ตอนที่ 755 ใจดำทั้งครอบครัว
มือของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่รู้สึกแสบร้อนจนเจ็บแปลบ รู้สึกเหมือนกับว่ามือของตนถูกย่างอยู่บนกองไฟและตบะของเขาก็ไม่สามารถต่อต้านความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น คุณชายอวิ๋นที่สิบสองปล่อยมือร้อง ‘โอ๊ย’
“เนะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร่วงลงบนพื้น เขาก็วิ่งเตาะแตะไปหาท่านพ่อและกอดขาของท่านพ่อไว้แน่นทันที
ส่วนมือของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองก็แสบร้อนและบวมจนกลายเป็นมือสุกรสีแดงและยังพองด้วย น่าสังเวชมาก
จิ๊ จิ่วอิงขำ “ตบะเช่นเจ้ายังคิดจะลอบโจมตีท่านเสี่ยวเป่า?”
ทว่าไม่เพียงเท่านี้… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่รู้สึกเจ็บขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้สึกเจ็บเข้ากระดูก เป็นความเจ็บที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้เลย ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่ามือของตนจะเละแล้ว “มือของข้า มือของข้า”
แซ่ด
‘มือหมู’ ของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่มีควันลอยขึ้นมาก็กำลังค่อยๆ ถูกเผาและละลายเหมือนที่เขาคิดไว้จริงๆ มันหยด ‘น้ำมัน’ ลงมาดัง ติ๋งๆ
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองเจ็บจนกลิ้งไปมาบนพื้นอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์แล้ว “ช่วยด้วย ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายช่วยข้าด้วย…”
แต่ว่าอวิ๋นเหลียนที่แม้แต่ดูแลตัวเองยังไม่ไหวยังไม่ทันเห็นชัดด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตัวน้อยก็พูดอย่างโมโหว่า “จับเป่า ก็ต้องแสบ”
“ใช่ๆๆ” จิ่วอิงอุ้มเจ้าตัวน้อยน่ารักน่าชังขึ้นมาจากข้างเท้าของต้าซือมิ่งอย่างเอ็นดู “คนร้ายคนไหนกล้าจับเสี่ยวเป่าของเรา ท่านเสี่ยวเป่าของเราก็จะทำให้เขาแสบร้อนจนตาย”
“ใช่” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากำหมัดแน่นพยักหน้าสำทับ
ท่าทางน่ารักน่าชังนั่นทำเอาเจ้าเหมียวสีขาวละลาย “เมี๊ยวๆๆ” เสี่ยวเป่าน่ารักที่สุดเลยเหมียว…
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารู้สึกถึงสายตาเลื่อมใสศรัทธาจากเจ้าเหมียวสีขาว เขาหัวเราะออกมาทันที และจะกลับไปแอบกินขนมอีกแล้ว ครานี้ต้าซือมิ่งก็ไม่ได้ห้ามไว้ เพียงแค่ตัดสินใจว่าประเดี๋ยวต้องลดจำนวนขนมของเด็กน้อยลง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่แอบกินขนมในครานี้ยังไม่รู้จุดจบอันน่าเศร้านี้ ตอนนี้เขายังมีความสุขกับการกินอยู่ ทำให้เกิดภาพอารมณ์ที่ต่างกันสุดขั้วเมื่อเทียบกับคุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่กำลังกลิ้งไปมาบนพื้นอย่างทุกข์ทรมาน
อวิ๋นเหลียนสงสารบุตรชายคนเล็กคนนี้ นางตะโกนว่า “ปล่อยเขา พวกเจ้าปล่อยเขาซะ!”
คำพูดนี้เม่ยเอ๋อร์ได้ยินไม่ชัด นางคิดว่าอวิ๋นเหลียนยอมขอโทษแล้วจึงยกเท้าขึ้น “หากเจ้ายอมโขกศีรษะขอโทษ คุณหนูใหญ่ของเราพอใจแล้วอาจจะปล่อยเจ้าหมอนั่นก็ได้”
อวิ๋นเหลียนที่เดิมทีคิดว่าจะไม่ก้มหัวให้ผู้ใดแม้จะต้องระเบิดตนเองกลับชะงักเล็กน้อย
จักรพรรดิมารก็เติมเชื้อเพลิงลงกองไฟอีก “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เพื่อบุตรชายที่ปฐมราชินีรักมากที่สุด เจ้าโขกศีรษะก็ไม่เป็นอะไรเสียหน่อย เขาเป็นถึงสายเลือดที่หลงเหลือเพียงหนึ่งเดียวของปฐมราชินีเชียวนะ”
“นั่นน่ะสิ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ขอร้องท่านล่ะ” ซานเหอมู่โขกศีรษะลงกับพื้นอีกครั้ง
อวิ๋นเหลียน “…”
ด้วยเกียรติของปฐมราชินีคุนหลุน นางย่อมไม่โขกศีรษะ แต่ตอนนี้นางคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย…
ที่สำคัญคือคุณชายอวิ๋นที่สิบสองยังร้องคร่ำครวญอยู่ “มือของข้า มือของข้า ช่วยด้วย…”
มีจังหวะหนึ่ง อวิ๋นเหลียนคิดอยากจะโขกศีรษะให้ในฐานะของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแล้ว ถึงอย่างไรนั่นก็คือบุตรชายเพียงหนึ่งเดียวของนาง
นอกจากนี้ ตอนนี้นางคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่ใช่อวิ๋นเหลียน โขกศีรษะไปก็ไม่เป็นอะไร
เยี่ยนอวี๋เองก็กำลังมองอวิ๋นเหลียน อยากรู้ว่านางจะเลือกอย่างไร
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ขอร้องท่านล่ะ” ทุกคนต่างขอร้องวิงวอน “เพื่อปฐมราชินี เพื่อพวกข้า ขอร้องล่ะ”
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านยังลังเลอะไรอยู่หรือ ปฐมราชินีเพิ่งร่วงหล่น หรือว่าท่านไม่ภักดีต่อคุนหลุนแล้ว แม้แต่สายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของปฐมราชินีก็ไม่คิดจะช่วย”
“นั่นน่ะสิ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านยังไม่รีบโขกศีรษะขอโทษอีกหรือ…” แขกที่มุงดูบางส่วนที่เปิดเผยความอัปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาเพื่อความปลอดภัยของตนเองพากันยืนฝั่งศีลธรรมขอร้องอวิ๋นเหลียน
นี่เป็นวิธีการของอวิ๋นเหลียนในอดีตที่ยุยงปลุกปั่นความคิด ให้เหล่าทวยเทพล้มล้างบัลลังก์
วันนี้… เม่ยเอ๋อร์เพียงแค่ยั่วยุเล็กน้อย อวิ๋นเหลียนก็ได้รับผลกรรมแล้ว
แต่ว่า…
ตูม
อวิ๋นเหลียนระเบิดตนเองแล้ว นางไม่ได้โขกศีรษะขอขมา นางเลือกที่จะระเบิดตนเองตายอย่างน่าภาคภูมิที่สุด
ไม่ว่าคุณชายอวิ๋นที่สิบสองจะเป็นหรือตาย ไม่ว่าเม่ยเอ๋อร์จะกวาดล้างสวรรค์ชั้นเก้าหรือไม่ นางก็ไม่สนใจ นางสนใจแค่ตนเอง
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า การข่มเหงด้วยผู้คนจากจุดยืนทางศีลธรรมที่สูงส่งจะมีผลเฉพาะกับผู้ที่มีจิตใจมีศีลธรรมและใส่ใจในศีลธรรมเท่านั้น
สำหรับอวิ๋นเหลียนแล้ว ไร้ประโยชน์
ผู้สร้างที่สามารถตัดสินใจกลืนกินคุนหลุนสวรรค์สิบสองชั้นคนหนึ่งนั้น นางเป็นผู้เห็นแก่ตัวและไม่แยแสต่อสิ่งใด นางเห็นสรรพชีวิตเป็นเพียงมดแมลง แม้จะเป็นบุตรจากเลือดเนื้อของนางเองก็ไม่ต่างกันมากนัก
อวิ๋นเหลียนเช่นนี้… ทำให้จักรพรรดิมารเคร่งขรึมลง เขามั่นใจว่าการตัดสินของตนไม่มีผิด ปฐมราชินีอวิ๋นท่านนี้ของพวกเขาสามารถทำเรื่องอย่างการกลืนกินสรรพชีวิตทุกชั้นสวรรค์เพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง
ซานเหอมู่และเหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักซานเหอ รวมถึงเทียนอ๋องซานเหอชวน พวกเขาตะลึงงันไปหมดแล้ว
“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย…”
“นาง ระเบิดตนเองแล้ว”
“ยอมตายดีกว่าขอร้องให้ไว้ชีวิตพวกเราหรือ”
สรรพชีวิตหวาดกลัวและโมโหจนสั่นเทา เพราะว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายยอมตายแทนที่จะช่วยพวกเขา นี่คือต้องการให้พวกเขาตายเป็นเพื่อนนางสินะ
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย…
โหดเหี้ยมจริงๆ นางยอมตาย แทนที่จะช่วยพวกเขา
เยี่ยนอวี๋ยิ้มอย่างไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกปฐมราชินีคุนหลุนเลี้ยงดูแต่เด็ก คงมีนิสัยส่วนใหญ่ได้มาจากปฐมราชินีคุนหลุน ภาคภูมิเหมือนพวกนาง คงไม่สนใจชีวิตของมดแมลง”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น… เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เดิมทีความศรัทธาสั่นคลอนอยู่แล้วก็ยิ่งสะเทือนใจ
เม่ยเอ๋อร์ยังดึงดันสำทับว่า “น่าขันที่พวกเจ้ายังเศร้าโศกเพราะความตายของปฐมราชินีพวกเจ้า หารู้ไม่ว่าหากไม่ใช่เพราะนางหาเรื่องคุณหนูใหญ่ของเราก่อน นางคงไม่ตาย คุนหลุนสวรรค์สิบสองชั้นฟ้าของพวกเจ้าก็คงไม่เจอกับอันตรายเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของนาง
พวกเจ้ากลับยังหาทางตายแทนนาง ยังคิดว่าเป็นการผดุงความยุติธรรม อันที่จริงนางเห็นเจ้าเป็นแค่ลมผาย โอ้ ไม่สิ พวกเจ้าแม้แต่ลมผายก็สู้ไม่ได้ เพราะว่าการตายของพวกเจ้านางไม่ได้ยิน แต่ลมที่นางผายออกมาเองไม่อยากได้ยินก็คงยาก”
การเปรียบเปรยนี้ช่างหยาบคายจริงๆ แต่กลับมีเหตุมีผลดี
ทุกคนได้ยินและเข้าใจ
เยี่ยนอวี๋เรียก “เม่ยเอ๋อร์กลับมา ฆ่าพวกโง่พวกนี้ เสียดายดาบ”
“เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่” เม่ยเอ๋อร์ที่พูดจบก็กลับไปข้างกายเยี่ยนอวี๋อย่างมีชีวิตชีวา ไม่มีสัญญาณว่าหมดแรงเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ว่านางเลื่อนขั้นแล้วจริงๆ
ส่วนคุณชายอวิ๋นที่สิบสอง เขาไม่ร้องแล้ว เพราะว่าเขาเจ็บจนสลบไปแล้ว ทว่ามือทั้งคู่ของเขาถือว่าพิการไปแล้ว เส้นลมปราณและกระดูกของเขาถูกความแสบร้อนกัดจนพังเละ
ต้าซือมิ่งลุกขึ้นและช้อนตัวเด็กน้อยที่แอบกินขนมเข้ามาในอ้อมอก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็โอบภรรยาไว้พูดว่า “ไปกันเถอะ”
“ขนม” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่ายังมีขนมอีกมากมายไม่ได้กิน
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้มีความเห็นใดๆ ถึงอย่างไรนางก็ทำธุระเสร็จหมดแล้ว และยังได้กำไรที่ไม่คาดคิดด้วย
ดังนั้นต้าซือมิ่งจึงไม่ได้สนใจการประท้วงของเด็กน้อย เขาพาทั้งครอบครัวหายตัวไปแล้ว
ทุกคนในเหตุการณ์ตะลึงงันครู่หนึ่ง ก่อนจะทรุดตัวลงบนพื้น รู้สึกเหมือนรอดพ้นจากเคราะห์กรรม พวกเขาที่เดิมทีคิดว่าจะถูกกวาดล้าง ตระหนกมากจริงๆ…
“น่าสนใจ” จักรพรรดิมารยังปฏิบัติตามจรรยาบรรณของความร่วมมืออย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเสริมว่า “เห็นทีจอมโจรกลุ่มนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเช่นนั้น”
เหล่าปีศาจที่ไม่เข้าใจก็เห็นด้วยด้วยสัญชาติญาณ “นั่นน่ะสิ ช่างเมตตามากจริงๆ ไม่คร่าเอาชีวิตทุกคนไป”
“นั่นน่ะสิ หากพวกเรามีความสามารถเช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องบีบคุณชายอวิ๋นที่สิบสองนี่และผู้อาวุโสสำนักซานเหอพวกนั้นให้ตาย วันข้างหน้าจะได้ไม่ก่อปัญหาอีก”
“จอมโจรเมตตาจริงๆ” เหล่าปีศาจต่างทอดถอนใจ
ทำเอาแขกที่อยู่ในเหตุการณ์งงงัน กลับอดรู้สึกไม่ได้ว่าจอมโจรไม่ได้โหดร้ายมากจริงๆ อย่างน้อยก็ไว้ชีวิตพวกเขาทุกคนไว้
ผู้ที่ผ่านเรื่องราวเหล่านี้ใสก็ไม่ได้ยืนกรานที่จะหวังเห็นเยี่ยนอวี๋ตายแล้ว
นอกจากนี้เมื่อข่าวลือแพร่สะพัด ผู้ที่พูดตามสิ่งที่ผู้อื่นพูดจะถูก ‘ล้างสมอง’ อย่างรวดเร็ว
นี่ย่อมเป็นผลลัพธ์ที่เยี่ยนอวี๋ต้องการ
แต่เมื่ออวิ๋นเหลียนที่ปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายระเบิดตนเอง พวกเขาก็สูญเสียเป้าหมายในการ ‘ติดตาม’
แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะว่าต้าซือมิ่งในครานี้พาครอบครัวปรากฏขึ้นที่ยอดเขาถงซานแล้ว
“นางมาแล้วหรือ” เดิมทีเยี่ยนอวี๋ยังคิดว่าสามีนางสัมผัสถึงบางอย่าง
สุดท้าย ต้าซือมิ่งกลับขมวดคิ้วพูดว่า “เหตุใดต้องสนใจนาง”
เยี่ยนอวี๋เข้าใจทันที “ก็ใช่”
ในเมื่อรู้แล้วว่าภูเขาถงซานคือกุญแจสำคัญ เช่นนั้นอวิ๋นเหลียนจะเป็นใคร อันที่จริงก็ไม่ได้สำคัญเช่นนั้น ถึงอย่างไรตราบใดที่สามารถกำจัดพลังทั้งหมดของอวิ๋นเหลียนในทุกชั้นสวรรค์ได้ อวิ๋นเหลียนก็จะต้องตาย โดยเริ่มทำจากสวรรค์ชั้นเก้าได้ เพราะว่าสิ่งมีชีวิตชั้นนี้จะลืมเลือนอวิ๋นเหลียนในไม่ช้า หลังจากที่สูญเสียพลังแห่งความศรัทธา อวิ๋นเหลียนผู้สร้างท่านนี้ก็จะยิ่งถูกลบทิ้งได้ง่าย
คิดถึงครานั้น อวิ๋นเหลียนใช้ประโยชน์จากซีเหอใส่ร้ายเหล่าขุนเขาและท้องทะเล ทำให้สวรรค์เก้าชั้นฟ้าลืมเลือนเยี่ยนอวี๋ได้เร็วขึ้น ทำให้บรรลุเป้าหมายในการลบร่องรอยของเยี่ยนอวี๋และสร้างกฎใหม่มิใช่หรือ
ตอนนี้… ภายใต้การผลักดันของต้าซือมิ่ง เยี่ยนอวี๋คืนผลกรรมชั่วร้ายให้อวิ๋นเหลียน
คนเจ้าคิดเจ้าแค้นคือหรงต้าซือมิ่งชัดๆ
การแก้แค้นแต่ละครั้งนี้ เขาเตรียมการไว้อย่างชัดเจนเงียบๆ และยังให้ภรรยาของตนได้มาแก้แค้นด้วยตนเอง
ทว่า ขณะที่เยี่ยนอวี๋เริ่มนั่งสมาธิบนยอดเขาถงซาน
หึ่ง
จู่ๆ ถงซานสั่นสะเทือน จากนั้น…
หึ่ง
มีพลังชีวิตอันอ่อนแอหลั่งไหลออกมาจากในภูเขาถงซาน
ทำเอาเด็กน้อยที่ไวต่อความรู้สึกสะดุ้งตกใจ “อ้ะเนะ?”
ซู่
ซู่ๆ…
ใบไม้สีเขียวมากมายยังงอกออกมาจากร่างกายของเด็กน้อย
*******************