
โอ้ ไม่สิ เมื่อยี่สิบล้านปีก่อน มีข่าวลือว่านางเคยถูกตนเองในฐานะจักรพรรดิมารเหยียบครั้งหนึ่ง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าฆาตรกรจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนกลุ่มนี้
ชักจะยิ่งสนุกแล้วสิ
…
ในขณะที่จักรพรรดิมารกำลังดูละครอย่างสนุกสนานนั่นเอง ซานเหอมู่ก็เคลื่อนไหวแล้ว
ซานเหอมู่ที่ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ลงมือกับเม่ยเอ๋อร์ “บังอาจ ยังไม่รีบปล่อยทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอีก”
“ไสหัวไปซะ”
เม่ยเอ๋อร์ตะคอก ไอสังหารหนาแน่นขึ้นกว่าเดิม
ดาบเล่มใหญ่ในมือของนางดูเหมือนจะเปลี่ยนจากสีโลหะที่สว่างปกติกลายเป็นสีแดงเลือด
แครก
ใบหน้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกนางเหยียบจนบิดเบี้ยวในครานี้ ดูเหมือนว่ากระดูกใบหน้าจะถูกเหยียบจนแตก
กลับทำเอาอวิ๋นเหลียนที่สลบไสลฟื้นขึ้นมา…
นางเพิ่งรู้สึกถึงความเจ็บแปลบทั่วเนื้อตัว โดยเฉพาะใบหน้า เจ็บมากเลย
เมื่อซานเหอมู่เห็นว่าเม่ยเอ๋อร์มีท่าทีที่จะเหยียบกะโหลกของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแตก ย่อมไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม “นังโจร เจ้าอย่าโหดร้ายนักเลย รีบปล่อยทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเสีย”
เม่ยเอ๋อร์ไม่สนใจซานเหอมู่เลยด้วยซ้ำ นางมองไปที่เยี่ยนอวี๋ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคำสั่งของเยี่ยนอวี๋
ซานเหอมู่มองตามสายตาของเม่ยเอ๋อร์ เห็นเยี่ยนอวี๋และพรรคพวก และในขณะที่มองเยี่ยนอวี๋สองสามีภรรยาก็โพล่งถามด้วยความหวาดกลัวว่า “ท่านทั้งสองฆ่าปฐมราชินีของเราแล้วยังไม่พอหรือ ยังต้องการทำลายคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์ของข้ารึ”
เสียงตะโกนของซานเหอมู่เจือความโศกเศร้าและหดหู่ เพราะว่าหลังจากที่เขาเห็นเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกแล้วก็รู้ว่าหากจะอาศัยคนสำนักซานเหอพวกเขาเข้าสู้ ไม่มีทางชนะแน่นอน
คนกลุ่มนี้กลืนกินแม้แต่ปฐมราชินีแล้วพวกเขาจะเอาชนะได้อย่างไร ไม่ได้แน่นอน
ซานเหอมู่ที่รู้เรื่องนี้แก่ใจดี จู่ๆ เขาก็คุกเข่าให้เยี่ยนอวี๋ “ขอร้องล่ะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ ได้หรือไม่”
คำพูดนี้ทำให้สรรพชีวิตที่กำลังดูละครอยู่สะเทือนใจ พวกเขาเองก็รู้ว่า… จักรพรรดิมารเจอกับจอมโจรที่สังหารปฐมราชินีแล้ว
ไม่สิ ไม่แน่ว่าจอมโจรกลุ่มนี้สมคบคิดกับเผ่ามารตั้งแต่แรกแล้ว
เรื่องนี้ทำให้จักรพรรดิมารรู้สึกไม่ได้การ ครั้นกำลังจะพูด
ทว่า… เม่ยเอ๋อร์กลับพูดอย่างไม่แยแสว่า “สิ่งมีชีวิตสวรรค์ชั้นเก้าของเจ้า คุณหนูใหญ่ของเราไม่สนใจหรอก หากปฐมราชินีไร้สมองคนนั้นของพวกเจ้าไม่มาหาเรื่องคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ของเราไม่อยากจะสนใจนางด้วยซ้ำ
เมื่อครู่นี้ ข้าก็นอนอยู่ดีๆ ของข้า ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคนนี้ของพวกเจ้าก็มาโจมตีข้า ถูกข้าโจมตีกลับย่อมมีเหตุมีผลดีมิใช่หรือ ข้าว่าสิ่งมีชีวิตคุนหลุนสิบสองชั้นสวรรค์พวกเจ้าเป็นโจรจากสันดานชัดๆ พลังด้อยกว่าคนอื่นยังกล้ามาเปิดศึกก่อน ไม่รู้หรือว่าผู้เปิดศึกก่อนต้องตาย?
ตอนนี้สิดี มีหน้ามาคุกเข่าร้องขอชีวิตต่อหน้าทุกคน ทำเหมือนกับตนเองเป็นคนวิเศษวิโสจากไหน หรือว่านังโจรที่ข้าเหยียบไว้คนนี้ได้รับคำสั่งจากสิ่งมีชีวิตผู้ไร้เดียงสาเช่นพวกเจ้าให้มาเปิดศึกกับข้า”
เม่ยเอ๋อร์ที่จู่ๆ ฝีปากแรงกล้าขึ้นมาก นางก็โต้ซานเหอมู่กลับจนเขาตะลึงงัน
เม่ยเอ๋อร์ยังกวาดตามองไปรอบๆ “พวกเจ้าหรือที่สั่งให้นางมาก่อกวนข้าตอนที่ข้าหลับ หากพวกเจ้ากล้าบอกว่าใช่ ข้าจะสับพวกเจ้าตอนนี้เลย”
เพียงเท่านี้… แล้วใครจะกล้าตอบว่าใช่เล่า
ถึงอย่างไรผู้คนที่มุงดูก็พากันส่ายศีรษะแล้ว ความสะเทือนใจเมื่อครู่นี้ถูกความหวาดกลัวกลบหายหมด
ทว่ามีผู้กล้าหาญแสดงข้อสงสัยว่า “เราไม่เห็นเสียหน่อย ใครจะไปรู้ว่าเจ้าอาจจะลงมือก่อน”
เพียะ เม่ยเอ๋อร์ซัดดาบใส่เขาผ่านอากาศ เขาตายคาที่ในทันที
ไม่เพียงเท่านี้… เม่ยเอ๋อร์ยังพูดว่า “ข้าอยากฆ่าก็ฆ่า ต้องหาข้ออ้างด้วยหรือ”
ผู้คนที่มุงดูเงียบงัน…
จะว่าไปแล้วพวกเขาก็เพิ่งเคยเจอคนที่โอหังดุร้ายเช่นนี้ ทุกอย่างคือความผิดของคนอื่น
ทว่าเท่านี้ยังไม่จบ…
เม่ยเอ๋อร์ที่เหยียบอวิ๋นเหลียนไว้ นางยังพูดว่า “ข้าเองก็ไม่ได้รู้สึกสนใจในชีวิตของนังโจรคนนี้หรอก ตอนนี้ นางต้องโขกศีรษะให้ข้าสามครั้ง ข้าจะไว้ชีวิตสวรรค์ชั้นเก้า มิเช่นนั้นข้าจะกวาดล้างสวรรค์ชั้นเก้าให้สิ้นซาก พวกเจ้ามีความเห็นหรือไม่”
เพียงเท่านี้… ผู้คนที่มุงดูย่อมมีความเห็นแน่นอน แต่… เนื่องจากเมื่อครู่นี้ใครบางคนประท้วงขึ้นมาแล้วถูกฆ่าตายทันที พวกเขาจึงไม่กล้าพูด
“ฝันไปเถอะ”
อวิ๋นเหลียนที่ถูกเหยียบไว้ประท้วงด้วยสัญชาติญาณ แต่น่าเสียดายที่ใบหน้าของนางถูกเหยียบไว้ จึงพูดได้ไม่ชัด และไม่มีใครได้ยินชัดด้วย
เทพราชาอาวุโสของสำนักซานเหอในครานี้อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย คงต้องลำบากท่านหน่อยแล้ว”
“ไม่!”
อวิ๋นเหลียนปฏิเสธ นางในฐานะที่เป็นถึงปฐมราชินี จะโขกศีรษะขอโทษสาวใช้ของเยี่ยนอวี๋ได้อย่างไร ฝันไปเถอะ
แต่แล้ว… ซานเหอมู่ก็คุกเข่าลง “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้าน้อยรู้ว่าเรื่องนี้ลำบากใจท่านมาก แต่บัดนี้พวกเราไม่มีวิธีอื่นแล้ว” ปฐมราชินีร่วงหล่นไปแล้ว การเผชิญหน้ากันตรงๆ ผู้ใดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหล่าโมโจร ทำได้เพียงอดทนต่อความยากลำบากชั่วคราว อดทนต่อความอัปยศอดสูและต่อสู้กลับในเวลาที่เหมาะสม
ซานเหอมู่คิดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายน่าจะเข้าใจดี แต่น่าเสียดายที่อวิ๋นเหลียนไม่ใช่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่แท้จริง ให้นางโขกศีรษะขอโทษทรมานยิ่งกว่าให้นางฆ่าร่างแยกร่างนี้เสียอีก
ทว่าผู้คนที่มุงดูรอบๆ ก็พากันคุกเข่าลงแล้ว “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านโปรดเห็นใจ”
ภายใต้การป้องปรามอันเด็ดขาดของเม่ยเอ๋อร์ ผู้คนทั่วไปไหนเลยจะกล้าไม่เชื่อฟังนาง พวกเขาย่อมขอร้องให้อวิ๋นเหลียนโขกศีรษะขอโทษแล้ว
ทว่าเสียงของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองจู่ๆ กลับดังขึ้น “ท่านดูสิ ในมือของข้าคือใคร”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เล่นอยู่ครู่หนึ่งก็ถูกคุณชายอวิ๋นที่สิบสองจับ เขามองมือที่จับใต้ชายโครงของเขาอย่างน่าเอ็นดู
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เดิมทีอยู่ในอ้อมอกของต้าซือมิ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาหนีไปแอบกินขนมบนโต๊ะโดยที่ต้าซือมิ่งไม่ทันสังเกตจึงต้อง ‘กล้ำกลืนความอัปยศ’ เช่นนี้ คุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่เงียบมาตลอดฉวยโอกาสจับเขาไว้
จำเป็นต้องพูดว่าคุณชายอวิ๋นที่สิบสองค่อนข้างเก่งในการซุ่มโจมตีจริงๆ
ทว่าจิ่วอิงกลับใช้สายตาเวทนามองคุณชายอวิ๋นที่สิบสอง
เม่ยเอ๋อร์เองก็ไม่มีท่าทีจะปล่อย…
เพราะว่าท่านเสี่ยวเป่าไม่ใช่ใครอยากจับก็จับไว้ได้
ดังนั้น…
“แสบ”
เป่าน้อยตะโกนเพียงคำเดียว คุณชายอวิ๋นที่สิบสองก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล จากนั้น…
****************************